We'll keep The Blue Flag flying high.
<<
มีนาคม 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
27 มีนาคม 2550

ต้อนรับการกลับมาของ blog ด้วยวิบากกรรมก่อนไปหัวหิน ^_^

ยินดีต้อนรับการกลับมาของ blog ตัวเองอย่างเป็นทางการ
ถึงจะช้าไปหน่อยก็ตาม

บอกตรงๆ ว่าใจหายใจคว่ำจริงๆ นะ เพราะที่เขียนๆ ไป
ไม่เคยเก็บไว้เลยค่า

และเนื่องจากเวลามีน้อย ใช้สอยอย่างประหยัด
จึงกระทำการ copy ข้อความจาก space ส่วนตัว
มาลงเลยซะงั้น


+++++++++++++++++++

ในที่สุดก็กลับจากหัวหินละ
ก็มีความสุขกับทริปนี้ดี แต่ก่อนจะได้ไปเนี่ย
โอว... วิบากกรรมเล็กน้อย เพราะเมื่อวันศุกร์ตอนค่ำๆ
ก็ไปปฐมนิเทศที่คณะวารสารศาสตร์ฯ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถิ่นเก่าของเราเอง
ไปถึงก่อนเวลาพอสมควร ก็เลยเดินเล่นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ไม่ได้เดินนานละ..
ไปเดินกี่ครั้ง ก็ยังขลัง....

มีนักท่องเที่ยวประปราย
กำลังคิดว่าถ้านักท่องเที่ยวมาถามเนี่ย..
ตรูจะอธิบายได้ไม๊เนี่ย..ฮา..
เพราะศัพท์เฉพาะโบราณกาล ก็เกินความสามารถเหมือนกันนะ คงจะดูป้ายอธิบายแล้วค่อยพูดกันแบบง่ายๆ
นั่นแหล่ะ

สถานที่จัดแสดงส่วนใหญ่ ก็เป็นพระตำหนัก หรือพระที่นั่งจริงๆ ตอนเดินเลยรู้สึกอินพอควรว่าสถานที่แห่งนี้ วังหน้าเคยประทับ เจ้าพระองค์นั้นเคยบรรทม ฯลฯ
ไปยืนอ่านข้อมูลของพระนเรศวรอยู่เป็นนานสองนาน

ห้องที่น่ากลัวที่สุดสำหรับเรา ยังเป็นห้องเดิมเลย
ห้องที่มีพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรองค์ใหญ่
ประทับยืน 3 องค์ ตอนนั้นก็ดันอยู่ในห้องนั้นคนเดียว
ด้วยเรา... น่ากลัวมากฮ่ะ... เลยรีบเดินจ้ำออกมาดีกว่า
กลัวพระโพธิสัตว์กะพริบตา..ปริ๊บ..ปริ๊บ..ให้อ่ะ..
กลัวจริงๆ นะเฟ้ย

เดินไปเดินมา ก็นึกถึงพิพิธภัณฑ์ที่เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น ถึงจะเป็นแค่ห้องใหญ่ๆ ห้องเดียว แต่ของที่อยู่
ข้างในก็หลอนพอกันเลย

เดินไปเดินมา หิววุ๊ย..เลยเลี้ยวเข้าร้านอาหารในพิพิธภัณฑ์
คนขายน่ารักมากๆ เชื้อเชิญเจื้อยแจ้ว หน้าตายิ้มแย้ม
แจ่มใส อ้ายเรากะจะกินแค่น้ำสักแก้ว เลยสั่งข้าวไข่เจียวหมูสับมาซะงั้น..อร่อยใช้ได้..ไม่แพงแค่ 25 บาทเองนะ

กำลังกินเพลินๆ ได้ยินภาษาเยอรมันโต๊ะข้างๆ คุยกันอย่างเมามัน ดีนะ..ที่ลืมไปเกือบหมดแล้ว..ฮา..ไม่น่าเชื่อว่าจะเคยเรียนภาษานี้ แต่ก็ยังฟังบางประโยคพอออกแฮะ

+++++++++++++++++++++

ตัดภาพกลับมาที่คณะวารสารศาสตร์ฯ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



ตอนค่ำเจอน้องเอ๊ะ อิสริยา สายสนั่น ด้วย เพราะน้องเขามาเรียนสาขาเดียวกัน แล้วก็บังเอิญจริงๆ
ที่คุณเพื่อนที่มาตีซี้ตั้งแต่วันสอบข้อเขียน
เคยทำงานกับน้องเอ๊ะ ก็ประมาณว่าทำงานกลุ่มก็คงไม่พ้นอยู่กลุ่มเดียวกับน้องเอ๊ะนี่แหล่ะ ตอนรับปริญญา จะได้ออกรายการสีสันบันเทิงช่อง 3 ..ฮา...

ส่วนวิบากกรรมที่เกริ่นถึงตั้งแต่แรก ก็คือ ตื่นเช้ามาไม่รู้อะไรเข้าตา เคืองตาซ้ายไปทั้งวัน ล้างตาก็ไม่หาย
พอตกค่ำระหว่างปฐมนิเทศก็น้ำตาไหลพรากๆๆๆ ตาเริ่มบวมหนัก สุดท้ายต้องออกก่อนเวลาเพื่อไปโรงพยาบาล

+++++++++++++++++++++++

ตัดภาพมาที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์
ER ...ห้องฉุกเฉิน..ที่ไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต..(กรู)..



ขณะนั้นเวลาเกือบ 3 ทุ่ม จักษุแพทย์ออกเวรไปตั้งแต่ 2 ทุ่มแล้ว คุณเจ้าหน้าที่เชื้อเชิญเข้าห้องฉุกเฉิน...
เชิญเตียง 6 เลยค่า...

โอว..โน... เลข 6 มันเลขซาตานชัดๆๆๆ
(สงสัยจะอินกับ The Omen มากไปนะเรา )

คุณพยาบาล หยิบหมอนสีน้ำเงินจากหัวเตียงมาไว้ปลายเตียง แล้วบอกให้เรานอนลงไป
เฮ้ย.. เอาหัวไปนอนตรงปลายติงคนอื่นเนี่ยนะ..
(ถึงจะได้เอาติงไปไว้บนหัวเตียง ก็ไม่คุ้มเฟ้ย)


ตอนลงไปนอนก็ยังไม่ได้คิดอะไร
คุณพยาบาลเอายาชามาหยอดตา 4-5 หยด
ในใจเริ่มวิตกจริต.. เฮ้ย.. แค่อะไรเข้าตาเนี่ย..
ต้องหยอดยาชาเลยเหรอ
แล้วพอลืมตา เราจะมองเห็นเหมือนเดิมไหมนี่..
โอว..ตาเริ่มชาแล้ว..น่ากลัว...

สายตาหลุ่บต่ำไปทางซ้ายมือ..
แม่เจ้า..เตียงข้างๆ หมายเลข 5 มีเลือดนองพื้นเลย
สงสัยจะล้างแผลแล้วเลือดสดๆ
ก็ไหลมากองที่พื้นด้วย สยองอิ๊บอ๋าย...
ใครก็ได้ช่วยหนูที...

งั้นหันไปทางขวาก็ได้ เตียง 7 ยังว่าง..
แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเด็กอายุราวๆ 6-7 ขวบ
ร้องแหกปากมาเลยอ่ะ..
..ไม่อาว...เจ็บ..หนูเจ็บ..จะหาพ่อ... จ๊ากกก...
โอ๊ย... มันร้องได้อารมณ์มากๆๆ

หมอถามว่าเจ็บไม๊หนู หมอจิ้มๆ เนื้อเจ็บไม๊
(เดาเอาเองว่า..หมอคงอยากรู้ว่ายาชาออกฤทธิ์หรือยัง
เลยเอาเข็มจิ้มเนื้อเด็กนั่น)

ฮือ..ฮือ..กระซิกๆ เด็กชายคนนั้นดูหงอยเหงา
แล้วตอบว่า..ไม่เจ็บ...
เวง..แล้วร้องยังกะถูกเชือดแน่ะ...

เดี๋ยวหมอทำแผลให้นะลูก...เนี่ย..มันจะรู้สึกตุ๊บๆ นิดหน่อย ไม่ต้องกลัวนะเฮ้อ..หมอจะบอกทำไมเนี่ย..
หมอเนี่ย..ทำแผลไป ก็สปอยล์ไปด้วยนะ


++++++++++++++++++++

ตัดกลับมาที่เตียง 6

กว่าหมอจะเอาคัตตอนบัดส์มาปัดผงจากตา
ก็รอไป 30 นาที เพราะต้องเย็บแผลเตียงอื่นก่อน
กว่าจะมา ก็ยาชาจางแล้ว หลังจากเหลือกตา
ให้หมอเอาไฟฉายส่อง ก็บอกว่าเจอแล้วอะไรดำๆ ไม่รู้

แล้วก็เอาคัตตอนบัดส์ปาด
โอ๊ย..เจ็บง่ะ เลยเกร็งลูกตา หมอบอกว่าอย่าเกร็งตา
ไม่งั้นเอาออกไม่ได้ โธ่หมอ..มันห้ามไม่ได้
ตามันไปเองง่ะ

สุดท้ายก็เขี่ยมาได้ โดยหมอได้สร้างความมั่นใจด้วยการบอกว่า... คิดว่ามันคงจะออกมาแล้วล่ะ..

จากนั้นบุรุษพยาบาล ก็เอาสก๊อตเทปกับถุงพลาสติค
มาแป่ะที่แก้มขวา จากนั้นก็เปิดสายยางให้น้ำไหล
จากขวด (เท่าขวดน้ำเกลือ)

เอ่อ.. ทำไมมาล้างตาขวาอ่ะคะ พอดีเจ็บตาซ้ายค่ะ...ฮา..

ก็ย้ายข้างมา.. โอย..ให้เหลือตาไปมา..ซ้ายขวาบนล่าง นานมาก กว่าน้ำจะหมดครึ่งขวดนั่น.. แล้วก็ถูกปิดตาเป็นเดชอ้ายบอด..เฮ้อ.. เสียสมดุลย์มากๆ เลย
เดินงงๆ วิสัยทัศน์ไม่แจ่มเลย

สรุปค่าเสียหายในการเอาคัตตอนบัดเขี่ยตาในครั้งนี้ ราวๆ 1,200 บาท ..โอว..ดีนะที่ประกันจ่าย


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
อย่าคิดว่า....

..เป็นแค่เพียง ผงที่เข้าตา ไม่ช้าล้างน้ำก็คงหาย...


ไว้ค่อยเล่าเรื่องหัวหินละกัน.. คงไม่พ้นเอารูปในกระทู้
ที่เพิ่งแป่ะไปมาลง




Create Date : 27 มีนาคม 2550
Last Update : 18 สิงหาคม 2551 20:25:30 น. 5 comments
Counter : 527 Pageviews.  

 

แวะมาทักทายค่ะ...

โอ๊ย...ช่วยลุ้นที่โรงพยาบาลซะเหนื่อย


โดย: เพียงแค่เหงา วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:20:17:49 น.  

 
เคยนั่งอยู่ในรถแอร์ แล้วอะไรไม่รู้เข้าตา แป๊บเดียวน้ำตาก็ไหลไม่หยุด ต้อง end up ไป รพ แทน สินแพทย์ ได้ยาหยอดตามา สามวันถึงหาย

ยังนึกอยู่เหมือนกัน ว่าหมอจะถามเราหรือเปล่าว่า ตาเป็นอะไร

เพราะเคยได้ยินมาว่ามีคนตอบว่า ตาก็เป็นผัวยายน่ะซี



โดย: PatPDX IP: 72.201.17.28 วันที่: 15 เมษายน 2550 เวลา:21:57:00 น.  

 
เคืองตาไม่ว่า อย่าเคืองใจ
เกษมราษฎร์นี่สาขาไหนจ๊ะ
ถ้าประชาชื่นละก็ น่าจะนอนสักคืน
ใกล้บ้านจะได้ไปเยี่ยมซะ


โดย: Duke-ดุ๊ก วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:52:58 น.  

 
ดีค่ะ พี่เจอพี่เอ๊ะด้วยเหรอค่ะ
น่ารักมั้ย
หยิ่งเป่า
อยากเจอบ้างจัง
หนูเป็นแฟนคลับพี่เค้าอ่ะ
อยากเจอบ้างจัง


โดย: sainple.bloggang.com IP: 203.118.97.101 วันที่: 14 พฤษภาคม 2550 เวลา:2:09:06 น.  

 
แหม...เจ้าของบล็อกหายไปชาติหนึ่งเลย..ฮ่ะ..ฮ่า..
ขอบคุณทุกคนที่แวะมาจ้า

ตอบดุ๊ก.. ไม่ใช่เกษมราษฎร์ ประชาชื่น เด้อ

ตอบ คุณ saniple .. น้องเอ๊ะ..ตัวจริงน่ารักมากค่ะ ตาโต สูงนะ ไม่ได้คล้ำอะไรเลย นิสัยก็น่ารักค่ะ ตั้งใจเรียนด้วย


โดย: Hermy วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:12:40:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Hermy
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ไปทุกที่..ที่มีนักฟุตบอลที่เราชอบ : P

เรียงลำดับตามนี้

1. Micha - Michael Ballack เจอตัวจริงแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าใกล้ระยะเผาขน และยังขาดลายเซ็นต์ ได้เจอตัวจริงแล้ว 2 ครั้ง ตอนมา Pre-Season 2008/2009 ที่มาเก๊า และบินไปดูแมตช์ Chelsea 7-0 Stoke ที่ Stamford Bridge เมื่อปลายเดือนเมษายน 2553 และตั้งใจจะบินไปดูที่ Bay Arena ณ Leverkusen ประเทศเยอรมัน เร็วๆ นี้ : )


2. Pippo - Filippo Inzaghi ยังไม่เจอ..อยากเจอมากๆ ก่อนพี่กุ้งเกษียณจาก Milan และกลับไปช่วย Simone น้องชาย เลี้ยงหลานชายสุดที่รัก !!! ข่าวดีของเราคือพี่กุ้งต่อสัญญากับ Milan ไปอีก 1 ปี !!!


3. น้องตุ๊กติ๊ก - David Luiz คนนี้มาแรงมากๆๆ เป็นอีกเหตุผลดีๆ ที่ทำให้เราอยากกลับไปเยือน London อีกรอบ : P


4. น้องตาปรือ - Mesut Oezil จะพยายามไปดูน้องเล่นให้ Madrid ที่สเปนให้ได้นะจ๊ะ (สืบเนื่องจากเลิกกับยัยป้า Anna-Maria แล้วดันไปควงนางแบบบราซิลคราวป้า เป็นแม่ม่ายลูกติด สามีเก่าคือนักฟุตบอลอิตาเลียน มาอิ่หร่อบเดิมก็เลยลดระดับลงหน่อยนึง 555)


5. กั๊ตจัง - Gennaro Gattuso อยากเจอมากๆ แต่ไม่อยากให้ย้ายออกจาก Milan จะพยายามไป Milan ให้ได้ ไปหนึ่งได้ถึงสอง !!! สุดคุ้ม !!!


6. Berbie - Dimitar Berbatov ยังไม่เคยเจอ แต่ถ้ามาทัวร์ Aisa อีกจะไปเจอ ไม่ค่อยมี willing ที่จะบินไปหาถึง Manchester เท่าไร ถ้าย้ายไป Milan เนี่ย... สงสัยเราคงต้องไป Milan ก่อนไปอังกฤษรอบสองแล้วล่ะ..ฮ่ะ..ฮ่า..ฮ่า..


7. Albert Riera เจอแล้วในระยะเกือบเผาขน..ถ่ายรูปตอนถอดเสื้อมาแล้ว สมหวังทุกประการ..กร๊ากกก...





หมายเหต : ลำดับจะเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับดัชนีการลงเล่นและข่าวกิ๊กกั๊กของนักเตะคนนั้นๆ ยกเว้น Ballack ที่อยู่อันดับ 1 ตลอดกาล !!!!


[Add Hermy's blog to your web]