Your are the final piece
of my JIGSAW
You make my life complete.
It's not just like only make life complete.
It's everyting to share ,
to spend life with last forover.
it's call..LOVE.
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
23 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
เกาหลีวันที่ 1 พักกายพักใจ เตรียมพร้อมลุย 6 วัน

ต้องขอโทษนะค่ะ ที่วิวช้าไปนิด เพราะว่าข้อมูลเยอะมากๆเลยค่ะ อยากให้เพื่อนๆ ได้ตามรอยแบบไปกันเองได้จริงๆ ไม่อยากให้เสียเวลาในการหลงเหมือนเรา คิกๆ แล้วก้อ อยากให้ใช้เวลาที่เกาหลีให้คุ้มค่าที่สุด ไหนๆ ก้อแบกเป้ไปเองไม่ง้อทัวร์แหล่ะ

ในการวิวเกาหลี กรุ๊ฟจะบอกก่อนว่า มันจะมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วง

คือจริงๆ ไม่ว่าอะไร มันจะมีประเภทว่า

วางแผนไว้ คือ วางแผนไว้ว่าจะไปไหน แต่ได้ไปหรือไม่ จะต้องเปลี่ยนแผนหรือไม่ เด่วก้อรู้

ไปตามแผน หรือเปลี่ยนแผน หรือ ผิดแผน อันนี้ก้อต้อมีเหตุนะค่ะ ก้อต้องดูอีกว่าทำไมหรอ

แล้วก้อสุดท้าย แนะนำค่ะ ว่าควรไปตามแผนที่วาง หรือตามแผนที่เปลี่ยน หรือ แนวทางอื่นที่ควรไป

ออกเดินทาง คืนวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 ค่ะ

ด้วย TG656 เวลา 22.45 น. ถึงเกาหลี วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552

แผนที่วางไว้เป็นแบบนี้ค่ะ คือ ไปถึงแล้ว เข้าที่พักก่อน แล้วไป Full House จากนั้นกลับมา ตามรอยเกาหลีอีก Coffee Prince, 4 Seasons House แล้วก้อเดินเล่นดูตามพวกหน้ามหาวิทยาลัย แผนวางไว้แบบนี้ค่ะ

Tuesday 10th Feb,2009

1. Arrive TG656 07.10 am.

Go Airport Bust to Anguk ,bus no. 6011 ต่อ Taxi ,Check-in Jongnowon

1. Full House ไปสถานี Dong-Incheon , bus no. 111-1 at Sammok, เดินไป Sammok Ferry Port , นั่งเรือไปเกาะชินโด เรือออกทุก 30 นาที ถึงเกาะนั่งรถประจำทางไปเกาะซิโด Sido ลงป้าย Sugihaaesu Yokjang เดินเข้าไปที่ Full House ประมาณ 30 นาที หรือเช่าจักรยาน และไป บ้าน Sad love story

2. Coffee Prince ไปสถานที Hongik University ,Exit 4

3. Four Seasons House เดินไปหน้า Hongik University จะเห็นซอยเข้าไป

4. Jamp Show

5. Ewha Women University ลงสถานี สาย 2 Ewha Women University



ก่อนไป ที่บ้านก้อขนขโยงกันไปส่ง เพราะว่า เป็นครั้งแรกที่ 3 หมีสาว จะไปเที่ยวด้วยกัน ปล่อย หนุ่มๆ ให้ลิงโลดอยู่บ้าน คิกๆ

ประหนึ่ง ไปส่งนักเรียนเรียนต่อเมืองนอก เวอร์ซะไม่มีละครอบครัวนี้

อย่างที่บอกไป วันก่อนไป เราต้องเตรียมตัวในการหาที่พัก เพราะว่าแผนเปลี่ยน

เพราะว่าคุณแม่หมูเปลี่ยนใจไปด้วย เลยต้องรีบเตรียมหาที่พัก ไม่ได้ไปพักกับเพื่อนแล้วค่ะ

ก้อนัดกันออกจากบ้าน 5 โมงเย็น เพื่อไปหาอะไรทานกันก่อนตอนเย็น



อย่างที่รู้ว่าเราจะไปเกาหลี ตอนหน้าหนาวมากกกกกกก ดังนั้น ก้อต้องมีการเตรียมกระเป๋าที่จะถือขึ้นเครื่องไป ที่ต้องใส่พวกเส้อโค้ท หมวก ที่ปิดหู ถุงมือ ลองจอน คือ ไปถึงก่อนลงเครื่อง ก้อไปใส่ไว้ แต่พอดีเราเลือกใส่เป็นแบบถุงน่องไทด์แทน แล้วก้อใส่กระโปรง จะได้นั่งสบายๆ

อากาศในสุวรรณภูมิ ก็เย็นนิดๆ เมือเทียบกับอากาศที่เกาหลี เด็กๆ ไปเลย คิกๆ


ไปถึง ก้อไปจัดการเรื่อง มือถือค่ะ ของ AIS จะมีบริการสำหรับลูกค้า Serenade ในการยืมเครื่องไปใช้ต่างประเทศ เนื่องจากเกาหลีใช้ระบบ 3G เลยต้องไปขอยืมเครื่องใช้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ค่ะ เตรียมเผื่อไว้ก่อน เกิดมีอะไร หรือคิดถึงทนไม่ไหว ยอมเสีย นาทีละ 75 บาท โทรกลับมา คิกๆ

(ใครจะไปเปลี่ยนมือถือ ต้องลงไปข้างล่าง ตรงอาคารผู้โดยสารขาเข้าประเทศก่อนขึ้นมานะค่ะ หรือถ้าเผลอขึ้นไป จะลงบันไดเลื่อน ต้องโชว์ Bording Pass ให้เจ้าหน้าที่ก่อน แสดงว่า ต้อง Check-in ก่อนค่อยไปเปลี่ยน ไม่งั้นไปเปลี่ยนข้างล่างก่อนขึ้นมา check-in งงป่าวค่ะ แฮะๆ)

จากนั้นก้อไป Check-in ค่ะ

แล้วก้อเข้าไปข้างใน ผ่าน ตม.

แต่พอดี มีคนพาเข้า คิกๆ เลยเข้าทาง VIP โหดีจัง เร็วปรู๊ดดดด เลยขอปิดคนพาเข้านิด แฮะๆ

ถึงเวลาต้องร่ำลา

เกรงใจคุณอาที่ไปส่ง เลยมิกล้า ร่ำลากันมาก เหอ อยากกอดหอมสักฟอด เด่วไม่ได้กอดตั้งหลายวัน งืองือ


ปล. ไม่แต่งหน้า ใส่แว่นไปก่อน เด่วต้องนอนบนเครื่อง 5 ชม.

ขึ้นเครื่องไป ก้อไม่มีได้นอนค่ะ อยากจะหลับ ก้อไม่หลับ ใช้ยาแก้แพ้ช่วยด้วย เพราะกันไว้ก่อน แต่กินแบบไม่ง่วงมาก แต่ที่ไหนได้ ทำให้วันแรกที่เกาหลี กรุ๊ฟเดินซึม หงอย ง่วงนอนทั้งวันเลย แย่จัง

ยังไม่ทันได้หลับสนิท ถูกปลุกให้ทานอาหาร แล้วก้อหลับต่อได้นิด ก้อถึงแล้วค่ะ จริงๆ ก้อชม.กว่า เกือบ 2 ชม.ที่หลับ แต่ยังไงก้อไม่พอสำหรับการเตรียมลุยวันแรกค่ะ

แนะนำเลยว่า ใครไปแบบเที่ยวบินแบบนี้ พักผ่อนเยอะๆ เตรียมให้พร้อม จะได้เที่ยววันแรก มีแรงพร้อมเลยค่ะ

ตอนออกจากเครื่องบินมาถึง ตอน 07.10 น. ของเช้าวันอังคารที่ 10/02/2552 ตรงงวงช้าง รู้สึกได้ถึง ลมหนาวปะทะหน้าเลยง่ะ รีบหยิบเสื้อโค้ทใส่แทบไม่ทัน แต่จริงๆ ไม่ต้องก้อได้ เพราะผ่านงวงช้างเข้าไปในสนามบิน ก้อมี heater ค่ะ

แวะห้องน้ำ แปรงฟัน เมคอัพนิด ใส่คอนแทคหน่อย

ขำแม่หมู แม่บอกว่า ให้ใส่แว่นแหล่ะดี ดูเป็นเด็กเรียน จะได้ผ่าน ตม. ง่ายๆ คิกๆ

แต่ไม่เอาอ่ะ ไม่สะดวก

นี่ ประทับใจห้องน้ำในเกาหลีจัง แบบนี้ค่ะ


อยากให้บ้านเรามีแบบนี้ตามห้างจัง คือ กดตรงปุ่มแดง แล้วจะมีการเลื่อนของพลาสติกช่วงใหม่มาให้เรา ทำให้เราสามารถนั่งปลดทุกข์แบบสบายใจ ไม่ต้องมาคอยเช็ดแล้วเอากระดาษทิชชูวางเองค่ะ

พบได้เยอะมากในกรุงโซลค่ะ ห้องน้ำที่เกาหลี หาง่าย และสะอาด เกือบทุกที่ที่ไปเลยนะค่ะ เด่วคงได้เห็นห้องน้ำเกาหลี หลายแบบ คิกๆ แอบถ่ายมาให้ชมด้วยค่ะ

วางแผนไว้ว่าจะไป Full House ก่อน ก้ออย่างที่บอกค่ะ ว่าเห็นเวลาทัวร์ไหนๆ เค้าก้อไป Full House กันก่อน วันแรก

ตามรอยละครดัง Full House

เพราะอะไรเหรอค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปว่า ที่ Full House จะอยู่ในเมืองอินชอน ที่สถานี Dongincheon ค่ะ

ถ้าไปจากสนามบิน สามารถนั่ง taxi ไปได้เลยค่ะ ก่อนจะไป ก้อสามารถที่จะฝากสัมภาระไว้ที่สนามบิน ที่จุด Baggage Storage มี 2 จุด 2 ด้านด้วยกันค่ะ ตามนี้ค่ะ

จุดรับฝากสัมภาระ Baggange Storage


ตรงจุดที่วงสีแดงไว้ คือจุดรับฝากสัมภาระ ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการรับฝากค่ะ แต่รายละเอียดว่าต้องทำยังไง ไม่ได้ถามมาค่ะ ไว้คราวหน้าจะไปหารายละเอียดมาเพิ่มเติมให้ค่ะ


เพิ่มจุดวงกลมสีแดงที่สำคัญอีกจุด ตอนขากลับ คือจุดที่ให้ Stamp เพื่อ Tax Refund ก่อนเข้าไปด้านใน duty free ตรงจุดนี้สำคัญนะค่ะ ถ้าไม่ได้ประทับตราก่อน อดได้รับเงินคืนเน้อ

พอฝากของกันได้แล้วก้อสามารถเดินทางต่อไปเที่ยว Full House กันก่อน แล้วค่อยกลับมาเอาของ แล้วเดินทางไปกรุงโซลต่อ จะดีกว่าค่ะ ถ้าไปโซล แล้วย้อนมาเที่ยว จะเสียเวลา ไป 1 ชม. มาอีก 1ชม. กลับอีก 1ชม. เป็น 3 ชม. ไม่คุ้มกันค่ะ

วิธีเดินทางไป Full House

ถ้าเราเดินทางไปจากสนามบินอินชอน ก็นั่ง Taxi ไปเลยค่ะ ค่ารถประมาณ 15,000 won หรือว่าจะออกมานั่งรถประจำทางสาย 203 มาลงที่ท่าเรือ Sammmok ค่ะ

แต่ถ้ามาจากในกรุงโซล นั่งรถนั่งรถ Subway สาย 1 ลงสุดสายสถานีดองอินชอน Dongincheon นั่งรถประจำทางสาย 111-1

หรือ ลงสถานี Bupyeong แล้วไปต่อ Subway ประจำท้องถิ่นเพื่อนั่งไป Gyesan ทางออกที่ 5 แล้วนั่งรถประจำทางสาย 710


นั่งรถประจำทาง ไปลงทางแยก Sammok จากนั้นเดินไปต่อท่าเรือ Sammok Ferry Port

ท่าเรือจะมีเรือออกทุก 30 นาที เพื่อนั่งไปที่เกาะชินโด (Shin-do)

เมื่อถึงเกาะชินโด นั่งรถประจำทางไปที่เกาะซิโด โดยจะออกทุกๆ 1 ชม. ตั้งแต่เวลา 09.20 น. ยกเว้นเวลา 12.20 น. ลงป้าย Sugihaesu Yukjang สังเกตว่า ใกล้ถึงจะเห็นทะเล อยู่ใกล้ทะเล หรือบอกคนขับว่าไป Full House ก็ได้ค่ะ

เมื่อลงรถแล้ว- จากป้ายรถต้องเดินต่อไป 30 นาที

ใกล้เอาการค่ะ แผนกรุ๊ฟคือ เช่ารถจักรยานไปแถวนั้นได้ค่ะ ค่ารถเช่า คันละ 3,000 won

ค่าเข้าชม Full House คนละ 5,000 won ค่ะ

บนเกาะซิโด นอกจากมี Full House แล้ว ยังมีบ้านของซีรีย์เรื่อง Sad Love Story ด้วยค่ะ ขี่จักรยานไป ก้อจะเห็นทางแยกว่าไป Sad Love Story ได้ ค่าเข้าเท่ากันคือ 5,000 won

ยังไม่มีโอกาสได้ไปทั้ง 2 บ้าน แต่คิดว่า ทำให้เกาะซิโด มีเสน่ห์ทำให้กลายเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยความรักเลยค่ะ

บ้าน Full House อารมณ์จะเป็นบ้านริมทะเล โรแมนติกแบบฟ้าใสๆ คู่รักสดใส

ส่วนบ้าน Sad Love Story จะเป็นบ้านอยู่บนเขา มองลงมาเห็นทะเล คงโรแมนติกแบบเงียบสงบ เหมือนจะอ้างว้าง เหงาๆ แต่ใจมีใครเคียงข้างอยู่เสมอไม่ห่าง

สาเหตุที่ตัดสินใจไม่ได้ไปตามแผน

1. เรายังไม่แน่ใจเรื่องที่พัก เพราะว่าอย่างที่บอกค่ะว่า เปลี่ยนแผนที่จะไม่พักกับเพื่อ น ต้องหาที่พักเอง เพราะแม่หมูไปด้วย เลยโทรตอนเช้าก่อนมาจองที่พักไว้ แล้วก้อไม่ค่อยแน่ใจเลยว่าจะเรียบร้อยดี เพราะทางปลายสาย ได้แต่ตอบว่า "โอเคดึ โอเคดึ" คิกๆ เลยจำต้องหาที่นอนให้ได้ก่อนคิดเที่ยว

2. ถ้าเรากลับไปที่พัก แล้วย้อนมาเที่ยวเกาะซิโด จะต้องเสียเวลาอย่างที่บอกว่า ไปโซล 1 ชม. กลับมาอีก 1 ชม. กลับไปที่พักอีก 1 ชม. เป็นอย่างน้อย เลยคงไม่ทันแน่ๆ อีกอย่าง กว่าจะไปถึงที่พัก ก้อกินเวลาน่าดูค่ะ

3. แล้วก้อรู้มาว่า การเดินทางไปเกาะซิโด ไม่สบายเหมือนนั่งรถไปกับคณะทัวร์นะค่ะ ต้องต่อเรือ ต่อรถ ขี่จักรยาน วันแรก เรายังไม่ชินกับความหนาว และดูนอนไม่พอกัน เลยตัดสินใจ ไม่ไปค่ะ

แล้วก้อเก็บแผนนี้ไว้ก่อน รอวันสุดท้าย อาจจะก่อนกลับ เอากระเป๋ามาฝากไว้ที่สนามบิน แล้วค่อยไป กลับมาขึ้นเครื่องก็ได้ เพราะวันสุดท้าย เรา plan ไว้แค่ shopping

เมื่อเราตัดสินใจว่า จะไม่ไปที่ Full House

พอผ่าน ตม.มาได้อย่างสบายบรื๋อ ไม่มีอะไรเลย ไม่ถามสักนิด ไม่มองหน้าเราสักหน่อย ได้โปรดเถิด ชั้นอยากจะบอกมากๆว่า i am make-up artitst na ja. คิกๆ

ก้อรีบไปเอาสัมภาระค่ะ แล้วก้อมุ่งหน้าไปซื้อตั๋ว Airport Bus กันค่ะ

เดินออกมาที่ทางออกก exit 2,4,9 และ 13 ชั้น 1 ของอาคารผู้โดยสาร ออกมาจะมีบู๊ทขายตั๋วรถอยู่คะ เราเลือกเดินทางแบบ Airport Bus

เป้าหมายของเราคือ Auguk Station เป็น Subway ที่ใกล้กับที่พัก Jongnowon Hotel ที่เราจองไว้ค่ะ

ส่วนถ้าเพื่อนๆ พักที่อื่น ก้อไม่ต้องกังวลไปค่ะ ถามกับที่โรงแรมหรือ GH ว่า นั่ง Airport Bus no. อะไร ลงที่สถานีไหน ก้อสามารถไปดูป้ายรถได้ค่ะ หรือไปที่ตารางรถที่นี้เลย

//www.airport.kr/airport/traffic/bus/busList.iia?flag=E

กรุ๊ฟพักที่ Jongnowon Hotel หรือใครพักที่ Banana Backpacker ที่กรุ๊ฟอยากไป ก็สามารถขึ้นตามนี้ค่ะ

เราจะลงที่สถานี Anguk-Dong Bus Station เราก้อเลือกรถ Airport Bus No. 6011 ค่ะ พอซื้อตั๋ว ถามเจ้าหน้าที่ก็ได้ค่ะว่า ป้ายไหนที่รถคันนี้จะจอด ของเราอยู่ป้าย 5B หรือ 12A นะค่ะ


ราคาตั๋ว อยู่ที่คนละ 9,000 won


ก่อนขึ้นรถ พนักงานขับรถ จะนำกระเป๋าเราเก็บให้ แล้วจะมีบัตรรับกระเป๋าไว้ให้ ใบละ 1 ใบค่ะ เราก็เก็บไว้ ตอนลงจากรถ ก้อมอบให้คนขับค่ะ แลกกับกระเป๋าของเรา

นั่งหลับไป 1 ชม. พอดี ตรงเวลามั่กๆ สุดยอด

อย่าถามนะค่ะว่า ข้างทางวิวเป็นไง แง่มๆ ก้อมันง่วงนีค่ะ ไม่ได้นอนเลย แล้วฤทธิ์ยาแก้แพ้อากาศก้อทำพิษ ว้า ว้า แย่จัง

ก้อนั่งไปที่พักก่อน เพื่อให้แน่ใจว่า ที่โทรมาจองห้องพักไว้ตอนเช้า แล้วได้ที่พักแน่ๆ เก็บสัมภาระ แล้วค่อยเที่ยวต่อค่ะ

กรุ๊ฟไปพักที่นี้ค่ะ www.jongnowon.com แต่ถ้าใครจะไปพัก หรือคราวหน้ากรุ๊ฟจะไป จะไม่ไปที่นี้ค่ะ

ไปดูที่พักในห้องพักที่ Jongnowon ก่อนค่ะ แคบมาก แต่ก้อพอได้สมราคา พักราคา 40,000 won ค่ะ สำหรับ 3 คน ถ้า 2 คนคิด 35,000 won ค่ะ ตอนแรก เค้าคิด 45,000 won แต่เราบอกว่า ไม่เห็นจะมีอะไรเพิ่ม เตียงก้อแค่ 2 ไม่ได้มี 3 เตียงให้ แค่ค่ากาแฟ ขนมปัง แยม น้ำก้อไม่ค่อยได้อาบ หนาว เลยแอบให้เค้าลดให้ ไปอีก 5,000 won 5 คืนก้อ 25,000 won ก้อเยอะอยู่นะ คิกๆ



ที่นี้ ตอนแรกเราก้อว่าดีนะ ไม่สบาย ไม่หรูหรามาก แต่ก้อสะอาดพอได้ มีห้องอเนกประสงค์ให้ เพราะไว้ทั้งเป็นห้องอาหารเช้า อาหารเช้าก้อไม่มีไรมากค่ะ แค่ขนมปัง เนย แยม กาแฟ แอ็บเปิ้ล ไข่ไก่ ให้

ในห้อง ก้อมีมุมครัวให้ แม่หมู ทำไข่ดาวให้ทุกเช้าเลย

มีมุม internet ให้ค่ะ มี PC ให้ 2 ตัวกับ printer แต่พอดีติด notebook ไป ก้อใช้ WIFI ในห้องนอนเลยจ้า

มีโต๊ะให้นั่ง แบบ เก้าอี้ดนตรี คิกๆ

แบบนี้อ่ะ


มาดูแผนที่ที่พักกันค่ะ เผื่อว่า จะได้ง่ายกับการที่จะเที่ยวต่อ เวลาไปไหน จะได้รู้ว่า เดินออกจากที่พัก ตรงไป ขวาไป ซ้ายไป แล้วไปไหน นะค่ะ


เราลงรถ Airport Bus ตรงจุดที่ 6 ค่ะ เวลามาจากเมียงดง ก้อจะผ่านตรงนี้นะค่ะ จำให้ดี เพราะว่า เราต้องบอกทาง Taxi ด้วย

พอลงแล้ว หันหน้าเข้าฝั่ง ไปทางซ้าย จะเห็นปั๊มแก๊ส SK ตรงหัวมุม ให้เลี้ยวขวาค่ะ เดินไป ตรงทางม้าลายอันแรกค่ะ

เห็น U-Turn ที่ 2 มองไปจะเห็นซอยเข้าข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามค่ะ ข้ามไปแล้วเดินเข้าซอยตรงไปเรื่อยๆ มองขวามือไว้ จะเห็นร้านเล็กๆ ตรงปากซอย มองเข้าซอยไปจะเห็น Banana Backpacker ก่อนตรงนี้ค่ะ



เดินไป check-in พร้อมจ่ายค่าที่พัก ไม่น่าจ่ายทีเดียว 5 คืนเลย เหอ เหอ เลยอดพักที่อื่น ยังไง ต่อรองจ่ายแค่คืนเดียวก้อได้นะค่ะ แล้วลองหาที่อื่นเผื่อไว้ จะได้พักหลายๆ ที่ แต่ก้อลำบากย้ายของเนอะ

เข้าที่พัก ล้างหน้าแปรงฟัน เมคอัพ เหนื่อยมากค่ะ กว่าจะมาถึงก้อเกือบๆ เที่ยง จะหมดไปครึ่งวันแหล่ะ เพราะว่า หลงด้วย แล้วก้อง่วงด้วย แอบงีบ

เห็นว่าที่พักใกล้ๆ กับ ถนน อินซาดง Insa-dong

จริงๆ ถนนนี้ ตั้งใจจะไว้เดิน เสาร์-อาทิตย์ค่ะ เพราะว่าเค้าจะมีถนนคนเดินให้

ถนนเส้นนี้ ของกินเยอะดีค่ะ ร้านอาหารเยอะ แล้วก้อร้านค้าข้างทางแปลกๆ ก้อเยอะ จะเป็นถนนแนวศิลปะ มีของฝากให้ซื้อเยอะ เดินดูๆ แล้ววันกลับค่อยมาอีกรอบ

แต่ที่จะไป เพราะว่าหิวค่ะ เลยอยากหามื้อกลางวันกันก่อน

เป้าหมายแรกของแม่หมู คือ บะหมี่ดำ Jia Jang Myun อ่านว่า ชาจังมยอน

หน้าตาแบบนี้จ้า


ซอสสีดำ เรียกว่า ซอสถั่วดำ ค่ะ ส่วนประกอบของบะหมี่ชามนี้ก้อจะมี

1.เส้น - จะใช้เส้นอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็น โซบะ อุด้ง แนงมยอน แล้วแต่ความชอบ
2.짜장 (Black bean paste) - เป็นอะไรที่ราคาแพงหูฉี่เลยทีเดียวและหาค่อนข้างยาก ถ้าแปลตามตรงมันคือ "ซอสถั่วดำ" (แปลจากภาษาอังกฤษอ่าค่ะ) บางครั้งเวลาเราไม่มีเงินซื้อก็จะใช้ซีอิ๊วดำแทน
3. หัวหอม - มันก็คือหัวหอมธรรมดา จานละ 20
4.แตงกวา ซุคคินี่ (zucchin) - แตงกวาที่ผิวนอกจะมีเหมือนขนเล็กๆคอยทิ่มมือเรา ลักษณะคล้ายแตงร้าน หรือแตงกวาอันยาวๆ
5.เนื้อสัตว์ - หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จะใช้อะไรก็ได้แล้วแต่ความชอบเลย
6.ซอสถั่วเหลือง (ชุนจัง)


เราว่าก้อจืดๆ นะ ยังไง คนไทยแบบเราก้อต้องปรุง เพิ่มน้ำส้ม เพิ่มพริก เพิ่มน้ำปลา ลงไปอยู่ดีจ้า อารมณ์เหมือนทานบะหมี่แห้ง เค็มๆ

ชามนี้ 4500 won จ้า สั่งมาแค่ 2 ชาม กิน 3 คน อิ่มโคดๆ ชามใหญ่มากๆ

เดินๆ เจอรถขายผลไม้ค่ะ จะบอกว่า ผลไม้เมืองหนาวเนี่ยอรอ่ยมากๆ

โดยเฉพาะ สตอเบอรี่ ไม่เคยลืมรสชาดของสตอเบอรี่ที่เกาหลีเลย

หวานมากๆ ไม่เคยคิดมาก่อนว่า สตอเบอรี่คือผลไม้หวาน เหมือนเวลาเราอยากกิน ผลไม้เปรี้ยวๆ ต้องกินมะม่วงดิบ สัปปะรด สตอเบอรี่

แต่เจอของเกาหลี มันคือ ผลไม้หวานมากๆ โอ้ย อยากไปอีก เพราะอยากกินสตอเบอรี่มากๆ

ใครไป ฝากซื้อด้วยนะค่ะ ได้โปรดดดดดดดด


ไม่ใช่แค่สตอเบอรี่ นะค่ะ Apple กับ ข้าวโพด ก้ออร่อยมากๆๆๆๆๆๆ

ทีนี้เราไปตามแผนค่ะ ถึงแหมว่าจะพลาด Full House แต่เรายังมีเป้าหมายตามรอย ให้แม่หมูก่อนค่ะ นั่นคือ Coffe Prince นั่นเอง

แล้วก้ออยากจะลองขึ้น Subway ด้วยค่ะ

เราอยู่ตรงสถานี Auguk ก้อจริง แต่สถานีนี้จะอยู่ Line 1 แต่เราต้องการไปลงสถานี Hongik University ที่อยู่ Line 2 ถ้าเราไปจาก Auguk เราจะต้องต่อ transfer เราดูจากแผนที่แล้ว เดินไม่ใกล้ ไปที่สถานี Euljiro 3 ga จะได้ไป Line 2 ได้เลยค่ะ ก้อกางแผนที่ แล้วก้อเดินจาก Insa-dong ไม่ไกลค่ะ เดินพอได้อยู่

ไปถึง เราก้อซื้อ T-money ก่อนเลย 3 ใบ สำหรับ 3 คน คนละ 12,500 won ค่ะ


พอไปถึง แล้วจะมีทางออกหลายทาง

(สัญญาว่า ถ้าได้ไปอีกครั้ง จะไปเก็บข้อมุลมาเลยว่า แต่ละทางออกของแต่ละสถานีไปไหนนะค่ะ)

ตอนนี้เราต้องออก Exit 4

เดินขึ้นมาจะเจอร้านเหมือน 7-11 บ้านเราชื่อว่า Seven Springs ตรงหัวมุมค่ะ ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยไปเลย


เดินเข้าไปสัก 150 เมตร จะเห็นมีวงเวียนตรงกลาง ให้เดินไปทางซ้าย แบบนี้ค่ะ


เดินไปประมาณ 100 เมตรจะมี ลาน Playground ไว้เป็นลานอเนกประสงค์ ให้เลี้ยวขวา แล้วลานจะอยู่ทางซ้ายมือ มีเวทีด้วย


แล้วมองไปจะเห็นถนนที่เดินขึ้นเนินค่ะ ให้เดินไป ประมาณ 500 เมตร จะเจอทางเข้าร้าน coffee prince อยู่ขามือ เกือบสุดถนนค่ะ


ตลอดทางที่เดินขึ้นเนิน จะได้แอบแวะ shopping ค่ะ จะมีร้านน่ารักๆ สไตล์เกาหลีให้ได้เข้าไปชมค่ะ เสื้อผ้าน่ารักๆ ทั้งนั้น ราคาสูงอยู่เหมือนกัน แต่ก้อแนวเกาหลี ผ้าดีดี มี detail สวยๆ และแน่ๆ คือ display ที่สุดยอดมากๆ นับถือ การตกแต่งร้านเริ่ดๆ น่ารัก ฮิปๆ


ก้อด้วยความ ตอนเดินไป ก้อไม่ค่อยแน่ใจว่าจะหาร้านเจอป่าว รู้สึกเริ่มเดินไกล แต่ด้วยความที่ว่า มีร้านค้าข้างทาง ทำให้เพลิน แต่ก้อกลัวว่าจะหลงค่ะ กรุ๊ฟเลยรีบเดินลิ่วๆ ไปดูให้แน่ใจก่อนว่าใช่หรือไม่ เด่วแม่หมูกับพี่เก๋จะเดินฟรี

ปล่อยให้ 2 สาวค่อยๆ นำตัวขึ้นมา คิกๆ หมีมากๆ เลย ดูชุดดิ


แล้วก้อเจอแล้วค่ะ หน้าร้านแบบนี้


ร้านโทรมมากๆ จะบอกว่า ขนาดไม่อยากที่จะยกกล้องขึ้นมา แต่ทำไมคนอื่นไปแล้วดูดีจัง อาจเป็นเพราะ ไม่ได้มาหน้าเทศกาลหรือปาว

เข้าไป ไม่ได้สั่งอะไร เพราะรู้มาว่า กาแฟไม่อรอ่ย และแอบแพงค่ะ แพงจริงๆ


นั่งไม่ทันสั่ง ก้อรีบออกค่ะ เพราะผิดหวังอย่างแรก ไม่เห็นแจ่มเลย แปลกๆ เหอ เหมือนร้านกาแฟทั่วๆ ไป ธรรมดามากๆ แค่มีกลิ่นอายของซีรีย์ Coffee Prince

เลยตัดสินใจ ออกมาดีกว่า ไม่ได้เก็บภาพอะไร

ออกมาก้อขำๆ กัน อุตสาห์นะ เดินมาตั้งไกล อุตสาห์ทำทางไห้เพื่อนๆ ตามรอย แต่มาแล้ว อกหัก ดังเปร๊าะ แต่ก้อไม่แน่นะค่ะ มาช่วงเทศกาลอาจจะดีก้อได้เนอะ

ขำอีกรอบกับ ตลอดทุกที่ ที่เกาหลี มักจะมี ที่ให้เขียนตลอดค่ะ เหมาะกับหนุ่มช่างกลบ้านเราเจร่งๆ จะได้เขียนไปว่า ใครพ่อใคร คิกๆ


Posted: 13 มี.ค. 2009 at 23:28 | IP 117.47.245.XXX

--------------------------------------------------------------------------------


หลังจากผิดหวังกับ Coffee Prince ไปแล้ว

ก้อมีอีกทีให้ตามหา คือ ตึก Four Seasons House

ตามที่บอก คือให้เดินไปที่หน้ามหาวิทยาลับ Hongik University ก่อน

ก็เดินมาจากเนินเขา หรือว่า เดินออกจาก coffee prince ให้เลี้ยวขวา ออกถนนใหญ่ แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ ไกลเหมือนกันค่ะ หอบเลย ตอนถามคุณลุงเกาหลี แกบอกว่า ไม่ไกล เดินได้ๆๆ ลุงแกเดินไวมาก เราเดินกึ่งวิ่งตามลุง แม่กับพี่เก๋ หันไป พยักเพยิด ทำมือให้เราล่วงหน้าไปก่อน ประมาณว่าตามไม่ทัน

ก้อเดินไปเรื่อยๆ ค่ะ

เจอหน้ามหาวิทยาลัย แล้วค่ะ

//www.hongik.ac.kr/english_neo/
มหาวิทยาลัยฮงอิก Hongik หรือ Hongdae

เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทางด้านศิลปะค่ะ ทำให้ถนนสายนี้มักจะมีการจัดคอนเสริ์ต พวกดนตรีร็อค แจ๊ส เทคโน ฮิบฮอป

จริงๆ แล้ว เราต้องออก Exit 6 จากสถานี Hongik University แต่ว่าเราไป Coffee Prince ออก Exit 4 ทำให้เราต้องเดินย้อนมาค่ะ แต่ถ้าใครจะไปหน้ามหาวิทยาลับเลย ก้อออก Exit 6 นะค่ะ

ตลาดนัดจะมีวันเสาร์ค่ะ น่าไปมาก ๆ เพราะว่า สินค้าที่มาวางขาย บางชิ้นมีแค่ชิ้นเดียวในโลก ก้อเพราะว่า เค้า hand made นั่นเองค่ะ ออกแบบและทำโดยศิลปินสมัครเล่น พวกนักศึกษาที่หารายได้พิเศษทำกัน อารมณ์น่าจะเหมือน ตลาดหน้าม.ศิลปากร ท่าพระจันทร์ บ้านเรามั้งค่ะ

จะมีทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 13.00-18.00 น. แต่ถ้าวันไหนอากาศหนาวมากๆ ก้อมีสิทธิ์ปิดตลาดนะค่ะ เช็คก่อนค่อยไปเน้อ


แผนที่ค่ะ

แอบแปะให้ดูว่า วันแรก 3 หมี เตรียมตัวกันหนาวเต็มที่อ่ะ จะบอกว่า อึดอัด เดินไม่ค่อยจะไหว แบบน้ำหนัก หนักตัวเอง หนักเสื้อ หนักกระเป๋า ไม่ค่อยอยากจะถ่ายรูปเท่าไร หน้าก้อไม่อยากแต่ง หนาวไปหมดอ่ะ ตลกป่ะ แฮะๆ


ไม่ได้ถ่ายตลาดมาให้ดู แต่รับรองคราวหน้าไปอีก จะเก็บข้อมูลมาเพียบค่ะ

เดินเจอพระเอก แต่ไม่รู้ชื่อไร แฮะๆๆ สาวๆ กรี๊ดดดดดดด กันสนั่น ขอถ่ายรูปด้วย พี่แกโบ้ยมือให้เราไปเจรจากับ ผจก. เราก้อแบบ ไม่เป็นไร ไอไม่โนยู ยูไม่ต้องโฟโต้กะไอหร๊อก คิกๆ


จากนั้น เรารู้สึกว่าวันแรก เหนื่อยมากๆ

1. กินยาแก้แพ้อากาศ ทำให้ออกฤทธิ์ทำเราง่วงๆ ตลอด ซึมๆ

2. หนาวมากกกกกกก ยังไม่ชินกับอากาศ

3. ไม่ได้นอนเลยทั้งคืนบนเครื่อง

4. เดินเยอะ หลงเยอะ

สรุปว่าวันแรก เรา3 คนตกลงกันว่า กลับที่พักดีกว่า พักผ่อน เพราะโปรแกรมพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปเกาะนามิค่ะ

ส่วนอาหารเย็น ก้อง่ายๆ บะหมี่นั่นเอง คิกๆ


จบวันแรก แต่เพียงเท่านี้ค่ะ

ส่วน Four Seasons House ที่เราพยายามเดินหาไม่เจอสักที เค้าบอกมาว่า อยู่ตรงทางก่อนถึงหน้ามหาวิทยาลัยฮงอิก ประมาณ 200 เมตร จะเห็นทางเข้า จริงๆ กรุ๊ฟว่าคงเป็นถนนที่กรุ๊ฟเดินเล่น แต่จะบอก่า คนเกาหลี เค้าไม่รู้จักชื่อภาษาอังกฤษค่ะ

จำไว้นะค่ะ อยากไปไหน หาชื่อเกาหลีไปด้วย จะได้ถามทางได้ง่ายๆค่ะ

ไม่ว่าจะถามว่า หนังเรื่อง Autumn in my Heart

Winter love song

Scent of Summer

Spring Waltz

Snow Queen

ก็ไม่มีใครรู้จักค่ะ เหอ เหอ

จบวันแรกแค่นี้ค่ะ เด่วมาต่อนะค่ะ


Create Date : 23 มิถุนายน 2552
Last Update : 23 มิถุนายน 2552 12:51:14 น. 0 comments
Counter : 6137 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Groof&Jeab
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]







ไม่รู้จะแนะนำเจ้าของ Blog ยังไงอ่ะ
ก่อนอื่น ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมนะค่ะ มาแล้วก้อช่วย comment ให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ อยากรู้จักทุกคนที่หลงเข้ามา หุหุ
ก้อมีเรื่องราวของเราสองคน สุขบ้างทุกข์บ้างไปตามประสา
วันมหัศจรรย์คือวันแต่งงานของเรา รวมเรื่องราวการเตรียมงานแต่งงานจ้า
ครอบครัวเราชอบเที่ยว ชอบช็อปปิ้ง ชอบปาร์ตี้ เราเลยเรียกว่า ครอบครัวหรรษา
ชอบไปเที่ยวแบบเสียตังค์น้อยๆๆ อิอิ คุ้มค่า ทุกบาททุกสตางค์
อยากเป็นช่างแต่งหน้า เลยไปเรียนที่ MTI ขอได้ทำอะไรแหมจะไม่ได้ดั่งฝัน แต่เริ่มก้าวเดินไม่ย้ำอยู่กับที่
ตอนนี้กำลังคลั่งถักนิตติ้งมากๆ ภูมิใจจัง
อยากมีลูกแต่ไม่มี ตอนนี้เลี้ยงจิกซอว์ไปก่อน **เค้าว่าบางแก้วดุช่ายมิเคอะ**
ใครอาจจะมองว่าบ้านสีสันจัดจ้าน ฟ้า-ส้ม ควรไปปลูกที่บ้านเขมร ก้อไม่สนใจ แต่ก้อชอบนะ กลายเป็นชื่อเรียกกันในหมู่เพื่อนฝูงไปแล้ว "เจอกันบ้านเขมร" อ่ะ เป็นอันรู้กัน ฮี่ฮี่
ทำตัวสวย กรุสมบัติ จิปาถะ ไม่รู้จะไปหมวดไหนดี ก้อมาแปะๆๆไว้ตรงแถวนี้แหล่ะ คิกๆ
ก้อเป็นเรื่องของแม่ศรีเรือนเอาใจสามีสุดรัก คิกๆ ป่าวเป็น ผีบ้านผีเรือนนะเฟร้ย
ลูกหลานเหลนโหลน เป็นบรรดาหลานๆ ลูกของเพื่อนๆ พี่ๆ ยังไม่มีของตัวเองเป็นตัวเป็นตน ขอยืมของคนอื่นเอ็นดูไปก่อนแล้วกัน เนอะ
ตกหลุมรัก เป็นเรื่องราวของเราก่อนแต่งงานกัน มีสุขมีเศร้า เราได้ไปที่ต่างๆ มันคือความทรงจำอันล้ำค่า
คุยไป บ่นไป จริง ๆ ก้อไม่เชิงเป็นไดอารี่หรอกนะ เราขี้เกียจอ่ะ แฮะๆ แต่แค่มาเล่าเรื่องที่อยากเล่าก้อแล้นกัน ถือว่าเก็บไว้เป็นความทรงจำยามแก่



มี คน มาเยี่ยมชมค่ะ เปิดตัวบล็อก 07/07/07

free counter

สาว LSQ

พี่นู๋หน่อย

สาวผิงจอมกวน

หนูใหม่

แม่เหมียวพ่อมด

น้องส้มซ่า

สาวโรส

 โอ๊ตตี้

สาวแป๋ม

แหม่มหมาฝ้าย

สมอุ๋ย

พี่พิม

พี่นู๋นัท

เพื่อนแอ๊พ

ป้ากบ

เนเน่

พี่พู่น้อย

นู๋โอ้ย

สาวพิกกี้

น้องแอน

ไดอารี่ของเพื่อน 

ไดพี่นู๋หน่อย

ไดแม่บี

ไดหลานข้าว

แม่แอนพ่อหนุ่ม

ไดยัยมีน

ไดพี่หนมบิ๋ม

ไดมิสโอดะ

ไดยัยอุ๊กเอ๋

ไดยัยต่าย

ไดพี่นู๋นัท

ไดพี่เอ๋

ไดยัยจอย

ไดสาวก้อ

ไดพี่นู๊ป

ไดสาวพิงค์

ไดสาวมิกิ

ไดสาวแนน

งานฝีมือ 

 ครูพี่แบม

คุณกุ้งกลม

คุณฮิปโปวดี

คุณ fozzil

คุณสิมา

คุณ febie

 คุณขวัญใจ

บล็อกความงาม 

คุณรำเพย

sushiboy69

คุณพลอย

คุณจ้อย..ยย

คุณจีนJebun

คุณเดอะ กั้ง

คุณn_nicky

คุณชฎาแหลม

 Mrs.Wright

 คุณลูกแม่ดอกบัว

คุณลิเซิ่ล

 คุณ cuccy

คุณ soopara

คุณ pingpii

คุณ CinnamonGal

คุณ Phoebe Buffay

 คุณเปรี้ยวMTI

 คุณตูนน์

คุณทราย

สอนแต่งบล็อก 

ป้ามด

คุณ paradijs

PS_PRINCESS

คุณ lozocat

 คุณกุ๊กกิ

คุณเนยสีฟ้า

คุณแค่ฟ้ามีดาว

คุณรักษ์บ้านเกิด

ดอกหญ้าเมืองเลย

คุณเด็กหัดเดิน

คุณพลอยสีรุ้ง

คุณยอดสน

คุณ CandyDolls

คุณ แพรวขวัญ

คุณ Pk12th

บล็อกแต่งบ้าน 

คุณ nature-delight

คุณ Wineglass

คุณ Paninee

คุณ janeko


สร้าง Playlist ของคุณได้ที่นี่
New Comments
Friends' blogs
[Add Groof&Jeab's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.