ประเทศในอาเซียนที่มีทหารประจำการใกล้เคียงกับพม่าได้แก่ อินโดนีเซีย (316,000) และไทย (314,000) เนื่องจากมีประชากรค่อนข้างมาก, ส่วนชาติที่พัฒนาระบบอาวุธไปไกลน่าจะเป็นสิงคโปร์ และมาเลเซีย เนื่องจากเป็นชาติที่ร่ำรวย
.
เดิมพม่าใช้วิธีเกณฑ์คนจากบางหมู่บ้าน หรือจับเด็กตามสถานที่สาธารณะไปฝึกเป็นทหารเกณฑ์ (ไม่มีการเกณฑ์ทหาร) ประกอบกับคนเก่งๆ แย่งกันเข้าโรงเรียนนายร้อยฯ และห้ามลาออกจากกองทัพ ทำให้ทหารมีฐานะคล้ายกับเป็นชนชั้น หรือ "วรรณะ (caste)" ชั้นสูง ไม่ปะปนกับคนที่ไม่ใช่ทหาร
.
มีความเป็นไปได้ว่า สังคมพม่ามีสภาพเสมือนหนึ่งมีวรรณะ (virtual caste) ในสายตาของรัฐบาลดังต่อไปนี้
.
(1). ทหารเป็นเสมือนชนชั้นสูง > คล้าย "อำมาตย์" ของไทยเดิม
.
(2). ประชาชนเป็นเสมือนคนสามานย์(สามัญ = ทั่วไป) > คล้่าย "ไพร่" ของไทยเดิม
.
(3). นักบวช เช่น พระภิกษุ สามเณร ฯลฯ > คล้าย "คนนอกวรรณะ" (ยกเว้นสึกหรือลาสิกขาบท จะกลับไปสู่ข้อ 2.)
.
การเกณฑ์ทหารรูปแบบใหม่จะทำให้ขนาดของกองทัพพม่าโตขึ้นมาก แรงงานหายไปจากภาคการผลิต-บริการจำนวนมาก
.
เดิมพม่าเป็นประเทศที่ส่งออกแรงงานไปทำงานต่างประเทศมาก โดยเฉพาะวิศวกร ช่างเทคนิคนิยมไปทำงานเดินเรือ หรือทำงานในสิงคโปร์, แรงงานระดับล่างนิยมไปทำงานในไทย
.
การเกณฑ์ทหารรูปแบบใหม่น่าจะทำให้ส่งออกแรงงานได้น้อยลงในระยะสั้น
.
ทว่า... อาจทำให้ประชากรเพิ่มอย่างรวดเร็วในระยะยาว เนื่องจากสาวๆ ที่ไม่อยากเป็นทหารเกณฑ์ต้องรีบแต่งงาน รีบมีลูก เพื่อจะได้ขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ