Istanbul

จดหมายจากต่างแดน

สวัสดีตอนอากาศเย็น ๆ ของอิสตันบูลค่ะพี่จิ๋ว ตามที่ตั้งใจไว้นะคะ เปิดบ้านใหม่ไว้เขียนเรื่องราว เล่าเรื่องเราให้กันฟัง

วันนี้วันที่ 7 พย 2553 อย่างที่รู้ ๆ เดือนนี้ของทุก ๆ ปีหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตุ๊กต้องระเห็ดออกจากเมืองไทยชั่วคราว อิอิ ก็งาน conference ที่เราทราบ ๆ กันดีอยู่ตลอดไงค่ะ แสนจะน่าเบื่อ แต่ก็ต้องมาเพราะมันคือหน้าที่ ที่อิสตันบูลไม่เลวหรอกนะคะ สำคัญคือไม่ได้หนาวเหมือนยุโรปเมืองอื่น ๆ ที่โดน ๆ มาตลอด 6-7 ปีที่คุ้นเคย ใส่แจ็คเก็ตตัวเดียวยังพอเดินได้นะคะ ช่วงกลางวันสบาย ๆ ค่ำมาก็อุณภูมิลดลงกว่ากลางวันนิดหน่อย อิอิ ก็นะ ไม่หน่อยเท่าไหร่

อยากเล่าเรื่องตั้งแต่ลงเครื่อง เอะ อยู่บนเครื่องดีกว่าเนอะ นั่ง TK บินตรงจากกรุงเทพ 9ชั่วโมง 45 นาที เดินทางคนเดียว อะเกน (เฮ้อ...) ตุ๊กซื้อตั๋วทางอินเตอร์เน็ตจากผ่านบัตร (เผื่อเครื่องบินตกตายแม่จะได้เงินประกัน 5555) เลือกที่นั่งเองได้นั่งแถวหน้าคนเดียวสองที่นั่งสบายแต่นอนไม่ค่อยหลับเพราะเหยียดขาได้ไม่สุดติดพนังห้องน้ำ แหะแหะ
แอบนึกในใจรวยมะไหร่จะนั่งบิซิเนสแบบควักตังค์เองซักครั้ง อิอิ มะไหร่มะรู้นะ คงอีกนานนนนนน

บอกพี่จิ๋วไหมค่ะว่างานนี้ตุ๊กยอมทิ้งคราบแบ๊กแพ็กเกอร์ ออเดอร์ limo จากโรงแรมมารับพร้อมป้ายชื่อ หลายคนเป็นห่วงว่าเมืองแขกอาจไม่ง่ายนักถ้าจะหา public transportation ที่สะดวก ๆ เหมือน ๆ ยุโรปเมืองอื่น ๆ แถมไฟร์ทลงตอนตีห้าของที่นี่
หมอกหนา หนาวคงไม่ไหวลากอีแก่ คู่ทุกข์คู่ยากตุเลง ๆ เดินหาโรงแรม

....แต่ก็นะ ดวงคนจะไม่สบาย นี่อุตสาห์ควักกระเป๋าจ่ายแพงนะเนี๊ยะ ยังอดไฮโซเลยค่ะ (บ่นเรื่องราคารถกับน้องบอทลูกพี่สุไปพอสมควรเหมือนกัน) เพราะคนขับรถไม่มาตามเวลา ผ่าน ต.ม แขกออกมาเจอป้ายชื่อป้ายโรงแรมเพียบ แต่ไม่มีชื่ออิชั้น เดินดูทีละอัน ๆ จนใจ เลยนั่งบนอิแก่ (กระเป๋า) สบตากะพวกคนรอรับมันตรงนั้นแหละจนสุดท้ายไม่ไหวเขารับลูกค้าลากลับกันเกือบหมด ..... เปิดโทรศัพท์ ติ๊ด ๆ แบตหมด อ้าว....เซงเลย.... ช่วงหน้าซิ่วหน้าขวาน....

สุดท้ายหารถไปเอง จ่าย 25ยูโร (จาก limo 75ยูโรต่อเที่ยว) นั่งเบนซ์แวน คนขับเรียบร้อย offer สแน็คและเครื่องดื่มอีกต่างหาก ......บอกแกมารับขากลับด้วยเลย ลดราคาจาก 25 เหลือ 20ยุโร ถูกและดี นี่ไงสไตล์การเดินทางของเรา อิอิ เห็นไหมค่ะ ...ไฮโซได้แบบไม่ต้องจ่ายแพง เจ๋งงงงงง

ถึงโรงแรมตอนหกโมงเช้าค่ะพี่จิ๋ว ตอนแรกกะมองหาโซฟาหลับมันแถว ๆ นั้นก่อน เพราะเวลาเชคอินแจ้งไว้ บ่ายสอง อีกตั้งหลายชั่วโมง เดินเข้ามาถึงล๊อบบี้พนักงานบอกคนขับรถรออยู่สนามบินประกาศเรียกตั้งสองครั้ง เลยหัวเราะ หึหึ ถามว่าเครื่องลงตีห้าแล้วเขาไปกี่โมง พนักงานบอกเขาทราบว่าเครื่องลงหกโมง จ๊ะ......เจริญเถอะพ่อ.... ไหน ๆ ก็มาถึงแล้ว ถามว่าเชคอินเลยได้ไหม โชคดีจริง ๆ ได้เชคอินเลย

......ขึ้นมาวางกระเป๋าแล้วโทรหาแม่ว่าถึงแล้วจะได้ไม่เป็นห่วงเพราะเปิดเครื่องเห็นเมสเซสแม่หลายครั้งคงพยายามติดต่อ เค้าห่วงว่าจะไม่สบายเพิ่งหายหวัดยังไออยู่เลย

อินเตอรเน็ตที่ห้องแพงวันละ15 ยูโร (คราวก่อนที่ Budapest เหมาจ่าย 30ยูโร สามวัน) แต่ถ้าเอาลงมานั่งเล่นที่ล๊อบบี้ฟรี เรามันคนงกเลยไม่อยากจ่าย อิอิ คิดว่าวันนี้ช่างโชคดีจัง ลัลลา ๆ ๆ .......เข้าเน็ตได้ก็ไป fb อัพเดทกันหน่อย แวะเข้าบล๊อค ก็ป๊ะจนได้.....!!!
.......อ่ะนะไม่มีใครโชคดีเสมอไปหรอกเนอะพี่จิ๋วอันนี้เข้าใจแระช่างมันเถอะ.....บางเรื่องเราควบคุมได้ แต่บางเรื่องควบคุมไม่ได้ ขึ้นอยู่ว่าโชคเราดีขนาดไหน ตุ๊กไม่ได้โชคดีเรื่องนั้นอันนี้ซึ้งค่ะ

พี่จิ๋วจำลุงเคน กับป้ามาธาร์ ที่เคยเล่าให้ฟังได้ไหมค่ะ 7 ปีผ่านไปเราได้มาเจอกันอีกที่นี่ หลังจากเจอกันครั้งแรกและสุดท้ายที่โรม 7ปีที่แล้ว ที่จริงนัดกันแล้วจะเจอกันที่นี่ ทั้งสองไปโบสช่วงเช้าเพราะแกมาจากฟอริด้าถึงเมื่อวานเลยมีเวลา พอดีตุ๊กก็หลับถึง 11 โมง บ่ายนัดเจอกัน สองลุงป้าหลงทางหาโรงแรมตุ๊กไม่เจอ เลยปาเข้าไปเกือบบ่ายสาม

.....เจอกันนั่งคุยกันเพราะมีเรื่องราวมากมาย ตุ๊กติด ผ้าไหมสวย ๆ จาก Jim Thomson และผ้าลายขาวม้า มาฝากลุงป้าด้วย แกชอบใจกันใหญ่ หลังจากนั้นก็เลยไปดินเนอร์กัน มาเมืองแขกก็ต้องกินอาหารแขกเนอะ Kebab House เดินไปไม่ไกลจากโรงแรม แถมวันนี้แกขอเป็นเจ้ามือซ่ะอีกแหมเกรงใจจัง.......แต่คำนวนในใจประหยัดไปมือนึงแหะ เหลืออีกหลายวันต้องเขียม ๆ หน่อยใช้เงินให้คุ้มค่า.......


......ลืมเล่าให้ฟังว่า โรงแรมดีมาก ถึงไม่ห้าดาวอย่าง Ritz Carlton ที่ที่จัด conference แต่สี่ดาวที่นี่ก็โอเคค่ะ เป็นย่านที่มีแต่โรงแรม ติด ๆ กันเป็นบล๊อค ๆ เมื่อเช้าเห็นโรงแรม ที่ Andy กะ Sharron พักอยู่ปากซอย ป่านนี้คงมาถึงกันแล้ว บ่ายสองกว่าๆ เดินไปแลกเงินเห็น Hans จากเบลเยี่ยมยืนเชคแฮนด์กะฝรั่งแก่คนนึงขี้เกียจทักเลยหลบ ๆ ไปก่อน สรุปคือคนที่ร่วม conference น่าจะพักแถว ๆ เดียวกัน คงน้อยคนที่พักที่ Ritz Carlton ค่ะ

....จากที่นี่เดินไปงานก็พอไหวถ้าส้นสูงอย่างวันนั้นที่เราเดินกันก็เดี้ยงได้นะคะ อิอิ

เรื่องโชคดีอีกอย่างคือระหว่างทางไปร้านอาหาร เจอคนตุรกีที่นี่คุยกันแกเดินพาไปส่งร้านอาหาร ชื่อเหมือน Hakan เพื่อนตุ๊กที่เยอรมันเลย คาดว่าคงจะเหมือนสมชายบ้านเราอ่ะนะ .....

แกแนะนำเมนูอาหารให้ กินกันนานมากเพราะเมาท์กันส่วนใหญ่ตุ๊กพูดตามเคย อิอิ ลุงป้านั่งหัวเราะจนปวดท้อง ขากลับเดินออกจากร้าน ป๊ะพี่ hakan แกอีกรอบบอกเดินมาจากบ้านกำลังไปร้าน แกมีร้านขายของแค่ไม่กี่บล๊อคจากโรงแรมตุ๊กค่ะ แวะซื้อเชสนัทร้อน ๆ ระหว่างทาง เรากำลังมีปัญหาเรื่องภาษาเพราะเป็นร้านรถเข็น พี่ Hakan แกเดินมาเจอะเข้าเลยช่วยแปลให้ เชสนัทที่นี่ ที่ปักกิ่งกะที่บ้านเรา มันน่าจะคือเกาลัดมังค่ะพี่จิ๋ว แต่ที่นี่ลูกใหญ่กว่าเปลือกมันเปิดกว่าค่ะ หอมยั่วยวนมาก ยิ่งอากาศเย็น ๆ กินเชสนัทกะ Turkish Tea ร้อน ๆ เหมาะมาก เราสามคนเลยเดินคุยกับ Hakan แวะไปที่ร้านเค้า ขายของที่ระลึก พรมสวย ๆ มากมาย พรมนี่แพงสุด ๆ สวยสุด ๆ ตุ๊ก ป้ามาธาร์ ลุงเคน อึ้ง ๆ ๆ กับความสวยและราคาของมันมาก ลุงของ Hakan แกขยันมากรื้อ ๆ ๆ พรมมาให้เราดู แต่เราบอกแกนะ ว่าเราไม่ไหวจ่ายไม่ได้รวยนะ แกก็ไม่ว่า บอกว่าง ๆ แวะมาดื่มชากัน ขอตัวกลับ Hakan เดินไปส่งป้ามาธาร์และลุงเคนขึ้นแท๊กซี่เพราะแกอยู่อีกฝั่งนึงของแม่น้ำ (หรือทะเลหว่า) เป็นเมืองเก่าที่มี บลูมอสก์ ตุ๊กยังไม่มีเวลาเที่ยวชมเลยค่ะพี่จิ๋ว หมดวันซ่ะแล้ว

ตลกอยู่เรื่อง.....จากที่ตื่นเต้นมือถือว่ามันฉลาด ที่สนามบินตุ๊กไม่ได้ปรับเวลาที่ข้อมือ แต่พอเอามือถือออกมา เวลาที่มือถือมันเปลี่ยนอัตโนมัติ เราก็โอ้โหแกฉลาดแหะมือถือเนี๊ยะ อดภูมิใจที่ซื้อรุ่นนี้ไม่ได้ ถูกและดีอีกแล้ว 55555 แต่.....พอเมื่อบ่ายเปิดออแกไนเซอร์ดูตารางนัดทริปนี้ ที่ลงไว้ในงาน conference ทั้งหมด มันกลายเป็นตีสี่ตีห้าบ้าบอไรม่ะรุ อ๋อ ตารางในออแกไนเซอร์เปลี่ยนด้วย นรกเลยทีนี้ กรี๊ดๆ ๆ ๆๆ นัดใครกี่โมงกี่ยามกันละเนี๊ยะ เพิ่งแก้ไขเสร็จไปม่ะกี้ เฮ้อ ....

พรุ่งนี้เริ่มงานแล้วค่ะ ตารางนัดตุ๊กเต็มเหยียด เว้นวันสุดท้ายไว้หนึ่งวันกะเป็นฟรีเดย์ ชิดแชทเรื่อยเปื่อย ก่อนเก็บกระเป๋ากลับบ้าน นัดแรกพรุ่งนี้กินกลางวันกับลูกค้าฮอลแลนด์ค่ะ ช่วงบ่ายกะจองทัวร์ที่มีบริษัทใดบริษัทนึงสปอร์นเซอร์ไปไซด์ซีอิ้ง ฟรี ๆ อิอิ

เขียนยาว ๆ แบบนี้พี่จิ๋วจะอ่านจนจบไหมค่ะ จะมีใครอ่านมันจนจบบ้างคนที่อ่านจนจบหมายถึงเค้าสนใจเรื่องราวของเรา ธรรมดาตุ๊กก็พูดมากอยู่แล้ว พี่จิ๋วฟังไปเบื่อมั่งรึเปล่าค่ะ อย่าเบื่อเลยนะคะหาคนฟังจริงยากค่ะ

ขอบคุณและคิดถึงนะคะ แล้วจะเขียนมาอีก อ่านไม่อ่านไม่รู้หละ

ที่จริงวันนี้วันที่ 9 ค่ะ เมื่อวานยุ่งทั้งวัน แถมช่วงเย็นมี welcome session เป็นช่วงที่ช่วยชีวิตตุ๊กไว้หลายครั้งหลายหนค่ะ เวลาไม่รู้จักใครเดินเข้างานคนเดียว ประดักประเดิน ช่วงนี้เจ๋งสุดค่ะ เพราะเสริฟ ไวน์ทุกชนิด แชมเปญ วอดก้า วิสกี้ สาระพัด เป็นช่วงเมาแล้วเมาท์ค่ะ รื่นปรึ๊ดดดด ๆ เลยเชียวรู้จักไม่รู้จัก เมาท์ได้หมดเวลาเมา ที่จริงแค่กรึ่ม ๆ ค่ะ เอาแอลกออฮอลล้างความอายค่ะ เดินเข้างานคว้าหมับกรอกปาก แล้วเชิด Hi Hello ไปได้เรื่อยค่ะ เหมือนสนิทกันมานาน 55555 ตุ๊กว่า หลายคนคงเป็นงี้กันนะคะ

วันที่ 8 ยังไม่ได้เขียนเลย พี่จิ๋วรอต่อไปนะคะ

ดูแลตัวเองด้วยนะคะ

รักและคิดถึง
ตุ๊ก





 

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2553
7 comments
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2553 2:12:44 น.
Counter : 831 Pageviews.

 


อ่านได้จนจบจ้าตุ๊ก

การที่จะต้องไปไหนไกลๆ ตามลำพัง
โดยเฉพาะในต่างแดน อาจจะเหว่ว้าเอกาไปบ้าง
แต่ก็ยังดีกว่า ที่จะต้องร่วมทางกับคนที่อยู่ใกล้ตัว
แต่ความคิดไกลห่างกันเป็นร้อยเป็นพันไมล์นะจ๊ะ

ไม่เคยเบื่อกับการได้ฟังตุ๊กคุยเลย
หลากเรื่องหลายรสฟังทีไรก็เคล้ากันไป อร่อยทุกทีล่ะ 555

จิ๋วเองเสียอีก ที่บางคราก็ไม่รู้จะคุยอะไร
มีแต่เรื่องราวให้เล่าไม่กี่อย่าง ก็เลยได้แต่ฟัง สนุกกว่าเยอะเชียว

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 เป็นวันหนึ่งที่จิ๋วต้องรับรู้เรื่องราวบางเรื่อง
ที่พาให้ใจหายไม่น้อยเชียวล่ะ
แต่ตอนนี้ คงต้องขอตัวไปทำงานก่อนน๊า
ว่างแล้วจะมาเขียนจดหมายหาตุ๊กอีกรอบแล้วกันจ๊ะ

หวัดเพิ่งหาย งานเพิ่งเริ่ม
ฤาแม่มดกำลังจะแฮงค์ 555
อย่างไรซะ ก็ดูแลตัวเองเยอะๆหน่อยนะจ๊ะ

รักและเป็นห่วงเสมอ

พี่จิ๋ว

 

โดย: lastmoon 10 พฤศจิกายน 2553 9:10:33 น.  

 


สวัสดีวันศุกร์จ้า ตุ๊ก

ใกล้จะถึงวันเดินทางกลับแล้วล่ะสิ
ไม่ต้องหอบหิ้วอะไรกลับไปฝากน๊า
นอกจากเก็บงานใหม่ๆกลับมาก็พอ จะได้เตรียมนับกะตังค์กัน เนอะๆๆ

เคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวตุรกี อียิปต์ กรีก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2537 นานมากแล้วล่ะ ซึ่งเป็นทริปท้ายสุด
ก่อนที่จะหยุดเดินทางท่องเที่ยว แล้วก็มัวขับเคี่ยวกับปัญหาสารพัดสารพัน

จำได้ว่า อิสตันบลู มีสุเหร่าที่สวยมากๆ
นักท่องเที่ยวก็เยอะแยะ สถานที่ก็กว้างใหญ่ เดินกันจนเมื่อยนั่นล่ะ
ไม่รู้ว่า ตุ๊กจะมีเวลาเหลือให้ได้ไปเที่ยวชมเมืองบ้างหรือเปล่า
เอาไว้งานซาๆเราไปเที่ยวกันใหม่นะ

วันเวลาผ่านไปเร็วจริงๆเนอะ ตุ๊ก
เราเพิ่งจะเคาน์ดาวน์กันที่ออฟฟิคกันไป รู้สึกเหมือนจะไม่นานนี้เอง
นี่ก็ปลายปีแล้ว

พฤศจิกายนอีกแล้ว เดือนนี้ที่นอกจากจะเป็นเดือนเกิดแล้ว
ก็มักจะเป็นเดือนที่มีอันจะได้เจอะเจอกับเรื่องราวพิเศษๆ
แต่ก่อนก็ไม่เคยจะได้นึกถึงอะไร หลังๆมา เอ.. ชักจะยังไงนิ
นั่นละนะ ตุ๊ก เหมือนอย่างที่เรารู้ๆกัน
1-2 อาทิตย์ก่อนหลังวันเกิด จะเป็นช่วงอันตรายยยยย

มารำลึกความหลังให้ตุ๊กฟังบ้างดีกว่า เริ่มจากนี้เลย
1 พฤศจิกายน 52 ปีที่แล้วนี่เอง ขับรถกลับไปบ้านผักไห่แต่เช้า
อากาศกำลังสบาย น้ำกำลังเต็มทุ่ง เหมือนตอนนี้เลย 555
กำลังจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหลังบ้าน
ปุ้งงงงง รถเสียหลักเข้าข้างทางทันที
มีหนุ่มมาสะกิดบั้นท้ายซีกขวาไปซะแล้ว

9 พฤศจิกายน 53 จู่ๆก็มีคนเบื่อบ้าน ไปนอน รพ.ซะอย่างงั้น
ดีนะ ที่ได้กลับบ้านเร็ว แต่ก็ตัวเบาไปเยอะเชียว
ท่าจะผอมก็รอบนี้ล่ะ 555

14 พฤศจิกายน 40 วันนั้นตรงกับกับวันลอยกระทง
แต่จิ๋วต้องนอนอยู่ในห้องผ่าตัดใหญ่ แถมไม่ได้ฝันถึงพระจันทร์วันเพ็ญที่ไหนเลย ...
ถึงจะผ่านมานานแล้ว แต่เป็นอะไรที่ไม่เจอดีกว่าเนอะ
ตอนนั้นเรายังไม่เจอกันเลยนะ วันนี้ก็เลยคิดว่า เป็นเรื่องโชคดีที่ผ่านวันนั้นมาแล้ว
ผ่านมาเพื่อที่เราได้มาพบเจอกัน ถูกอัธยาศัยกันมาจนถึงวันนี้

27 พฤศจิกายน 50 ตรงกับวันลอยกระทงอีกเหมือนกัน
คืนนั้นจิ๋วโทรหาตุ๊กจากอุทัยธานี
ตุ๊กอยู่กับพี่สุ น้องวัน และเพื่อนๆอีกสองสามคน ที่ริมน้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพ
เป็นคืนที่จิ๋วเผชิญหน้ากับความจริง และตัดสินใจจะตัดฟางเส้นสุดท้ายนั่นซะ ...

พฤศจิกายนปีนี้ ยังเหลืออีกหลายวัน
แต่ก็ยังคงเป็นช่วงเดือนที่ต้องเข้มแข็งอีกมาก
เพราะยังมีสิ่งต่างๆรอให้ต้องจัดการอยู่อีก

เห็นมั๊ยจ๊ะ ปัญหาอยู่รอบๆตัวเรา ไม่ได้มากหรือน้อยไปกว่าความสุขหรอกนะ
แต่เราก็ต้องจัดลำดับ เลือกรับและแก้ไขแต่ละสิ่ง ให้สมดุลกัน
สุขมากนัก เราก็จะประมาทกับวันเวลาที่มี
ทุกข์มากนัก เราก็จะขาดสติสตังค์ไปได้
หากเราใช้ชีวิตอย่างสมดุล
มีสุขมีทุกข์อย่างพอดี ให้หลักธรรมในการดำเนินชีวิต
เราก็จะอยู่ได้อย่างสงบ และเต็มอิ่มไปด้วยความสุขในใจ
เท่านี้ เราก็มีคุณค่าพอสำหรับโลกใบนี้แล้วล่ะ

รักและคิดถึงตุ๊กน๊า

พี่จิ๋ว

 

โดย: lastmoon 12 พฤศจิกายน 2553 10:59:33 น.  

 

8 พฤศจิกายน 2553

ตื่นเช้ามากค่ะวันนี้พี่จิ๋ว อากาศดีไม่หนาวมาก แตใจไม่ค่อยดี อาบน้ำแต่งตัวเหมือนหุ่นยนต์ ใจพาลคิดไปหลาย ๆ อย่าง เมื่อวานเจออะไร และวันนี้ต้องเจออะไร คิดแล้วหนักใจนะคะ บางครั้งมันไม่ไหวจริง ๆ

พี่จิ๋วคิดเหมือนกันไหมคะ ผู้หญิงเริ่มต้นความรักจากความเชื่อความไว้ใจที่มีเต็มร้อย

เหมือนไพ่ใบนึงในสำรับไพ่ยิปซี พี่จิ๋วรู้จักความหมายของไพ่ The fool ไหมคะ ตุ๊กพอศึกษามันมาบ้าง เค้าให้ลองอ่านไพ่จากรูปภาพที่อยู่ในไพ่

ไพ่ใบนี้ เป็นรูปคนอายุน้อย แบกห่อผ้า เชิดหน้ามองฟ้า ยืนอยู่บนปากเหว ขาอีกก้าว กำลังก้าวค้างไว้ในที่ว่างเปล่า ไม่มีแผ่นหิน แผ่นดินรองรับ ถ้าหากเขาเหยียบลงเขาจะตกเหวทันที พี่จิ๋วลองหาไพ่ใบนี้มาดู สีหน้าท่าทางของคน ๆ นั้นไม่ได้หวั่นกลัวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเลย เขาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังก้าวลงเหว แต่ที่แน่ ๆ เขากำลังมีความสุข

พี่จิ๋วว่าเหมือนกับความรักของผู้หญิงบางคนไหมค่ะ เพราะเชื่อในรัก เชื่อในคนรัก ผู้หญิงเป็นเหมือน The fool จนกระทั่งเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดเพราะรัก เผชิญหน้ากับสิ่งบางสิ่งที่ทำให้รู้ว่า คนรักนั้นอาจไม่ได้มีเธอในสายตาเพียงคนเดียว ถึงตอนนั้นผู้หญิงต้องทำตัวยังไง เรื่องที่เกิดกับผู้หญิงแต่ละคนต่างกัน แต่ที่คล้ายกันคือเธอเจ็บปวดเพราะเธอเพิ่งเข้าใจว่ารักไม่ได้สวยงามอย่างที่เธอคิด เส้นทางที่เดินไปสู่จุดหมายของการอยู่ร่วมกันกับคนรักของเธออาจเป็นแค่ความฝัน อาจเป็นอีกแค่หนึ่งครั้งของการผิดหวังในหลาย ๆ ครั้ง ไม่มีความเจ็บปวดใดทรมานเท่ากับการรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนสำคัญที่สุดของคนรักของเธอ แต่สำหรับเธอเขาเป็นคนที่เธอสามารถทิ้งทุกอย่างเพื่อเขาได้

ความเจ็บปวด ทีละเล็กละน้อย แต่ละเรื่องราวที่เข้ามาแทรกและกรีดหัวใจ จะทำให้เธอปรับใจได้เอง จากการเริ่มต้นด้วยความเชื่อใจร้อยเปอร์เซนต์ ความหวังในรักร้อยเปอร์เซนต์ ความรักจะค่อย ๆ ถูดทดแทนด้วยความเจ็บปวด จนวันหนึ่งความเจ็บปวดนั้นจะไม่อาจทำร้ายเธอได้อีกต่อไป

ตุ๊กเคยทำได้แล้วครั้งนึงในชีวิต วันนี้ยอมรับว่าทั้งเหนื่อยทั้งท้อ ทั้งกับความรัก และกับงาน ภาระที่อีกไม่กี่ชั่วโมงตุ๊กกำลังต้องเดินไปเผชิญกับมัน ตอนนี้ในหัวใจรู้สึกโดดเดี่ยวเหลือเกิน รู้สึกว่าแม้ความสำเร็จอยู่ข้างหน้าก็ไม่รู้จะชื่นชมมันกับใคร หรือแม้ความล้มเหลวอยู่ต่อหน้า ก็คงไม่รู้จะไปร้องไห้กับใคร เหมือนเขาเป็นคนอื่นในใจ เป็นของคนอื่นเสียแล้ว ความรู้สึกนี้พี่จิ๋วน่าจะเข้าใจดี

นัดวันนี้ช่วงเช้า และเที่ยงคิดว่าจะได้ไปเที่ยว แต่ที่จริงไม่ได้ไปเลย ตุ๊กเลี้ยงกลางวันลูกค้าและนั่งคุยกันรอที่จะลงทะเบียนงาน conference เพราะเราเห็นคนรอคิวนานเลยพา ลูกค้าไปทานกลางวันก่อน กลับมาไม่ทันรถบัสค่ะพี่จิ๋ว เลยต้องเดินทักทายคุยกับคนโน้นคนนั้นไปก่อนจนเย็นรอช่วงสำคัญ Welcome Session ค่ะ ช่วงใช้แอลกอฮอร์ล้างอาย

วันนี้จัดการไวน์แดงไปหลายแก้ว พอดีคุณป้า Anna พักโรงแรมใกล้ ๆ กันแกชวนนั่งแท๊กซี่ไปพร้อมกัน ไม่งั้นปีนเขากลับไม่ไหวแน่เลยค่ะ ถึงห้องกว่าจะอาบน้ำคลานขึ้นเตียงก็เกือบแย่ค่ะ นึกทวบทวนถึงเรื่องเมื่อวาน วันก่อน เรื่องความเจ็บปวดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม เตียงหมุน ๆ นัดแรกพรุ่งนี้แปดโมงเช้าต้องตื่นกี่โมงกันนะ ไหวไหมเราแล้วน้ำตาไหล อ่านข้อความที่ดูสวยงาม ไม่มีอะไร แล้วทำไมน้ำตาไหล หลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้อ่ะค่ะ

คงต้องส่งจดหมายย้อนหลังกันหน่อย ยังไงก็มีเรื่องเล่ากันนะคะ

สิ่งหนึ่งที่ตุ๊กดีใจจนทุกวันนี้คือเราได้มารู้จักกัน ดูแลกัน รับฟังซึ่งกันและกัน ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างนะคะ

รัก
ตุ๊ก

 

โดย: GreenWitch 14 พฤศจิกายน 2553 23:15:33 น.  

 

ลอยกระทงใคร ๆ ก็อยากไปลอยกับแฟนเนอะ ...มีตุ๊กนี่แหละมั้งที่ลอยกับเพื่อน จะมีอะไรพิเศษบ้างก็คงแค่ครั้งเดียว ปีนี้ตุ๊กดีใจนะที่กลับจากงานทันลอยกระทง ถ้าพี่จะจำได้ตุ๊กอยากลอยกระทง และเกือบ ๆ ทุกปีที่ต้องลอยกระทงที่ต่างแดนคนเดียว

ปี 50 นั้นเป็นปีแรกที่ได้กลับมาลอยที่กรุงเทพ และปี 52 เป็นปีแรกปีเดียวที่พิเศษ ...ปี 53 คงเลิกอยากลอยกระทงแล้วค่ะ ...

พฤศจิกายน เหลืออีกไม่กี่วันเองค่ะ แล้วตุ๊กก็ไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ที่นี่เหมือนเดิม อยู่ด้วยกันนะคะ อดทนอีกนิดเดียว

 

โดย: GreenWitch 15 พฤศจิกายน 2553 0:09:26 น.  

 

แอบมาอ่านด้วยคนค่ะคุณตุ๊ก อ่านท่อนบนรู้สึกชื่นชมว่าคุณตุ๊กเก่งจัง เดินทางไปทำงานไกลโพ้นได้คนเดียวอย่างมั่นใจด้วยน่ะ เป็นแหม่มสงสัยคงได้จอดตั้งแต่สนามบินแล้ว แหะ ๆ

.........

เลื่อนลงมาอ่านคอมเม้นท์ล่าง..เข้าใจความรู้สึกคุณตุ๊กนะคะ(แหม่มเองก็เป็นและเป็นอยู่บ้างเป็นบางทีที่ลืมตัวน่ะค่ะ) แต่ก็อย่างว่าล่ะเนอะ ใด ๆ ในโลกนี้ล้วนอนิจจัง ความทุกข์ ความผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ผ่านเข้ามาแล้วเราก็ต้องยอมให้มันผ่านไป เราต่างหากที่จะต้องอยู่กับตัวเราเองไปอีกนานเท่าที่ลมหายใจยังมีอยู่ ขึ้นอยู่กับว่า วันนี้เราจะหายใจอย่างรู้สึกสุข หรือปล่อยให้ความทุกข์มันมาเบียดเบียนเราเท่านั้นเอง..

แวะมาเติมกำลังใจให้นะคะ

 

โดย: i'm not superman 18 พฤศจิกายน 2553 22:05:05 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณตุ๊ก..เป็นอย่างที่คุณตุ๊กว่าไว้เปี๊ยบเลยค่ะ เห็นงานเดินไปข้างหน้าแล้วเราก็มีความสุขน่ะ เหนื่อยบ้างอะไรบ้าง แต่เราก็โฟกัสตรงจุดหมายปลายทางมันมากกว่า

สุขสันต์วันลอยกระทงล่วงหน้าด้วยนะคะ

 

โดย: i'm not superman 20 พฤศจิกายน 2553 7:52:07 น.  

 


สวัสดีจ้า ตุ๊ก

ตะกี้เขียนจดหมายไว้ซะยาวเหยียดเลยอ่ะ
นิ้วก้าวเร็วไปหน่อย หายไปหมดหน้าเลย ฮือๆๆๆ

เอานี้มาแปะไว้แทนก่อนแล้วกันน๊า

คำว่า "รัก" มีอะไรมากมายซุกซ่อนอยู่ในนั้น อาจจะหวานชื่น ขมขื่น หรืออะไรอื่นอีกหลากหลาย ที่จะทำให้คนรู้จัก "รัก" ได้สัมผัสและรู้สึกถึง….


ความรักเริ่มจากความคิด
เพราะความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก บางที.. ความรักอาจทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงความคิดไปจากเดิม อาจทำให้คนเราต้องปรับปรุงในสิ่งที่เคยทำ เพียงเพื่อให้เข้ากับใครอีกคน


ความรักทำให้เกิดความเคารพ ศรัทธา
คุณจะไม่สามารถรักใครได้ ถ้าไม่รู้สึกเชื่อมั่นเสียก่อน และคนแรกที่คุณต้องศรัทธาเชื่อมั่น ก็คือตัวเอง


ความรักคือการให้ ถ้าคุณต้องการที่จะได้ความรัก
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการให้ ยิ่งให้.. คุณก็จะยิ่งได้รับสูตรลับของความสุขและทำให้มิตรภาพยืนยาวที่คุณควรจะจำเอาไว้เสมอก็คือ อย่าถามว่าคนอื่นให้อะไรคุณบ้าง แต่ให้ถามว่าคุณทำอะไรให้คนอื่นบ้างจะดีกว่า


ในความรักมีมิตรภาพซ่อนอยู่
อยากได้รักแท้ ก็ต้องหาเพื่อนแท้ให้ได้เสียก่อน การจะรักกันได้ไม่ใช่แค่มองตา แต่อยู่ที่ว่า.. ต่างคนต่างมีอะไรที่ตรงกันหรือเปล่าหากจะรักใครอย่างจริงใจ คุณควรจะรักในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่แค่ภาพที่คุณเห็น มิตรภาพก็เหมือนกับปุ๋ยที่ช่วยทำให้ความรักเบ่งบานเติบโตทุก ๆ วันนั่นเอง


การสัมผัส ช่วยสานต่อความรักให้ดีขึ้น
เคยรู้สึกดีใช่มั้ยเวลาที่มีใครโอบไหล่หรือกอดคุณ? การสัมผัส จึงเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งที่มีพลัง และช่วยทลายกำแพงแห่งความชิงชังไม่เข้าใจได้อีกด้วย น่าแปลกที่การสัมผัสสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ และท่าทีที่แข็งกร้าวให้เบาบางลงได้


อยากรักต้องรู้จักปลดปล่อย
ถ้าคุณรักใครจงปล่อยให้เขาเป็นอิสระบ้างเพราะคุณเองคงรู้สึกอึดอัด ถ้ามีใครมาล่ามโซ่คุณ ดังนั้น.. จงเรียนรู้ที่จะให้อภัยและลืมอดีตที่ไม่ดี เรียนรู้ที่จะปลดปล่อยความกลัวภายในใจเรียนรู้ที่จะยุติธรรมและลดทิฐิ รวมถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ลงบ้าง


ลองบอกตัวเองว่า.. นับแต่นี้ คุณจะทิ้งความกลัวทั้งหมด แล้วอดีตจะไม่มีผลอะไรต่อตัวคุณได้.. นับจากวันนี้ไป คุณก็จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที

ชีวิตจะเปลี่ยนไป

เมื่อเราเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้างและซื่อสัตย์ต่อกัน รวมถึง คุยกับคนรักอย่างเปิดเผย และกล้าที่จะพูดถ้อยคำวิเศษว่า "ฉันรักเธอ" โดยไม่ปล่อยให้โอกาสดี ๆ หลุดลอยไป คุณควรจะบอกรักก่อนจากกันทุกครั้งเสมอ เพราะบางที นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะพบกัน!


แก่นแท้ของความรัก คือการไว้ใจกัน
ถ้าคุณไม่เชื่อใจกัน ใครคนหนึ่งจะรู้สึกระแวง กังวล และหวาดหวั่น ขณะที่อีกคนรู้สึกอึดอัดใจ ที่สำคัญ.. คุณไม่อาจรักใครจริง ๆ ได้ ถ้าคุณไม่ไว้ใจเขาคนนั้นอย่างแท้จริง

(FW mail)

คิดถึงเสมอจ้า

พี่จิ๋ว

 

โดย: lastmoon 22 พฤศจิกายน 2553 15:48:35 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


GreenWitch
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
9 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add GreenWitch's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.