happy memories
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
2 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
บางปะกง




บางปะกง - เพ็ญศรี พุ่มชูศรี




บางปะกง
คำร้อง - ทำนอง นคร มังคลายน

ฝั่งชายน้ำบางปะกง
ยามแสงอาทิตย์อัสดง
ใกล้จะค่ำลงแล้วหนา
แต่บางปะกงนั้นยังคงสวยงามตา
คราใกล้สนธยายิ่งพาให้เราสุขสันต์

แดดจวนลับลงรำไร
มองเห็นเรือน้อยล่องลอยไป
ตื่นใจดังยลธารสวรรค์
เยือกเย็นสายลมพริ้วพรมอย่างนี้ทุกวัน
ธรรมชาติยามสายัณห์
ได้เห็นแล้วลืมไม่ลง

แม้นจากไปอยู่ไกลแสน
ก็ไม่ขอลืมแดนที่เคยปักใจลุ่มหลง
จะเฝ้าแต่ฝันถึงอาทิตย์อัสดง
ชายฝั่งบางปะกง นั้นลืมไม่ลงแน่เอย

โอ้งามแท้บางปะกง
ใครได้เห็นเมื่ออัสดง
ก็คงสุดกล่าวคำเฉลย
ยากจะกล่าวชมให้สมความงามนั้นเลย
เพลงที่กล่าวภิเปรยไม่ถึงแม้เพียงครึ่งเดียว




อัดแผ่นเสียงครั้งแรก


ต่อมา เด็กหญิงผ่องศรีไปติดต่อคุณศิวะ วรนาฏตามที่อยู่ในจดหมาย ผลที่ได้รับก็คือ “ท่านก็สอนร้องเพลงให้ ให้อุปกรณ์ตัดเสื้อผ้า เรียกว่าให้มันดูดีกว่าที่เป็นอยู่ จากนั้นก็เริ่มร้องเพลงอัดแผ่นเสียง...”

ตอนนั้นเองที่เด็กหญิงผ่องศรี เปลี่ยนชื่อเป็นเพ็ญศรี โดยคุณศิวะ วรนาฏจัดการให้ ด้วยเหตุผลว่า “ชื่อผ่องศรีมันเชย” เพลงแรกที่อัดแผ่นเสียงได้แก่ ศีลธรรมทั้งห้า ซึ่งครูศิวะ วรนาฏแต่งเนื้อร้องและทำนองเอง และชื่อของผู้ขับร้องที่ปรากฏบนแผ่นเสียงก็คือ เด็กหญิงผ่องศรี วรนาฏ อัตราค่าเสียงแผ่นแรกที่ได้รับคือ ๕ บาท ซึ่งสำหรับ พ.ศ. ๒๔๘๔ นับว่าไม่ใช่น้อย ยิ่งสำหรับเด็กหญิงเพ็ญศรี พุ่มชูศรีด้วยแล้ว ต้องถือว่ามากเกินคาด

เด็กหญิงเพ็ญศรี พุ่มชูศรีจึงตื่นเต้นกับเงินค่าอัดแผ่นเสียง ๕ บาทมาก เป็นเพลงสอนใจที่เหมาะกับเยาวชนมาก ศีลห้าท่านว่าไว้ เป็นคติเตือนใจ ชวนให้จดจำ ถ้าใครไม่รู้หนูจะขอแนะนำ ตามถ้อยคำที่ท่านสอนไว้...”





ร้องเพลงแทนคุณ


แต่ชีวิตต้องทดสอบชีวิต การเริ่มต้นไม่ได้ง่ายราวกับเดินบนกลีบกุหลาบ ในปีที่ได้อัดแผ่นเสียงแผ่นแรกในชีวิตอันเป็นความตื่นเต้นที่สุด ก็เป็นปีที่ครอบครัวของเธอก็ต้องประสบกับความทุกข์แสนสาหัส ดัวยเหตุที่พ่อของเธอประสบอุบัติเหตุ คุณเพ็ญศรีเล่าว่า
“ตอนนั้นพ่อเป็นพนักงานเทศบาล วันที่พ่อเจ็บหนัก คือพ.ศ. ๒๔๘๔ วันที่ ๑๑ มิถุนายน พ่อไปติดป้ายผ้าวันชาติที่สะพานโค้งบางลำพูซึ่งเป็นเหล็ก ฝั่งตรงข้ามกับธนาคาร สมัยก่อนตรงนั้นมีสายไฟ ๓,๕oo โวลท์ พ่อไปติดป้ายผ้ากับคนงานคนหนึ่ง ที่จริงไม่ใช่หน้าที่ด้วยซ้ำแต่อาศัยว่าเคยทำงานนี้มาก่อน พอคนงานโยนเชือกขึ้นไปใหม่ พ่อก็จับเอาสายไฟเข้า คนรถเขาเห็นก็กระตุกเชือกผูกเอว พ่อก็ครูดลงมากับราวสะพาน เชิงกรานหัก ตอนนั้นพ่อเป็นพนักงานเทศบาลเขาก็รักษาให้หกเดือน เนื้อมันก็เน่าเขาต้องตัดแขนไปข้างหนึ่ง...”

ความเจ็บป่วยที่ไม่ธรรมดาทำให้ค่ารักษาพยาบาลแพงจนน่าใจหาย ลำพังแต่การประกอบอาชีพของแม่ และความช่วยเหลือจากทางราชการตามระเบียบที่มีข้อจำกัดมากก็ไม่อาจเพียงพอได้ แต่ใครเลยจะนึกว่าจะเด็กหญิงเพ็ญศรีผู้มีเสียงเป็นพรสวรรค์จะอาศัย “เสียงสวรรค์” ของเธอแทนค่ารักษาพยาบาลได้

เธอบอกกับนายแพทย์สมหวัง ฉายะจินดา ผู้รักษาพยาบาล คุณพ่อของเธอว่า “ไม่มีเงิน” ทางออกของของหมอผู้รับรู้ปัญหาของคนไข้ก็คือ

“เธอเอาดิฉันไปที่บ้านไปร้องเพลงให้พ่อท่านฟังบ้าง เลยได้รู้จักกับชูวงศ์ ฉายะจินดาเพราะเธอเป็นน้องสาวของนายแพทย์สมหวัง หรือบางทีก็ไปร้องที่โรงพยาบาลบ้าง ร้องทุกวันหลังอาหาร หมอพยาบาลจะกินข้าวด้วยกันแล้วดิฉันก็ร้องเพลงให้ท่านฟัง พ่อก็เลยได้เป็นคนไข้พิเศษ ตอนนั้นอัดเสียงแล้วนะ อายุ ๑๒-๑๓ ประทับใจมาก หมอเขาไม่คิดค่ายา หมอเขาออกให้แลกกับเสียงร้องเพลงก็ประมาณ ๑oo กว่าบาท เมื่อพ.ศ. ๒๔๘๔ ถือว่าเยอะมาก...”





ร้องเพลงในค่ายญี่ปุ่น


เพราะพ่อถูกตัดแขนข้างหนึ่ง ภาระในการดูแลครอบครัวจึงมาตกอยู่ที่แม่และลูกสาว พ.ศ.๒๔๘๕ เป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนไทยลำบากแร้นแค้นไปทั่ว ในช่วงนั้นทหารญี่ปุ่นได้ยกทัพเข้ามาถึงประเทศไทยแล้ว โดยหวังเอาประเทศไทยเป็นทางเดินทัพผ่าน ทหารญี่ปุ่นเข้ามาตั้งค่ายอยู่ในประเทศไทยตามจุดต่างๆ บริษัทญี่ปุ่นที่เคยทำกิจการต่าง ๆ ในประเทศไทยก็เปลี่ยนไปช่วยสนับสนุนการรบ คุณเพ็ญศรีเล่าว่า

“ตอนนั้นบริษัทมิตซุยเป็นบริษัทขายพัดลม อยู่ดีๆพอเกิดสงครามโลก ญี่ปุ่นบุกเข้ามาเจ้าของบริษัทกลายเป็นนายพันโททันที ยังจำได้บริษัทมันไปจ้างคนไทยเย็บเสื้อชุดทหารมากมาย...”

แม้สงครามจะร้ายกาจเพียงใดแต่ในบทหนึ่งของชีวิตเด็กหญิงเพ็ญศรี พุ่มชูศรี คือช่วงชีวิตที่น่าจดจำ เพราะเป็นช่วงชีวิตหนึ่งของเธอที่สุขสบายกว่าผู้เผชิญสงคราม โดยทั่วไปกล่าวคือ บริษัทมิตซุยได้ว่าจ้างเด็กหญิงเพ็ญศรีให้ไปร้องเพลงให้ทหารญี่ปุ่นฟังตามค่าย

เพลงที่ร้องก็คือเพลงภาษาญี่ปุ่น โดยมีคนญี่ปุ่นไปสอนให้ร้องก่อน จากนั้น เด็กหญิงเพ็ญศรีก็ต้องอาศัยทักษะในการร้องเพลงที่มีอยู่ก่อนแล้วผสมผสานเข้าไป เมื่อจับไมโครโฟนขับร้องเพลงแล้ว ไม่ว่าคนฟังจะเป็นชนชาติใดในสายตาของเด็กหญิงเพ็ญศรีในขณะนั้น เขาคือคนฟังเพลงของเธอ ที่เธอจะต้องให้ความสุขอันเกิดจากเสียงของเธอเท่าเทียมกัน คุณเพ็ญศรีจำชื่อเพลงไม่ได้ จำเพลงที่ร้องไม่ได้ แถมยังเป็นภาษาญีปุ่นอีก เธอบอกว่า “มันนานมาแล้ว...”

เมื่อย้อนกลับไปมองอดีต แม้จะรู้ดีว่าการกรีฑาทัพของญี่ปุนก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประเทศไทยไม่น้อย แต่คุณเพ็ญศรีก็รู้ดีว่าสำหรับเด็กหญิงวัย ๑๔ ผู้ต้องจุนเจือทางบ้าน รายได้ที่ได้จากการร้องเพลงเดือนละ ๔๕ บาท กับวันเสาร์อาทิตย์ ยังได้ค่าล่วงเวลาวันละ ๑.๕o บาท ทำให้เธอแทบจะลืมความโหดร้ายกาจของกองทัพญี่ปุ่นไปเลย





สองครูชูเชิด


ในช่วงที่ร้องเพลงให้ทหารญี่ปุ่นฟังนี่เอง เด็กหญิงเพ็ญศรีได้มีโอกาสรู้จักกับครูเอื้อ สุนทรสนาน และครูเวส สุนทรจามร รวมทั้งครูเพลงอีกหลายๆท่าน เพราะตอนนั้นวงดนตรีที่เข้าไปเล่นเพลงให้ทหารญี่ปุ่นฟัง คือวงดนตรีไทยที่มีครูเพลงเหล่านี้เล่นดนตรีอยู่ คนที่เป็นหัวหน้าวงก็คือคุณชิแกร่า นักเปียโนมือหนึ่งผู้เป็นบิดาของคุณแมนรัตน์ ศรีกรานนท์นั่นเอง

ปี ๒๔๘๗ เมื่ออายุได้ ๑๕ ปี ครูเวส สุนทรจามรซึ่งเคยให้ความช่วยเหลือฝึกสอนขับร้องเพลงมาก่อนแล้ว ได้พาเด็กหญิงเพ็ญศรี นางสาวหมาดๆไปทดสอบเสียงที่วงดนตรีทหารเรือ สภาพของนางสาวเพ็ญศรีตอนนั้นที่ยังไม่พ้นคราบเด็กหญิงเท่าไหร่นัก ทำให้ครูเวสอดขำไม่ได้ เขาบอกกับเธอว่า “แกต้องเป็นสาวนะ” แล้วก็พยายามอย่างยิ่งที่จะปลอมแปลงให้เด็กหญิงอายุสิบห้าดูมีอายุมากกว่าที่เป็นจริง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วนางสาวเพ็ญศรีก็คงจะไม่ได้งานทำ การทดสอบครั้งนั้นทำให้นางสาวเพ็ญศรีได้เป็นลูกจ้างร้องเพลงอยู่กับวงดนตรีทหารเรือในฐานะนักร้องฝึกหัดอยู่ ๕ เดือนโดยได้รับค่าจ้างเดือนละ ๕ บาท

ต่อมาในปีที่เกิดน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ ขณะพายเรือจ๋อมๆอยู่นั้นสาวน้อยเพ็ญศรีก็ได้พบกับครูเอื้อ สนุทรสนานโดยบังเอิญ “ไปร้องเพลงด้วยกันไหม” นั่นเป็นคำชวนจากครูเพลงถึงสาวน้อยที่มี “เสียง” เป็นรูปสมบัติอันเลิศสุด คำชวนจากครูเอื้อ สนุทรสนาน ข้าราชการหัวหน้าวงดนตรีในสมัยนั้น ทำให้นางสาวเพ็ญศรีไปสมัครเข้ารับราชการในกรมโฆษณาการอย่างง่ายดาย และด้วยเหตุที่มีอายุเพียง ๑๕ ปี จึงมีการแก้ไขประวัติของเธอเปลี่ยนปีเกิดจากพ.ศ. ๒๕๗๒ เป็น ๒๔๖๖ แทน ทำให้เธอมีอายุตามทะเบียนประวัติถึง ๒๑ ปี ทั้งที่ในความจริงเธออายุเพียง ๑๕ ปี

นางสาวเพ็ญศรีได้เริ่มต้นด้วยการเป็นลูกจ้าง รับเงินเดือนๆละ ๓o บาท และเริ่มต้นใช้เสียงที่เป็นพรสวรรค์พิเศษของเธอรับใช้ประเทศนับแต่นั้นมา





รัตนศิลป์กับ “เสียงสะอื้น”


ต่อมาครูแก้ว อัจฉริยะกุลซึ่งเป็นลูกวงคนหนึ่งของวงดนตรีกรมโฆษณาการ ได้ตั้งวงดนตรีส่วนตัวขึ้นชื่อว่า “รัตนศิลป์” นางสาวเพ็ญศนีจึงได้ออกร้องเพลงบนเวทีอาชีพครั้งแรกที่โรงหนังพัฒนาการ ถนนเจริญกรุง

เพลงแรกบทเวทีอาชีพครั้งแรกนี้คือ “เสียงสะอื้น” ซึ่งครูเอื้อ สุนทรสนาน และครูแก้ว อัจฉริยะกุลประพันธ์ร่วมกัน

“เสียงสะอื้น” ซึ่งทำให้นางสาวเพ็ญศรีไม่ “สะอื้น” ในชีวิต เพราะเป็นก้าวแรกที่ทำให้เธอได้เปิดทางสู่โลกนักร้องอาชีพ และยังโด่งดังบนเวทีด้วยเพลง “ศรกามเทพ” และ “รักแม่เอ๊ย” ภาพของเธอที่ผู้ฟังเห็นบนเวทีคือ สาวน้อยในกระโปรงสีเหลือดูสวยเย็นราวกับเพ็ญพระจันทร์ ความที่ผู้เป็นแม่มีฝีมือในทางตัดเย็บอยู่บ้าง ถ้าร้องเพลงกลางวันชุดกระโปรงสีเหลือ คอกระเบื้องตัวเก่งก็จะถูกสอยชายขึ้นเป็นกระโปรงสั้น แต่ถ้าเป็นกลางคืนชายกระโปรงก็จะถูกเราะลงกลายเป็นกระโปรงยาว เสียงที่หวานใสไม่เหมือนใคร ทำให้สาวน้อยกระโปรงสีเหลืองบนเวทีดูราวกับพระจันทร์ในคืนฟ้าสีน้ำเงิน







เพลงศีลธรรมทั้งห้า หรือ เพลงศีลห้า
คำร้อง-ทำนอง: ศิวะ วรนาฏ



ศีลห้าท่านว่าไว้ เป็นคติเตือนใจชวนให้จดจำ
ถ้าใครไม่รู้หนูจะขอแนะนำ ตามถ้อยคำที่ท่านสอนไว้
ปาณา ท่านว่าอย่าทำบาป อย่าทำการหยาบที่ชั่วร้าย
อย่าทรมานประหัตประหารสัตว์ทั้งหลาย
ทั้งน้อยและใหญ่เราต้องมีใจเมตตา
อทินนา ท่านว่าอย่าละโมบ
อย่าเที่ยวทำโลภลักของเขามา
เป็นการผิดร้ายทั้งในศาสนาและทางอาญาของบ้านเมือง
มุสา ห้ามพูดปด พูดเลี้ยวลดไม่เป็นเรื่อง
ก่อให้แค้นเคือง ในเมื่อเรื่องนั้นไม่จริง
กาเมสุมิจฉา คือตัณหาของชายหญิง
อย่าใฝ่ประวิง เพราะเป็นสิ่งบังดวงตา
ศีลข้อสุดท้าย เป็นของร้ายคือ สุรา
ท่านห้ามนักหนา ห้ามว่าอย่าเมามาย
ฟัง ฟังหนูเล่า แล้วอย่าเขลาช่างงมงาย
ชั่วเร่งทำลาย จงเหลือไว้แต่ความดี





บีจีจากคุณยายกุ๊กไก่ ไลน์จากคุณญามี่

Free TextEditor





Create Date : 02 มีนาคม 2551
Last Update : 3 สิงหาคม 2556 19:34:20 น. 37 comments
Counter : 3266 Pageviews.

 
ค่าอัดแผ่นเสียง 5 บาท มันทำให้รู้เลยว่านานขนาดไหน..

ฟังเพลงตอนบ่าย พาลเคลิ้มตาจะปิดเอาได้ง่ายๆ นะเนี่ย..

หน้าปกเทป...น่ารักเชียว สมัยนี้หาเด็กใส่ชุดแบบนั้นไม่ค่อยได้แล้วเนอะ..

จำได้สมัยเด็กๆ เคยใส่ชุดแบบนั้นไปยกขันหมากให้น้าชายด้วย แต่ไม่ได้ทำผมทรงนั้นนะ...


โดย: กวางตุ้งหวาน วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:16:54:51 น.  

 
ไวจริงๆ แวะมาเจิมก่อนใครเลยนะตุ้ง

ก็สมัยป้าโจ๊วเด็กๆน่ะ ห้าหกสิบปีได้แล้วล่ะ ห้าบาทสมัยนั้นก็แพงโขเลยแหละ

ทำใจหน่อยเน้อ บล๊อคนี้เอาใจคนแก่ เอ้ย ผู้สูงวัย เพลงก็ต้องก่าวๆแบบนี้แหละ ช่วงนี้คงขยันอัพหน่อย กะว่าจะอัพเรื่องป้าโจ๊วให้จบแล้วค่อยอัพเรื่องอื่น

หูย อยากเห็นสาวน้อยตุ้งใส่ชุดโจงกระเบนอ่ะ คงน่ารักน่าดู


โดย: haiku วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:18:19:30 น.  

 
ชอบเพลงบางปะกงมากๆครับ
แต่มาได้ฟังเสียงร้องของคุณอรวี สัจจานนท์ครับ
สมัยเยื่อไม้....

.............

ขอบคุณสำหรับคำชมครับคุณไฮกุ

บล็อกครูจรัล อยู่ในระหว่างนำเพลงลงบล็อก (ผมขออนุญาตเว็บจรัลแล้วครับ)
และรอเรียบเรียงเนื้อร้องของครูทั้งหมดอยู่ครับ

งานใหญ่เหมือนกันครับ
แต่ปีนี้ต้องทำให้ได้ครับ
สัฐฐากับตัวเองไว้แล้ว
เสร็จเมือ่ไหร่จะมาเคาะประตูบอกเลยครับ
เพราะรู้ว่าคุณไฮกุก็ชอบครูจรัลเหมือนกัน



โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:19:40:56 น.  

 
ใช่ๆๆๆ อยากเห็นตุ้งใส่จูงกะเบน

เพลงนี้เคยได้ยินนี่ ดังน่าดู เพลงแบบนี้ได้ยินเฉพาะตอนร้องคาราโอเกะกะคนแก่ เอ้ย ญาติผู้ใหญ่ อิอิ วันหลังมีสมาธิจะมาอ่านประวัติอีกทีนะจ๊ะ


ขอบคุณไฮกุด้วยนะจ๊ะที่ไปทักทายกันเสมอ ๆ ช่วงนี้ชิดไม่ได้ไปบลอกเพิ่นๆ เท่าไร แต่ยังอยากอัพบลอกตัวเองอยู่


โดย: ชิด-ชิด เข้ามาอีกหน่อย วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:19:55:58 น.  

 
ศิลปินสมัยก่อนต้องยอมรับกันเลยค่ะว่า
ไม่ได้มาเป็นกันได้ง่ายๆ นอกจากจะมีความสามารถ
แล้วก็ต้องอาศัยโอกาส ซึ่งที่สามารถทำได้ก็เพราะว่า
ได้มีเหตุการณ์ที่จะต้องแสดงความสามารถออกมา ...
น่าชื่นชมยกย่องครูเพลงทั้งหลายมากๆ เลยคะ ...


เมื่อก่อนได้เข้าเกะกับแม่บ้าง เค้าก็เอาเพลงเก่าๆ ของคุณ
เพ็ญศรี มาร้องเหมือนกันคะ เราก็เลยรับเอาเพลงของคุณเพ็ญศรีเค้า
พอไหวเหมือนกัน ถึงจะร้องได้ไม่เท่าแต่ว่าก็ใจเต็มร้อยเหมือนกันนะคะ ...


(หน้าไม่ให้แต่ว่าใจรักเพลงเก่าเหมือนกันค่ะ)


โดย: JewNid วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:20:36:53 น.  

 

Glitter Graphics


มาส่งเข้านอนค่ะ

ฮ๊ะ...เสียงเด็กนั่นน่ะป้า
โจ๊วเหรอคะ?...



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ... (fifty-four ) วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:21:42:28 น.  

 
ได้ฟังเรื่องราวดีๆอีกแล้ว

เห็นได้ว่า กว่าที่จะมาถึงจุดนี้ได้
ต้องผ่านเรื่องราวมามากมาย
โชคดีครั้งคราว และพรสวรรค์ คงไม่สามารถประสบความสำเร็จ
ถ้าขาดความมุมานะพยายาม
และ จิตใจที่จะสู้ชีวิตต่อ
แม้จะเผชิญเรื่องราวเลวร้าย ดังที่ว่า

แวะมาเยี่ยมอ่ะครับ
คิดว่าคงกลับมาเป็นปกติ
ในไม่ช้า แหะ แหะ


โดย: TzOzOzN วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:22:00:20 น.  

 
คุณไฮกุ รู้จักศิงปินรุ่นก่อนเย๊อะจังเลย น่ะค่ะ ดีจังค่ะสมัยนี้หายากน่ะค่ะ มีแต่เพลงที่ฟังแล้วมีแต่เสียงดนตรีกลบเสียงนักร้อง เลยรู้เลยว่า ที่แท้เสียงร้อง..... เลยต้องเอาเสียงดนตรีกลบ


โดย: pukpui_s วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:22:09:11 น.  

 
เพลงเพราะดีนะครับ

เดวแวะมาบ่อยๆ นะครับ


โดย: บิวเอง IP: 125.26.145.227 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:22:46:02 น.  

 




สวัสดีตอนเย็นๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


แม้กายไกลสุดฟ้าลับตา
ไม่เกินใจจะคอยห่วงหา
ไม่เกินมิตรภาพฝากไว้คำนึง
ไม่เกินกาลรำพึงคิดถึงเธอ


** มีความสุขและสนุกกับวันแรกของการทำงานนะจ้า **


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:0:41:43 น.  

 
โอ้..ขอบคุณค่ะ อ่านเพลินเช่นเคย

ยังมีตอนต่อใช่มั้ยคะ?

เสียดาย คอมฯ ที่ทำงานไม่มีลำโพง ไม่อย่างนั้นคงได้ฟังเพลงด้วยค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:8:55:20 น.  

 
เพลงเดียวกันแต่ต่างคนร้องก็ทำให้งานต่างกันนะคะ มีคนทำเรื่องศิลปินระดับครูเอาไว้แบบนี้ ก็ดีก้ะ


โดย: angy_11 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:11:41:52 น.  

 
เข้ามาฟัง บางปะกง ค่ะ


โดย: ป้ามด วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:13:23:21 น.  

 
อ้าวก็ว่าพี่หายไปไหน เป็นไข้หวัดหรือครับ ขอให้ฟื้นมีกำลังมาเหมือนเดิมนะครับ


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:15:53:55 น.  

 
คนเลิกเก็กหล่อมาเก็กเสียงแทน ...คุณอรวีเป็นสาวเสียงดีมากนะ เราก็ชอบเธอ เป็นนักร้องสมัยใหม่ที่ร้องเพลงเก่าๆได้ดีที่สุดคนนึงเลยแหละ เสียงหวานจริงๆ ร้องเอื้อนแบบนักร้องรุ่นก่อนได้ไม่เพี้ยน

คุณก๋าเสียงดีจริงๆน้า เป็นคนเหนือด้วย ร้องเพลงของอ้ายจรัลแล้วเสียงคล้ายต้นฉบับเลยอ่ะ

เราชอบเพลงของอ้ายจรัลมาตั้งแต่ได้ฟังเพลงชุดแรก สมัยยังเป็นนักเรียนอยู่เลย ซื้อเป็นเทปคาสเซ็ทด้วยน้า ติดตามผลงานของแกมาตลอด แต่ละเพลงจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจ มีเอกลักษณ์ ถึงจะฟังไม่รู้ความหมายทั้งหมดแต่ก็เพราะมาก ฟังได้เพลินจริงๆ เห็นคุณก๋าตั้งบล๊อคคุณจรัลแล้วอยากอ่านมากเลยค่ะ เพราะคิดว่าคงมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอ้ายจรัลและมีอะไรน่าสนใจให้อ่านเยอะแน่ๆ รอวันได้อ่านบล๊อคด้วยใจจดจ่อค่า

ชิด...เพลงนี้ได้ยินกันบ่อย ที่จริงจะเลือกเพลงที่ไม่ค่อยจะมีคนได้ยินมาเก็บไว้ในบล๊อค แต่เลือกเพลงนี้เพราะป้ามดพูดถึงเลยคิดถึงน่ะ

ดีใจที่ชิดกลับมาอัพบล๊อคอีกนะ ถ้าไม่มีเวลาก็อัพสั้นๆหรือจะดองนานหน่อยก็ไม่ว่ากันจ๊ะ

คุณนิด...สมัยก่อนคนจะเป็นนักร้องหาโอกาสแสดงออกได้ยาก แล้วเสียงต้องดีจริงๆถึงจะได้เป็นนักร้อง แต่ก็ดีอยู่อย่างคือถึงหน้าไม่สวยไม่หล่อก็มีโอกาส(อย่างป้าโจ๊วนี่ไง) ผิดกับยุคนี้ต้องหน้าตาดีมาก่อน เรื่องเสียงเป็นเรื่องรองไป นักร้องหน้าตาดีเราก็ชอบอยู่หรอก แต่เราว่าเสียงดีจะอยู่ได้นานกว่าอ่ะนะ

เพลงป้าโจ๊วเราฟังอย่างเดียว ร้องตามไม่ไหวเหมือนกัน เพราเสียงไม่ถึง ตะละเพลงร้องยากสุดๆ ไว้บล๊อคหน้าจะให้ฟังเพลงที่ร้องยากสุดๆเพลงนึงของป้าโจ๊วค่ะ

ป้าหู้...แม่นแล้วค่ะคุณป้า เพลงศีลห้านั่นป้าโจ๊วร้องเพลงอัดแผ่นเสียงเป็นเพลงแรกค่ะ ตอนนั้นอายุแค่สิบเอ็ดสิบสองขวบเองค่ะ

ใครอยากฟังเสียงป้าโจ๊วตอนเด็กก็จิ้มฟังเพลงศีลห้าท้ายบล๊อคได้เลยจ๊ะ

คุณตูน...ป้าโจ๊วมีโอกาสเป็นนักร้องได้ง่ายกว่าคนอื่นเพราะเสียงอันเป็นพรสวรรค์อันเลิศ เวลาโอกาสวิ่งเข้าหา ท่านก็ไม่ปล่อยให้ผ่านไป เมืองไทยเลยถึงได้มีศิลปินนักร้องคุณภาพดีที่สุดคนหนึ่งประดับวงการเพลง ความทุกข์ยากอันหนักหน่วงจะเข้ามาให้ชีวิตท่านเป็นช่วงที่แต่งงานไปแล้ว และช่วงนั้นท่านได้อัดเพลงเศร้าสุดๆที่เราชอบมากที่สุดเพลงนึงค่ะ

คุณปุย...แหม ถูกใจคุณปุยเม้าท์ถึงนักร้องสมัยนี้ อย่างที่เราบอกแหละที่เสียงไม่ค่อยจะให้ก็เป็นนักร้องได้ ขอให้หน้าตาดีก็เป็นนักร้องได้ไม่ยาก แล้วที่ไม่ชอบอีกอย่างคือ แค่ร้องเพลงชุดเดียว(ที่ยังทำไม่ได้ดี) ก็เรียกว่าตัวเองเป็นศิลปินได้ไม่อายปากเลย ก็ในเมื่อยังไม่รู้ว่าเพลงที่เพราะเป็นยังไงก็ไม่สมควรเรียกตัวเองแบบนั้นอ่ะนะ (บ่นมากอีกแล้วตู )

เราชอบฟังเพลงเก่าๆก็เลยรู้จักศิลปินรุ่นก่อนเยอะจ๊ะ ชอบทั้งลูกกรุงลูกทุ่ง ยิ่งเก่าก็ยิ่งชอบ มีโครงการว่าจะทำบล๊อคเพลงเก่าอยู่ค่ะ

บิวเอง...ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ ถ้ามีบล๊อค คราวหน้าก็ลอคอินด้วยนะคะ จะได้แวะไปเยี่ยมบ้าง

นัท...ดอกไม้สวยจังจ๊ะ ดูคล้ายดอกกล้วยไม้แต่คิดว่าคงไม่ใช่

สาวไกด์...ยังมีต่ออีกสักสองสามบล๊อคค่ะ ไว้มาอ่านต่ออีกนะคะ

เราว่าคนเขียนน่าจะใช่คุณไพริน รุ้งรัตน์นะคะ แต่ไม่แน่ใจเพราะไม่ได้พิมพ์บอกไว้ มีแต่รูปติดไว้ที่หน้าแรก

จี้...ป้าโจ๊วเป็นศิลปินระดับครูอย่างจี้ว่าจริงๆแหละ หาใครร้องได้ดีขนาดนี้ไม่มีอีกแล้วล่ะ

ป้ามด...เห็นป้ามดชอบเลยจัดให้ค่า

Bach…เป็นทั้งหวัดทั้งหลอดลมอักเสบแต่หายเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อวานก็ป่วยกระทันหันอีกเพราะอยู่ดีๆก็ปวดหัวเหมือนใครมาบีบสมอง นึกว่าไข้กลับเพราะปวดหัวเหมือนตอนเป็นหวัดเลย ต้องรีบไปรพ. หมอตรวจแล้วบอกว่าเป็นไมเกรน ทำเอาพี่เป็นงงซิเพราะไม่เคยเมีอาการมาก่อน คิดว่าคงเป็นอาการสะสมที่นอนน้อย หมอฉีดยาเข้าสะโพกเข็มนึงแล้วให้นอนพักสิบห้านาที อาการก็ทุเลา ช่วงนี้เลยเหมือนคนขี้โรคต้องกินยาอยู่เรื่อย


โดย: haiku วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:18:59:05 น.  

 
ต้องมาเฉลยให้คุณไฮกุทราบว่าผมไม่ใช่คนเหนือครับ 555
เป็นคนกรุงเทพ อยู่กรุงเทพถึง 11 ขวบครับ
แล้วค่อยมาโตที่เชียงใหม่

ถ้าร้องเพลงครูด้วยความเคารพ
เส้นเสียงคงไม่หนีไปจากนี้ล่ะครับ

ข้อมูลเชิงลึกของครูผมแทบไม่มีครับ
ส่วนใหญ่ถ้าอยากรู้คุณไฮกุเข้าไปที่เว็บครูจรัลได้เลยครับ
อันนั้นน่ะลึกแน่นอน
เพราะคุณมานิดอยู่กับครูจวบจนลมหายใจสุดท้ายเลยครับ

ถามอะไรแกตอบได้หมดครับ
ใจดีมากๆ เป็นผู้ใหญ่ใจดีที่น่าเคารพมากครับ
ได้เจอคุณมานิดหลายครั้งแล้วครับ
เป็นคนที่มอบแต่สิ่งดีดีให้ผมมาตลอดครับ

บล้อกที่ผมทำจะเน้นไปที่เพลงกับเนื้อเพลงของครูมากกว่าครับ

กะว่าจะลงให้ครบทุกเพลงของครูน่ะครับ

แต่อยู่ระหว่างการทำข้อมูลอยู่ครับ
เสร็จเมื่อไหร่จะมาเคาะประตูบอกทันทีเลยครับ



โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:20:16:10 น.  

 
อ่านรายละเอียดแล้วชีวิตคุณเพ็ญศรี พุ่มชูศรี
นี่สู้ชีวิตมาตลอดเลยนะครับ
จะว่าไปเงิน ห้าบาทสมัยนั้นสำหรับเด็กๆที่หารายได้เองถือว่าไม่น้อยนะ
จำได้ขนาดผมยังทัน สมัยก้วยเตี๋ยวชามละ ห้าสิบสตางค์ เลย


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:20:56:57 น.  

 
อ่านแล้ว นับถือจริงๆค่ะ

ชีวิตน่าสนใจมากๆ

น้ำเสียงไพเราะจริงๆเลยนะคะ

ขอฟังหลายรอบๆหน่อยนะคะ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:21:56:21 น.  

 
หวัดดีจ้าไฮกุ

อะโห....
กว่าจะเป็นนักร้องแบบศิลปินแห่งชาติได้ขนาดนี้ ท่านผ่านการเดินบนทางที่เต็มไปด้วยหนามกุหลาบจริงๆเลยนะคะ สุดยอดเลย
อยากเห็นภาพสาวน้อยชุดกระโปรงเหลืองสมัยนั้นจังเลยนะคะ ต้องสวยมากแน่ๆ


โดย: PANDIN วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:11:26:10 น.  

 
กรอบรูปเก๋ไก๋นั้น
ใช้ photoscape ค่ะ
กูเกิลแล้วดาวน์โหลดได้เลย เป็นฟรีแวร์ ฮ่ะ


โดย: angy_11 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:11:37:49 น.  

 


สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า



หากความคิดถึงเหมือนยาดม
ฉันคงเป็นลมวันละหลายเวลา
ส่งความห่วงใยผ่าน Bloggang
หวังแค่คนรับได้คิดถึงกลับก็สุขใจ


** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะจ้า **


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:14:17:31 น.  

 
แวะมาฟังเพลงเก่าอีกรอบค่ะ


โดย: pukpui IP: 124.121.106.111 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:17:59:28 น.  

 


สวัสดีตอนเช้าค่ะมาฟังเพลงค่ะ
ขอบคุณมากๆ ที่นำมาฝากกันจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:7:51:19 น.  

 
มีเพลงเก่าๆอยากให้ฟังเหมือนกันครับ



โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:8:26:45 น.  

 



สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า

จะคิดถึง ห่วงใย เธอเสมอ
แม้จะไม่ได้พบกันในวันนี้
จะกี่วัน กี่เดือน หรื่อกี่ปี
ก็จะขอมีให้เธอ..ตลอดไป

** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะจ้า **


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:15:28:59 น.  

 
ไฮกุกะชิดคิดผิดซะแล้น ที่อยากเห็นเราใส่โจงกระเบน


โดย: กวางตุ้งหวาน วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:18:17:11 น.  

 
สวัสดีค่า คุณไฮกุ
คิดถึงๆๆๆ ค่า ขอบคุณนะค้าที่ไปเยี่ยมบล็อก(ร้างๆ)

ตอนนี้แถวบ้านดอกคูนบานแล้ว
เก็บดอกคูนมาฝากค่า


โดย: vee vee' วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:18:28:58 น.  

 
เพิ่งได้ยินเสียงเพลง
ศิลปินสมัยก่อนนี่สุดยอดไปเลย
อักขระชัดเจนสุดๆ แถมร้องได้ไพเราะด้วย


โดย: vee vee' วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:18:31:00 น.  

 
หายไปนานเพราะพาลูกศิษย์ไปดูงานที่เวียดนามค่ะ

เข้ามาเยี่ยมค่ะ


โดย: ปิ่นเดือน ครูดอย วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:11:02:20 น.  

 
จะเอ๊ะ ไฮกุ มาตามไปเที่ยวด้วยกันจ้า


โดย: ณ มน วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:11:05:24 น.  

 
ชอบเพลงนี้มากๆค่ะ




โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:11:29:52 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ
หายไปจากบล็อกนานมากเลยไม่ได้แวะมาทักทาย
ตอนนี้กลับมาแล้วก็เลยแวะมาหาหน่อยค่ะ
หวังว่าคงสบายดีนะคะ คิดถึงนะ


โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:15:59:08 น.  

 
ไฮกุจ๋า ณ มนมาแจ้งข่าวดีล่ะ 30มีนาคมนี้ช่วงบ่ายๆ จะไปแจกลายเซ็นที่งานหนังสือจ้า ถ้าว่างไปเจอกันให้ได้นะ


โดย: ณ มน วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:14:24:34 น.  

 
จำได้ว่าเคยฟังตอนเด็กๆอ่ะครับ
เสียงดีนะครับเนี่ย

enjoy your day


โดย: Holden Caulfield วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:16:40:22 น.  

 
พักนี้ดวงสุขภาพม่ายค่อยดีเลยหายไปหลายวันเพราะเปื่อยอีกรอบ ไมเกรนกำเริบฮ่ะ แถมมีอาการเจ็บตาเพิ่มอีก ทีแรกรู้สึกเคืองตาอยู่สองวันเลยไปหาหมอ หมอตรวจดูแล้วบอกว่ามีหินปูนขึ้นที่เปลือกตาต้องผ่าออก เคยได้ยินแต่หินปูนเกาะที่ฟัน เพิ่งรู้ว่าที่ตาก็เป็นได้ด้วย ดีที่ขนาดไม่ใหญ่มาก หมอฉีดยาชาแล้วก็ผ่าออก อาการเคืองหายเป็นปลิดทิ้ง แต่แย่หน่อยที่ไมเกรนเป็นแล้วไม่ยอมหายสักที หมดอารมณ์เล่นบล๊อคเลยหายศีรษะไปซะหลายวัน วันนี้อาการค่อยยังชั่วเลยแวะเข้าบล๊อค

บ่นเสร็จก็ตอบเม้นท์

คุณก๋า...อ้าว อิฉันปล่อยไก่อีกแล้ว เพิ่งรู้ว่าคุณก๋าเป็นคนกทม.เหมือนกัน แฮะๆ เห็นว่าอยู่เจียงใหม่ก็เลยนึกว่าเป็นจาวเหนือ

ดีจังที่คุณก๋าจะรวบรวมเนื้อเพลงของอ้ายจรัลไว้ ถึงจะเป็นบล๊อคที่มีแต่เนื้อเพลงก็ยากอยู่นา คงต้องขวนขวายหานานเลยกว่าจะได้ครบทุกเพลง เป็นกำลังใจให้ทำได้สำเร็จนะคะ

ลุงแอ๊ด&คุณยุ้ย...ช่วงชีวิตที่อ่านเป็นช่วงต้นของชีวิต ตอนเป็นเด็กก็ว่าสู้ชีวิตแล้ว แต่ยังไม่เท่าตอนที่ท่านต้องประสบเคราะห์กรรมหนัก ถึงขนาดต้องเข้าคุกด้วย อ่านแล้วรู้สึกเศร้ามากเลยค่ะ

ขอบคุณลุงแอ๊ดนะคะที่แวะมาชวนไปฟังเพลงเพราะ ชอบเสียงคุณนภา หวังในธรรมร้องเพลงนี้มากเลยค่ะ

อ๊อฟ...หวัดดีเจ้าค่ะ อ่านเม้นท์ของอ๊อฟแล้วนึกถึงเพลง “หนามชีวิต” ที่ป้าโจ๊วร้องเลยอ่ะ เพลงเพราะแล้วก็เศร้าสุดๆ ไว้อัพเพลงนี้แล้วจะแจ้นไปบอกนะ

จี้...ขอบคุณที่บอกจ๊ะ จี้แต่งบล๊อคได้เท่ดีน้า เราชอบจัง

ตุ้ง...คิดอีกที ถ้าให้เฮียใส่คงจะน่ารักกว่า 555

วี่...โห ดอกคูนกะลังงามเลย ขอบคุณมากที่เอามาฝากจ๊ะ

ใช่ๆ นักร้องรุ่นเก่าถ้าออกเสียงภาษาไทยปนฝาหรั่งอย่างนักร้องสมัยนี้ ไม่มีทางได้เกิดหรอก อ่านข่าวว่าอีกหน่อยจะให้ภาษาไทยเป็นวิชาเลือก เฮ้อ เป็นห่วงอนาคตของภาษาไทยจัง

ครูปิ่น...ดีใจที่ครูแวะมานะคะ ไม่ได้เจอกันนานเลย ไว้จะรออ่านบล๊อคพาเที่ยวเวียดนามค่า

ณ มน...ขอบคุณมากที่แวะมาบอก แล้วจะตามไปอ่านจ๊ะ

ณ มนจะไปที่บูธวันที่สามสิบเหรอ วันอาทิตย์นี่นา คิดว่าคงจะว่างไปได้ ต้องจดไว้ก่อน เดี๋ยวลืม

ฝากเธอ...ขอบคุณที่แวะมาจ้า พักนี้เราก็สุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยหายหน้าไปเหมือนกัน ยังไงคุณฝากเธอก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

นายเด้ง... welcome back นะเด้ง ดีใจที่กลับมาเล่นบล๊อคอีก

เสียงต้องดีซิ ก็ป้าโจ๊วน่ะ เป็นนักร้องเสียงดีที่สุดคนนึงของเมืองไทยเชียวนา

นัท คุณปุย คุณอุ้ม ป้าตุ้ย...ขอบคุณที่แวะมาฟังเพลงเก่าค่า



โดย: haiku วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:16:12:12 น.  

 
เนื้อเพลงของครูจรัล
ผมแกะครบทุกเพลงแล้วนะครับ 555
เป็นเรื่องที่ไม่มีใครเชื่อครับ

ปีที่แล้วผมใช้เวลาเป็นเดือน
นั่งฟังเพลงของครูทุกเพลง
ตรวจทานเนื้อร้อง
แล้วก็ค่อยๆจดเนื้อ
จากนั้นก็พิมพ์ทีละเพลง
จนครบ.....


ก็เลยอยากทำบล้อกแบบ
มีเนื้อเพลง และมีเพลงให้ฟัง ครบทุกเพลงเท่าที่จะทำได้

.......................


ไฮกุ
เกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน
เพราะก๋าราณีไม่มีคำถามครับ 5555

ก็เลยเอารูปมาดู เพื่ออัพบล้อก

นั่งพิมพ์ไป ฝนตกหนัก
เพลงเพราะ เข้าบรรยากาศ
เลยด้นสด พิมพ์สดเลย 5555

ยังดีที่คุณไฮกุชอบนะ

ปกติผมชอบทำต้นฉบับเก็บไว้ก่อน
อ่าน 4-5 รอบถึงค่อยเอามาอัพบล็อกครับ




โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:17:13:22 น.  

 
โห หาเนื้อเพลงได้ครบแล้วเหรอคะ แถมมีเพลงให้ฟังด้วย สุดยอดเลยอ่ะ

นับถือในความพยายามจริงๆ ค่อยๆฟัง ค่อยๆแกะเนื้อเพลง ดีจัง ทีนี้จะฟังเพลงอ้ายจรัลเพลงไหนก็มีให้ฟังเรียบร้อย

ชอบไฮกุที่คุณก๋าแต่งทุกบทเลยค่ะ เราว่าคุณก๋าเขียนไฮกุอ่านแล้วได้อารมณ์เหมือนรูปพู่กันเดียวเลยอ่ะ


โดย: haiku วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:18:02:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.