Group Blog
Group ตัวอย่าง
<<
สิงหาคม 2554
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
10 สิงหาคม 2554
การมาทำงานที่ ญี่ปุ่น วันแรก
All Blogs
วันที่สองละ Japan
การมาทำงานที่ ญี่ปุ่น วันแรก
วันที่ 51
วันที่ 50
วันที่ 49
วันที่ 48
วันที่ 47
วันที่ 46
วันที่ สี่สิบห้า
วันที่ 44
วันที่ 43
วันที่ 42
วันที่ 41 วันที่ต้องลุ้น
วันที่ สี่สิบ
วันที่ 39
วันที่ สามแปด
วันที่ 37
วันที่ 36 สู้ๆๆ
วันที่สามห้า เหนื่อยยยยย
วันที่ 34 ของการเขียนไดอะรี่
วันที่สามสอง
วันที่ สามหนึ่ง แร้ะ
วันที่ สามสิบ
วันที่ 29
วันที่ 28
วันอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันที่ว่างเปล่าา
วันที่ 26 อดทน
วันที่ 25 ไม่สบาย.....
วันที่ 24
วันที่ 23
วันที่ 22 แล้วนะ
วันที่ ยี่สิบเอ็ด
วันที่ 20 ของการรอคอย
วันที่ 19
วันที่ 18 ของการคิดถึง
วันที่ 17
วันที่ 16
วันที่ 15 ....ของการเขียนไดอะรี่
วันที่ 14....
แต่ละวันละวันที่ผ่านไป
เมื่ออีก วันผ่านไป
แต่ละวันที่ผ่านไป
ส่งท้ายปี เก่า ต้อนรับปีใหม่
วันนี้ทำงานกลับดึกมากเกือบตี 1 วันแรก
เวลาเปลี่ยน ใจคนไม่เปลี่ยน
อีกวันผ่านไป (อดทน)
วันที่สาม ของการเดินทางมาทำงานที่ USA
วันแรกของการทำงาน ที่ อิริคสัน USA
วันที่สาม ของการเดินทางมาทำงานที่ USA
วันแรก ของการเดินทาง ต่อเครื่องที่ญี่ปุ่น
การเดินทางมาทำงาน ต่างแดน
การมาทำงานที่ ญี่ปุ่น วันแรก
การมาทำงานที่ ญี่ปุ่น วันแรก
อีกครั้งสำหรับการมาทำงานต่างแดน และคราวนี้หวังจะเก็บเงิน สักก้อน นอนบัญชีไว้
จะได้อุ่นใจในยามที่จังหวะชีวิต หรือชะตาตกต่ำ สิบวันพอดิบพอดีแล้วสินะ ที่มาทำงานที่นี่ เป็นการทำงานที่ต่างจาก การทำงานที่อเมริกา โดยสิ้นเชิง
อาจจะเป็นเพราะ สไตล์ญี่ปุ่น คนที่นี่ดูว่องไว ตลอดเวลา ดูตื่นตัวตลอดเวลา นะ อาจจะเป็นเพราะแบบนี้เลยทำให้ญี่ปุ่น เศรษฐกิจดีมากๆที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ทั้งที่ๆ มีแผ่นดินไหวและภัยธรรมชาติเกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลา แต่คนญี่ปุ่น ไม่เคยยอมแพ้ ตื่นตัวและเขัมแข็งตลอดเวลา ต้องยอมรับความมีวินัยของคนญี่ปุ่น มากๆ
วันแรกของการเดินทางเกือบจะตกเครื่องบินเพราะที่เจ้าหน้าที่ เคาเตอร์ของการบินไทยไม่ออกตั๋วให้อ้างว่า เราได้ วีซ่าไม่ถูกต้อง ไม่มีจองไฟล์กลับไทยล่วงหน้า จะขอดูหนังสือเชิญ เล่นเอาเสียเวลาเกือบ ชม.และ มาเสียอีกเกือบ ชม.ที่ ตม สุวรรณภูมิคนเยอะมาก ทัั้งๆที่บอกเจ้าหน้าที่ไปว่า เครื่องเรา boarding time เจ้าหน้าที่ยังไม่ให้ลัดคิว เซงงจริงๆ สุดท้ายต้องวิ่งขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้าย เหนื่อยมาก
นั่งเครื่องกว่า 6 ชม. ในที่สุดก้อไปถึง นาริตะ ญี่ปุ่น แบบ งงๆ เพราะตอนที่ไปยังไม่รู้ว่า ใครมารับ และที่พักอยู่ตรงไหน ผ่าน ตม ญี่ปุ่นมาได้เพราะมั่วๆ ที่พักเอา ถือว่าโชคดีไม่น้อย ที่ผ่านมาได้ สรุปไม่มีใครมารับ ก้อ เลยตัดสินใจ ดูโทรศัพท์ roming ได้ (แปลกดีตอนที่ไปเมกา มาทรานสิก ที่นี่แหละ โทรศัพท์ roming ไม่ได้) เลยเอาว่ะ แพงเท่าไรก้อ ต้องโทรหา เอนเจนซี่ละ ปรากฏ เอนเจนซี่ ตัดสายและโทรกลับมา บอกเพิ่งส่งเมล์มาให้ check mail เอาละดิ เพิ่งมาครั้งแรก แล้วที่นี่ก้อ มีแต่ภาษาญี่ปุ่น เน็ทจะใช้ได้ไหม จะฟรีไหม จะต้องทำไง ถ้าต้องซื้อการ์ดต่อเน็ท ออ เกือบลืมไป เพราะเกือบตกเครื่องบิน เลยไม่ได้เแลกเงินญี่ปุ่นเลยแม้แต่ เยน เดียว ซวยละตรู แต่ทันใดนั้น มี sms เข้ามาที่เครื่องว่าให้ นั่งเท็กซี่ไปเลย แล้วเอา บิลมาเคลมพร้อม ที่อยู่ รร ที่พัก ดีใจมาก แต่เราไม่มีเงินนี่หว่าาาา ทำไงดี มองหาตู้ เอทีเอ็ม และก้อไปกด สามรอบ เงินไม่ออก ตายละ เรทเท่าไร ต้องกดอย่างไรว่ะ ซวยแล้วตรู
มีเงินดอร์ล่าร์อยู่ในกระเป๋า 36 เหรียญ เอาว่ะ แลกเป็นเงินเยน ก่อนได้ 2600 เยน คิดว่าน่าจะพอเลยนั่งเท็กซี่ (เพราะเราไม่ได้ศึกษามาก่อนไปเลยว่าค่าครองชีพยังไงแบบไหน) เรานั่งไปดูมิเตอร์ไป ตายละ ทำไมมเตอร์ขึ้นๆพรวดๆๆ เลยตัดสินใจเอาว่ะบอกเท็กซี่ว่า ถ้าเจอตู้เอทีเอ็มจอดด้วยนะ จะกดเงิน แต่ในใจก้อ กังวลเพราะกด สามรอบที่สนามบินไม่ได้
เท็กซี่วิ่งทางด่วนอย่างเดียวเลย ยิงยาว สุดท้ายก้อ มาจอดที่ ร้าน 7-11 และบอกว่า ตู้ ATM อยู่ข้างในร้าน ไปกดอีกที แต่ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะกด ได้ ถ้ากดไม่ได้ คงต้องไปให้ทาง รร ออกให้ก่อน และเครมกลับเอนเจนซี่ ละ แต่ คราวนี้ดันกดได้ แต่ ได้ แค่ 50000 เยน เอาว่ะ เอาก่อน โดยไม่รู้ว่าประมาณเงินไทยเท่าไร และอีกอย่างมืดแล้วด้วย สุดท้ายค่าเท็กซี่ ทั้งหมด 31100 เยน โหหหแม่จ้าวว มารู้ที่หลังว่าประมาณเงินไทย 12,000 บาท เซงงงเป็ด เศร้าา เพราะเหลือเงินแค่ 20000 เยน
นี่และเพราะเราไม่ศึกษามาก่อน ค่าครองชีพ ที่นี่แพงมาก สูงมาก สมแล้วกับเป็นเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก 7 ปี ซ้อน วันนี้เท่านี้ก่อนนะ วันแรกก้อ เหนื่อยแร้ะ
รักและคิดถึงตัวเองนะ
TJ Gunner@Japan
Create Date : 10 สิงหาคม 2554
Last Update : 10 สิงหาคม 2554 20:47:44 น.
2 comments
Counter : 580 Pageviews.
Share
Tweet
อยากไปบ้างจัง อิอิ
.
.
.
.
.
.
โดย:
aestorylove
วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:21:52:05 น.
เอาน่ะค่ะ คิดซะว่าประสบการณ์ชีวิตนะ... ไว้รออีก 2 เดือน เค้าจะบินไปหานะ ไปทำอาหารให้กิน ตัวเองจะได้กินของไทยบ้างงัย รอก่อนนะ
คิดถึงค่ะ จุ๊บ ๆ
โดย:
MeeMi
วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:21:56:56 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
GunnerJordan
Location :
Dallas TX United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
เขียน Blog อันนี้เพื่อให้ ภรรยา อ่าน เป็นการแลกเปลี่ยน ได้อารี่กันในวันที่เรา ไกลกัน
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add GunnerJordan's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.