ขูดหินปูนกันเถิด จะเกิดผล~
หายไปอาทิตย์ฝ่า ๆ อีกแระ แหะ ๆ รีบมาต่อให้จบเรื่องฟัน ๆ ซะก่อนเนอะ นานกว่านี้เดี๋ยวมีลืมอ่ะ
........
คราวที่แล้วเล่าถึงตอนที่ต้องผจญวิบากกรรมทรมานกับการปวด ป๊วดด..ปวด (ขอไทลินอล แป๋งนึง ) อยู่นานเป็นอาทิตย์โดยที่ยังไม่ได้คิวคุณหมอซะทีกันไปแล้วอ่ะนะคะ
โชคยังดีฮ่ะ ที่พอกลับมาบ้าน แม่น้องสาวที่เป็นเภสัชกรก็แวะเอายาแก้ปวด+อักเสบมาให้ ก็เลยได้ใช้ประทังชีวิตโดยปกติสุขต่อมาได้จนถึงวันนัด Y^Y
ขอบอกว่าไอ้อาการปวดฟันนี่มัน..สุด ๆ อ่ะเนอะ หนักยิ่งก่าตอนอกหักรักคุดซะอีก มันอึน ๆ มันนอยด์ ๆ มันหิว ๆ (เพราะกินอะไรไม่ลง) ไส้กิ่วซะนี่กระไร
ดังนั้นพอได้เวลานัดของหมอ อิชั้นก็เลยเผ่นไปนั่งรอคิวล่วงหน้ากันซะแต่หัววันเลยอ่ะนะคะ
.......
"วันนี้ขูดหินปูนกันก่อนนะคะพี่แหม่ม คราวหน้าค่อยถอนซี่ที่อยู่ด้านในสุด แล้วค่อยรักษารากฟันซี่ที่มีปัญหากันต่อค่ะ"
คุณหมอใจดีมว้ากก..แถมมือเบาสุด ๆ ตลอดเวลาที่ถูกเครื่องมืออะไรต่อมิอะไรขูดแคะแกะเกาอยู่ในปาก มันไม่ได้ทำให้อิชั้นรู้สึกเจ็บปวดจนเสียจริตเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นโฟกัสของความคิดอิชั้นก็เลยไปอยู่ที่อิ่ตรงอื่นแทน อาทิเช่น
"ครื้ดด..ฟึ่ด ๆ ๆ..กร๊อดด.."
มันคือความหฤหรรษ์ของเครื่องดูดน้ำลายค่ะ อิชั้นว่ามันเป็นเครื่องมือที่ให้ความเพลิดเพลินอิชั้นเยอะสุดแระในบรรดาเครื่องมืออื่นของหมออ่ะ อิชั้นนอนฟังเสียงเครื่องดูดมันทำงานในช่องปากอย่างรื่นเริง..เดี๋ยวดูดตรงนั้นจึ้ดดด..นึง เดี๋ยวย้ายมาดูดตรงนี้จื้ดด..นึง..เฮ้ย..น้องผู้ช่วย โปรฟร่ะ..
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที กระบวนการขูดหินปูนก็เป็นอันเสร็จ แล้วก็ถูกกาใบนัดให้มาทำการถอนฟันบนซี่ด้านในออกในอีกหนึ่งอาทิตย์ถัดมา
.......
อ่ะ..ไหน ๆ ก็ไปบูรณาการช่องปากด้วยการขูดหินปูนมาละ หนีบสาระมาฝากกันหน่อยละกันเนอะ
เรื่องของเรื่องก็คือมีบางคนที่ชาตินี้รู้สึกว่าตรูเป็นคู่อริ ไม่ลงรอยกับหมอฟันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนถามอิชั้นขึ้นมาแว่.. "ทำไมคนเราต้องไปหาหมอขูดหินปูนด้วยฟระ"
เอ่้อ..นั่นดิ่..ไอ้เจ้าหินปูนนี่จริง ๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่วะ ทำไมชาตินี้เราถึงต้องมีภาระไปขูดมันออกด้วย
พอสงสัยดังนั้น อิชั้นก็เลยไปค้นคว้าหาคำตอบมาฝากฮ่ะ คือถ้าจะอธิบายกันง่าย ๆ หินปูนนั้นก็เกิดจากการตกตะกอนของแคลเซียมในน้ำลายที่เกาะอยู่บนผิวฟันเรานั่นแหละ พอมันเกาะนาน ๆ เข้า ด้วยความที่พื้นผิวมันขรุขระ ไอ้เจ้าเชื้อจุลินทรีย์ในช่องปากมันก็เลยเฮละโลสาระพาไปจัดงานปาร์ตี้กันอย่างง่ายดาย ผลที่ตามมาในบางคนก็คือ มันสามารถทำให้เกิดอาการเหงือกอักเสบได้ แถมไอ้เจ้าหินปูนที่ว่ายังทำให้เกิดกลิ่นปาก ฟันเหลืองโดยไม่ได้เป็นพันธมิตรของโกฮับอีกด้วย ดังนั้นถ้าตอนนี้ใครอุตริมาถามอิชั้นว่า เราควรจะขูดไอ้เจ้าหินปูนนี่ออกกันมั้ยเค๊อะ อิชั้นก็คง พยักหน้าแล้วบอกว่า โกทูมาสด้า แล้วขับไปแวะคลินิกหน้าเลยหนู...
.......
เอาสาระแต่เพียงน้อย ๆ เผื่อจะรักอิชั้นนาน ๆ แต่เพียงเท่านี้เนาะ
เดี๋ยวมีเวลาจะแวะมาอัพเดทตามติดชีวิตคนฟันผุกันใหม่ค่ะ
แล้วเจอกันนะคะ
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2555 |
|
9 comments |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2555 10:29:24 น. |
Counter : 2651 Pageviews. |
|
|
|
นั่นสิคะ สงสัยเหมือนกันว่าทำไมฟันติ๊กมันเหลือง ทีแรกคิดว่าเป็นเพราะกินกาแฟมากไป แต่หลัง ๆชักจะมีอาการเหงือกอักเสบบ่อย ๆ
กินอะไรเหนียว ๆแข็ง ๆ นิดหน่อยไม่ได้ เดี๋ยวปวดตรงโน้น บวมตรงนี้
เอาล่ะซี สงกะสัยได้เวลาจรลีไปหาหมอฟันกันบ้างละเนี่ย