Love Story ตอนที่ 1


Love Story 1


เรื่องเล่าในวันฝนตก


....ได้แต่ฝากความคิดของฉันเอาไว้
เผื่อวันไหนเธอผ่านมา
เห็นที่เดียวกันนี้เธอจะนึกขึ้นได้ว่า
เคยมีคนหนึ่งยืนข้างเธออยู่ตรงนี้เสมอตลอดมา …


.........


“ฮัลโหล”
“สวัสดีค่ะดิฉันโทรจากสำนักพิมพ์ star of love ค่ะ”
“อ๋อค่ะ”
“คือต้นฉบับที่คุณส่งมาให้พิจารณาน่ะค่ะ ทางสำนักพิมพ์เรามีความสนใจอยากจะจัดพิมพ์เรื่องราวของคุณเป็นหนังสือ ดิฉันเลยจะโทรมาคุยรายละเอียดกับคุณนริศราน่ะค่ะ ไม่ทราบสะดวกไหมคะ”
“ค่ะ สะดวกค่ะ”


ในที่สุดเรื่องราวที่เราลองเรียบเรียงจากไดอารี่และส่งไปก็ผ่านการพิจารณาและกำลังจะได้รับการตีพิมพ์ในอีกไม่นานนี้หลังจากที่รอการติดต่อกลับจากสำนักพิมพ์อยู่นานจนถอดใจ แต่เราคงจะมีความสุขกว่านี้มากถ้าเธอคนนั้นจะอยู่ร่วมแสดงความยินดีกับเราด้วยในวันนี้ เธอจะต้องดีใจและตื่นเต้นมากแน่ๆ  วันนี้ลมแรงจังเหมือนฝนจะตกแฮะ


“แปะ...แปะ”ฝนเริ่มตกลงมากปรอยๆเราค่อยๆยันตัวขึ้นจากเก้าอี้ บิดขี้เกียจเพื่อไล่ความเมื่อยขบก่อนจะเดินไปปิดหน้าต่าง ไม่นานฝนก็เริ่มตกหนักและหนักขึ้นอีก นับเป็นฝนแรกของฤดู...
“หน้าฝนแล้วสินะ...” เราบ่นกับตัวเองเบาๆ นึกถึงเรื่องราวในวันเก่าที่ยังคงชัดเจนอยู่เสมอในความทรงจำ  เผลอแป๊บเดียวหน้าฝนก็กลับมาอีกครั้ง ต่างกับเธอที่คงไม่มีวันจะกลับมา..


…..
             “โถ่เว้ย!ทำไมต้องมาตกตอนนี้ด้วยวะ” เราบ่นอย่างอารมณ์เสีย เมื่อมองออกไปนอกอาคาร เม็ดฝนกำลังโปรยปรายลงมาและค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆ เฮ้อ..ร่มก็ไม่ได้เอามาจะรอก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหยุดตก ต้องรีบไปทำงานพิเศษอีก เราล่ะโคตรเกลียดหน้าฝนเลย จะไปไหนมาไหนก็ลำบากเฉอะแฉะไปหมด อ๊ะ! ระหว่างที่เรากำลังรีบจ้ำอ้าวออกจากตึกอยู่นั้น สายตาเราก็เหลือบไปเห็นชายหญิงคู่หนึ่งยืนทะเลาะกันอยู่ตรงทางเดิน โถ่เว้ย ทำไมต้องมาทะเลาะกันตรงนี้ด้วยนะที่อื่นมีตั้งเยอะแยะจะเดินผ่านไปดีไหมเนี่ย
           “ทำไมโอมเป็นคนแบบนี้ล่ะ”
“โถ่ เฟิร์นเค้าก็แค่กิ๊กคบเล่นๆไม่ได้จริงจังอะไรซะหน่อยขำขำ ยังไงคนที่เค้ารักมากที่สุดก็คือตัวเองอยู่ดีนะ”
“ขำขำหรอ ถ้าฟ้าทำแบบที่โอมทำบ้างโอมยังจะขำออกไหม”
“ไม่เอาน่า ฟ้าเป็นผู้หญิงมันดูไม่ดีหรอก”
“เลิกกันไปเลยดีกว่าโอม แล้วโอมจะไปมีใครที่ไหนก็เชิญตามสบาย”
“อะไรกันฟ้า จะเลิกกันเพราะเรื่องแค่นี้เองหรอ ฟ้ามีคนอื่นใช่ไหมบอกมาตรงๆดีกว่า”
“เออใช่แล้วจะทำไม! ตัวเอง...ออกมาได้แล้วล่ะโอมเค้ารู้เรื่องของเราหมดแล้ว” ผู้หญิงคนนั้นกวักมือเรียกมาทางเรา เอ...เรียกใครฟะ เออ..แต่แถวนี้ก็มีเรายืนอยู่คนเดียวนี่หว่า
“ตัวเองรอเค้านานไหม โทษทีนะก็โอมน่ะสิพูดไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมเลิกสักที น่ารำคาญจะตายชัก” อยู่ดีๆเธอก็เดินเข้ามาหาและคล้องแขนเราหน้าตาเฉย เอ่อ..จำได้ว่าเราไม่รู้จักกันไม่ใช่เหรอ


“...........”เราได้แต่ยืนใบ้รับประทานพูดอะไรไม่ออกปล่อยให้ผู้ชายตรงหน้ามองเราตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“อย่ามาหลอกกันเล่นน่าฟ้า ฟ้าไม่เคยมีรสนิยมแบบนี้นี่นา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกสุดฤทธิ์พร้อมกับอาการแสยะยิ้มอย่างดูถูกจนเราอยากจะชกหน้าให้สักทีแต่ก็ไม่ได้ทำเพราะไม่รู้จะเอาอะไรกับคนไม่รู้จักกันแบบนี้
“แบบนี้นี่มันแบบไหนหรอโอม ให้เกียรติกันหน่อยสิ” สาวสวยข้างๆขึ้นเสียงสูงใส่ทันที


“ก็รสนิยมฉิ่งฉับแบบนี้ไง ไอ้ทอมนี่มันมีอะไรดีกว่าผู้ชายอย่างโอมเหรอฟ้า


“อย่ามาพูดจาต่ำๆแบบนี้นะ อย่าถามว่าเค้ามีดีกว่าโอมตรงไหนเลย ถามตัวเองดีกว่าว่ามีอะไรดีบ้างเหรอ ที่ผ่านมาน่ะฟ้าทนคบไปก็อายคนอื่นเค้าจะแย่อยู่แล้ว หน้าตาน่ากลัวทำตัวน่าเกลียด ไปตายซะไอ้ผู้ชายเฮงซวย!!”


“ไปกันเถอะตัวเองเค้าหิวข้าวจะแย่อยู่แล้ว” พูดจบเธอก็คว้ามือเราก่อนจะออกแรงลากไปตามทางที่เธอต้องการ สรุปวันนี้มันวันอะไรกันเนี่ยยยยย!


 “นี่ๆเธอจะพาเราไปไหนเนี่ย เราต้องรีบไปทำงานนะ” เราพูดขึ้นหลังจากยอมให้เธอลากมานานพอควร
“ฮึก..ฮือ...ไอ้โอมบ้า ไม่น่าไปรักมันเลย..ฮือ..” เง้อ..อยู่ดีๆเธอก็ร้องไห้ออกมาเสียเฉยๆทำให้เรายิ่งเหวอหนักเมื่อกี้ยังตัวเองอย่างโน้นตัวเองอย่างนี้อยู่เลยแท้ๆ
“เฮ้ย! เธอเป็นไร อย่าร้องดิ แล้วชื่ออะไรเนี่ย” เราถาม
“ฮึก..ฟ้า..” เธอตอบยังสะอึกสะอื้นไม่หยุด
“เออๆฟ้าหยุดร้องไห้ได้แล้ว เราชื่อแนนนะ ป่ะบ้านอยู่ไหนเดี๋ยวเราไปส่ง” เฮ้อ..มันวันอะไรของกูวะเนี่ย งานก็ไม่ได้ไปทำป่านนี้โดนพี่นุชด่าเละแล้วมั้งเนี่ย
.......ตะ ตะ ตะ ตั๊บแก ตั๊บแก ...
          เสียงโทรศัพท์ของเราดังขึ้นเรารีบกดรับทันที แอบเห็นยัยฟ้านั่นหัวเราะด้วยแหละ ทำไมล่ะใช้เสียงเรียกเข้าตุ๊กแกแล้วมันผิดตรงไหนฮะ


“ฮัลโหล” เรากรอกเสียงลงไป


 “ไอ้แนนมึงอยู่ไหนวะ ป่านนี้ยังไม่มาอีก พี่นุชเค้าบ่นใหญ่เลยเนี่ย” ปลายสายถามพร้อมกับบ่นอย่างร้อนใจ
“เออ กูมีปัญหานิดหน่อย ทำไงดีวะเนี่ยพี่เค้าจะไล่กูออกเปล่าวะเปิ้ล”
“กูว่าไม่แน่อ่ะ พี่นุชอารมณ์ไม่ดีด้วยวันนี้”
“เออๆมึงบอกพี่เค้าให้หน่อยดิว่ากูเจอหมาหลงทางกูเลยต้องพาไปหาเจ้าของ ขอบใจมากนะเพื่อนแค่นี้แหละ บ๊ายบาย”


เฮ้อ..เหตุผลฟังขึ้นไหมน้อ...เหอะๆช่างมัน ยังไงเดี๋ยวไอ้เปิ้ลก็ช่วยพูดให้เองแหละ ว่าแต่..ทำไมเราต้องมาวุ่นวายเพราะยัยคนนี้ด้วยเนี่ย รู้จักก็ไม่รู้จัก รู้อย่างนี้รีบเดินผ่านไปซะตั้งแต่แรกก็ดีหรอก ไม่น่าอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้านไปยืนแอบฟังเล้ยยยเวรกรรม


“นี่เธอบ้านอยู่แถวไหนเนี่ย”เราหันไปถามฟ้าผู้หญิงแปลกๆที่เราเพิ่งรู้จักเธอยังเอาแต่นั่งร้องไห้จนตาบวมเป็นกบ
“แถววงเวียนใหญ่น่ะ”
“เออทางเดียวกับรถที่จะไปหอเราเลยอ่ะ งั้นต้องเดินไปขึ้นรถเมล์” และเราก็พาฟ้าเดินไปที่ป้ายรถเมล์ ที่ใช้รอรถกลับหอเป็นประจำ


          “นี่....เอ่อ แนน เราเห็นรถสายนั้นผ่านไปหลายคันแล้วนะ ไม่ขึ้นหรอ” ฟ้าถามเราหลังจากที่รอรถอยู่นานมากแล้ว
“อ๋อรอรถเมล์ฟรีน่ะ เนี่ยเดี๋ยวก็คงมา ปกติมันมาเวลานี้ประจำแหละ เออนั่งรถสายเดียวกันแต่ไม่เคยเจอกันเลยเนอะ”
“เราไม่เคยนั่งรถเมล์มาเรียนน่ะ” เออท่าทางจะเป็นไฮโซนะเนี่ยไม่เคยนั่งรถเมล์ซะด้วย เออดี วันนี้จะพาลำบากซะให้เข็ด 555(เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ยเรา)
“มาแล้วๆ เธอไปกันเถอะ” เราเดินไปจูงมือฟ้าและพาขึ้นรถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนด้วยกัน เหอๆวันนี้คนแน่นชะมัด ไม่สิจริงๆมันก็แน่นทุกวันนั่นแหละแต่เพื่อความประหยัดทรัพย์อันน้อยนิดในกระเป๋า ก็เลยต้องทน เราเลือกที่จะไปยืนหลังๆ ที่ยังพอมีที่ว่างให้พอแทรกตัวเข้าไปได้
“นี่ๆเธอเกาะเราไว้ก็ได้” เราบอกเมื่อเห็นว่าฟ้าโหนรถเมล์แทบจะไม่ถึงแถมที่จับตรงเบาะก็เต็มหมดแล้ว ฟ้าเกาะเอวเราไว้แน่น ดูใกล้ๆเธอก็น่ารักดีนะเนี่ย ไม่สิน่ารักมากเชียวล่ะ ตัวเล็กผดูบอบบาง ผิวขาวเหลือง ผมยาวเป็นลอนถึงกลางหลัง ตัดหน้าม้า หน้าเหมือนตุ๊กตา เราได้แต่แอบคิดในใจว่าถ้ามีแฟนน่ารักแบบนี้จะไม่มีวันทำให้เสียใจเลย แต่ก็นะ..ได้แค่คิด ชีวิตจริงหน้าตาธรรมดาๆแบบเราแถมจนอีกต่างหากสาวที่ไหนจะชายตามอง
“นี่ๆฟ้าลงตรงไหนอีกไกลมั้ย”เราถามเมื่อเห็นว่าถึงวงเวียนใหญ่แล้ว
“อีกไม่ไกลหรอก ป้ายหน้าก็ถึงแล้วล่ะถ้าจำไม่ผิดนะ” เธอตอบเสียงยังฟังดูเศร้าอยู่


ไม่ถึงห้านาทีรถก็มาจอดตรงป้ายที่เธอบอกเราจึงพาเธอลงจากรถ แต่กว่าจะแหวกผู้คนลงมาได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆเหมือนกัน ของฟรีต้องอดทนจริงๆเลย


“แล้วบ้านอยู่ซอยไหนล่ะ” เราถามเมื่อลงจากรถได้สำเร็จ
“อ๋อไม่เป็นไรหรอกวันนี้เรารบกวนแนนมาทั้งวันแล้ว บ้านเราอยู่ซอยนี้แหละเดี๋ยวเราเดินเข้าไปเองขอบคุณมากนะที่มาส่ง แล้วก็ขอโทษด้วยที่เราทำให้แนนไม่ได้ไปทำงานเลย” ฟ้าพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ ท่าทางคงจะเสียใจเรื่องแฟนหน้าปลวกนั่นน่าดู
“ไม่เป็นไรหรอกช่างมันเถอะ กลับดีๆล่ะ เราไปก่อนนะ”
“จ้ะ บายนะ”
“อื้ม บ๊าย บาย”


                แล้วเรากับฟ้าก็แยกย้ายกันตรงนั้น เราเดินกลับหอด้วยเส้นทางเดิมอย่างเหนื่อยๆ ระยะทางจากซอยบ้านฟ้ากับหอของเราห่างกันแค่ป้ายรถเมล์เดียวเท่านั้นแถมเรียนที่เดียวกันอีกแต่ทำไมเรากลับไม่เคยเจอเธอมาก่อน สงสัยวันนี้คนข้างบนคงอยากจะเล่นตลกอะไรกับชีวิตเราแน่ๆ เลยได้เจอเธอในสถานการณ์แบบนี้ แต่วันข้างหน้าจะเป็นยังไงนั้นไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้เลยจริงๆ


ติดตามตอนต่อไปจ๊า...


**************************************************************************


เรื่องนี้เคยทำเป็นเรื่องสั้นไปแล้ว แต่นี่ทำเป็นเวอร์ชั่นเรื่องยาว ยังไงก็ติดตามกันได้จ้า แต่งไว้จนจบแล้ว เดี๋ยวจะทยอยมาแปะเน้อ^^






Free TextEditor




 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2554
2 comments
Last Update : 9 กรกฎาคม 2554 15:43:34 น.
Counter : 352 Pageviews.

 

ชอบๆ
จะติดตามอ่านนะ....

 

โดย: กิ๊กก๊อก (blank-kik-kok ) 5 กรกฎาคม 2554 17:56:56 น.  

 

ขอบคุณจ้า ^^

 

โดย: hamstersom 6 กรกฎาคม 2554 17:44:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


hamstersom
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2554
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
5 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hamstersom's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.