[Italy] Italia, ti amo. ตอนที่ 2 Rome (Part II).. Vatican City



(Day2 - 15 ก.ย. 2554) Rome: Vatican Museums


วันนี้ตื่นตั้งแต่ตี 5 ไม่ได้ขยันนะคะ
แต่ยังชินเวลาประเทศไทยอยู่


แวะไปทานอาหารเช้าที่ “Panella” ตามเคย


แพลนของวันนี้


Blue Hostel
-- เดิน 550 ม., 7 นาที -->
Roma Termini Station
-- เมโทร 7 สถานี -->
Cipro - Musei Vaticani Station
-- เดิน 550 ม., 7 นาที -->
Vatican Museum
-- เดิน 1.5 กม., 18 นาที -->
St. Peter's Basilica & Climbing the dome (Cupola)
-- เดิน 1.4 กม., 17 นาที -->
Ottaviano Station
-- เมโทร 6 สถานี -->
Roma Termini Station
-- เดิน 550 ม., 7 นาที -->
Blue Hostel


v
v
v


ตรงไป Vatican Museum (GPS 41.906701,12.453407) กันเลยค่ะ
นั่งเมโทรจากสถานี Roma Termini ไปลงสถานี Cipro - Musei Vaticani
แต่ถ้าใครจะตรงไป St. Peter's Basilica ก่อน ให้ไปลงสถานี Ottaviano ดีกว่า
ประหยัดพลังงานในการเดิน ^^


ซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าวาติกันมิวเซียมไว้แล้ว
จองไว้รอบ 9:30 น.
ต้องไปรับตั๋วล่วงหน้า 15 นาที
เผื่อเวลาเดินทางไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงจากโฮลเทลกำลังดี


ขนาดเรามาถึงก่อน 09:30 คิวรอเข้าชมวาติกันมิวเซียมก็ยาวเกินกว่า 300 เมตรแล้ว
ระหว่างทางมีคนมาคอยขายทัวร์ บอกว่าเข้าชมได้เลย ไม่ต้องรอคิว
ดีว่าน้องแพร (+~%Chocolate Republic%~+) เตือนไว้ เราเลยไม่ต้อง
รอคิวยาวๆ เพราะน้องแพรเองก็ยืนรอคิว 2 ชม.กว่า -_-“


ปล. เสิร์ชเจอกระทู้นึงน่าสนใจทีเดียวค่ะ ข้อมูลของคุณ thyrocyte


ราคาตั๋ว 15 ยูโร + ค่าจองล่วงหน้าออนไลน์ 4 ยูโร = 19 ยูโร



มายืม audio guide ก่อน จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ รู้สึกว่า 7 ยูโร
ปล. ไม่มีภาษาไทยนะคะ



ยืมไกด์บุ๊ค Rick Steves' Rome มาจากโฮลเทล
อ่านแล้วชอบมาก จนต้องหาซื้อ Rick Steves' Florence & Tuscany
และ Rick Steves' Venice ที่ฟลอเรนซ์
เสียหาซื้อ Rick Steves' Snapshot Italy's Cinque Terre ไม่ได้
ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจหนังสือของ Rick Steves' เลย
ชอบที่เค้าใช้ภาษาที่อ่านง่าย สอดแทรกทริกต่างและมุขขำๆ ไว้ตลอด
ลืม Lonely Planet Italy ที่หอบหิ้วไม่จากเมืองไทยได้เลย
จะโยนทิ้งก็เสียดาย ก็เลยซุกไว้ในกระเป๋าเดินทาง ^^


วันนี้ก็เลยเดินถือ Rick Steves' Rome กับ ฟัง audio guide ตลอด
แต่ตอนนี้ก็ลืมไอ้ที่อ่านกับฟังไปเกือบหมดแล้ว 55+
ความจำปลาทอง
เพื่อนๆ ก็ดูรูปไปละกันนะคะ คำบรรยายอาจจะไม่ค่อยมี ^^


เห็นโดม St. Peter's Basilica อยู่ไกลๆ ค่ะ




มาชมด้านนอกกัน





ด้านในก็จะแบ่งเป็นห้องๆ แต่ละห้องแบ่งเป็นประเภทแตกต่างกันไป



ห้องนี้โชว์ชิ้นงานรูปสลัก





ห้องต่อไปก็ยังโชว์ชิ้นงานรูปสลัก





ห้องนี้โชว์รูปสลักสัตว์





อีกห้องนึง
ชิ้นนี้ใหญ่อลังฯ สูงเกือบ 3 เมตรได้มั้ง



งานโมเสกบนพื้นพิพิธภัณฑ์ค่ะ



แหวนโบราณ



ระหว่างที่เดินชมรอบวาติกันมิวเซียม
จะมีหน้าต่างชมวิวด้านนอกไว้เป็นระยะๆ
ปล. ถ้าเลื่อนลงไปดูภาพด้านล่าง แล้วงงๆ ตามที่บอกไว้นี่แหละค่ะ
เดี๋ยวก็ถ่ายภาพด้านนอก เดี๋ยวก็ถ่ายด้านในค่ะ



ขึ้นมาที่ชั้น 2 แล้ว มองลงไปตรงสวนที่เราไปชมทีแรก
(Tilt-Shift Miniatures)



จากบนนี้ก็เห็น The Vittorio Emanuele II Monument เหมือนกัน



เพดานในแต่ละห้อง ก็สวยงามแตกต่างกันออกไป



เพดานห้องนี้ เหมือนเป็นปูนปั้นนูนต่ำ แต่จริงๆ แล้วเป็นงานเพนท์ค่ะ



ห้องนี้ เพดานเป็นงานนูนต่ำของจริงแล้วค่ะ

















กำลังจะเข้าไปชม Sistine Chapel กันแล้วค่ะ




ภาพเพดานใน Sistine Chapel
จริงๆ เค้าไม่ให้ถ่ายภาพแหละ
ที่ไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพก็เพราะเมื่อปี 1980 Sistine Chapel มีการฟื้นฟูใหญ่โต
บริษัท Nippon Television Network Corporation ช่วยสนับสนุนเงินทุน ถึง 4.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
บริษัทนี้ก็เลยได้ลิขสิทธิ์ของภาพที่นี่เป็นการแลกเปลี่ยน



.
.
.


นี่ก็บ่ายแก่แล้ว ยังไม่ทานอาหารเที่ยงเลย
แว๊บ ไปทานพิซซ่าที่ cafeteria
ชิ้นใหญ่มาก แต่ไม่อร่อยค่ะ -_-“



.
.
.


สุดท้ายก่อนกลับ แวะชมอีกสักห้อง
Pinacoteca (painting Gallery)
ถ่ายมาภาพเดียวนี่แหละค่ะ



ถึงบันไดทางออกวาติกันมิวเซียมแล้ว
++ มุมมหาชน: บันไดวน ++



++ บันไดวน: side shot ++



++ บันไดวน: มุมเงย ++
ถ่ายมันให้ครบทุกมุม ^^



กว่าจะออกจากวาติกันมิวเซียมก็ 16:20 น.
OMG! เราใช้เวลาไปเกือบ 7 ชม.
สรุปว่าทุกคนที่มาโรม ไม่ควรพลาดวาติกันมิวเซียมค่ะ
ยิ่งใหญ่ อลังฯ มีงานศิลปะสวยๆ ขนาดหวานไม่ความรู้เรื่องศิลปะเลย ยังชอบเลยค่ะ


ไปลุยต่อกันที่ St. Peter's Basilica กันดีกว่าค่ะ


v
v
v


รถคันนี้ยิ่งกว่า eco car อีก
ปลูกหญ้ารอบคันเลย ^^
แต่เข้าไปยื่นใกล้ๆ กลิ่นไม่น่าพิศมัยเท่าไหร่



พอเดินเข้ามาในบริเวณ St. Peter's Square
ก็จะมี Swiss Guard ยื่นเฝ้าประตูอยู่



โชคดีที่เรามาเย็นแล้ว คิว security check สั้นนิดเดียว



นี่แหละค่ะ St. Peter's Basilica(GPS 41.902341,12.457248)



ไปซื้อตั๋ว “Climbing the dome” ก่อนค่ะ เดี๋ยวเค้าจะปิดซะก่อน
ปล.เวลาทำการ 8:00-18:00 แต่ช่วงเดือน ต.ค.-มี.ค. จะปิดเร็วขึ้นเป็นเวลา 16:45 น.


ราคาตั๋วมีสองประเภท
ประเภทที่ 1: ขึ้นลิฟต์ไปครึ่งทาง แล้วเดินขึ้นบันไดต่ออีก (7 ยูโร)
ประเภทที่ 2: เดินขึ้นบันไดล้วนๆ 320 ขั้น (6 ยูโร)
สำหรับเราขอเลือกตั๋วประเภทที่ 1 ละกัน
เดินมาทั้งวันแล้ว



ขึ้นลิฟต์มาครึ่งทางแล้วค่ะ
ที่เหลือก็ต้องใช้กำลังขาแล้วล่ะ



งานโมเสกฝาผนังชิ้นนี้ คงมีอายุไม่น้อยกว่า 400 ปี




โดมน้อยๆ บนหลังคา



เฮ้อ! ถึงด้านบนซะที กว่าจะถึงหยุดพักไปหลายรอบ


.
.
.


มาชมวิวสวยๆกันดีกว่า
อาคารขาวๆ ด้านขวาก็คือ The Vittorio Emanuele II Monument
เค้าว่าหน้าตาเหมือนเครื่องพิมพ์ดีด
ที่เราขึ้นไปถ่ายรูปเมื่อวาน





แม่น้ำ Tiber แม่น้ำหลักของโรม
และยังเป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับสามของอิตาลี



นี่ก็วาติกันมิวเซียม ที่เราใช้เวลาชมถึง 7 ชม. -_-“



สังเกตว่าในภาพมีโดมให้เห็นหลายโดมทีเดียว
อย่างน้อยๆที่เราเห็นก็ 6 โดมแล้วล่ะ



มองลงมายัง St. Peter's Square



รีบลงไปด้านล่างกันดีกว่า ก่อนที่ St. Peter's Basilica จะปิด
ปล. ช่วงเดือน เม.ย.-ก.ย. เวลาทำการ 7:00-19:00 น.


.
.
.


การเข้าชม St. Peter's Basilica ไม่อนุญาตให้ใส่กางเกงขาสั้น
กระโปรงสั้น เสื้อขากุด เสื้อสายเดียว หรือเสื้อที่โชว์ใหล่ทั้งหลาย
สรุปก็คือต้องใส่ชุดสุภาพอย่างเดียว
เดรสโค้ดประมาณเดียวกับเวลาคนไทยเข้าชมวัดพระแก้ว
เท่าที่เพิ่งเช็คข้อมูลดูวาติกันมิวเซียมก็เพิ่งเปลี่ยนมาใช่กฏนี้เหมือนกัน



St. Peter's Basilica เป็นส่วนหนึ่งของ Vatican City



การตกแต่งด้านในเป็นผลงานของ Pannini
ยิ่งใหญ่ อลังการมาก



The Pietà ฝีมือของ Michelangelo
รูปสลักพระเยซูบนตักของพระแม่มารี
อยากจะให้ดูแขนของพระเยซู ให้ความรู้สึกถึงน้ำหนักที่ทิ้งลงมาจริงๆ



แหงนดูเพดานกันบ้างค่ะ





.
.
.


ออกมาชมด้านนอกกันบ้างค่ะ


++ St. Peter's Square++



St. Peter's Basilica หน้าตรง ^^



v
v
v


ทีแรกตั้งใจจะไปทานอาหารที่ “Osteria della Suburra”‎ (GPS 41.89517,12.493104)
ร้านนี้ Ercole แนะนำ (อีกแล้ว) ร้านโลคอล ถูกและอร่อย (เค้าว่างั้น)
เดินจาก Roma Termini (Line A) 1.0 กม. (12 นาที)
ถ้าลงที่สถานี Cavour (Line B) จะเดินใกล้กว่ามาก แค่ 110 ม. (2 นาที)
แต่ต้องเปลี่ยนรถไฟจาก Line A ไป Line B นะ


ตอนนั้นสมองตื้อคิดไม่ออก ^^ เลยลงที่ Roma Termini
แต่สุดท้ายก็เดินไม่ไหว เปลี่ยนใจขอหาอะไรกินแถวโฮลเทลแทนละกัน
มาลงเอยร้านนี้ที่จำชื่อไม่ได้ แต่อาหารอร่อยผิดคาด หรือว่าหิวก็ไม่รู้ ^^



++ ไม่เคยเห็น Balsamic กับน้ำมันมะกอกในขวดสเปรย์มาก่อน ++



++ Sprite ++



++ Sparkling wine ++



++ Tuna Salad ++
อร่อย! แต่หน้าตาธรรมดามาก
ผักสด กรุบกรอบ แค่ใส่ก็ balsamic vinegar และน้ำมันมะกอกก็เริ่ดแล้ว



++ Spaghetti Four Cheese ++
จานนี้ก็ yum! ลวกเส้นมาได้แบบ al dente
แหม ก็มากินถึงถิ่นเค้าแล้วนี่
หอมชีสมาก โรยหน้ามาด้วยพามีซานขูดแบบไม่ยั้ง



++ สุดท้ายสั่ง Red wine มาอีกแก้ว ^^ ++



.
.
.


ก่อนนอน ต้องทานเจลาโต้เพิ่มความอ้วน
แวะร้านนี้ อยู่ใกล้โฮลเทลมาก ห่างกันแค่ 2-3 ตึก







คุ้นๆ ว่าสั่งรสโยเกิร์ตกับอะไรสักอย่าง
รสชาติงั้นๆ -_-“ แต่ทำไมลูกค้าไม่ขาดสายเลยล่ะ



อิ่มแล้ว เข้านอนได้ หุหุ ^^



- - - คราวหน้าจะพาชม Borghese Gallery และใจกลางกรุงโรมอีกสักรอบ ^^ - - -




Create Date : 05 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2554 19:09:13 น. 0 comments
Counter : 3553 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Holly
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




counter for blogger

Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
5 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Holly's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.