. . . Go the eXtra mile . . .
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
9 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

พี่สอนน้อง -- KM สไตล์บ้านๆ

วันนี้ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการเริ่มต้นกระบวนการพี่สอนน้อง – การเคี่ยวกรำแกนนำรุ่นใหม่ของชุมชนบ้านคู ในสไตล์บ้านๆ มาค่ะ (ถ้าอยากทราบที่มาที่ไปของกระบวนการในวันนี้ กรุณาอ่านที่บันทึกนี้ค่ะ)

จากคำถามที่เกิดขึ้นจากการที่เรานั่งคุยร่วมกันตั้งแต่ประมาณปี 48 แล้ว ว่า เอ ถ้าต่อไปคนรุ่นหมอหวานและหมอพื้นบ้านทั้งหลายของกงหราตายไป แล้วจะมีใครมาช่วยกันดูแลชุมชนให้เข้มแข็งต่อไปล่ะ ซึ่งเราก็มาคิดกันว่าต้องพยายามสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมาสอดรับ มาเรียนรู้จากคนรุ่นเก่าซะตั้งแต่วันนี้ ทางชุมชนเองก็ได้เห็นถึงเรื่องนี้ ก็พยายามส่งเสริมรุ่นน้องๆ ให้เข้ามาประกบในงานต่างๆ อยู่ แต่การดำเนินโครงการตอนนั้น เราเน้นที่การถอดความรู้และประสบการณ์จากตัวหมอพื้นบ้านออกมาก่อน และคราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องพัฒนาทักษะเพิ่มเติมให้แกนนำรุ่นใหม่แล้ว ก็มาคุยทบทวนกันอีกทีว่า จะฝึกทักษะด้านไหนดี? การเป็นวิทยากรกระบวนการดีมั้ย? คุยไปคุยมา มาได้ข้อสรุปว่า เรื่องการเป็นวิทยากรกระบวนการนั้น แกนนำรุ่นน้องๆ มีโอกาสฝึกอยู่พอสมควรแล้ว ทางที่ดีเรามาฝึกให้เค้ารู้จักภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของเค้าแบบจริงๆ จังๆ และสามารถถ่ายทอดความรู้เรื่องสมุนไพรให้เป็นกันจริงๆ กันเลยดีกว่า..ว่าแล้วก็เลยตกลงกันตามนั้น แล้วก็นัดกัน จนวันนี้ได้ฤกษ์เริ่มต้นกระบวนการ “เคี่ยวกรำ” รุ่นน้องกันแล้ว

ณ ที่ทำการศูนย์ฯ ซึ่งเป็นอาคารไม้หลังเล็กนิดเดียว มุงจาก มองดูเผินๆ แทบจะไม่มีอะไรเลย.. แต่ก็สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงนะ กระบวนการไม่ได้อยู่ที่ตัวอาคาร แต่อยู่ที่ตัวคนมากกว่า ที่นี่แหละ เป็นที่ที่กิจกรรมการเคี่ยวกรำจะเกิดขึ้น โต๊ะและเก้าอี้อย่างง่ายๆ ถูกจัดไว้พร้อม “เพิ่งต่อมันเมื่อวานนี้เอง” หมอหวานบอก ทุกคนหาที่หาทางที่ตนชอบ แล้วก็จับกลุ่มคุยกันระหว่างรอให้ทุกคนพร้อม เราได้พูดคุยซักซ้อมกิจกรรมของวันนี้เอาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ 16 มกรา ว่าจะทำอะไรกันบ้าง เมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว (หมอพื้นบ้านรุ่นพี่ 3-4 คน หมอพื้นบ้านรุ่นน้อง 3-4 คน มีทีมเราไปอีก 2 คน) กระบวนการก็เริ่มต้น....


หมอหวานเริ่มต้นด้วยการเกริ่นว่า เราต้องการจะป้องกันเยาวชนของเราไว้และเราต้องการจะรักษาอาชีพ วิถีและภูมิปัญญาของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ เพราะวิถีสมัยใหม่เรามัวแต่ทำมาหากินจนลืมความสุขของครอบครัวและชุมชน เราขาดจากภูมิปัญญาเดิมๆ ไปรับเอาความรู้ที่คนอื่นหยิบยื่นให้ ทำให้เกิดปัญหามากมาย เช่น การใช้สารเคมี ซึ่งภูมิปัญญาเดิมของเราไม่ใช่ แต่พอมีคนมาหยิบยืนให้เราใช้ วันหนึ่งก็มาบอกว่า ใช้สารเคมีไม่ดีอีกต่อไป และให้เราเลิก แต่เราเลิกไม่ได้ ถ้าไม่อาศัยภูมิปัญญาเดิมในการแก้ปัญหา ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องให้ลูกหลานของเราได้มาเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ โดยการนำหลักสูตรที่เราพัฒนาไว้ มาใช้สอนเด็กๆ เยาวชนในชุมชนซึ่งจะถูกนำมาเรียนที่ศูนย์ฯ ทุกวันเสาร์ให้รู้เรื่องสมุนไพรและใช้สมุนไพรและวิถีชีวิต (ประมาณนี้)

จากนั้นเราก็นำหลักสูตรที่พัฒนาสำเร็จแล้ว มาเปิดดูกันตั้งแต่หน่วยที่ 1 น้าสมบูรณ์ ทิพย์นุ้ย เครือข่ายของศูนย์ฯ จากเขาชัยสน เป็นคนเริ่มต้นก่อน ด้วยการถ่ายทอดวิทยายุทธ์ในหัวข้อความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสมุนไพร โดยหัวข้อแรกเป็นเรื่องสมุนไพรประจำธาตุ น้าบูรณ์อธิบายธาตุประจำตัวคนอย่างละเอียด แถมยังอธิบายวิธีการสอน หรือเทคนิคการสอนที่น่าสนใจ ให้กับแกนนำรุ่นใหม่ด้วย โดยมีหมอหวานคอยช่วยเสริม เช่น “ต้องเตรียมสมุนไพรไว้ให้พร้อมก่อน เมื่อถึงเวลาจะได้หยิบให้เด็กดูของจริงได้” “ควรมีวิทยากรกันสองสามคน คนนึงพูด คนนึงหยิบให้ดู” “พยายามถามให้เด็กมีส่วนร่วม” “คำตอบของเด็กๆ เค้าว่ามาอย่างไร เราต้องพยายามว่าให้มันถูกไว้ก่อน อย่าไปสกัดทางเค้า แล้วเราค่อยอธิบายใหม่ให้เค้าเข้าใจ” “รู้จักเรียกร้องความสนใจของเด็กด้วย เช่น จุดเทียนไขขึ้นมา ก่อนจะสอนเรื่องธาตุไฟ” “จัดเตรียมสื่อการสอนที่เป็นรูปเป็นอะไรให้เด็กเห็นได้ชัดๆ”

ที่จริงวันนี้ Kon1Kon ตั้งใจว่าจะเฝ้าดูกระบวนการเค้าเฉยๆ แต่พอได้ฟังเค้าถ่ายทอดวิทยายุทธ์กัน โอ๊ย อดไม่ได้ มันมีอะไรในตัวของหมอชาวบ้านรุ่นพี่เหล่านี้ที่น่าสนใจเหลือเกิน ส่วนแกนนำรุ่นน้องยังดูเกร็งๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยถาม ในที่สุด เลยต้องกระโดดเข้าร่วมวงขอรับการถ่ายทอดวิทยายุทธ์กะเค้าด้วย

“เอ้า น้องไพศักดิ์ ถ้าตอนไปสอนแล้วเด็กๆ เค้าถามว่า “พี่ๆ อย่างผมเนี่ยธาตุอะไร” ไพศักดิ์จะตอบว่าไง”

ไพศักดิ์ทำท่าอึกๆ อักๆ

“อ้ะ แสดงว่ายังไม่ชัวร์ใช่มั้ย งั้นมาลองฝึกกันดูจริงเลยว่าใครน่าจะเป็นธาตุอะไร”

คราวนี้ก็เลยได้โอกาสชี้ไปยังแต่ละคน และระบุกันใหญ่ว่าใครน่าจะธาตุอะไรกันบ้าง จนกระทั่งแกนนำรุ่นใหม่เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น คราวนี้รุ่นน้องแต่ละคนก็เลยเริ่มซัก เริ่มถาม เริ่มถอดความรู้ จากแกนนำรุ่นพี่กันใหญ่ รุ่นพี่ก็ชักสนุก ที่ได้ตอบ ได้ขุด ได้เล่าประสบการณ์ เผยเคล็ดลับ บอกเทคนิคที่ตัวเองสะสมมาเป็นระยะเวลานานให้กับน้องๆ กระบวนการดำเนินไปอย่างสนุกสนานซะจนแม้กระทั่งคนขับรถตู้ที่เราเช่าไป ยังอดไม่ไหวต้องมานั่งแจมและซักถามพร้อมกับเรียนรู้ไปด้วยกันกับแกนนำรุ่นใหม่ การพูดคุยเป็นไปด้วยความเป็นกันเอง ไม่รีบร้อน อยากรู้เรื่องไหน ถามซักกันต่อไปได้ ลงลึกได้เท่าที่ใจอยากรู้ ได้ความรู้ใหม่ๆ มากมาย แลกเปลี่ยนกันไปมา Kon1Kon รู้สึกตาโตอยู่ตลอดเวลา (ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก่อนนอนตีสองครี่งและตื่นหกโมง) เพราะได้ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรเบื้องต้นที่ไม่เคยรู้มาเพียบเลย

เพราะกระบวนการเคี่ยวกรำต้องใช้เวลา เราจึงไม่รีบร้อน เราจึงค่อยๆ ถ่ายทอด ค่อยๆ เทความรู้กัน.. ด้วยความสนุกสนานกับการถามโน่นถามนี่ เราจึงครอบคลุมเนื้อหากันได้ครบถ้วนแค่ 2-3 หัวข้อเอง ซึ่งครั้งต่อๆ ไป ชุมชนก็จะเริ่มดำเนินการกันเอง โดยไม่มีเราแล้ว เพราะแน่นอน วิถีของเค้ายังคงต้องดำเนินต่อไปไม่ว่าจะมีเราหรือไม่..

กระบวนการพี่สอนน้องแบบบ้านๆ บนรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความภาคภูมิใจลึกๆ เป็นภารกิจที่เริ่มต้นไว้จากจุดเล็กๆ ซึ่ง Kon1Kon ก็ยังหวังว่าคงจะได้รับการสานต่อและส่งประกายไฟให้กับคนรุ่นต่อไปได้สักวัน....


บันทึกเมื่อ 20 มกราคม 2551 โพสต์เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2551
ที่
//share.psu.ac.th/blog/kon1kon-researchbyheart/5023




 

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2552
2 comments
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2552 23:39:13 น.
Counter : 725 Pageviews.

 

แวะมาอ่านค่ะ
อ่านแล้วก็นึกถึงสมัยตอนเป็นนักศึกษา
เคยไปทำงานร่วมกับชาวบ้านที่ต่างจังหวัด
บางครั้งก็สนุกบางครั้งก็ไม่สนุกค่ะ

 

โดย: Yolanrita 11 พฤศจิกายน 2552 0:42:55 น.  

 

แวะมาอ่านค่ะ
นอนอ่านแบบเงียบๆ จะได้มองเห็นถึงภาพที่เจ้าของบล๊อก
สื่อออกมา

 

โดย: ก้อนหิน (cator ) 25 ธันวาคม 2552 15:20:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Kon1Kon
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..เป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่งค่ะ ..
..เคยเป็นคนกรุงเทพ แต่ตอนนี้มาทำงานอยู่สงขลา ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับชุมชนทางภาคใต้ ได้เรียนรู้สิ่งดีๆ มากมาย..
..ถนัดงานสร้างคน สอนคน วิจัยค้นคว้าในเรื่องที่ตัวเองชอบ..
..ว่างๆ ก็ชอบอ่านหนังสือ ซ้อมไวโอลิน (เพิ่งมาเรียนตอนแก่)..
..เชื่อว่าจักรวาลนี้มีผู้สร้าง มิใช่เกิดโดยบังเอิญ รักสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติ ไม่อยากให้มันหมดไป..
..ยังไง ก็มาเป็นเพื่อนกัน นะคะ..
Friends' blogs
[Add Kon1Kon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.