|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
พี่สอนน้อง -- KM สไตล์บ้านๆ
วันนี้ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการเริ่มต้นกระบวนการพี่สอนน้อง การเคี่ยวกรำแกนนำรุ่นใหม่ของชุมชนบ้านคู ในสไตล์บ้านๆ มาค่ะ (ถ้าอยากทราบที่มาที่ไปของกระบวนการในวันนี้ กรุณาอ่านที่บันทึกนี้ค่ะ)
จากคำถามที่เกิดขึ้นจากการที่เรานั่งคุยร่วมกันตั้งแต่ประมาณปี 48 แล้ว ว่า เอ ถ้าต่อไปคนรุ่นหมอหวานและหมอพื้นบ้านทั้งหลายของกงหราตายไป แล้วจะมีใครมาช่วยกันดูแลชุมชนให้เข้มแข็งต่อไปล่ะ ซึ่งเราก็มาคิดกันว่าต้องพยายามสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมาสอดรับ มาเรียนรู้จากคนรุ่นเก่าซะตั้งแต่วันนี้ ทางชุมชนเองก็ได้เห็นถึงเรื่องนี้ ก็พยายามส่งเสริมรุ่นน้องๆ ให้เข้ามาประกบในงานต่างๆ อยู่ แต่การดำเนินโครงการตอนนั้น เราเน้นที่การถอดความรู้และประสบการณ์จากตัวหมอพื้นบ้านออกมาก่อน และคราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องพัฒนาทักษะเพิ่มเติมให้แกนนำรุ่นใหม่แล้ว ก็มาคุยทบทวนกันอีกทีว่า จะฝึกทักษะด้านไหนดี? การเป็นวิทยากรกระบวนการดีมั้ย? คุยไปคุยมา มาได้ข้อสรุปว่า เรื่องการเป็นวิทยากรกระบวนการนั้น แกนนำรุ่นน้องๆ มีโอกาสฝึกอยู่พอสมควรแล้ว ทางที่ดีเรามาฝึกให้เค้ารู้จักภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของเค้าแบบจริงๆ จังๆ และสามารถถ่ายทอดความรู้เรื่องสมุนไพรให้เป็นกันจริงๆ กันเลยดีกว่า..ว่าแล้วก็เลยตกลงกันตามนั้น แล้วก็นัดกัน จนวันนี้ได้ฤกษ์เริ่มต้นกระบวนการ เคี่ยวกรำ รุ่นน้องกันแล้ว
ณ ที่ทำการศูนย์ฯ ซึ่งเป็นอาคารไม้หลังเล็กนิดเดียว มุงจาก มองดูเผินๆ แทบจะไม่มีอะไรเลย.. แต่ก็สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงนะ กระบวนการไม่ได้อยู่ที่ตัวอาคาร แต่อยู่ที่ตัวคนมากกว่า ที่นี่แหละ เป็นที่ที่กิจกรรมการเคี่ยวกรำจะเกิดขึ้น โต๊ะและเก้าอี้อย่างง่ายๆ ถูกจัดไว้พร้อม เพิ่งต่อมันเมื่อวานนี้เอง หมอหวานบอก ทุกคนหาที่หาทางที่ตนชอบ แล้วก็จับกลุ่มคุยกันระหว่างรอให้ทุกคนพร้อม เราได้พูดคุยซักซ้อมกิจกรรมของวันนี้เอาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ 16 มกรา ว่าจะทำอะไรกันบ้าง เมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว (หมอพื้นบ้านรุ่นพี่ 3-4 คน หมอพื้นบ้านรุ่นน้อง 3-4 คน มีทีมเราไปอีก 2 คน) กระบวนการก็เริ่มต้น....
หมอหวานเริ่มต้นด้วยการเกริ่นว่า เราต้องการจะป้องกันเยาวชนของเราไว้และเราต้องการจะรักษาอาชีพ วิถีและภูมิปัญญาของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ เพราะวิถีสมัยใหม่เรามัวแต่ทำมาหากินจนลืมความสุขของครอบครัวและชุมชน เราขาดจากภูมิปัญญาเดิมๆ ไปรับเอาความรู้ที่คนอื่นหยิบยื่นให้ ทำให้เกิดปัญหามากมาย เช่น การใช้สารเคมี ซึ่งภูมิปัญญาเดิมของเราไม่ใช่ แต่พอมีคนมาหยิบยืนให้เราใช้ วันหนึ่งก็มาบอกว่า ใช้สารเคมีไม่ดีอีกต่อไป และให้เราเลิก แต่เราเลิกไม่ได้ ถ้าไม่อาศัยภูมิปัญญาเดิมในการแก้ปัญหา ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องให้ลูกหลานของเราได้มาเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ โดยการนำหลักสูตรที่เราพัฒนาไว้ มาใช้สอนเด็กๆ เยาวชนในชุมชนซึ่งจะถูกนำมาเรียนที่ศูนย์ฯ ทุกวันเสาร์ให้รู้เรื่องสมุนไพรและใช้สมุนไพรและวิถีชีวิต (ประมาณนี้)
จากนั้นเราก็นำหลักสูตรที่พัฒนาสำเร็จแล้ว มาเปิดดูกันตั้งแต่หน่วยที่ 1 น้าสมบูรณ์ ทิพย์นุ้ย เครือข่ายของศูนย์ฯ จากเขาชัยสน เป็นคนเริ่มต้นก่อน ด้วยการถ่ายทอดวิทยายุทธ์ในหัวข้อความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสมุนไพร โดยหัวข้อแรกเป็นเรื่องสมุนไพรประจำธาตุ น้าบูรณ์อธิบายธาตุประจำตัวคนอย่างละเอียด แถมยังอธิบายวิธีการสอน หรือเทคนิคการสอนที่น่าสนใจ ให้กับแกนนำรุ่นใหม่ด้วย โดยมีหมอหวานคอยช่วยเสริม เช่น ต้องเตรียมสมุนไพรไว้ให้พร้อมก่อน เมื่อถึงเวลาจะได้หยิบให้เด็กดูของจริงได้ ควรมีวิทยากรกันสองสามคน คนนึงพูด คนนึงหยิบให้ดู พยายามถามให้เด็กมีส่วนร่วม คำตอบของเด็กๆ เค้าว่ามาอย่างไร เราต้องพยายามว่าให้มันถูกไว้ก่อน อย่าไปสกัดทางเค้า แล้วเราค่อยอธิบายใหม่ให้เค้าเข้าใจ รู้จักเรียกร้องความสนใจของเด็กด้วย เช่น จุดเทียนไขขึ้นมา ก่อนจะสอนเรื่องธาตุไฟ จัดเตรียมสื่อการสอนที่เป็นรูปเป็นอะไรให้เด็กเห็นได้ชัดๆ
ที่จริงวันนี้ Kon1Kon ตั้งใจว่าจะเฝ้าดูกระบวนการเค้าเฉยๆ แต่พอได้ฟังเค้าถ่ายทอดวิทยายุทธ์กัน โอ๊ย อดไม่ได้ มันมีอะไรในตัวของหมอชาวบ้านรุ่นพี่เหล่านี้ที่น่าสนใจเหลือเกิน ส่วนแกนนำรุ่นน้องยังดูเกร็งๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยถาม ในที่สุด เลยต้องกระโดดเข้าร่วมวงขอรับการถ่ายทอดวิทยายุทธ์กะเค้าด้วย
เอ้า น้องไพศักดิ์ ถ้าตอนไปสอนแล้วเด็กๆ เค้าถามว่า พี่ๆ อย่างผมเนี่ยธาตุอะไร ไพศักดิ์จะตอบว่าไง
ไพศักดิ์ทำท่าอึกๆ อักๆ
อ้ะ แสดงว่ายังไม่ชัวร์ใช่มั้ย งั้นมาลองฝึกกันดูจริงเลยว่าใครน่าจะเป็นธาตุอะไร
คราวนี้ก็เลยได้โอกาสชี้ไปยังแต่ละคน และระบุกันใหญ่ว่าใครน่าจะธาตุอะไรกันบ้าง จนกระทั่งแกนนำรุ่นใหม่เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น คราวนี้รุ่นน้องแต่ละคนก็เลยเริ่มซัก เริ่มถาม เริ่มถอดความรู้ จากแกนนำรุ่นพี่กันใหญ่ รุ่นพี่ก็ชักสนุก ที่ได้ตอบ ได้ขุด ได้เล่าประสบการณ์ เผยเคล็ดลับ บอกเทคนิคที่ตัวเองสะสมมาเป็นระยะเวลานานให้กับน้องๆ กระบวนการดำเนินไปอย่างสนุกสนานซะจนแม้กระทั่งคนขับรถตู้ที่เราเช่าไป ยังอดไม่ไหวต้องมานั่งแจมและซักถามพร้อมกับเรียนรู้ไปด้วยกันกับแกนนำรุ่นใหม่ การพูดคุยเป็นไปด้วยความเป็นกันเอง ไม่รีบร้อน อยากรู้เรื่องไหน ถามซักกันต่อไปได้ ลงลึกได้เท่าที่ใจอยากรู้ ได้ความรู้ใหม่ๆ มากมาย แลกเปลี่ยนกันไปมา Kon1Kon รู้สึกตาโตอยู่ตลอดเวลา (ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก่อนนอนตีสองครี่งและตื่นหกโมง) เพราะได้ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรเบื้องต้นที่ไม่เคยรู้มาเพียบเลย
เพราะกระบวนการเคี่ยวกรำต้องใช้เวลา เราจึงไม่รีบร้อน เราจึงค่อยๆ ถ่ายทอด ค่อยๆ เทความรู้กัน.. ด้วยความสนุกสนานกับการถามโน่นถามนี่ เราจึงครอบคลุมเนื้อหากันได้ครบถ้วนแค่ 2-3 หัวข้อเอง ซึ่งครั้งต่อๆ ไป ชุมชนก็จะเริ่มดำเนินการกันเอง โดยไม่มีเราแล้ว เพราะแน่นอน วิถีของเค้ายังคงต้องดำเนินต่อไปไม่ว่าจะมีเราหรือไม่..
กระบวนการพี่สอนน้องแบบบ้านๆ บนรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความภาคภูมิใจลึกๆ เป็นภารกิจที่เริ่มต้นไว้จากจุดเล็กๆ ซึ่ง Kon1Kon ก็ยังหวังว่าคงจะได้รับการสานต่อและส่งประกายไฟให้กับคนรุ่นต่อไปได้สักวัน....
บันทึกเมื่อ 20 มกราคม 2551 โพสต์เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ //share.psu.ac.th/blog/kon1kon-researchbyheart/5023
Create Date : 09 พฤศจิกายน 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2552 23:39:13 น. |
Counter : 725 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ก้อนหิน (cator ) 25 ธันวาคม 2552 15:20:51 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
..เป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่งค่ะ .. ..เคยเป็นคนกรุงเทพ แต่ตอนนี้มาทำงานอยู่สงขลา ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับชุมชนทางภาคใต้ ได้เรียนรู้สิ่งดีๆ มากมาย.. ..ถนัดงานสร้างคน สอนคน วิจัยค้นคว้าในเรื่องที่ตัวเองชอบ.. ..ว่างๆ ก็ชอบอ่านหนังสือ ซ้อมไวโอลิน (เพิ่งมาเรียนตอนแก่).. ..เชื่อว่าจักรวาลนี้มีผู้สร้าง มิใช่เกิดโดยบังเอิญ รักสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติ ไม่อยากให้มันหมดไป.. ..ยังไง ก็มาเป็นเพื่อนกัน นะคะ..
|
|
|
|
|
|
|
อ่านแล้วก็นึกถึงสมัยตอนเป็นนักศึกษา
เคยไปทำงานร่วมกับชาวบ้านที่ต่างจังหวัด
บางครั้งก็สนุกบางครั้งก็ไม่สนุกค่ะ