LOVE ACTUALLY
Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
17 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

สภาพัฒน์ห่วงแมลงเม่า ออกโรงติงแห่ซื้อทอง

เพราะราคาทองคำในปัจจุบันยังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด แต่เพราะนักลงทุนมองว่าทองคำเคยมีราคาขึ้นไปถึงบาทละ 15,000–15,500 บาท ดังนั้น เมื่อเห็นว่าราคาทองคำลงมาอยู่ระดับแถวๆ บาทละ 12,500 บาท จึงเกิดการเก็งกำไรกันอย่างหนัก จนถึงขั้นต้องรับใบจองซื้อเพราะทางร้านทองไม่สามารถส่งมอบทองคำได้ทันที รวมทั้งมีการกำหนดจำนวนในการซื้อต่อรายด้วย ดังที่ บางกอกบิสิเนส ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ปรากฏการณ์ตื่นเก็งกำไรทองคำ ได้ทำให้ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นหน่วยงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตลาดธุรกิจหรือการเก็งกำไรต่างๆ ยังต้องออกโรงสะกิดเตือนบรรดาประชาชนโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่เข้าไปเก็งกำไร ในช่วงที่ราคาทองคำลดลงในขณะนี้ว่า ควรจะต้องมีสติและยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้มากที่สุด
นายอำพนกล่าวว่า ผู้ที่คิดจะลงทุนในทองคำ ควรจะต้องใช้ความรู้ ศึกษาข้อมูลวิเคราะห์การลงทุนให้ถี่ถ้วน เพราะอาจทำให้เกิดความเดือดร้อนในภายหลัง ยกเว้นว่าเป็นผู้ที่มีฐานะดีมีเงินทุนมาก มีสายป่านยาว ซึ่งรวมถึงนักธุรกิจที่ทำธุรกิจด้านทองคำอยู่แล้ว ที่สามารถเข้าไปซื้อเพื่อการลงทุน หรือผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากเงินออม
ทั้งนี้ เนื่องจากทาง สศช. มองว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำเป็นไปตามการเก็งกำไรของราคาน้ำมัน เมื่อราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น จึงพลอยทำให้สินค้าในหมวด Community เช่น เหล็ก ทองคำ มีราคาพุ่งสูงตามไปด้วย
ในขณะเดียวกัน การที่มีการคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะสูงตามราคาน้ำมัน ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจที่จะถือเงินสดไว้และหันไปเก็งกำไรในทองคำ จึงทำให้ทองคำมีราคาสูงขึ้นมาโดยอัตโนมัติ แต่เมื่อขณะนี้ราคาน้ำมันดิบในต่างประเทศได้มีการปรับลดลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาทองคำลดลงตามไปด้วย
“แต่ต้องไม่ลืมว่า ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าราคาน้ำมันจะปรับลดลงอยู่ในช่วงใด จึงขอเตือนประชาชนรายย่อยที่เข้าไปซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรให้ใช้สติกันมากๆ เพราะเป็นเรื่องที่เสี่ยง หากเป็นกลุ่มประชาชนที่ไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนแล้วอาจทำให้เกิดความเดือดร้อนตามมาภายหลังได้ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบ เพื่อหวังกินส่วนต่างหรือกำไรจากการเข้ามาลงทุนในตลาดทองคำ หากไม่มีข้อมูลจะนำไปสู่หายนะได้” นายอำพน กล่าว
ในขณะที่ นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลง เนื่องมาจากความต้องการในตลาดลดลง โดยเฉพาะความต้องการจากอินเดียที่เป็นผู้ใช้ทองคำรายใหญ่ รวมถึงตุรกีและตะวันออกกลาง ยกเว้นจีนที่ยังมีความต้องการไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากเศรษฐกิจที่ซบเซา จึงทำให้บรรดากองทุนที่ลงทุนในทองคำเร่งเทขายทองคำออกมา เพราะประเมินว่าราคาทองคำน่าจะปรับตัวลงตามน้ำมัน ทำให้ความต้องการทองคำลดลงไปอีก
รวมทั้งการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาทองคำที่คิดเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาลดลง แม้ว่าราคาทองคำจะเท่าเดิมก็ตาม
สำหรับราคาทองคำได้ลดลงมาร้อยละ 20 จากจุดสูงสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2551 ที่ขึ้นไปสูงสุดที่ 1,002.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ และราคาต่ำสุดอยู่ที่ 784.75 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม และปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 830 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ซึ่งไม่สามารถตอบได้ว่าราคาจะลดลงอีกหรือไม่ เพราะในอดีตราคาทองคำที่สูงจะอยู่ที่ประมาณราคาน้ำมัน 15 บาร์เรลต่อทองคำ 1 ออนซ์ หรือหากมองในช่วงธรรมดาราคาอยู่ที่น้ำมัน 10 บาร์เรลต่อทองคำ 1 ออนซ์ ดังนั้น ราคาน้ำมันที่ 120 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาทองคำก็สามารถอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ได้
แต่ไม่ว่าอย่างไร ราคาทองคำไม่ได้สะท้อนอัตราเงินเฟ้อ และไม่มีข้อพิสูจน์ว่าเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้ ฉะนั้นการจะตื่นลงทุนจึงควรต้องศึกษาให้รอบคอบก่อน--จบ--

--บางกอกทูเดย์ วันที่ 18 ก.ย. 2551--




 

Create Date : 17 กันยายน 2551
0 comments
Last Update : 23 กันยายน 2551 10:54:23 น.
Counter : 390 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


illuminant
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




1.Cut loss
2.Looking forward
3.Market move by sentiment
4.The crowd usually wrong
5.Stick to the plan
6.Patience
Friends' blogs
[Add illuminant's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.