"ความรักอยู่เหนือเซ็กส์และความเคยชิน สิ่งที่ความรักต้องการคือการใกล้ชิดทางสติปัญญา และการเป็นเพื่อนชีวิต" Jean-Paul Sartre
Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
2 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
รูปรถฝ่าไฟแดง ความแตก-มีกิ๊ก

กล้องเรดไลท์คาเมร่า ทำงานดีเกินคาด รองผบช.น.แถลงผลการใช้ 2 เดือนแรกจับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรไปแล้วกว่าแสนราย นอกจากนี้ยังตรวจจับพบรถสวมป้ายปลอม ส่งให้ศูนย์สืบ บช.น.ไปจัดการจับกุม ที่สำคัญพบว่าบางรายผ่อนรถให้เมียน้อยใช้แล้วไปขับรถฝ่าไฟแดง บ้านใหญ่รู้เพราะหมายเรียกส่งไปตามที่อยู่เจ้าของรถให้เสียค่าปรับ

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจราจร กล่าวถึงการดำเนินการใช้ระบบตรวจจับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (เรดไลท์ คาเมร่า) ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.51 จนถึงวันนี้ผ่านมาเป็นระยะเวลา 2 เดือนเศษ แล้วมีการส่งหมายเรียกไป ประมาณ 1 แสนใบเศษ ปัญหาที่พบมีไม่มาก ปัญหาที่พบคือมีการปลอมป้ายทะเบียน ตรวจพบมีจำนวน 14 ราย ซึ่งเจ้าของรถจริงนำรถมาให้ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่รถคันที่ฝ่าไฟแดง เราจะยกเลิกหมายเรียกนั้น แต่บางคันมาอ้างว่าไม่ใช่รถคันที่ฝ่าสัญญาณไฟจราจร เมื่อนำรถมาให้ตรวจพิสูจน์ก็พบว่าตรงกันกับรถคันที่ฝ่าไฟแดง เป็นหน้าที่ของเจ้าของรถคันนั้นต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าขณะที่ฝ่าไฟแดงนั้นไม่ได้อยู่ที่แยกดังกล่าว

พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวต่อว่า มีกรณีของนายนคร ศรีบุศย์ดี ปลัดอำเภอศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ร้องเรียนสื่อว่ามีหมายเรียกจากตำรวจ กก.3 บก.จร. พร้อมรูปถ่ายการขับรถยนต์ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงพบ พ.ต.ท.วิชาญ จันทศรี พนักงานสอบสวน เพื่อเสียค่าปรับภาย ในวันที่ 13 มี.ค.นี้ โดยระบุว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา เวลา 03.09 น. บริเวณแยกโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าว แขวง-เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ซึ่งตนเป็นเจ้าของรถยนต์ทะเบียน ฉบ 797 กรุงเทพ มหานคร ในหมายเรียกไม่ระบุว่าเป็นรถยี่ห้ออะไร รายนี้เป็นหน้าที่เจ้าของรถที่จะต้องพิสูจน์ทราบอ้างถิ่นที่อยู่อ้างพยานว่าเวลานั้นอยู่ที่ใดกับใคร เท่าที่เราตรวจสอบดูรถของปลัดกับรูปภาพในหมายเรียกที่ถ่ายได้ฝ่าไฟแดงแยกโชคชัย 4 เป็นรถยี่ห้อเบนซ์ รุ่น 190 อี เหมือนกัน สีเดียวกัน ตำรวจเราก็จะตรวจสอบความเป็นไปได้ตามที่ปลัดอ้างในทางลับอีกทางหนึ่งด้วย มิฉะนั้นคนอื่นจะอ้างแบบนี้บ้าง

รอง ผบช.น. ยังกล่าวถึงการจัดส่งหมายเรียกไปถึงบ้านเจ้าของรถที่ฝ่าไฟแดง ขณะนี้ดำเนินการจัดส่งได้วันต่อวันแล้ว เมื่อรับหมายแล้วไม่รู้ว่าเสียค่าปรับเท่าไร เราก็ให้ลงค่าปรับ 500 บาทไว้ในหมายเรียกด้วย

"ในต่างประเทศใช้กล้องถ่ายภาพด้านตรงหน้ากระจกรถมองเห็นผู้ขับขี่เป็นใคร จะปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ขับขี่ไม่ได้ แต่เกิดปัญหาฟ้องร้องกัน เพราะในภาพเห็นคนนั่งคู่คนขับมาด้วยว่าเป็นกิ๊กหรือตุ๊กตาหน้ารถ ทำให้ครอบครัวทะเลาะแตกแยก ฟ้องร้องกัน จึงแก้ไขโดยการทำภาพในหมายเรียกให้เบลอไม่รู้ว่าเป็นใคร ส่วนของไทยเราถ่ายภาพรถจากทางด้านหลัง แต่มีปัญหาเมื่อส่งหมายเรียกไปที่บ้านภรรยาเป็นคนรับ ไม่รู้ว่าสามีไปแอบผ่อนรถอีกคันให้ภรรยาน้อยอยู่ มา รู้ก็เมื่อมีหมายเรียกฝ่าไฟแดงส่งไปที่บ้านเพราะภรรยาน้อยขับรถไปฝ่าไฟแดงเข้า" พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว

พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวถึงกรณีมีคนร้องเรียนสื่อมวล ชน อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พบมีปริมาณ 120 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ที่กฎหมายกำหนดต้องไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงขึ้นขับรถแทนแล้วพาไปที่ สน. ระหว่างทางมีการเสนอต่อรองเงิน 2 หมื่นบาทเพื่อไม่ต้องดำเนินคดีส่งฟ้องศาล แต่ตำรวจไม่ยอมอ้างว่าต้องแบ่งให้นายใหญ่ในโรงพักนั้น จากข้อมูลดังกล่าวน่าเชื่อว่าจะเป็น สน.มักกะสัน โดยปกติจากด่านตรวจวัดระดับแอลกอ ฮอล์ไปยัง สน. ถ้ามีปริมาณเกินกฎหมายกำหนดจะไม่ให้ผู้ขับขี่เป็นคนขับรถไป สน. ถ้ามีคนอื่นไม่เมานั่งมาด้วยก็ให้ขับพาไป สน. แต่ถ้าไม่มีก็จะให้อาสาบ้าง หรือคนขับแท็กซี่เป็นคนขับพาไปส่งให้ที่ สน.เพื่อพบพนักงานสอบสวน ถ้าไม่มีจริงๆ ตำรวจก็จะเป็นคนขับไปส่งให้แทน เมื่อไปถึง สน.จะต้องควบคุมตัวผู้ขับขี่ที่เมาในห้องขัง รอส่งฟ้องศาลวันรุ่งขึ้น การที่ไปเบิกเงิน 2 หมื่นบาทอาจจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้เพราะการประกันตัวข้อหาเมาแล้วขับกำหนดไว้ 2 หมื่นบาท

ส่วนที่ระบุว่าด่านตรวจจับเมาคืนนั้นมีผู้ต้องหาถูกจับ 10 กว่าคน พอเช้าส่งฟ้องศาลเหลือเพียงแค่ 9 คนนั้น พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า สั่งให้ตรวจสอบย้อนหลังไปดูว่าวันใดมีการจับเมาเกิน 120 มิลลิกรัมเปอร์ เซ็นต์ ไม่พบเลย ไม่รู้ว่าเป็นวันใดแน่นอน สำหรับการร้องเรียนรายนี้เท่าที่ระบุไว้ สุดท้ายก็ถูกดำเนินคดีฟ้องศาล ตรวจสอบก็ไม่พบข้อมูล ตรวจสอบแล้วมองได้ว่าผู้ต้องหาพยายามยัดเยียดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อไม่มีใครเอาจึงมาแก้เกี้ยวว่าจับหลายคนแล้วทำไมฟ้องแค่ 9 คน ที่ด่านวัดเมามีการเรียกตรวจวัดหลายคนจริง แต่ถ้าใครไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เราก็ปล่อย ดำเนินคดีไม่ได้ คนที่เกินเราก็ส่งฟ้องศาล

พล.ต.ต.ภาณุ ยังกล่าวฝากว่า ผู้ขับขี่ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ หากจำเป็นต้องไปดื่มในงานเลี้ยงต่างๆ ควรเรียกใช้รถสาธารณะ หรือแบ่งหน้าที่ให้คนไม่ดื่มเป็นคนขับ ถ้าดื่มแล้วเมื่อเจอด่านตรวจวัดก็ให้จอดปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่ง การปฏิเสธไม่เป่าเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ถือว่าขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน จะถูกดำเนินคดีอีกข้อหาหนึ่ง ส่วนเครื่องวัดระดับจะเปลี่ยนที่สำหรับใช้ปากเป่าใหม่ทุกครั้ง เครื่องจะมีการตรวจสอบมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์ทุกๆ 6 เดือน จะมีใบกำกับการตรวจ หลอดเป่าเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง ค่าที่อ่านได้จะเป็นหลักฐานในศาลรับฟังเพราะเครื่องมือเป็นมาตรฐาน การปฏิเสธการเป่าระยะหลังไม่ค่อยพบ ถ้าปฏิเสธจะถูกข้อหาขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน สามารถสอบปากคำพยานใกล้เคียงประกอบสำนวนแทนการเป่าได้

รอง ผบช.น. กล่าวต่อว่า เมื่อเป่าเครื่องวัดระดับฯ แล้วพบว่าเกินกฎหมายกำหนด จะขับรถไป สน.เองไม่ได้ ต้องให้คนอื่นที่ไม่เมาขับไปส่งพบพนักงานสอบสวนรับทราบข้อหาแล้วควบคุมตัวเพื่อส่งฟ้องศาล การจะออกจากห้องขังก็ต้องประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 2 หมื่นบาท คดีเมาแล้วขับทุกรายส่งฟ้องศาล ที่ผ่านมาศาลตัดสินปรับต่ำสุด 5,000 บาท คุมประพฤติ 2 ปีและสั่งให้บำเพ็ญประโยชน์ 24 ช.ม.

"โดยเฉลี่ยนครบาลจับเมาแล้วขับเดือนละ 1.2-1.3 พันรายต่อเดือน โดยสน.มักกะสัน มีโอกาสถูกร้องเรียนมากกว่าใครเพราะมีผลการจับกุมเมาแล้วขับเฉลี่ยเดือนละ 200 กว่าราย ในนครบาลทั้งหมดทุก สน. และบก.จร.ด้วย พบว่าสน.มักกะสันจับกุมข้อหาเมา แล้วขับได้สูงสุดทุกเดือน รองลงมาเป็นสน.สุทธิสารเพราะเป็นพื้นที่เส้นทางผ่านย่านแหล่งสถานบริการมาก คนเมาแล้วขับรถจะต้องเอาเต็มที่ อย่าไปรับฟังมาก น่าสงสารตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่จับเมาเพราะ ถูกด่าถูกต่อว่ามากกว่าด่านอื่นๆ" พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว


//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOekV6TURNMU1nPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09TMHdNeTB4TXc9PQ==


มีเทคโนโลยีทันสมัยมาไว้ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและปราบปรามคนกระทำความผิด แต่รู้สึกว่าจะเป็นเครื่องมือช่วยจับกิ๊ก ด้วยอีกทางหนึ่งนะเนี่ย
คนชอบมีเล็กมีน้อย ระวังตัวกันหน่อยนะ เหอเหอ

และเท่าที่รู้ในอเมริกา โทษปรับจะสูงมากเอาจนเข็ดหลาบไม่กล้าทำกันเลยทีเดียว บ้านเราใจดี เบาะเบาๆ ก็น่าแปลกที่ชอบให้บังคับกัน

คนขับรถมอเตอร์ไซด์ไม่ใส่หมวก ร้อน ขี้เกียจ
คนขับรถยนต์ใช้โทรศัพท์ไม่ใช้ handfree เวลาเจอรถที่ขับยึกยัก สะเงาะสะแงะ เหมือนเพลงอย่างนี้มันต้องถอน เกือบร้อยเปอร์เซนต์ใช้โทรศัพท์อยู่

ทั้งๆที่ไม่ใช่เพื่อใครเลย ก็เพื่อตัวคนขับขี่เองทั้งนั้น พอเวลาถูกเรียก ถูกจับ ถูกปรับ ก็บ่น เฮ้อ
เวลาเจ็บเวลาป่วย ไปเจ็บป่วยด้วยหรือเปล่าหล่ะท่าน


Create Date : 02 เมษายน 2552
Last Update : 2 เมษายน 2552 9:50:19 น. 0 comments
Counter : 531 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hidepod
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




search engine submission
Friends' blogs
[Add hidepod's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.