ผมควร "หยุด" หรือควร "ตะโกน"?
ในเมืองของนางฟ้าเทวดา
ผมคงต้องทำตัวเป็น "เศษธุลี"
ล่องหนไปทั้งกาย
และกระทั่งความคิด
บนจอเล็ก ๆ ในมือ
ผมมองเห็น "ถนนที่ว่างเปล่า"
ถนนอันแสนงดงาม
ที่คิดว่าจะเก็บเศษผงนับพันนับหมื่นไว้ได้
มันกลายเป็นถนนที่แสนสะอาดไปเสียแล้ว
และจอสี่เหลี่ยนแบน ๆ อีกอัน
ก็กลายเป็นกรอบรูป
ที่มีเสียงเพลงเชย ๆ
ผมก็แค่อยากรู้ว่า
มี "เม็ดฝุ่น" เท่าไร
ที่หายไปพร้อมกับถนนเส้นนั้น
เสียงเพลงยังก้องอยู่ในหู
ถึงแม้ไม่ถูกจริตนัก
แต่ก็ฟังเพลินด้วยความสนุก
รวมถึงท่วงทำนองที่สื่อสารกัน
มันช่างน่ารักและงดงาม
เพราะมันคือ ...
ถนนแห่งน้ำใจ
ถนนแห่งความคิด
ถนนแห่งความเท่าเทียม
เพราะมันมีแต่ "เศษฝุ่น" นี่เนอะ
น่าเสียดาย
ที่มีคนส่วนหนึ่ง
อยากให้มันเป็น "ถนนไร้ฝุ่น"
ในวันที่ใครบางคนเสียน้ำตา
คนใกล้ตัวบางคน
กลับโพสข้อความยินดีปรีดา
ที่ได้กลายเป็น "มัมมี่" อีกครั้ง
คนบางคนไม่เคยตระหนัก
ว่า "ชัยชนะ" บางอย่าง
มันมีต้นทุนที่มหาศาล
อยากเป็นมั่มมี่ มีผ้าพันรอบตัว
ก็เชิญตามสบายเถอะ
แต่บางทีก็ไม่เข้าใจ
ว่าจำเป็นด้วยหรือ
ที่จะต้องใช้คำพูดทำร้ายจิตใจกัน
ผมอึดอัด
และอยากจะตะโกนให้ดังก้องโลก
ผมอดที่จะ "ชื่นชม"
คนที่ออกมา "ตะโกน" ดัง ๆ
ในสิ่งที่ตัวเองคิดไม่ได้
คุณป้าในจอสี่เหลี่ยมคนนึง
ที่ผมเคยปรามาสไว้
ว่าแกคงสติไม่ค่อยดี
กลับเป็นคนที่กล้าหาญที่สุด
ในขณะนี้
ผมจะไม่นินทาป้าอีกแล้ว
จะพยายามที่สุดละกันเอ้า!
ชีวิตวันนี้มีแต่ความเครียด
ทั้งเรื่องงานและเรื่องรอบตัว
ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความวุ่นวาย
และข่าวเศร้า
ผมนั่งจิบเบียร์อยู่ริมอาคารใหญ่
นั่งทอดสายตาดูรถราที่ติดยาว
ราวกับขบวนรถไฟสายหนึ่ง
ผมมองดูผู้คน
แล้วคิดไปว่า
มีคนที่เหมือนฉันไหม?
คนที่เป็นเหมือน "เศษธุลี"
ในเมืองสวรรค์แห่งนี้