วันแรงงาน - ค่าแรงขั้นต่ำของผู้ที่มีสักยภาพต่ำสุดในการทำงาน
เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันแรงงาน อยากเขียนถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า แรงงาน ในสังคมไทย เป็นสังคมอุตสาหกรรม ผู้ที่มีความรู้ขั้นพื้นฐานหรือไม่ได้รับการศึกษาจะเข้าสู่ระบบแรงงาน โดยผลตอบแทน จะเป็นค่าแรงขั้นต่ำ * ค่าแรงขั้นต่ำ แปลว่า รายได้ของผู้มีสักยภาพต่ำสุดในการทำงาน เมื่อครั้งที่โรงงานอุตสาหกรรมกำลังบูมตั้งแต่ช่วงปี 2525 จนถึง ปี 2549 แรงงานจากทั่วสารทิศของประเทศไทย เข้าทำงานในนิคมอุตสาหกรรมเหล่านั้น แต่เนื่องด้วยในปี 2550 โรงงานหลายๆโรงงานย้ายฐานการผลิต ไปยังประเทศที่มีค่าแรงขั้นต่ำ ที่ต่ำกว่าประเทศไทย ทำให้ตั้งแต่หลังปี 2550 กลุ่มผู้ใช้แรงงาน ต้องอพยพกลับถิ่นฐาน นำไปสู่การแก่งแย่งแข่งขันกันมากขึ้นในสังคม ธุรกิจมืดและธุรกิจเอารัดเอาเปรียบสังคมเกิดขึ้นมากมาย ตามการหดตัวของเศรษฐกิจ เมื่อเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ กลุ่มนายทุน เล็งเห็นถึงขีดจำกัดในการทำกำไร จะเนื่องด้วยการเก็บเกี่ยวความมั่งคั่งของกลุ่มประเทศที่ทรงอิทธิพล หรือการจับตัวกันของกลุ่มทุนที่ทรงอิทธิพล ต้องการกำไรขั้นสูงสุดอย่างแท้จริง ก็ตาม ทำให้การค้าเสรี หรือการประกอบธุรกิจใหม่ๆ ถูกจำกัด รวมถึงรัฐบาลก็ต้องเดินตามนโยบายของกลุ่มนายทุนเหล่านั้น นี่คือ ความสัมพันธ์ระหว่างนายทุน และนักการเมือง รัฐบาลประชาธิปัตย์ ประกาศจะเพิ่มค่ำแรงขั้นต่ำให้เพิ่มมากขึ้นถึง 25% ในอีก 2 ปี ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียง การในเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น หรือมันคือโครงการที่ถูกวางแบบแผนไว้แล้ว ภายใต้ยุคทุนนิยมนี้ รัฐบาลไม่สามารถจะจัดการอุ้มชนชั้นล่างได้ ในการเป็นรัฐบาลในปี 2551 เพราะจำเป็นต้องออมเงิน และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ต่างๆจากประชาชนทุกๆชั้น เพื่อมาสร้างอำนาจให้แก่ตน เป็นทุนในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งต่อไป และนี่ ก็ไม่ใช่การเรื่องของการเมืองและประชาธิปไตยแต่อย่างใด หากแต่มันเป็นไปตามการกระจุกตัวของนายทุน เมื่อถึง ปี 2556 ประชาชนชั้นล่าง หรือผู้ใช้แรงงาน ที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำจริงๆ คงเหลือไม่มากแล้ว เพราะอุตสาหกรรม ไม่ได้ขยายตัว มีแต่มันจะหดตัวลงและลดน้อยลงตามสภาพความเป็นจริงของกระแสโลกาภิวัตน์ ดังนี้ครับ - ญี่ปุ่น ไม่สามารถส่งออกวัตถุดิบป้อนให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในต่างประเทศได้ เพราะโรงงานอุตสาหกรรมที่ประเทศญี่ปุ่น ยังไม่พื้นตัวจากเหตุภัยพิบัติต่างๆ - จีน ต้องสร้างตลาดแรงงานในประเทศตัวเองให้มากพอ กับประชากรในประเทศที่มีมากจนรัฐบาลเกือบจะรับภาระต่างๆของประชาชนไว้ไม่ไหว ทำให้ตลาดแรงงานในประเทศอื่นๆต้องถูกจำกัดส่วนแบ่งตลาดแรงงานลงไปด้วย สภาพการเมืองของไทย สังคมเต็มไปด้วยความแตกแยก แบ่งสีแบ่งฝ่าย โดยไม่ได้แคร์ระบบทุนนิยม มันไม่ใช่ความผิดของประชาชนผู้ไม่เท่ากันการเมือง แต่หากแกนนำมวลชนเหล่านั้น จงใจให้ประชาชนไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ไปอย่างนี้เท่านั้นเอง หมายถึง กลุ่มม๊อปต่างๆ เหมือนกับทำงานให้นายทุนเหล่านั้น สร้างม๊อปชี้นำเรื่องอื่นๆไป โดยให้มองข้ามระบบทุน ที่กำลังทำการจัดการผูกขาดธุรกิจทุกๆอย่าง ไว้แต่เพียงกลุ่มนายทุนเพียงเท่านั้น โดยกุศโลบาย ในการเบี่ยงเบนประเด็นทางการเมือง นี้ เราจะได้ยินได้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จากทุกๆแกนนำ และทุกๆสี นั่นคือ คำว่า " ประชาธิปไตย "
Free TextEditor
Create Date : 01 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 1 พฤษภาคม 2554 15:55:31 น. |
|
9 comments
|
Counter : 630 Pageviews. |
|
|