มกราคม 2554

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
23 มกราคม 2554
All Blog
บทที่ 80 ลมหวน (i)
เฟรดเดอริคดูเหมือนจะวนเวียนเข้ามาในชีวิตของวิทมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งตอนพักกลางวัน และเวลาพักดื่มน้ำชาในตอนบ่าย และยังไม่รวมถึงเวลาเดินสวนกันในทางเดินหน้าห้องแล็บอีกวันละหลายๆครั้ง ...

จากข้อมูลที่ได้รับรู้มาทำให้วิทระมัดระวังในการวางตัวกับเฟรดเดอริคค่อนข้างมาก ... แต่กระนั้นก็เกิดเรื่องขึ้นมาจนได้ ...

วันนั้นเป็นเย็นวันศุกร์ เวลาประมาณห้าโมงครึ่ง ซึ่งคนส่วนใหญ่ในสถาบันกลับบ้านกันไปหมดแล้ว ... แต่ในปีกนี้ก็ยังมีคนที่ยังไม่เลิกงานเหลืออยู่ 4-5 คน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นคือ มาเรีย เฟรดเดอริค และวิท ... จริงๆแล้ววิทก็เพิ่งเสร็จงานได้ไม่นาน แต่เห็นมาเรียยังเหลืออยู่เพียงคนดียวในห้องแล็บนี้ จึงตัดสินใจอยู่เป็นเพื่อนและรอเิดินกลับบ้านพร้อมกัน ...

ในขณะที่มาเรียกำลังง่วนอยู่กับการทำแล็บให้เสร็จ วิทจึงเดินไปที่โต๊ะทำ็งานซึ่งอยู่เยื้องๆกันเพื่อเช็คเมล์ฆ่าเวลา ... ระหว่างนั้นเฟรดเดอริคไสรถเข็นที่วางขวดสารเคมีต่างๆผ่านมาพอดี ... เมื่อวิทหันไปมอง ก็เห็นเฟรดเดอริคทำท่าส่งจูบพร้อมกับหลิ่วตาอย่างมีเลศนัย ... วิทหันหลังไปดูเพื่อให้แน่ใจว่าเฟรดเดอริคไม่ได้ทำท่าทางแบบนั้นกับคนอื่น แต่ก็พบว่าในทางเดินว่างเปล่าและมีเพียงเขากับหนุ่มฝรั่งเศสแค่สองคนเท่านั้น ...

วิทรีบกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะทำงาน แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเฟรดเดอริคก็เดินเข้ามาจนเกือบถึงตัว

"เมื่อกี้นายหมายความว่ายังไง" วิทย้อนถาม

เฟรดเดอริคไม่ตอบคำถาม แต่กลับพูดขึ้นว่า "ตกลงว่านายจะทำอาหารเย็นให้เรากินวันไหนดี"

"เมื่อกี้นายทำอย่างนั้นทำไม" วิทย้ำ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา "อย่ามาเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น!"

"เราไม่ได้เล่นอะไรทั้งนั้น"

"แต่นายมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ ... สาวจีนที่เรียนป.เอกอยู่ที่โน่นน่ะ"

สีหน้าของเฟรดเดอริคเปลี่ยนไปนิดหนึ่งเหมือนแปลกใจที่วิทรู้เรื่องนี้ แต่ก็ยังพูดออกมาว่า "แล้วไง? ... เค้าไม่ว่าอะไรหรอก"

"นี่ตกลงนายเป็นอะไรกันแน่"

"ก็เราชอบทั้งสองแบบไง" เฟรดเดอริคตอบหน้าตาเฉย "... แล้วนายจะให้เราไปกินมื้อเย็นเมื่อไหร่ล่ะ"

วิทเริ่มแน่ใจแล้วว่าหนุ่มเจ้าเสน่ห์คนนี้คงไม่ได้อยากกินแค่อาหารเพียงอย่างเดียว

"นี่นายอย่ามายุ่งกับเราได้มั้ย ... เรามีแฟนแล้ว" วิทไม่รู้ว่าประโยคสุดท้ายหลุดออกไปได้อย่างไร แต่นั่นก็ทำให้เฟรดเดอริคมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

"ตั้งแ่ต่เมื่อไหร่ ... ใครกัน?" หนุ่มฝรั่งเศสคาดคั้นเหมือนกำลังจะจับโกหกวิทอยู่

"ก็เจฟไง ... คนที่อยู่ที่ Oxbridge น่ะ" วิทอึ้งไปหลังจากที่หลุดคำพูดเหล่านี้ออกมา

ใบหน้าของเฟรดเดอริคฉายแววของผู้ชนะออกมา ก่อนที่จะพูดเยาะๆว่า "อ๋อ คนนั้นเอง ... คนที่เคยทิ้งนาย ... เค้าไม่ต้องการนายแล้วไม่ใช่เหรอ"

วิทไม่รู้ว่าเฟรดเดอริครู้เรื่องของเขาได้อย่างไร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดเพราะไม่เคยมีเรื่องซุบซิบนินทาใดเป็นความลับในสถานที่แห่งนี้อยู่แล้ว ... แต่กระนั้นประโยคเจ้ากรรมนั้นยังคงสะท้อนไปมาให้ห้วงของความคิด จนวิททนอยู่ที่นั่นต่อไปไม่ได้อีก และรีบผลุนผลันออกไปที่ห้องแล็บเพื่อสงบสติอารมณ์ ...

********************************************************************************

เมื่อวิทกลับมาถึงห้องพักในตอนค่ำ ประโยคนั้นยังตามมาหลอกหลอนจนเขาไม่สามารถควบคุมความรู้สึกเสียใจ และเจ็บปวดลงได้ ... เหมือนรอยแผลที่เขาคิดว่าหายสนิทจนลืมเลือนไปนานแล้ว แต่ในความเป็นจริงแผลนั้นยังคงบาดลึก และมีเลือดที่คั่งอยู่พร้อมจะหลั่งออกมาเมื่อมีสิ่งใดมาสะกิดโดน ซึ่งสิ่งนั้นก็คือคำพูดของเฟรดเดอริคนั่นเอง ...

ท่ามกลางความรู้สึกสับสน แต่จิตใต้สำนึกบอกให้วิทไปค้นในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งข้างหัวเตียง ... ครู่ต่อมาเขาหยิบเศษกระดาษแผ่นเล็กออกมาจากในนั้น ก่อนที่จะเดินไปที่เครื่องโทรศัพท์บนโต๊ะคอมฯ และกดหมายเลขที่เขียนไว้ในกระดาษแผ่นนั้น ...

"ฮัลโล ..." เสียงปลายสายฟังดูเป็นหญิงวัยกลางคน

"เอ่อ ... สวัสดีครับ ..." วิทเริ่มต้นแบบเงอะงะเต็มที "เอ่อ ... ผมเป็นเพื่อนของเจฟนะครับ ... ไม่ทราบว่าเจฟอยู่ที่นั่นหรือเปล่าครับ" วิทเข้าใจว่าตอนนี้เจฟน่าจะเรียนจบแล้ว และคงไปทำงานอยู่ที่ใดที่หนึ่ง การโทรศัพท์ไปสอบถามที่บ้านของเจฟน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการติดต่อกับเขาได้

"อ๋อ ตอนนี้เจฟเค้าทำงานอยู่ที่ xxxxxxxx xxxxxxx" ผู้หญิงคนเดิม ซึ่งน่าจะเป็นแม่ของเจฟตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเป็นมิตร ซึ่งก็ทำให้วิทตั้งสติได้มากขึ้น

"อยู่ที่ไหนนะครับ?" ชื่อเมืองนั้นเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน จึงนึกไม่ออกว่าอยู่ตรงไหนของประเทศนี้

"เป็นเมืองเล็กๆอยู่ไม่ห่างจากบัคคิงแฮม" ซึ่งก็อยู่ตอนกลางของประเทศ และไม่ไกลจากมหา'ลัยที่เจฟเคยเรียนอยู่

"พอจะมีเบอร์โทรติดต่อได้มั้ยครับ"

"ได้สิ" เสียงนั้นตอบกลับมาอย่างเต็มใจ "xxxxx-xxx-xxx"

"ขอบคุณมากครับ"

********************************************************************************

วิทนั่งมองหมายเลขโทรศัพท์ที่เพิ่งได้มาอยู่พักใหญ่ ... ภาพเก่าๆที่เกี่ยวข้องกับเจฟซึ่งถูกฝังไว้ในห้วงที่ลึกที่สุดของหัวใจกลับมาฉายขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับคำพูดของเฟรดเดอริค "เค้าไม่ต้องการนายแล้วไม่ใช่เหรอ" ที่ดังก้องไปมาอยู่เกือบตลอดเวลา ...

วิทรู้สึกว่าความสับสนดูเหมือนจะขยายตัวไปมากกว่าเดิมจนปกคลุมทุกอณูของร่างกาย จนทำให้่ไม่สามารถใช้ความคิดไตร่ตรองอะไรได้ ... สิ่งหนึ่งที่วิทแน่ใจก็คือเขาจะต้องตัดสินใจทำอะไรลงไปสักอย่าง เพื่อให้หลุดออกไปจากความมืดมิดที่ครอบคลุมจิตใจเขาอยู่ในขณะนี้ ...

ในที่สุด วิทก็บอกกับตัวเองว่า "ก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้วนี่" ... เขาถอนหายใจยาวก่อนจะตัดสินใจยกหูโทรศัพท์ แล้วกดหมายเลขนั้นด้วยมือที่เย็นเฉียบและสั่นเทา ...

สงวนลิขสิทธิ์บทความ ห้ามเผยแพร่ ทำซ้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร



Create Date : 23 มกราคม 2554
Last Update : 23 มกราคม 2554 2:02:36 น.
Counter : 566 Pageviews.

3 comments
  
อุตส่าห์พูดเพื่อปกป้องตัวเองแท้ๆแต่ก็ไม่สามารถปกป้องใจของตัวเองไม่ให้ถูกคำพูดร้ายๆทำร้ายได้ เฮ้ออออออออออออ แต่ถ้าโทหาเจฟแล้วรู้สึกดีกับตัวเองก็ทำไปเถอะเนอะ เราห้ามจิตใจส่วนลึกๆของเราไ่ม่ได้นี่นา......... ถ้าผลคือยิ่งแย่กว่าเค้า เราว่าวิทควรหักดิบเนาะ..
โดย: mecon (m_econ ) วันที่: 23 มกราคม 2554 เวลา:2:32:52 น.
  
ไม่มีอะไรต้องเสีย

มันก็จริงนะ

อยากทำไรก็ทำไปเถอะค่ะ
โดย: harry IP: 180.180.170.201 วันที่: 23 มกราคม 2554 เวลา:15:35:23 น.
  
คนเราไม่สามารถเจ็บได้หลายๆครั้งจากคนคนเดียว...

ถ้าไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว

ก็จัดการกับความรู้สึกตัวเองเลยค่ะ เอาใจช่วยคุณวิทค่ะ
โดย: Tommy IP: 125.27.135.124 วันที่: 30 มกราคม 2554 เวลา:23:47:33 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Historicus
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



คุณพ่อลูกสอง (ตัว)
"Have mercy, O Lord, and strengthen all broken wings." Kahlil Gibran

free counters



Waltz in B minor, Op. 69, No. 2 by Frédéric Chopin