happy memories
Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
23 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
ข้ามดงสามหมื่นแล้วต้อง 'ยั้งเมิน'


67-ข้ามดงสามหมื่น

ชื่อภาพ : ลอมฟางริมทางเขา
สถานที่ : หมู่บ้านยั้งเมิน สะเมิง
เทคนิค : สีน้ำบนกระดาษ
ขนาด : ๒๘ x ๓๘ เซนติเมตร




ข้ามดงสามหมื่นแล้วต้อง
'ยั้งเมิน'



คุณที่รัก


ขณะที่ขับรถบนเส้นทางวัดจันทร์-แม่แจ่ม-สะเมิงนี้ สิ่งที่อยู่ในห้วงคำนึงของผมตลอดเส้นทางคือคุณ


เปล่า ไม่ได้คิดถึงเพราะเสน่หาอาลัยเป็นพิเศษแต่อย่างใด แต่คิดขำ-ขำ ว่านี่ถ้าคุณมาด้วยคงจะปิดตาร้องวี๊ดว้าย "ไม่มาอีกแล้ว ๆ…" ใจหายใจคว่ำ นั่งตัวเกร็งไปตลอดเส้นทาง เป็นแน่


ภาพพื้นผิวดวงจันทร์ไม่ขรุขระเท่าถนนสายนี้นะผมว่า ขรุขระแถมแตกเป็นร่องลึก ตามแรงกัดเซาะของน้ำฝน ส่วนฝุ่นก๊าซหมอกควันบนดวงจันทร์นั้นใช่เลย แต่ต้องเติมสีดินแดงลงไปด้วย


วัยรุ่นที่อยากเป็นฝรั่ง ให้มานั่งรถโดยสารสายนี้เลย จะได้ผมแดงสมใจ


เส้นทางเวียงแหงแยกไป 'ดอยดำ' ที่ผมเคยบอกคุณว่าสดุยอดความหฤโหดนั้น สายนี้พอฟัดพอเหวี่ยง จะแพ้แต่เรื่องความสูงชันและคดเคี้ยวที่น่าหวาดเสียว (น่าจะโหดตรงใช้เวลาทรมานนานกว่า เพราะวัดจันทร์ไปสะเมิงนั้นตั้ง ๘๗ กม.)


เที่ยวนี้ผมก็สวดภาวนาใจเต้นระทึกไม่แพ้ขึ้นดอยดำ แต่ผมได้วิชามาจากพี่น้องชนเผ่าที่เป็นสารถีเจ้าประจำแถบอ่างขาง-ดอยผ้าห่มปก ว่าถ้ารถไม่บรรทุกเวลาขึ้นเขาชันมันจะเหิน (ล้อหลังจะลอยกระตุก ๆ เวลาเร่งส่ง) ให้เอาหินหรือท่อนไม้หนัก ๆ ใส่ท้ายกระบะไว้


ผมทำตามคำแนะนำนั้น หมดปัญหาหน้าง้ำท้ายแหงนไปได้ แต่ก็ยังภาวนาไปตลอดเมื่อได้ยินเสียงเจ้า "ปอนโช" ครางโอดโอยกว่าจะทะลุขึ้นถึงยอด


เล่าเรื่องนี้ คุณคงยิ้มโล่งใจ บอกว่าดีแล้วที่ฉันไม่ได้ไปด้วย แต่พอบอกว่า 'ระหว่างทาง' สายนี้นั้น ทัศนียภาพแสนวิเศษแล้วยังมีกลิ่นอายเฉพาะ ที่แปลกแตกต่างจากถิ่นล้านนาฟากเทือกสันผีปันน้ำ โดยเฉพาะชื่อบ้านนามตำบลนั้น มีเสน่ห์อย่างประหลาด


นอกเหนือจาก ๓ ตำบลหลัก คือตำบลบ้านจันทร์ แม่แดด แจ่มหลวงแล้ว ยังมีอีกหมู่บ้านเล็กหมู่บ้านใหญ่ ตลอดเส้นทางไปสะเมิง ที่ตั้งชื่อเสียงเรียงนามกันได้น่ารัก เห็นภาพและแทบได้กลิ่นลอยมาเข้าจมูก


ผมประทับใจตั้งแต่ชื่อ แม่แดด แล้วหละ ทางบ้านผมมี 'ป่าแดด' แต่นี่แม่เลย นึกภาพแดดเต้นเป็นตัวยิบ ๆ แจ่มหลวงแล้วยังมีแจ่มน้อย แม่สาบ ดงสามหมื่น นาจร


ดงสามหมื่น เป็นหมู่บ้านชาวม้ง ชื่อมีที่มาจากภาษาม้งคือ 'ยงซ้างเหม้ง' ซึ่งหมายถึง ภูเขาสามลูกมาชนกัน เป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รีที่มีชื่อเสียง น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะผมเห็นมีป้าย กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนดงสามหมื่น


ที่ผมชอบสุด ๆ บ้าน ยั้งเมิน (หมายถึงหยุดนาน) นึกภาพออกเลยว่าทำไมชอบชื่อนี้ ก่อนถึงบ้านนี้ ผมไปจอดพักรถที่ร้านชาวเขาเพราะหิวข้าวตาลาย ตะวันรอนแล้ว ข้าวกลางวันยังไม่ตกท้องเลย เขาปิ้งไก่ควันฉุย แต่ดันเป็นตูดไก่ซะนี่ เลยได้แต่น้ำเปล่าขวดใหญ่มาไล่กรดในกระเพาะ


ถามเขาว่าอีกนานไหมจะถึงสะเมิง เขาบอก "บ่ เมิน แหมน้อยเดียวก็เถิงแล้ว" ไม่นานนิดเดียวก็ถึงแล้วของชาวเขา ถึงสะเมิงเอามืดพอดี


ใคร่ครวญแล้ว เส้นทางก่อนถึงบ้านยั้งเมินนี้ ยากลำบากสุด ๆ (ช่วงที่ผมไป ถนนกำลังเร่งสร้าง) พ้นเขาสูงดอยชันมาได้ ก็สมควร-ต้องหยุดพักถอนใจ หรือ 'ยั้งเมิน' ดื่มน้ำท่า ยืดแข้งขาให้หายอิดอ่อนเป็นธรรมดา


คงนั่นแหละคือที่มาของชื่อบ้าน 'ยั้งเมิน'


เขียนสิ่งละอันพันละน้อยนี้แล้ว ให้คิดถึงคุณขึ้นมาจริง ๆ ล่ะสิ เพราะถ้ามีคุณไปด้วย ผมก็อุ่นใจ ได้มีเพื่อนคุย และมีผู้ช่วยคอยบันทึกบทกวีที่คิดได้ คอยจดชื่อหมู่บ้านระหว่างทาง ถ่ายภาพทิวทัศน์ฝั่งตรงข้ามให้ ในขณะที่ไม่อาจจะจอดรถลงไปจัดการได้


นี่เสียใจจริง ผมวาดภาพนี้จากภาพถ่ายที่บันทึกมา จำไม่ได้ว่าลอมฟางนี้ที่ดงสามหมื่นหรือนาจรที่บ้านยั้งเมิน น่าจะเป็นที่หลังนะ เพราะชาวม้งเขาลอมฟางไว้บนแคร่ไม้ไผ่-ไม่ลอมฟางบนดินแบบชาวไทใหญ่หรือคมเมืองล้านนา



เรื่องและภาพ โดย พิบูลศักดิ์ ละครพล
จากคอลัมน์ "ผ่านตามาตรึงใจ" นสพ.กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์ ๒๑ ก..ย. ๒๕๕๗
เฟซบุคกรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์









คุณพิบูลศักดิ์ลงภาพสีน้ำงาม ๆ และถ้อยคำเพราะ ๆ ใน เฟซบุค
เห็นแล้วชอบมาก ๆ ขออนุญาตเอามารวมกับบล็อกนี้ด้วยกันค่ะ










รักฉันอย่างที่เป็นฉัน
หรืออย่างเธอฝันให้เป็น
ความจริงที่ใจมองเห็น
ฉันเป็นแค่ส่วนที่หาย


ดั่งสายรุ้งแห่งความฝัน
ในวันที่เธออ่อนไหว
เป็นดั่งสวนดอกไม้
ในความเดียวดายของเธอ













ดวงตาดอกไม้

โลกมิได้เศร้า แค่ร้าวข้างใน
เจ้าดวงดอกไม้ร้างกิ่งไกลก้าน
กลีบบางระหงคงอีกไม่นาน
สายลมชื่นบานจะพานพัดพา


พาเจ้าเริงไปในฟากฟ้ากว้าง
น้ำคำน้ำค้างบนทางปรารถนา
อ้อมกอดกวีดนตรีดาริกา
ปลอบโยนดวงตาว้าเหว่ดอกไม้


ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ ให้คำมั่นสัญญาทั้งที่หนังสือยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง
ขอบคุณที่ทำให้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา














All flowers are dead.
Only a sorrow lines,with
The grass seeds.


ดอกไม้ทั้งหลายตายไปสิ้น
เหลือแต่เพียงความเศร้า
นอนอยู่กับเมล็ดหญ้า


ไฮกุ ของ บาโช
สำนวนเเปลของ ส.รัตกสิกร

ART :WONTIST HANATIST














เงยหน้าขึ้น
จากเงาขมของหยาดน้ำตา
เอ่ยคำอำลาให้เต็มเสียง-คนอ่อนแอ
คนเราจะเป็นผู้แพ้ตลอดไป-ให้มันรู้ !


๑๗/๙/๕๗
ภาพ อินทนนท์
สีน้ำบนกระดาษ ขนาด ๒๘/๓๘ ช.ม.














เทือกเขาสีน้ำเงินแห่งเดือนกันยายน
ยวงหมอกฝนกรุ่นกร่นกระไอเยือก
หัวใจฉัน เปียกชื้นหยาดน้ำตา

17/9/2014
art wontist hanatist














เมื่อเส้นผมของฉันเป็นสีเทา
ความรักอันแก่เก่า
ก็ตกกระ

๑๗/๙/๒o๑๔
ภาพเขียน ทุ่งเปลี่ยว ๒o๑๓
สีอะคริลิคบนกระดาษ 23 x 30 cm.














เงาเมฆสีครามของความทรงจำ
ที่ไม่เคยจาง
ดอกไม้กลีบบาง
ร่วงคว้างในสายลม
บางที.....







บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะค่ะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า กรอบจากคุณsomjaidean100

Free TextEditor




Create Date : 23 กันยายน 2557
Last Update : 23 กันยายน 2557 23:38:25 น. 0 comments
Counter : 2750 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.