คุ้มสมุนไพร "ภูมิปัญญาไทย เพื่อสุขภาพและความงามคุณ" บริการ อยู่ไฟ หลังคลอด ถึงบ้าน และจำหน่ายชุด อยู่ไฟ ด้วยตนเอง
อยู่ไฟ, สาระน่ารู้สำหรับคุณแม่
อยู่ไฟ-สินค้าแนะนำ
สมุนไพรเพื่อสุขภาพ
ลดความอ้วน, Diet
อยู่ไฟ, บริการ อยู่ไฟ ถึงบ้าน
สาระสุขภาพ, Healthy
สาระความงาม, Beauty
เครื่องสำอาง, Cosmetics
การดูแลสายตา, Vision Care
สาระแม่และเด็ก
ดูดวง
การตลาด, 4P
ฟรี Blog
การหาเงินทางอินเทอร์เน็ต
อาหาร
ยารักษาโรค
บ้านและที่อยู่อาศัย
การท่องเที่ยว
ธรรมะ และ EQ
<<
พฤศจิกายน 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
2 พฤศจิกายน 2550
ลูกน้อยร้องไม่หยุด...จะทำไงดี
Body & Mind ที่เปลี่ยนไป (หลังคลอด)
เต้านมดูดี ยามท้อง ไม่ยาก
จัดการ ผื่น รุม ลูกอ่อน
กำจัดน้ำมูก ให้เจ้าจอมซน
เมื่อต้องลงโทษลูก
ผู้หญิงมีครรภ์ควรดื่ม ชา กาแฟ และโค้ก ให้น้อยที่สุด
ชวนคุณแม่ตั้งครรภ์กินผลไม้ ... แก้ท้องผูก
เพลงช่วยลดความกดดันให้หญิงตั้งครรภ์ได้
ทำอย่างไร ทารกในครรภ์จึงจะมีฟันที่แข็งแรง ?
เทคนิคช่วยลูกอึง่ายสไตล์คุณแม่
แคลเซียมแก้กระดูกอ่อนในเด็ก
เภสัชกรเตือนคุณแม่มือใหม่ กินรสจัด ส่งผลน้ำนมเปลี่ยนรส
ฝีที่เต้านม
หญิงตั้งครรภ์ทานน้อยมีแววได้ลูกสาว
กินยาอย่างไร ขณะให้นม
หลังคลอด...จำเป็นต้องอยู่ไฟไหม
เคล็ดวิธีเลี้ยงลูกให้มีสุขภาพดี
6 วิธีบรรเทาอาการแพ้ท้อง
ปัสสาวะบ๊อย บ่อย
ปวดหลังระหว่างตั้งครรภ์ทำยังไงดี
เคล็ดลับ...กันแท้ง
รอบรู้เรื่อง "นอน" ของเจ้าตัวเล็ก
ทำไมคนท้อง...ต้องทานหลาย ๆ มื้อ
ดื่มน้ำมะพร้าวช่วงท้อง ดีจริงหรือ ?
คุณแม่มือใหม่ควรรู้
เริ่มเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างไรให้สำเร็จ
อย่าวางใจ! "ท่านอน"ฆาตกรบริสุทธิ์ฆ่าทารก
7 เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยงน้ำตาลทราย
อยู่ไฟนั้น... สำคัญไฉน??
เหตุเกิด...หลังคลอด
ท้องนี้ไม่มีลาย (แน่นอน)
9 วิธี ช่วยให้คุณแม่สวยปิ๊งๆ จากภายในสู่ภายนอก
โภชนาการสำหรับหญิงตั้งครรภ์
เรื่องอ้วนกับการตั้งครรภ์
เมื่อคลอดลูกรกค้างต้องทำ อย่างไร?
ท้องแบบไหนถึงผ่าคลอด
แผลฝีเย็บกับการขับถ่าย
บำรุงสายตาของลูกรักอย่างไรดี
น้ำนมที่ปรับเปลี่ยน
ปัญหาในทารกแรกเกิด
เทคนิค...ฟื้นตัวหลังคลอด
รับมือภาวะหลังคลอด
ลูกน้อยร้องไม่หยุด...จะทำไงดี
Body & Mind ที่เปลี่ยนไป (หลังคลอด)
เต้านมดูดี ยามท้อง ไม่ยาก
รู้จักลูกน้อยวัยอุแว้
เคล็ดวิธีบอกลาท้องผูก
10 เรื่องที่ต้องเช็คของเบบี๋เดือนแรก
เตรียมของใช้ไว้ให้ลูก
สบายยามท้องด้วย 7 วิธี
ขจัดความเครียดขณะตั้งครรภ์
ท้อง เวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง
ไอเดียใหม่ใช้กะหล่ำปลีประคบ ลดปวดเต้านมตึงหลังคลอด
ทำยังไงให้เป็น คุณแม่คนสวย
การดูแลผิวพรรณขณะตั้งครรภ์
4 ท่า 4 สเต็ป เฟิร์มหุ่นหลังคลอด
ตัดไขมันหน้าท้อง และแก้ไขหน้าท้องลาย
นมแม่ชั่วโมงแรกดีอย่างไร
น้ำคาวปลา ผิดปกติ
9 อาการเด่นกวนใจแม่มือใหม่
ผิดปกติหลังคลอดเรื่องที่แม่มือใหม่กลัว
มื้อนี้มีดีที่แคลเซียม
10 อันดับ ผักไทยให้ธาตุเหล็กสูง
ออกกำลังกายในน้ำทางเลือกของหญิงตั้งครรภ์
Top 5 ... ข้อสงสัยเรื่องนมแม่
เลือกชุดชั้นในเพื่อรักษาหุ่นอย่างไร
เตรียมพร้อม 1 เดือน ก่อนคลอด
ลดหุ่นหลังคลอด
หน้าท้องไม่ยุบหลังคลอด
ให้นมลูกจะเสียทรงหรือเปล่านะ
ปวดแผลผ่าตัด
ผดผื่น เรื่องธรรมดาของทารก
ปัญหานมแม่ แก้ไขได้
ของแสลงแม่หลังคลอด
อบสมุนไพรหลังคลอด
มดลูกแม่ หลังคลอด
คุยเฟื่อง 13 เรื่องหลังคลอด
แม่ท้อง อย่าทำ
10 ความเชื่อยอดฮิต ยามตั้งท้อง
วิถีธรรมชาติเพื่อการคลอดธรรมชาติ
ดูแลผิวพรรณขณะตั้งครรภ์
อาการ บวมมือ บวมเท้า
รู้หลักเลี้ยงลูกด้วยนมขวด
สายสะดือของหนู น่าห่วงแค่ไหน?
เตรียมหัวนมอย่างไรก่อนคลอด
พาเบบี๋ไปอาบน้ำ
อาหารสำหรับว่าที่คุณแม่
มหัศจรรย์แห่งนมแม่
10 สวยต้องห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
เรื่องคัน คัน ของคนตั้งครรภ์
คุณแม่ยุคใหม่ฟื้นอยู่ไฟหลังคลอด
อยู่ไฟเข้าตะเกียบ
Body & Mind ที่เปลี่ยนไป (หลังคลอด)
ยินดีกับคุณแม่คนใหม่ (หรือคุณแม่บางท่านอาจจะใหม่เป้นครั้งที่สองหรือสาม) ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่คงกำลังชื่นชมทารกตัวน้อยที่น่ารักกันอย่างมีความสุข สมกับความอดทนที่รอคอยมานานตั้ง 9 เดือน แต่ในช่วงนี้คุณแม่ก็ต้องหันมาสนใจตัวเองด้วยนะครับ เพราะคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรจะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างมากอีกครั้ง เปลี่ยนอย่างไรไปดูกันครับ
ร่างกายแม่ หลังคลอด
การเปลี่ยนแปลงร่างกายของคุณแม่เกิดขึ้นจาก 2 ส่วนด้วยกันนะครับ คือ สรีระร่างกาย ฮอร์โมนและจิตใจ ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่และปฏิบัติอย่างถูกต้องอาจจะส่งผลให้เกิดความผิดปกติได้
แต่ก่อนอื่นเราต้องทราบความหมายของระยะหลังก่อนนี้เสียก่อนว่า ระยะหลังคลอดเริ่มนับตั้งแต่จุดที่ทารกและรกคลอดจนกระทั่งอวัยวะสืบพันธุ์และฮอร์โมนต่างๆ ของการตั้งครรภ์กลับคืนเข้าสู่ภาวะเหมือนตอนไม่ตั้งครรภ์ โดยจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ แต่การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและกลับเข้าสู่ปกติใน 2-3 สัปดาห์หลังคลอด ซึ่งอวัยวะที่เปลี่ยนแปลงและมักจะพบปัญหาบ่อยก็มีดังนี้ครับ
Mom's Body
มดลูก จะเกิดเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า มดลูกเข้าอู่ โดยวันแรกหลังการคลอด มดลูกมดลูกจะหดรัดตัวมาอยู่ที่ระดับสะดือ มีน้ำหนักประมาณ 1,000 กรัม หรือ 1 กิโลกรัม หลังจากนั้นจะลดขนาดลงวันละประมาณ 1 เซนติเมตร ภายในสองสัปดาห์จะลดขนาดลงมาอยู่ในอุ้งเชิงกราน ทำให้เราคลำจากทางหน้าท้องไม่พบ
หลังคลอด 6 สัปดาห์ มดลูกจะกลับมามีน้ำหนักเท่ากับระยะก่อนตั้งครรภ์ คือประมาณ 50 กรัมเท่านั้น ลดลงถึง 20 เท่า! การหดรัดตัวของมดลูกนี้มีกลไกที่สำคัญมากในการหยุดเลือดหลังการคลอด ดังนั้น ถ้ามีการหดรัดตัวที่ไม่ดีอาจเกิดการตกเลือดหลังคลอดขึ้นได้ แต่ขณะเดียวกันหากมดลูกหดรัดอย่างรุนแรง ช่วง 2-3 วันแรกจะทำให้เกิดอาการปวดมดลูกคล้ายอาการปวดประจำเดือนได้
คุณแม่ควรสังเกตระดับมดลูกในช่วงสัปดาห์แรกของการคลอดว่ามดลูกลดขนาดลงตามปกติหรือไม่ ถ้าลดขนาดช้ากว่าปกติร่วมกับมีเลือดออกทางช่องคลอดมาก จำเป็นต้องรีบกลับไปพบแพทย์
ตกไข่และประจำเดือน การกลับมาตกไข่และมีประจำเดือนจะแตกต่างไม่เหมือนกัน ซึ่งขึ้นกับการให้นมลูกด้วย ถ้าคุณแม่ไม่ได้ให้นมลูกด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่จะกลับมามีประจำเดือนในช่วง 7-9 สัปดาห์หลังคลอดแต่ถ้าให้นมลูกด้วย ประจำเดือนก็จะกลับมาช้า ยิ่งให้ไปนานๆ ก็จะช้าไปกว่า 7-9 เดือนหลังคลอด
คุมกำเนิดหลังคลอด คุณแม่หลังคลอดทุกคนสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เมื่อน้ำคาวปลาหมดและไม่เจ็บแผลฝีเย็บครับ แต่ควรคุมกำเนิดทุกครั้งเพราะไข่อาจจะตกและเกิดการตั้งครรภ์ได้ทั้งๆ ที่ยังไม่มีประจำเดือนวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมในระยะนี้คือการใช้ถุงยางคุมกำเนิด
น้ำคาวปลา เลือดและน้ำที่ไหลออกจากช่องคลอดใหม่ๆ เราเรียกว่า น้ำคาวปลา ครับ เป็นส่วนผสมของเลือดและเซลล์ที่หลุดลอกจากผนังโพรงมดลูก น้ำคาวปลาจะเป็นสีเลือดสด ในช่วงหลังคลอดวันแรกๆ และจะจางลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นมุกขาวใน 2-3 สัปดาห์ต่อมา คุณแม่บางคนอาจมีน้ำคาวปลาได้นานถึง 6-8 สัปดาห์สำหรับคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอดน้ำคาวปลาจะหมดเร็วกว่าคุณแม่ที่คลอดเอง
สีน้ำคาวปลากลับแดงเข้มขึ้นจากเดิมที่สีค่อยๆ จางลง
มีก้อนเลือดขนาดใหญ่ปนออกมา
มีกลิ่นเหม็นเน่าหรือเหม็นคาวมาก ถ้าพบอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์โดยเร็ว
สำหรับการอยู่ไฟหรืองดการแสลง หรือการรับประทานการขับน้ำคาวปลา เพื่อเร่งน้ำคาวปลาแห้งเร้วขึ้นยังไม่พบว่ามีประโยชน์ชัดเจนแต่อย่างใดครับ
สังเกตน้ำคาวปลาอาการที่สังเกตของน้ำคาวปลา
หลังคลอด สี ส่วนประกอบ
1-3 วัน แดงเข้ม เลือด/เมือก/เยื่อบุโพรงมดลูก/ไขและขี้เทาของทารก
4-9 วัน ชมพู-น้ำตาล เม็ดเลือดขาว/เยื่อบุโพรงมดลูก/เม็ดเลือดแดง/แบคทีเรีย
10-14 วัน เหลืองใสขาว เม็ดเลือดขาว/เมือก/แบคทีเรีย
ช่องคลอด หลังจากขยายตัวมากในช่วงคลอด เมื่อคลอดแล้วช่องคลอดจะหดเล็กลง รอยย่นภายในช่องคลอดก็จะน้อยลงด้วยเยื่อพรหมจรรย์ในช่องคลอดก็จะน้อยลงด้วยเยื่อพรหมจรรย์จะเห็นเป็นเพียงติ่งเนื้อเล็กๆ
กระชับช่องคลอด หากต้องการให้ช่องคลอดกระชับ คุณแม่ควรฝึกขมิบช่องคลอดและทวารหนัก ขมิบแล้วนับ 1-5 คลายออก นับ 1-5 เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พักผ่อน วันแรกอาจจะขมิบเช้า-เย็น รอบละ 5 ครั้งแล้วค่อยเพิ่มจำนวนขึ้นจนถึง 10 ครั้งต่อวัน เมื่อทำได้สักระยะก็ให้เพิ่มจำนวนขึ้นไปเป็น 1-10 ครั้ง
การคลอดลูกตามธรรมชาติคุณหมอมักจะตัดฝีเย็บเพื่อช่วยคลอดและสะดวกต่อการเย็นซ่อมแซม ดังนั้น หลังคลอดคุณแม่จะปวดบริเวณแผลฝีเย็บพอควร ซึ่งแผลจะเริ่มติดประสานและหายในสัปดาห์แรกหลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์แผลก็จะหายสนิทส่วนใหญ่คุณหมอจะเย็บโดยใช้ไหมละลายซึ่งจะละลายสลายไปเองได้ภายในเวลา 2 สัปดาห์ คุณแม่ไม่ต้องกังวลอาจจะพบเศษไหมละลายในกางเกงชั้นใน
ดูแลฝีเย็บ
การทำความสะอาดแผลควรล้างแผลฝีเย็บด้วยนำอุ่นสะอาดแล้วซับให้แห้ง
หลังอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวให้ใช้สำลีเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าช่องคลอดไปด้านหลังทวารหนักห้ามใช้น้ำฉีดล้างชำระโดยเด็กขาด
หากคุณแม่ปวดแผล และแผลบวมแดงกดเจ็บ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
สำหรับคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอดแผลผ่าตัดคลอดหน้าท้องจะติดสนิทภายนอก 7-10 วัน และอาการเจ็บแผลจะหายภายใน 14-21 วัน ควรหลีกเลี่ยงแผลผ่าตัดไม่ให้ถูกน้ำจนกว่าคุณหมอจะอนุญาต
เต้านม ร่างกายคุณแม่มีการเตรียมสร้างน้ำนมและเก็บกักไว้ตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ เมื่อคลอดและถูกกระตุ้นที่หัวนมก็จะทำให้เกิดการหลั่งน้ำนมขึ้น ถ้าคุณแม่ให้นมลูกเต้านมจะคัดตึงใน 48-72 ชั่วโมงหลังคลอดอาการคัดตึงเต้านมในแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน ส่วนมากจะรู้สึกหนักเต้านม เต้านมขยายใหญ่รู้สึกอุ่นและตึงเมื่อสัมผัส แต่บางคนอาจตึงจนเจ็บหรือมีไข้ต่ำๆ ได้
ดูแลเต้านม
1. การให้นมลูกหรือบีบน้ำนมออกบ้างจะช่วยลดอาการเจ็บคัดเต้านมลงได้มาก
2. ควรล้างทำความสะอาดเต้านมและหัวนมด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ เช็ดให้แห้งทั้งก่อนและหลังให้นมลูก
3. ถ้าคุณแม่มีไข้สูง หนาวสั่น ปอดมากและกดและกดเจ็บที่เต้านมเป็นจุดเฉพาะ เป็นสัญญาณเตือนว่ามีการติดเชื้อที่เต้านม ควรงดให้นมลูกและไปพบคุณหมอ
4. หากคุณแม่ไม่ได้ให้นมลูก ควรใส่เสื้อชั้นในหรือใช้ผ้าสะอาดรัดบริเวณหน้าอกเพื่อลดการคัดเต้านม และหลีกเลี่ยงการกระตุ้นหัวนม ใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการปวดอาจใช้ยาแก้ปวดแบบอ่อน ห้ามใช้น้ำร้อนประคบและหลีกเลี่ยงการโดนน้ำอุ่นที่เต้านม
ผนังหน้าท้อง จะยังหย่อนอยู่ครับ เพราะกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ยืดขยายออกเมื่อช่วงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ยืดขยายออกเมื่อช่วงท้องจะค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเหมือนก่อนตั้งครรภ์ ซึ่งใช้เวลาหลายสัปดาห์
ออกกำลังหน้าท้อง หมั่นออกกำลังกายเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อดึงตัวดีขึ้น ส่วนรอยย่นที่หน้าท้องก็อาจไม่ได้หายไปไหน และไม่เป็นอันตราย
น้ำหนัก หลังคลอดลูกแล้วน้ำหนักคุณแม่จะลดลงทันที 5-6 กก. จากนั้นจะลดลงอีก 2-3 กก. ในสัปดาห์แรกเนื่องจากการขับปัสสาวะและเหงื่อ ช่วงเดือนแรกน้ำหนักจะลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นน้ำหนักจะค่อยๆ ลดเฉลี่ยเดือนละ 1 กก. ส่วนน้ำหนักตัวที่เพิ่มเกินพอดีระหว่างตั้งครรภ์จะกลายเป็นส่วนเกินหลังคลอดได้ง่าย อย่างไรก็ตามประมาณ 80% ของคุณแม่มักจะกลับมามีน้ำหนักเท่าเดิมเมื่อ 18-24 เดือนหลังคลอด
ผิวหนัง/เส้นผม เปลี่ยนแปลงเพราะระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลง ทำให้บริเวณลานหัวนม ต้นขาด้านใน เส้นกลางท้อง และฝ้า ซึ่งเคยมีสีเข้มในช่วงตั้งครรภ์จางลง แต่รอยแตกที่หน้าท้องกลับจะสามารถเห็นได้ชัดกว่าช่วงตั้งครรภ์ มีสีอกแดงๆ แต่สีนี้จะจางลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นแนวสีเงินขาวและปรากฏร่องรอยตลอดไป
ดูแลผิวหลังคลอด
1. คุณแม่ควรป้องกันรอยแตกตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ เช่น ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นทาหน้าท้อง ส่วนสิวบริเวณหน้าและลำตัวช่วงตั้งครรภ์มักจะหายเป็นปกติใน 4-6 สัปดาห์หลังคลอดไม่ต้องกังวลครับ
2. หลังคลอดช่วง 6 เดือนแรก ผมอาจจะร่วงเป็นหย่อมๆ มักจะร่วงเวลาสระผมหรือหวีผม เนื่องจากฮอร์โมนที่ลดลง อาการนี้จะเป็นเพียงชั่วคราวหลังจากนั้นจะมีผมงอกขึ้นมาทดแทนครับ
Mom' Mind
อารมณ์เศร้า คุณแม่หลังคลอดจำนวนมากเกิดอาการหงุดหงิดง่าย โกรธง่าย ร้องไห้ได้แบบไม่มีสาเหตุ เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ อารมณ์เศร้านี้เกิดจากการอดนอนกังวลในการเลี้ยงบุตร อาการไม่สบายตัวหลังคลอด กังวลถึงรูปร่างที่เปลี่ยนไป รวมถึงกลัวสามีจะไม่สนใจและรักเหมือนเดิม เรียกอาการนี้ Baby blue หรือซึมเศร้าหลังคลอด อาการเหล่านี้จะดีขึ้นและหายไปได้เอง แต่ถ้าเป็นมากหรือมีอาการนานกว่า 10 วัน ควรปรึกษาจิตแพทย์โดยด่วนครับการเปลี่ยนแปลงหลังคลอดยังเกิดในอีกหลายระบบ เช่น ระบบทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ หลอดเลือดและหลอดหัวใจ โดยจะมีอาการแตกต่างไปในแต่ละบุคคล บางครั้งอาการอาจไม่ชัดเจนมากนัก
โดยสรุประยะหลังคลอดจึงเป็นระยะที่มีความสำคัญอย่างมากที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ เพราะคุณแม่หลังคลอดจำต้องมีการปรับตัวปรับใจ ปรับร่างกายพร้อมที่จะรับภาระใหม่อย่างรวดเร็ว ผู้มีบทบาทสำคัญที่จะช่วยได้มาก คือ สามี ซึ่งควรต้องคอยดูแลเอาใจใส่ รวมทั้งให้กำลังใจแก่คุณแม่หลังคลอด คอยช่วยเหลือในการเลี้ยงบุตรตลอดจนช่วยกันประกอบกิจวัตรประจำวันเพื่อที่จะให้คุณแม่หลังคลอดคลายความเครียดและลดความกังวลในการปรับตัว เพื่อจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ต่อไปครับ
หากเกิดอาการเหล่านี้ คุณแม่ต้องรีบพบคุณหมอโดยด่วน
ไข้สูง ไข้หนาวสั่น
ปวดท้องน้อยหรือบริเวณช่องคลอด
แผลฝีเย็บหรือแผลผ่าตัดคลอดปอดบวมมากขึ้น มีหนองหรือเลือดไหลออกมา
น้ำคาวปลากลับแดงเข้มขึ้น มีเลือดปนโดยสังเกตจากจำนวนผ้าอนามัยที่ต้องใช้มากขึ้น
เต้านมบวม แดง ร้อน กดเจ็บเฉพาะที่
หัวนมแตก มีเลือดไหล
ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะไม่สุด
ขาปวดบวมขึ้น
ซึมเศร้ามากกว่าหนึ่งสัปดาห์
ที่มา..นิตยสารดวงใจพ่อแม่
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2550 14:36:53 น.
0 comments
Counter : 883 Pageviews.
Share
Tweet
Healthy Service
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
คุ้มสมุนไพร
บริการอยู่ไฟ คุณแม่หลังคลอด
จำหน่าย ชุดอยู่ไฟ และสมุนไพร
สายด่วน 08-5426-7578 (24 ชม. ทุกวัน)http://www.KUMsamunpai.com/
จำนวนผู้เข้าเว็บ
Best Free Hit Counters
Maternity Wear
Healthy Service
Webmaster - BlogGang
[Add Healthy Service's blog to your web]
สาระสุขภาพ
สาระความงาม
สาระลดความอ้วน
KUMsamunpai.com
บริการอยู่ไฟ
สินค้าสมุนไพร
ชุดอยู่ไฟด้วยตนเอง
แม่และเด็ก
Gmail Free
Sanook.com
Manager.co.th
Bloggang.com