มีนาคม 2553

 
1
2
3
5
8
9
11
12
14
17
18
19
23
25
29
 
 
All Blog
บทที่ 36 ปิดคอร์ส
หลังจากช่วงวันหยุดยาวผ่านไป นักศึกษาต้องกลับมาเข้าเรียนอีกครั้งใน 4 สัปดาห์ถัดไป ... เช่นเดียวกับวิทที่จะต้องมาทำแล็บต่อในส่วนที่เหลือและเตรียมเขียนรายงานแล็บเพื่อส่งตอนปลายเทอม รวมทั้งปิดงานวิจัยและเขียนรายงานสำำหรับวิชาปัญหาพิเศษให้ทันก่อนปิดภาคเรียน ...

********************************************************************************

เคยมีคนกล่าวไว้ว่า "Plagiarism" [การลอกเลียนวรรณกรรม] เป็นอาชญากรรมทางวิชาการ มหาวิทยาลัยจึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ดังนั้นในคู่มือนักศึกษาจึงมีระบุรายละเอียดและคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในหน้าต้นๆอย่างชัดเจน ...

Plagiarism หมายถึงการนำผลงานของผู้อื่นไปใช้โดยไม่ไ้ด้รับอนุญาตและทำเสมือนว่าเป็นผลงานของตนเอง ... ซึ่งรูปแบบของ Plagiarism มีตั้งแต่ไปลอกส่วนของหนังสือหรือบทความมาใช้ โดยไม่ได้อ้างอิงแหล่งที่มา ไปจนถึงการลอกรายงานของนักศึกษาคนอื่น

ในคู่มือยังทิ้งท้ายสำหรับเรื่องนี้ไว้ว่า เป็นเรื่องปกติที่นักศึกษาจะต้องทำงานเป็นคู่ในวิชาปฏิบัิติการ [แล็บ] และคู่แล็บควรปรึกษาและอภิปรายผลการทดลองด้วยกัน แต่นักศึกษาแต่ละคนจะต้องเขียนรายงานด้วยตัวเอง

********************************************************************************

จู่ๆ ในคืนวันหนึ่งก็มีคนมาเคาะประตูที่้ห้องพักของวิท เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบว่าเป็นนายฮิโรชินั่นเอง

"นายเขียนรายงานแล็บเสร็จรึยัง?" ฮิโรชิเริ่มต้นด้วยประโยคนี้ ซึ่งวิทพอจะเดาได้ลางๆว่าที่มาหาในคืนนี้มีจุดประสงค์อะไร

"เกือบเสร็จแล้ว ... เหลือแต่สรุปผล" วิทตอบไปตามจริง "แล้วของนายล่ะเป็นยังไง"

"กำลังเขียนอยู่ ... แต่จะมาขอยืมดูของนายหน่อยเพื่อเป็นไอเดีย"

วิทแอบถอนหายใจ ... ตานี่เป็นได้แค่ "มือ" อย่างเดียวจริงๆตอนทำแล็บ แถมตอนเขียนรายงานนี่ดูท่าจะเป็นอะไรไ่ม่ได้ซักอย่าง ... แต่ในที่สุดวิทก็เปิดไฟล์รายงานในคอมพ์ฯให้ฮิโรชิดู ... ซึ่งตานี่นั่งอ่านอยู่ได้พักหนึ่ง แล้วบอกว่า "เอาอย่างนี้ดีกว่า เราขอยืมไปอ่านที่บ้าน จะได้เอามาปรับเขียนรายงานของเราไปด้วย" ว่าแล้วก็หยิบแผ่นดิสก์ที่เตรียมมาออกมาดื้อๆ "ได้มั้ย?"

วิทได้แต่ลำบากใจ ... จะว่าไปฮิโรชิก็เป็นคู่แล็บที่ช่วยทำแล็บมาด้วยกัน และที่ทำแล็บกันไปก็ดูเหมือนตานี่จะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรซักท่าไหร่ ... ในที่สุดเลยต้องพยักหน้าอนุญาตด้วยความจำใจ แต่ไม่วายสำทับไปว่า "ยังไงนายต้องเอาไปดูเป็นไอเดียแค่นั้นนะ ห้ามลอกเด็ดขาด ไม่งั้นจะได้ศูนย์ทั้งคู่"

"ไว้ใจเราเถอะน่า" ฮิโรชิตอบหนักแน่น แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้วิทใจชื้นขึ้นมาแต่อย่างใด ...

********************************************************************************

วิชาปัญหาพิเศษกลับเป็นวิชาที่ราบรื่นกว่าวิชาอื่นๆ เพราะไม่ต้องไปเข้าเรียนหรืออ่านหนังสือสอบ เพียงแค่ทำงานวิจัยให้ได้เนื้องานมากพอ และเขียนรายงานความยาวประมาณ 30 กว่าหน้าส่งให้อาจารย์ที่ปรึกษาและโรงเรียนอย่างละเล่มก็เสร็จเรียบร้อย ...

แต่ก็ไ่ม่วายเกิดปัญหาขึ้นจนได้ ... เมื่อตอนปลายเทอม มีกำหนดการนำเสนอผลงานปัญหาพิเศษของนักศึกษาทุกคนที่ลงเรียนวิชานี้มาติดที่บอร์ดประจำวิชา โดยให้เวลาแต่ละคนนำเสนอราวๆ 10-15 นาที และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าฟังซักถามอีก 5 นาที ...

ถึงแม้ว่าวิทจะอยู่ที่ประเทศนี้มาหลายเดือน และสามารถใช้ภาษาได้ดีขึ้นมากแล้ว แต่การนำเสนอผลงานวิจัยเป็นภาษาอังกฤษต่อหน้าผู้ฟังราวๆ 100 คน ยังคงเป็นอะไรที่ทำใจได้ยาก

เมื่อวิทเข้าไปปรึกษา ดร.สมิธ ซึ่งเป็นทั้งอาจารย์ที่ปรึกษา (วิชาการ) และอาจารย์ที่ปรึกษาปัญหาพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจารย์ถามกลับว่า "แล้วคุณอยากจะไปนำเสนอมั้ยล่ะ?"

"ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากครับ ... ผมคิดว่าภาษาผมยังไม่ดีพอที่จะไปพูดต่อหน้าที่ประชุมใหญ่ขนาดนั้น"

"ผมว่าภาษาคุณใช้ได้แล้วนะ ... แต่เอาเถอะ ถ้าคุณไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป" ดร.สมิธตอบง่ายๆ เมื่อเห็นวิททำหน้างง จึงอธิบายต่อว่า "คะแนนของวิชานี้ 100% มาจากอาจารย์ที่ปรึกษา (ปัญหาพิเศษ) ... การที่คุณจะไปนำเสนอผลงานหรือไม่ ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับตรงนั้้น"

"ถ้าอย่างนั้นผมไม่ไปนะครับ" วิทสรุุป "แต่ผมจะต้องไปบอกผู้ประสานงานวิชานี้ก่อนหรือเปล่า?"

"ไม่จำเป็น ... ในวันนั้นคุณไม่ต้องไป ก็แค่นั้นเอง ... หรือถ้าอยากไปฟังคนอื่นๆพูด จะเข้าไปฟังเฉยๆก็ได้"

"งั้นไม่ไปดีกว่าครับ วันนั้นผมจะหายสาบสูญไปเลย"

********************************************************************************

ps. หลังจากการนำเสนอผลงานผ่านไป วิทได้ข่าวมาว่ามีคนไ่ม่ไปนำเสนอหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาปริญญาตรี ... และในปีต่อมาได้มีการปรับรายวิชานี้โดยแบ่งคะแนนออกมา 10% เป็นคะแนนการนำเสนอผลงาน และส่วนของอาจารย์ที่ปรึกษาเหลือ 90%

สงวนลิขสิทธิ์บทความ ห้ามเผยแพร่ ทำซ้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร



Create Date : 06 มีนาคม 2553
Last Update : 6 มีนาคม 2553 18:50:55 น.
Counter : 516 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Historicus
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



คุณพ่อลูกสอง (ตัว)
"Have mercy, O Lord, and strengthen all broken wings." Kahlil Gibran

free counters



Waltz in B minor, Op. 69, No. 2 by Frédéric Chopin