ก่อนอื่นเจ๊หลีต้องขอโทษอย่างแรงเรื่องสูตรที่ว่า เดี๋ยวมาลงให้แล้วก็ลืมสนิทจนมีคอมเม้นท์มาทวงเลยย้อนกลับมาอ่าน ที่ไหนได้ยังไม่ได้ลงสูตรให้ ไม่พูดพล่ามทำเพลงแล้วนะคะ เอาสูตรไปเลยค่ะส่ ว น ผ ส ม-น้ำตาลทราย 270 กรัม-หัวกะทิ 330 กรัม ซึ่งคั้นจากมะพร้าวขูดครึ่งกิโลกรัมหรือกะทิกล่องก็ได้ค่ะ-แป้งมันสำปะหลัง (อบควันเทียนแล้ว) 500 กรัม-ไข่ไก่ทั้งฟอง 1 ฟอง ประมาณ 50 กรัมค่ะ-เทียนอบ (มีรูปให้ดูตัวอย่างค่ะ)หัวใจของขนมผิงอยู่ที่เทียนอบหอม ๆ นี่แหละค่ะวิ ธี ทำอบแป้งมันตามรูปด้วยเทียนอบทิ้งไว้ สักสองคืนก่อนทำ ระหว่างนั้นก็จุดควันสักสองสามครั้งก็ได้ค่ะเคี่ยวน้ำตาลทราย กับหัวกะทิ ให้ข้นเป็นยางมะตูม พอดี ๆ ไม่อ่อน ไม่ข้นเกินไป ......ถ้าข้นเกินแป้งจะร่วนแก้ไม่ได้ค่ะจากนั้นพักทิ้งให้เย็นสนิทจริงๆ นะคะ ไม่ต้องเข้าตู้เย็นด้วยตั้งทิ้งไว้เฉย ๆ....... ขั้นตอนนี้ต้องคอยยืนกำกับนะคะ มิฉะนั้นจะล้นเอาง่าย ๆ เลย ใช้ไฟอ่อน ๆ ก็ได้ค่ะอย่าใจร้อนเติมไข่ไก่ที่ตีให้แตกลงไปในกะทิที่อุ่นค่อนข้างสัมผัสได้ (อย่าใส่ในขณะน้ำเชื่อมร้อนจัดนะคะ).......คนให้เข้ากันดี จึงตักน้ำเชื่อมกะทิลงในแป้งทีละน้อยจนหมด นวดเพียงแค่พอเข้ากันนวดไม่นานนัก......จากนั้นทิ้งไว้ในภาชนะ คลุมพลาสติกพักให้แป้งคลายตัว ไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เล็กๆ นำวางบนถาดที่ทาน้ำมันหมู หรือ เนยขาวก็ได้ตามสะดวกค่ะ ไม่มีผลไรเลย...... ด้วยความร้อน 350 องศาF นะคะ เป็นเวลา 12-15 นาทีแบบคุ้กกี้ เป๊ะ ๆ เลยค่ะเ คี่ ย ว ก ะ ทิ กั บ น้ำ ต า ล .....ให้เป็นยางมะตูมอ่อน ๆ ไม่ต้องข้นเกินไปนัก .........ขั้นตอนนี้ขอบอกเลยนะคะต้องยืนเฝ้า คนตลอดตอนเดือด ไม่งั้นล้นฟู่แน่ .........ลูกสาวเจ๊หลีทำต้องทิ้งทำใหม่ เพราะมันล้นนี่แหละ มาทำอีก ยังจะล้นอีกแหนะ ........แก้โดยใส่ภาชนะให้มันใหญ่หน่อยค่ะก า ร อ บ ค วั น เ ที ย นให้เอาแป้งมันสำปะหลัง ใส่ภาชนะ แล้วทำหลุมตรงกลาง .....เอาเทียนอบ จุดให้ไฟลุกซักพัก นำไปใส่ถ้วยเล็ก ๆ แล้วนำถ้วยไปวางตรงกลางแป้งที่เราทำหลุมไว้ .......จากนั้นปิดฝาข้างบน สักพักเทียนจะดับเองค่ะ เพราะไม่มีอากาศอยู่ภายใน ก็จะมีควันที่เป็นกลิ่น ........ทำอย่างนี้ ซ้ำไปมา สองสามรอบ แป้งจะได้หอม ค่ะขอให้สนุกกับการทำขนมผิงคุ้กกี้แบบไทย ๆ นะคะ ไงก็ส่งผลงานมาให้ดูมั่งละกันค่ะจนกว่าจะพบกันใหม่บล็อกหน้านะคะ
ป้านำภาพที่ป้ารักมากมาฝากค่ะรักประเทศไทย ต้องรักประชาธิปไตยด้วยจริงไหมคะบ้านเมืองเราจะได้ไม่อายใครเค้าไง!
เจ๊หลี "美 麗"กิน ๆ เที่ยว ๆ เหตุที่ใช้ชื่อนี้เพราะเป็นความใฝ่ฝันว่า สักวันจะใช้ชีวิตแบบ กิน ๆ เที่ยว ๆ ไงคะ ^.< แต่คงไม่ถึงกับเดินไม่ไหวแล้วค่อยเที่ยวหรอกนะคะ 555++หลาย ๆ คนถามว่าทำไมเจ๊หลีไม่เขียน Blog บ่อย ๆ เหตุผลคือเจ๊หลีติดงานประจำที่ทำอยู่ค่ะ ทำงานจันทร์-เสาร์ กว่าจะได้บล็อก ๆ หนึ่งเจ๊หลีก็ต้องทำขนมไปด้วย ถ่ายรูปไปด้วย มือก็เปื้อนกลัวกล้องพังก็กลัว กลัวขนมไม่ได้ที่ก็กลัวลำบากมากนะคะ เพื่อน ๆ ลองหลับตานึกภาพดูก็ได้... แต่เจ๊หลีก็เลือกที่จะทำค่ะ เก็บไว้ให้ตัวเองได้ดูว่าผ่านมาเราทำอะไรไว้บ้าง เรื่องการอัพ Blog เจ๊หลีทำเพราะชอบถ่ายรูป โดยเฉพาะชอบลองสูตร ไม่ได้หมายความว่า ทำขนมหรืออาหารเก่งหรอกนะคะเพื่อน ๆ ลองทำลองดู แล้วนำมาแชร์กันใน Blog ถูกผิดยังไงช่วยแนะนำได้ค่ะพักเหนื่อยก็เข้า Blog.... Blog เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่แสดงความเป็นตัวตนของเจ๊หลี ..ทุกรายละเอียดเจ๊หลีทำด้วยความตั้งใจ และใส่ใจ หาก Blog นี้ทำประโยชน์ให้ใครได้แม้เพียงคนเดียว...เจ๊หลีก็ยินดียิ่งแล้วนะคะ อยากให้ทุกคนทราบว่า เจ๊หลี.ปลื้มมากมาย ^0^ สำหรับทุก comment ที่น่ารักและอีกหลาย ๆ กำลังใจค่ะ