❤ ❤ เ จ๊ ห ลี ทำ ...ล อ ด ช่ อ ง ไ ท ย Lod Chong.... Homemade Cendol ❤ ❤ มา Blog นี้ เจ๊หลีเลือกที่จะทำลอดช่องไทยค่ะ อย่างที่เราทราบ ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง หรือลูกชุบ ก็เป็นของโปรตุเกสส่วนใจลึก ๆ เจ๊หลีก็เข้าใจเช่นกันว่า ลอดช่องไทยต้องเป็นขนมไทยเต็มร้อยเปอร์เซนต์ มาถึงตอนนี้เจ๊หลีชักไม่แน่ใจเช่นกันค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าเจ๊หลีเข้าไปร้านหนังสือแห่งหนึ่ง เปิดอ่านตำราขนมของมาเลเซีย โอ้วแม่เจ้าลอดช่องไทยเป็นหนึ่งในขนมของ มาเลเซียด้วยค่ะ เค้าเรียกของเค้าว่า Cendol นอกจากนั้นสูตรจากอินโดนีเซีย หรือเวียดนาม ก็มีขนมลอดช่องเช่นกันค่ะ ตามแต่จะเรียกกันไป ทำให้เจ๊หลีคาดว่าประเทศแถบ South East Asia มีขนมลอดช่องเช่นกันทั้งหมด สรุปไม่ว่าลอดช่องจะถือกำเนิดมาจากชาติใด แต่ก็เป็นหนึ่งในขนมในใจคนไทย หลาย ๆ คนนะคะ อีกหน่อยเปิด AEC เราคงได้เห็นขนมหน้าตาหลากหลาย เป็นที่รู้จักในเมืองไทยอีกหลาย ๆ อย่างแน่นอนค่ะ เจ๊หลียืนยัน ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่ารับวัฒนธรรมจากประเทศไหน ๆ มา ก็อย่าลืมวัฒนธรรมไทยที่ยังดี ๆ อีกหลาย ๆ อย่างด้วยนะคะ เจ๊หลีไม่อยากให้ถูกกลืนและหายไปจาก สยามเมืองยิ้มค่ะ การทำลอดช่องมีมาตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะถือว่าลอดช่องเป็นขนมมงคลชนิดหนึ่ง ที่มีอยู่ในประเพณีสำคัญของคนไทย เช่น งานบวช งานแต่งงาน สมัยก่อนนิยมนำ อาหารที่เหลือจากการรับประทาน หรือเหลือจากการจำหน่าย เช่น ข้าว สามารถนำมาแปรรูปเป็นลอดช่องไทย การที่ถือว่าลอดช่องเป็นขนมที่มีความเป็นมงคลนั้น เชื่อว่า ถ้าใครได้กินลอดช่องก็จะพบช่อทางการทำมาหากินที่ดี และพบกับความเจริญรุ่งเรืองในอาชีพ การงาน ความเป็นมา/ความเชื่อ ลอดช่องไทย เป็นขนมไทยพื้นบ้านของชาวไทย ที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย คนส่วนมากจะรู้จักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะชาวอีสานจะรู้จักในชื่อขนมลอดช่อง สมัยก่อนนิยมทำขนมลอดช่องเพื่อรับประทานเองภายในครอบครัว หรือนำไปทำบุญที่วัดและใช้รับรองแขก ปัจจุบันหลายครอบครัวเริ่มเลิกราห่างหายกันไปเนื่องจากเห็นว่ามีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เสียเวลา และสามารถซื้อหาได้ง่ายตามตลาดทั่ว ๆ แต่ก็ยังคงเหลือเป็นบางครอบครัวที่สานต่อ รักษาสืบทอดการทำขนมลอดช่อง คงไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ อนุรักษ์สืบสาน และเพื่อขายสำหรับเป็นรายได้เสริมให้แก่ครอบครัว เจ๊หลีขอบคุณที่มาจาก //www.gotoknow.org/posts/132094 //www.m-culture.in.th ก่อนอื่นเรามาเตรียมพิมพ์ลอดช่อง แบบไม่ต้องซื้อมาดีกว่านะคะ เจ๊หลีใช้วิธีเก็บกระป๋องผลไม้กระป๋องไว้ หาตะปูตัวโตๆ แบบในรูป มาเจาะรอบ ๆ กระป๋อง หรือไม่ก็หาหม้อสำหรับนึ่งที่เป็นรูกลม ๆ แบบนี้แต่เลือกแบบรูเล็ก ๆ หน่อยนะคะ มีอีกวิธีสำหรับใครที่มีเครื่องกดคุ้กกี้แบบนี้ เลือกหัวกลม ๆ แบบในรูปใช้ได้เลยค่ะ แต่ตัวลอดช่องจะอ้วนนิดนึงนะคะ เวลากดต้องกะจังหวะเอาค่ะ กดแล้วหยุด ๆ หรือถ้าที่บ้านใครมีเครื่องบดมันฝรั่งแบบภาพล่างใช้ได้เช่นกันค่ะ เครดิตรูป จาก //www.kitchenwarehouse.com.au ส่วนประกอบที่ใช้ตามนี้ค่ะ แป้งถั่วเขียว หรือแป้งซ่าหริ่ม ต่อด้วยแป้งข้าวจ้าว และแป้งท้าวยายม่อมซึ่งมีลักษณะเป็นเกล็ดหยาบ ๆ น้ำปูนใส และ น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น จากสูตรรวมส่วนผสมได้แบบนี้ค่ะ เหมาะสำหรับครอบครัวเล็ก ๆ มาเริ่มทำกันเลยนะคะ เตรียมน้ำสะอาดใส่น้ำแข็งไว้ ผสมแป้งสามชนิดเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ ใส่น้ำปูนใสพอนวดเป็นก้อน จากนั้นนวดให้แป้งเนียน และเหนียวต้องนวดนะคะเพื่อให้ได้ขนมเหนียวนุ่ม ห้ามผสมให้เข้ากันเฉย ๆ เราจะนวด ราว 10-12 นาที เมื่อนวดได้ที่ให้เติมน้ำปูนใสที่เหลือ และน้ำใบเตยคั้นข้น ๆ ลงไปทั้งหมดคนให้เข้ากัน จากนั้นยกขึ้นตั้งไฟกลาง กวนจนเริ่มข้นให้หรี่ไฟอ่อน ๆ จัดภาชนะไว้ คนเร็ว ๆ แรง ๆ ตลอดเวลาจนส่วนผสมข้นได้ที่ ที่สำคัญในการกวนแป้ง อย่างกวนจนข้นเกินไปจะแก้ไขยาก ซึ่งมีผลทำให้ใช้พิมพ์กดยากหนืด เส้นจะขาดเป็นท่อน สั้น ๆ หากอยากทราบว่าแป้งขนาดไหนได้ที่ให้ไปลองหยดในน้ำใส่น้ำแข็งดู ถ้าเป็นตัว ก็ใช้ได้ค่ะ ภาพล่างทดลองให้ดูค่ะ ตัวกดด้านในให้ใช้กระป๋องที่ขนาดเล็กกว่าเป็นตัวกดนะคะ กดลงในน้ำเย็นที่เตรียมไว้ ยกตัวกดสูง ๆ จากน้ำ ตัวลอดช่องเราจะสวยปลายแหลมดี ได้มาแบบนี้ค่ะ ถ้าใช้ที่กดคุ้กกี้ ตัวจะอ้วนตามรูของมันค่ะ เจ๊หลีลองทำให้ดูนิดหน่อยนะคะ เทียบให้ดูกับกระป๋องเจาะรูค่ะ เจ๊หลีขอบคุณสูตรจาก //www.ezythaicooking.com/ การทำน้ำกะทิ รับประทานคู่กับลอดช่อง ส่วนผสมน้ำกะทิ - น้ำกะทิคั้นสด 250 กรัม - น้ำตาลปึก 150 กรัม - เกลือป่น 1/2 ช้อนชา -เทียนอบ สามารถรับประทานคู่กับ เผือกนึ่ง, ข้าวเหนียวดำนึ่ง, ขนุน วิธีทำน้ำกะทิ ทำน้ำกะทิโดยนำน้ำตาลปึกผสมกับน้ำกะทิและเกลือป่น นำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆ คนจนน้ำตาลละลายดีจึงปิดไฟระวังอย่าให้กะทิแตกมันคอยหมั่นคน และนำไปอบควันเทียนให้หอม 1-2 ครั้ง ตักตัวลอดช่องใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ ใส่น้ำแข็งทุบ สามารถใส่เครื่องเพิ่มเติมได้ตามต้องการ เช่น เผือกนึ่ง, ข้าวเหนียวดำ, อื่นตามชอบ) เสริฟได้ทันที แป้งถั่วเขียว (Mung bean Starch) เป็นแป้งที่สกัดมาจากถั่วเขียว โดยแช่ถั่วเขียวในน้ำ 6 ชั่วโมงแล้วล้าง นำไปโม่หรือบด แป้งที่ได้จากถั่วเขียวจะมีลักษณะคล้ายแป้งเปียก แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางหลายๆครั้งจ ะได้แป้งที่ข้น รินน้ำใสๆที่อยู่ข้างบนทิ้ง ผึ่งแป้งบนตะแกรงหรืออบให้แป้ง เมื่อแป้งแห้งแล้วบดให้ละเอียด จะได้แป้งถั่วเขียว เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะข้นค่อนข้างใสเป็นเงางามเหมือนวุ้น เมื่อพักให้เย็นจะจับตัวเป็นก้อนแข็งอยู่ตัวค่อนข้างเหนียวเด้ง เหมาะในการทำอาหารที่ต้องการความใสอยู่ตัว เช่น ซาหริ่ม ขนมลืมกลืน ตะโก้ ลอดช่องแก้ว เรไร ฯลฯ แป้งท้าวยายม่อม (Arrowroot Starch) สกัดมาจากหัวมันท้าวยายม่อมซึ่งเก็บหัวได้ปีละครั้ง วิธีทำคือ นำหัวเท้ายายม่อมมาฝนกับกระต่ายจีน แล้วนำไปแช่น้ำไว้จนใส และแป้งนอนก้น จึงเทน้ำทิ้ง ทำเช่นนี้ประมาณ 4 - 5 ครั้ง จึงนำไปตากแดดจนแห้ง เหตุนี้จึงทำให้แป้งท้าวยายม่อม ราคาสูงกว่าแป้งชนิดอื่น ลักษณะแป้งเป็นเม็ดสี่เหลี่ยมเล็กๆ ลื่น สีขาวเป็นเงา เวลาใช้ ต้องบดให้ละเอียดเป็นผงเมื่อนำไปประกอบอาหารจะให้ความข้นเหนียวหนืดและใสเมื่อทำให้เย็นจะเหนียวตัวกว่าแป้งมันสำปะหลัง แป้งนี้จะช่วยทำให้ขนมนุ่ม ใส ดูเงางาม จึงนิยมนำมาใช้ร่วมกับแป้งชนิดอื่น ๆ เช่นผสมกับแป้งมันและแป้งข้าวเจ้าในการทำ ขนมชั้น ใช้ผสมกับแป้งข้าวเจ้าในการทำขนมเปียกปูน หรือ ขนมน้ำดอกไม้ ฯลฯ แป้งข้าวเจ้า (Rice Flour) เป็นแป้งที่ทำจากเมล็ดข้าวเจ้า มีลักษณะเป็นผงมีสีขาวจับแล้วสากมือเล็กน้อย เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะขุ่นร่วน ถ้าทิ้งให้เย็นจะอยู่ตัวเป็นก้อนร่วนไม่ถึงกับเหนียวหนึบ และไม่ถึงกับร่วนฟูเป็นเนื้อทราย จึงเหมาะที่จะประกอบอาหาร ที่ต้องการความอยู่ตัวร่วนไม่เหนียวหนืด เช่น ขนมขี้หนู ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมน้ำดอกไม้ ตะโก้ เส้นขนมจีน ฯลฯ สมัยก่อนนิยมโม่กันเอง โดยล้างข้าวสารก่อน แช่ข้าว โดยใส่น้ำให้ท่วมแช่จนข้าวนุ่ม จะโม่ง่าย ในปัจจุบันนิยมบดด้วยเครื่องบดไฟฟ้าบดให้ละเอียดแล้วจึงห่อผ้าขาวบางทับน้ำทิ้งจะได้แป้งข้าวเจ้าเรียกแป้งสดฒ ขอบคุณข้อมูลจาก //rueanthai2.lefora.com/ A l l A b o u t M y B l o g เจ๊หลีทำ Blog ไว้หลายหัวข้อคลิกที่ภาพได้นะคะ youtube ประกอบการทำลอดช่อง รายการกินอยู่คือ จนกว่าจะพบกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ   Create Date : 12 กันยายน 2556 25 comments Last Update : 12 กันยายน 2556 21:39:45 น. Counter : 18469 Pageviews. Share Tweet

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต กิน ๆ เที่ยว ๆ Food Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น เย้ๆๆๆ มาคนแรกเลยค่ะ   โดย: Close To Heaven 12 กันยายน 2556 12:59:11 น.

แบบใส่กระป๋องเจาะรู ดูเป็นลอดช่องแบบที่เค้าขายๆ กันมากกว่าแบบที่กดคุ้กกี้จริงๆ ค่ะ ชอบที่เจ๊หลี ถ่ายรูปกระป๋อง ค้อน กับตะปูมาด้วย รูปสวยมากๆ เลยค่า   โดย: Close To Heaven 12 กันยายน 2556 13:00:12 น.

ตามมาชิมลอดช่องด้วยคนค่ะเจ้หลี จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ที่บ้านจะกวนลอดช่องทีหม้อใหญ่ ๆ เลยค่ะ จะอร่อยไม่อร่อยน้ำกระทิก็มีส่วนสำคัญด้วยนะคะ เป็นขนมที่เหมาะกับวันที่อากาศร้อน ๆ มากค่ะ วัฒนธรรมอาหารการกินก็จะคล้าย ๆ กันหลายประเทศนะคะ อย่างเช่นขนมครก ก็มีเหมือน ๆ กันค่ะ วันนี้โหวตอาหารบ้านอื่นไปแล้ว กด like ให้เจ้หลีแทนนะคะ   โดย: เนินน้ำ 12 กันยายน 2556 14:10:20 น.

เพิ่งจะได้อ่าน ได้เห็นจะจะ วิธีการทำลอดช่องไทยครับ .. เมื่อวานผมก็ทานครับ อร่อยตรงน้ำกะทิ และน้ำแข็งที่อย่าใส่มากเกิน .. ขอ กด Like ให้เจ๊หลี ในสาขา Food Blog ครับ .. บล็อกหน้า ที่บ้านผมไม่ใช่ตุ๊กตาหน้ารถ แต่จะโพสต์เพลงครับ จะได้เข้ากับฤดู The Voice ปีสอง   โดย: yyswim 12 กันยายน 2556 14:28:48 น.

ในจำนวนบล็อคผู้มีฝีมือเกี่ยวกับการทำอาหาร แม่บุญยกให้เจ๊หลี...เป็นหนึ่งในตองอู เพราะทำได้มากมายหลายอย่าง ฝีมือไร้เทียมทาน ทั้งแกะสลักอีกด้วย เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เจอตัวจริง เพราะอยากสมัครเป็นลูกศิษย์ อยากเรียนรู้การทำขนมไทย ที่ทำไม่เป็นสักอย่าง อิ อิ ไม่รู้ว่าท่านอาจารย์จะพอยอมรับสักคนได้ไหม ?   โดย: Maeboon 12 กันยายน 2556 15:03:13 น.

ได้ไอเดียกระป๋องเจาะรูด้วย น่าสนใจมากเลยคะ เหมาะกับอากาศร้อน ๆ ทานแล้วสดชื่นเลยเนอะ   โดย: ลงสะพาน+++เลี้ยวซ้าย2013 12 กันยายน 2556 17:04:40 น.

โห มันเริดมากคะเจ๊หลี ประดิษฐ์ที่กดลอดช่องเอง ทำออกมาเส้นก็สวยคะ แถมมีเทคนิควิธีกดให้ตัวลอดช่องสวยมาฝากด้วย ถ้าใช้ตะปูตัวเล็ก ลอดช่องก็เส้นเล็ก นะคะเนี่ย   โดย: kuky 12 กันยายน 2556 19:57:35 น.

สมาชิกขาดึกเยอะนะคะนี่ แพล้บเดียวแขกเต็มบ้านเลยค่ะ บล็อกเจ๊หลีให้รายละเอียดสุดๆ ภาพสวยด้วยค่ะ เห็นแล้วเกิดกิเลสอยากทำลอดช่องมั่งแล้ว โหวตหมวดอาหารสำหรับวันนี้ และไลค์ด้วยค่า ชอบๆๆ   โดย: secreate 13 กันยายน 2556 0:27:19 น.

ตัวลอดช่องดูเค้าเด้ง ๆ ออกมาจากรูปเลยค่ะเจ๊หลี :) ... ชอบสีเขียวใบเตยแบบนี้ คงหอมมาก ๆ .. เห็นแล้วอยากจ้วงมาชิม งั่ม ๆ 55 ... เจ๊หลีรีวิวละเอียดมาก ๆๆๆๆ ไว้อยากลอดช่องอีก จะมาเรียนกับเจ๊หลีอีกทีค่ะ   โดย: Tristy 13 กันยายน 2556 7:40:31 น.

มาแล้วคะ เจ๊หลีคนเก่ง หัวกระไดบ้านเจ๊หลีไม่เคยแห้ง มาอัพบล๊อกเมื่อใด ผู้คนรีบแวะมาเยี่ยมเยือนทุกครา เพราะเจ้าบ้านเป็นคนใจดีไม่มีกั๊ก มีอะไรบอกให้หมด วันนี้เห็นขนมไทยใส่ใบเตยที่ชอบ ต้องรีบเร่เข้ามาชม เป็นเพราะไม่ค่อยจะได้เห็นสมาชิกในบล๊อกทำขนมไทย หันไปทางไหนมีแต่ขนมฝาหรั่ง เค้กเยอะไปหมด เห็นลอดช่องเขียวแล้ว มีคำถามเจ๊หลีถึงลอดช่องขาว สมัยโน้นแถวบ้านพี่ ตลาดรถไฟ กม.11 มีทำมาขาย แม่ค้ามาจากอ่างทอง ขายวันละสามกาละมังซักผ้าใบใหญ่ แล้วขายแต่ลอดช่องขาวอย่างเดียวด้วยคะ อร่อยมาก แม้ไม่มีกลิ่นใบเตย แต่ให้ความหอมในตัวของลอดช่องสีขาว พี่แอบแปลกใจว่าทำไมเขาไม่ทำลอดช่องเขียว แต่กลับทำลอดช่องขาวมาขาย แล้วดันอร่อยด้วยจิ ใบเตยที่บ้านพี่บี๊ แตนกอเยอะมากคะ เป็นใบเตยหอม หอมติดมือ น้องโอเธอเอาไปปลูก บอกว่ากลิ่นติดมือจริงๆ   โดย: บ่งบ๊ง 13 กันยายน 2556 9:11:24 น.

มาชมวิธีทำลอดช่องค่ะ เจ๊หลีทำได้ดูน่ากินจังค่ะ แหม่มเคยซื้อที่กดลอดช่อง เพราะเคยเห็นรีวิวดูเหมือนจะง่าย แต่ทำจริงๆ แล้วมันไม่ง่ายเลยนะคะ สุดท้ายก็เละตุ้มเปะ ทำครั้งเดียวเลิกเลยค่ะ   โดย: narellan 13 กันยายน 2556 16:38:28 น.

ดีใจค่ะ เจ้หลีแวะมาเยี่ยม... เคยเข้ามาบ่อยค่ะ มาแฮ๊บสูตรเค้กกล้วยหอมไปทำ ถ้วยฟูวันก่อน ก็มาดูค่ะ เห็นส่วนผสมแล้วบางอย่างหายาก เจอสูตรแป้งข้าวหมากไปเลยถอยก่อนค่ะ เห็นแองกรี้เบิร์ด โห ยากๆ ถอยอีกค่ะ   โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 13 กันยายน 2556 21:55:53 น.

กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ขอสิงอยู่กับเจ๊หลีนะค่ะ อยากกินมานานมว๊ากกกกกกกกก ปล. ขนมปังมั่วๆมีไม่เยอะค่ะ ความสามารถไม่ถึง อิอิอิ แต่ชลเอามาฝากเจ๊หลีค่ะ   โดย: chon CH 13 กันยายน 2556 22:11:05 น.

สวัสดีค่ะเจ้หลี สบายดีนะคะ ลอดช่องไทยใส่เผือกแตงไทยเกล็ดน้ำแข็งนิด ๆ แบบของไทยนี่แหละอร่อยกว่าใคร ๆ นี่ปุ้มมีต้นเตยเป็นของตัวเองแล้วนะคะ ถ้ายังอยู่รอดปลอดภัยจากลมหนาวเย็นยะเยือกข้างหน้านี้ คาดว่าจะได้ทำลอดช่องไทยตัดใบเตยสด ๆ มาท้าหิมะท้าลมร้อนได้ตลอดไปเลยค่ะ (แมงโม้เริ่มบินมาแล้ว 5555)   โดย: pumorg 14 กันยายน 2556 11:49:36 น.

ขอบคุณเจ๊หลีมากค่ะที่แวะทักทายต๋า ทำให้ได้กลับมาชมวิธีำทำลอดช่องไทย เจ๊หลีถ่ายทอดแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียด มีตัวเลือกสำหรับอุปกรณ์การหยอดด้วย ลอดช่องไทยสีเขียวสวยหยดจากกระป๋อง ดูสวยงามและน่าทานมากค่ะ กด like #38 ก่อนนะคะ แล้วต๋ามาใหม่ค่ะ   โดย: Sweet_pills 15 กันยายน 2556 22:20:44 น.

โอ้วว้าว เห็นแล้วอยากมาเลยล่ะค่ะ ยิ่งได้กะทิหอมๆ ด้วยแล้ว กินยามร้อน ชื่นใจคลายเครียดเลยล่ะค่ะ น่ากินมากๆ เลย   โดย: JewNid 16 กันยายน 2556 9:29:44 น.

น่าหม่ำ ^_^   โดย: nuboonme 16 กันยายน 2556 22:22:08 น.

เห็นแล้วอยากทานเลยค่ะ   โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ 17 กันยายน 2556 0:00:10 น.

ไม่รู้หมดรึยังคะ เห็นแล้วอยากของหวานขึ้นมาทันที   โดย: ส้มแช่อิ่ม 18 กันยายน 2556 21:47:06 น.

ลอดช่องไทย น่าทานจัง ชอบมากค่ะ newyorknurse   โดย: newyorknurse 19 กันยายน 2556 4:11:39 น.

มาโหวตให้เจ๊หลีค่ะ บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต กิน ๆ เที่ยว ๆ Food Blog ดู Blog ............. ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรอาหารและขนมนะคะ   โดย: Sweet_pills 19 กันยายน 2556 19:43:42 น.

เป็นขนมโปรดเลยค่ะเจ๊หลี ตอนเด็กๆเคยช่วยคุณแม่ทำด้วยค่ะ เสียดายไม่ได้เก็บพิมพืไว้ ที่บ้านใช้ขันน้ำอลูมิเนียมมาเจาะเอาค่ะ คุณพ่อเจอาะให้ พูดแล้วก็คิดถึงวันคืนดีๆเก่าๆ   โดย: AdrenalineRush 19 กันยายน 2556 20:54:12 น.

สวัสดีครับเจ๊หลี อ.เต๊ะ พึ่งจะมาบ้านนี้ครั้งแรก ฝากเนื้อฝากตัว แล้วก็ฝากท้องไว้ด้วยเลยนะครับ555 อ.เต๊ะอ่านดูแล้ว สุดยอดมาก ครบถ้วนกระบวนความ มีทั้งประวัติที่มาที่ไป ขั้นตอนการทำอย่างละเอียดยิบ อุปกรณ์ที่ DIY ก็สามารถใช้งานได้จริง ภาชนะที่เป็นหม้อดินเผาก็เหมาะสม เข้ากับบรรยากาศขนมไทยๆ แบบนี้เห็นทีจะปล่อยเอาไว้ไม่ได้นะครับ ต้องโหวตซะให้เข็ด 555 บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต กิน ๆ เที่ยว ๆ Food Blog ดู Blog   โดย: multiple 19 กันยายน 2556 21:43:31 น.

มาเยี่ยมชม มาทักทายต่อครับ ผมเพิ่งรู้นะครับว่าในเมืองไทยเราก็ทำลอดช่องได้เองด้วย ที่ผ่านมาผมนึกว่าประเทศเราจะต้องสั่งนำเข้าลอดช่องมาจากประเทศสิงคโปร์เท่านั้นครับ (โห ... ตรูเรียนจบโรงเรียนไหนมาฟ่ะ?) เห็นเจ๊หลีทำลอดช่องไทยแล้วก็ต้องบอกว่าสุดยอดมาก ๆ เลย ในสมัยก่อนผมเคยทำงานอยู่ที่สามแยกตรงถนนเจริญกรุงย่านเยาวราชครับ ตรงนั้นมีร้านขายลอดช่องสิงคโปร์ชื่อดังอยู่ด้วยครับ มักก็ชอบไปกินเป็นประจำครับ แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยจะได้กินเลยครับ ว่าแล้วก็ไปหาลอดช่องมากินบ้างดีกว่า อิอิ   โดย: อาคุงกล่อง 28 กันยายน 2556 14:25:27 น.

เจ๊หลีขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาทักทายกันที่บล๊อกของเจ๊หลีนะคะ เดี๋ยวเจ๊หลีจะแวะไปหาเพื่อน ๆ ที่บล็อกค่ะ สำหรับเพื่อนที่ไม่มีบล็อกเจ๊หลีขอขอบคุณไว้ที่นี้เลยนะคะ เข้ามาดูเข้ามาทักทายกันได้ ถ้ามีคำถามให้ฝากคำถามไว้ได้ที่เมล์ หรือหน้าหลักของบล็อกเจ๊หลีได้นะคะ ที่ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=home-baking   โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ 4 ตุลาคม 2556 8:19:35 น.