grassroot ยินดีต้อนรับทุกท่าน สู่ Blog ความคิดเสรี มิตรภาพ ความสุข และความงดงามของชีวิต
Group Blog
 
 
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
15 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
สื่อมวลชนไทยกับดุลยพินิจและวาระซ่อนเร้น




ในสังคมที่เรียกตัวเองว่าสังคมประชาธิปไตย ย่อมมีรัฐธรรมนูญเป็นกติกาเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของประชาชนในทุกภาคส่วน รัฐธรรมนูญที่ถือว่าเป็นประชาธิปไตยนั้น จะต้องให้หลักประกันต่อ สิทธิ เสรีภาพของประชาชนทั้งในฐานะที่เป็นปัจเจกชนและสื่อมวลชน.....ทุกฝ่ายยอมรับว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย ปี 2540 ได้ให้หลักประกันเรื่องดังกล่าวอย่างครบถ้วนเทียบเท่าอารยะประเทศทั้งหลาย

ทำไมสังคม(ในนามรัฐธรรมนูญ)จึงให้หลักประกันด้าน สิทธิ เสรีภาพแก่สื่อมวลชน ?

เพราะข้อมูลข่าวสารเป็นอาหารทางสมองของสังคมมนุษย์โดยเฉพาะในสังคมประชาธิปไตย

เพราะแนวทางนโยบาย โครงการและมาตรการที่กระทำโดยรัฐมีผลต่อวิถีชีวิตของประชาชน

เพราะกิจกรรม เหตุการณ์และความเป็นไปต่างๆในทุกด้านของสังคมอาจให้ประโยชน์หรือให้โทษแก่สังคม

เพราะความต้องการบริโภคข่าวสาร ความกระหาย ใคร่รู้ เรื่องราวรอบตัวของประชาชนเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง

เพราะประชาชนมีสิทธิรับรู้ข่าวสารตามที่มันเกิดขึ้นจริงในสังคม จากทุกภาคส่วนและเป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญให้การรับรอง

----------ด้วยประการฉะนี้......สังคมประชาธิปไตยจำเป็นต้องมีสื่อสารมวลชนที่หลากหลายครอบคลุม ซึ่งประชาชนสามารถเลือกที่จะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารตามความต้องการของตนไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์,วิทยุ,โทรทัศน์,เคเบิ้ลทีวี,อินเตอร์เน็ต,มือถือ(SMS)หรือสื่ออื่นๆตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสื่อสารที่เกิดขึ้นตามยุคสมัย

----------สื่อมวลชนจึงเป็นสถาบันหนึ่ง...ที่ทรงอิทธิพลอย่างสูงในสังคมระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นตัวกลางที่สร้างสภาพการรับรู้ของประชาชน สามารถปั้นดารา นักแสดง นักร้อง นักธุรกิจ นักการเมือง นักสังคมสงเคราะห์ นักกีฬา ให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักภายในระยะเวลาเพียงไม่นาน....ในด้านที่กลับกัน...สื่อมวลชนสามารถทำลายเกียรติภูมิ หรือเปิดโปงความชั่วช้าของบุคคลดังกล่าวให้สังคมได้ล่วงรู้ในเวลาเพียงไม่นานเช่นกัน.....อิทธิพลของสื่อมวลชนสามารถยอมรับได้และไม่น่ากลัวหากสังคมสามารถสัมผัสและรับรู้ได้ว่า..สื่อมวลชนกระทำการโดยมีจรรยาบรรณแห่งสื่อมากำกับดูแลอย่างเข้มงวด

----------สื่อไม่เพียงแต่เป็นผู้สร้างสภาพแห่งการรับรู้ของสาธารณชนเท่านั้นในหลายเหตุการณ์สื่อยังมีส่วนอย่างสำคัญในการรณงค์ให้เกิดประชามติ(Public Opinion) ในด้านต่างๆของสาธารณชน...บทบาทด้านนี้ของสื่อจะไม่เป็นที่กังขาเลย ถ้าหากสื่อกระทำไปโดยใช้ดุลยพินิจที่ยึดมั่นระบอบ ยึดมั่นกฎกติกา และยึดมั่นต่อการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีให้เกิดขึ้นแก่คนในชาติ มิใช่กระพือโหมเหตุการณ์ ข่าวสารที่มุ่งให้เกิดความโกรธแค้น ชิงชัง

ทฤษฎีพื้นฐานของกระบวนการสื่อสาร ประกอบด้วย Sender (ผู้ส่งสาร)->Message(ข่าวสาร)->Receiver(ผู้รับสาร)....

-----ณ.จุดของผู้ส่งสาร ประกอบด้วย แหล่งข่าว เหตุการณ์ กับนักข่าวและบรรณาธิการข่าว....ในโลกปัจจุบันมีเรื่องนับร้อยนับพันเรื่องราว......คำถามมีอยู่ว่า...ผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการ..ใช้หลักการอะไรเลือกเสนอข่าวนั้นและไม่เสนอข่าวนี้....เพียงแค่ขั้นตอนนี้ประชาชนก็ถูกบริหารการรับรู้ข่าวสารในเบื้องต้นเสียแล้ว...ในยามปกติไม่มีใครตั้งคำถามเช่นนี้ แต่ในยามที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในสังคม....ประชาชนในฐานะผู้บริโภคข่าวสารมีสิทธิที่จะตั้งคำถามว่า...ผู้บริหารสื่อใช้หลักการใดมาเลือกเฟ้นข่าวสาร......เหตุใดเสนอแต่ข่าวฝ่ายม็อบสนธิ-จำลองไม่ค่อยเสนอข่าวฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับม็อบ....หากจรรยาบรรณของสื่อคือหลักแห่งจริยธรรมที่สื่อยึดถือ......คำถามเหล่านี้ก็เป็นคำถามเชิงจริยธรรมของสื่อ...ทีประชาชนจำนวนมากยังกังขา !

-----ณ. จุดของข่าวสาร ประกอบด้วยเนื้อหาและวิธีการนำเสนอ...วิธีการนำเสนอประกอบด้วย การพาดหัวและการวางตำแหน่งข่าวในหน้าสื่อ....หากเป็นรายการทีวี วิทยุก็เป็นอีกแบบหนึ่ง.....คำถามมีอยู่ว่าทำไมถึงพาดหัวข่าวนี้ สำคัญกว่าข่าวนั้น...ทำไมเนื้อที่ของข่าวนี้จึงอยู่ตรงนั้น ไม่อยู่ตรงตำแหน่งนี้...ทำไมภาษาที่ใช้พาดหัวข่าวจึงใช้คำนี้ ประโยคนี้..ทำไมไม่ใช้คำนั้น ประโยคนั้น.....ทำไมนสพ.ฉบับนี้พาดหัวแบบนี้ ส่วนอีกฉบับพาดหัวอีกแบบ....คำถามทั้งหมดนี้มีผลต่อการรับรู้และการสร้างทัศนะคติทางบวกและทางลบต่อผู้รับสื่อทั้งสิ้น......ในยามปกติไม่มีใครตั้งคำถามเหล่านี้ แต่ในยามที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในสังคม....ประชาชนในฐานะผู้บริโภคข่าวสารมีสิทธิที่จะตั้งคำถามเหล่านี้.....ในขั้นตอนกำหนดวิธีการนำเสนอนี้ก็สามารถให้คุณให้โทษแก่ผู้อ่านได้มากทีเดียว.....หากจรรยาบรรณของสื่อคือหลักแห่งจริยธรรมที่สื่อยึดถือ......คำถามเหล่านี้ก็เป็นคำถามเชิงจริยธรรมของสื่อ...ทีประชาชนจำนวนมากยังสงสัย !.........หากเจาะลึกลงไปในเนื้อหาสาระของข่าวสาร....เราก็จะพบว่า...ขึ้นอยู่กับการใช้ดุลยพินิจของคนทำข่าวล้วนๆ.....หลักการเบื้องต้นของการทำข่าว ที่ใช้ 5W (What Who When Where Why) ดูเหมือนจะได้รับการดัดแปลงจนทำให้หาหลักการเดิมไม่พบ...เพราะข่าวกับความคิดเห็นของผู้เขียนข่าวปะปนกันอย่างยากที่จะแยกแยะ

-----ณ.จุดของผู้รับข่าวสาร ประกอบด้วยคนหลายกลุ่ม ในสถานการณ์ที่สังคมกำลังขัดแย้งกันอยู่ คนมักจะมี 3 กลุ่ม คือฝ่ายที่สนับสนุนม็อบ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับม็อบและฝ่ายที่เฉยๆ....คำถามมีอยู่ว่า สื่อมวลชนทำข่าวและเสนอข่าวเพื่อใคร...เพื่อให้คนสนับสนุนม็อบ เพื่อโน้มน้าวจูงใจพวกเฉยๆ โดยไม่ใส่ใจต่อกลุ่มผู้อ่านที่ไม่เห็นด้วยกับม็อบและทำให้พวกเขาเป็นผู้ร้ายของสังคมใช่หรือไม่.......คำถามเหล่านี้ก็เป็นคำถามเชิงจริยธรรมของสื่อมวลชนเช่นกัน.....คุณใช้หลักเกณฑ์อะไร มาเลือกปฏิบัติต่อคนอ่านข่าวของคุณ คุณใช้หลักเกณฑ์อะไรเลือกสนับสนุนคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเรียกร้องให้นายกลาออกโดยไม่บอกว่า หลังนายกลาออกแล้วสังคมจะได้อะไร อย่างไร..คุณไม่ได้มีส่วนในการให้สติใดๆแก่สังคมเลยใช่หรือไม่....คุณพร้อมทีจะให้ประเทศไทยเดินไปสู่ความเสี่ยงภัยกับม็อบเหล่านั้นใช่หรือไม่ ?

----------ในทุกขั้นตอนของกระบวนการทำงานของสื่อ...เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า...คนทำงานสื่อต้องใช้ดุลยพินิจแห่งตนทั้งสิ้น...การใช้ดุลยพินิจแห่งตนนี่แหละ...คือที่มาของคำถามใหญ่...

-----หากสื่อใช้ดุลยพินิจโดยยึดเอาความสามัคคีของคนในชาติเป็นตัวตั้ง สื่อจะนำเสนอข่าวแบบนี้หรือ

-----หากสื่อใช้ดุลยพินิจแห่งหลักวิชาชีพสื่อสารมวลชนสื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว สื่อจะนำเสนอข่าวและรวมหัวคนทำข่าวแบบที่ทำอยู่หรือ

-----หากสื่อใช้ดุลยพินิจโดยยึดเอาจรรยาบรรณของสื่อเป็นที่ตั้ง สื่อจะนำเสนอข่าวแบบที่เป็นอยู่หรือ

-----หากจรรยาบรรณสื่อคือหลักแห่งจริยธรรมของสื่อ....สื่อยังมีจริยธรรมอยู่หรือ

----------ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์และที่ประจักษ์อยู่ทุกวัน..บอกแก่สาธารณชนว่า...สื่อได้ใช้ดุลยพินิจในการเสนอข่าวโดยมีวาระซ่อนเร้น(Hidden Agenda) อย่างชัดเจน...โดยที่วาระซ่อนเร้นนั้น ยังคงซ่อนเร้นอยู่ต่อไป สื่อได้ทรยศและหันหลังให้กับหลักการวิชาชีพ จรรยาบรรณของตัวเองเสียสิ้น...

จากนี้....เราจึงค้นพบสัจจะจากความเป็นจริงว่า...

-----สื่อมวลชนไทยมีปัญหาในการใช้ดุลยพินิจที่ถูกต้องชอบธรรมในการปฎิบัติหน้าที่สื่อจริง !

-----สื่อมวลชนไทยกำลังเผชิญหน้ากับคำถามและข้อสงสัยด้านจรรยาบรรณและจริยธรรมจริง !

-----สื่อมวลชนไทยใช้สิทธิ เสรีภาพ เกินขอบเขตแห่งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญจริง !

-----สื่อมวลชนไทยใช้ดุลยพินิจโดยมีวาระซ่อนเร้นจริง !

----------ทั้งหมดนี้เราไม่เรียกว่าข้อกล่าหา.....แต่มันเป็นคำพิพากษา...ที่ผ่านการสอบสวน ไต่สวน จากสถานการณ์รายวัน รายชั่วโมง ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชัด.....นั่นคือ ทุกหน้าของ นสพ.รายวันทั้งกรอบเช้าและกรอบบ่าย ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา

----------หากสื่อใดสำนึกได้และกลับมาใช้ดุลยพินิจที่ยึดเอาเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญ หลักการแห่งวิชาชีพ จรรยาบรรณของสื่อมวลชนเป็นที่ตั้งและละทิ้งวาระซ่อนเร้นที่อยู่เบื้องหลัง....เราพร้อมให้อุธรและเปลี่ยนคำพิพากษาเสียใหม่ตามระดับของความสำนึกผิดและความประพฤติที่ไร้ซึ่งวาระซ่อนเร้น....



Create Date : 15 เมษายน 2549
Last Update : 29 สิงหาคม 2549 16:52:25 น. 19 comments
Counter : 778 Pageviews.

 
เฉียบคม ชัดเจนทุกคำ มีเหตุมีผล ทุกบรรทัด ขออย่าหยุดยั้ง จงมีพลังที่จะคิด ที่จะร้อยเรียงความคิดออกมาให้สติแก่สังคม แก่คนชนชั้นอารยะที่จริตวิปลาส เพื่อให้หันกลัยมาช่วยกันสรรค์สร้างประเทศไทยให้รุ่งเรือง


โดย: ปทุม1 IP: 58.10.210.8 วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:20:04:22 น.  

 
เห็นด้วยกับความนี้มากที่สดุ สื่อมวลชนควรให้ข้อมูลกับประชาชนโดยปราศจากอคติ หรือชี้นำให้เกิดความแตกแยกในสังคม


โดย: ปุยนุ่นสีแดง IP: 203.114.101.71 วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:21:33:01 น.  

 
ขอเชิญชวนชาวไทยร่วมใจต่อต้านสื่อ
ไม่ซื้อหนังสือพิมพ์เลว ๆ ทุกฉบับ

คงไม่ต้องบอกนะว่ามีฉบับใดบ้าง

แต่ขอเสนอให้ไปดูตามร้านหนังสือด้วยว่า ตอนนี้มีความพยายามก่อกระแสด้วยการทำพอกเก็ตบุ๊คด่านายกทักษิณกันอีกแล้ว โดยออกพอกเก้ตบุ๊คกล่าวหาว่านายกไม่เป็นที่นิยมของประชาชน หรือ แพ้แล้ว หรือ หมดความนิยมแล้ว ฯลฯ ที่เห็นชัด ๆ คือของค่ายมติชน

มันจะอะไรกันนักหนา ขนาดเขาชนะเลือกตั้งท่วมท้นอย่างนี้พวกมันยังหน้าด้านบอกว่า นายกหมดความนิยม

พวกนี้มันไม่ยอมรับความจริงกันเลย เอาแต่ตะแบงเข้าข้างพวกเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสื่อชั่วสักแค่ไหน

ช่วยกันนะครับ ไม่ซื้อ ไม่ฟัง ไม่อ่าน สื่อเลว ๆ ทุกฉบับ อีกไม่นานมันก็ฝ่อตายกันไปเอง พอยอดขายตกฮวบ

ผมว่าวิธีไม่เสียเงินให้พวกมันนี่แหละต่อต้านได้ผลชะงัดที่สุดครับ


โดย: Sammy IP: 210.86.220.221 วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:23:37:52 น.  

 
ผมเห็นด้วยครับตอนนี้ผมดูแต่ข่าวจากTVต่างประเทศ และ TV ของไทยบางช่อง ข่าวต่างประเทศที่เขาเสนอตอนนี้ก็คือการประท้วงของชาว เนปาลที่ต้องการการเลือกตั้ง รัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้งต้องการประชาธิปไตย เชื่อไหมมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเช่นชาวแคนนาดาร่วมประท้วงด้วยแต่แบบสงบคือนั่งเป็นกลุ่มๆเงียบๆ เอ.... แต่บางประเทศพยายามทุกรูปแบบที่ไม่ให้มีการเลือกตั้ง พรรคบางพรรคมีชื่อเกี่ยวกับประชาธิปไตยแต่พฤติกรรมกับตรงกันข้าม สื่อบ้านเราเมื่อบ้านเมืองพังเมื่อนั้นจะรู้สึกว่าพวกเขาก็หมดหนทางทำมาหากินด้วย กรรมมีจริงครับ


โดย: นาย ผ่านมา IP: 58.147.104.148 วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:20:09:41 น.  

 
เห็นด้วยอย่างมาก สื่อมวลชนครวปรับปรุงตัวเองได้แล้ว


โดย: mr51 IP: 202.5.87.130 วันที่: 17 เมษายน 2549 เวลา:8:45:36 น.  

 


โดย: สื่อเลวมีแยะ IP: 221.128.89.162 วันที่: 17 เมษายน 2549 เวลา:10:15:25 น.  

 
เลิกรับ เลิกอ่าน น.ส.พ.เลว ๆ พวกนี้มานานแล้ว



โดย: เพื่อน รสนา IP: 203.172.73.9 วันที่: 17 เมษายน 2549 เวลา:18:58:51 น.  

 
สื่อชนิดใด ก็ไม่เท่าสื่อสนธิ ที่มีการแสดง โดยมีจังหวะจะโคน ท่วงท่า อารมณ์มากด้วยประสบการณ์ทำข่าวกว่า 30 ปี แล้วสื่อนี้ก็ถูกถ่ายทอดอย่างกว้างขวางโดยสื่อที่หลงกล ถ่ายทอดขยายผลส่งต่อ โดยขาดการวินิจฉัย กลั่นกรองว่าควรนำเสนอหรือไม่ ทั้งๆที่ข่าวของนายสนธิเป็นข่าวให้ร้าย ไม่ได้เป็นการเสนอข้อมูลหรือทางออก เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ ทางแก้ไขปัญหาคือ1.ทุกสื่อต้องทบทวนว่าคิดตามทันนายสนธิหรือไม่ หรือเป็นได้แค่คนเขียนข่าว และอีกทางคือ2.อยุดดูนายสนธิพูดแล้วคิดให้ดี วินิจฉัยให้ออกงานนี้ใครได้ใครเสีย หรือ3.ไม่ต้องอยุดให้นายสนธิเป็นข่าวแล้วบ้านเมืองสงบแน่...ขอบคุณ


โดย: integrate_think IP: 203.113.55.202 วันที่: 17 เมษายน 2549 เวลา:19:41:33 น.  

 
หลวมตัวเป็นสมาชิกรายปีของ ทู่ มัว ฮ่วยมานาน เห็นไส้มันคราวนี้ ขอบอกเลิกกับขอเงินที่เหลือคืน มันไม่ยอม บอกว่าไม่มีนโยบาย คงมีแต่นโยบายปกก้องพ่อมันไอ้กะทกับตีนายก ทำไงดีอ่ะ รวมพลังไปประท้วงสื่อที่สนามหลวงกันเถอะ ใครเห็นด้วย โหวต.....


โดย: ซูสีไทเฮา IP: 58.8.73.12 วันที่: 17 เมษายน 2549 เวลา:23:30:24 น.  

 
หลวมตัวเป็นสมาชิกรายปีของ ทู่ มัว ฮ่วยมานาน เห็นไส้มันคราวนี้ ขอบอกเลิกกับขอเงินที่เหลือคืน มันไม่ยอม บอกว่าไม่มีนโยบาย คงมีแต่นโยบายปกก้องพ่อมันไอ้กะทกับตีนายก ทำไงดีอ่ะ รวมพลังไปประท้วงสื่อที่สนามหลวงกันเถอะ ใครเห็นด้วย โหวต.....


โดย: ซูสีไทเฮา IP: 58.8.73.12 วันที่: 17 เมษายน 2549 เวลา:23:31:19 น.  

 
3 5 7 9 11 itvee เป็นกลางจังหล่ะ
ทักษิณเป็นกลางจังหล่ะ ออกทีวีพูดคนเดียว
ทำรายการ เลียวาไรตี้ใช้งบตัวเองหรือป่าว หรือภาษี(อันนี้บ่รู้ใครรู้บอกด้วย)


โดย: เบื่อ พูดเหมือนเป็นกลาง IP: 124.121.163.212 วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:3:26:37 น.  

 
1 เสียง เดินหน้าสี่ฝีจักร


โดย: ฉ่ำ ชาวนา IP: 203.156.166.250 วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:16:50:35 น.  

 
สันดานพวกกบฏแมนเนจเจอร์มันชอบลุกล้ำเว็บชาวบ้านเขาอย่างนี้หรือ

ไอ้พวกกบฎแมนเนเจอร์สมควรต้องอาญาแผ่นดินประหาร 9 ชั่วโคตร



โดย: จะเด็ด IP: 58.8.35.216 วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:10:47:38 น.  

 
เห็นด้วยอย่างยิ่ง


โดย: โน่ง IP: 203.155.14.4 วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:14:47:37 น.  

 
ใบเสร็จยุบพรรคไทยรักไทย

เปิดผลสอบคดีจ้างนอมินีลงสมัครเลือกตั้ง 2 เมษาฯ-เปลี่ยนฐานข้อมูลสมาชิกพรรค ระบุหลักฐานโยงบิ๊กไทยรักไทย เจ้าหน้าที่"กกต."เผยสารภาพรับเงินพรรคชาติพัฒนาชาติไทย 3 หมื่นบาท แก้ทะเบียน

การสอบสวนในคดีที่พรรคประชาธิปัตย์ร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปลอมแปลงแก้ไขทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองขนาดเล็กและมีผู้บริหารระดับสูงของพรรคไทยรักไทยให้เงินสนับสนุนพรรคเล็กหรือที่เรียกกันว่าพรรคนอมินีเพื่อลงเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 2 เมษายน แข่งกับพรรคไทยรักไทย

มีการสรุปโดยคณะอนุกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตรองประธานศาลฎีกา เป็นประธาน ระบุข้อมูลตรงกับที่มีการร้องเรียนโดยเจ้าหน้าที่ กกต.ยอมรับว่าได้รับเงินจากผู้บริหารพรรคชาติพัฒนาชาติไทย และพิเคราะห์เชื่อว่า พรรคเล็กๆ ได้รับเงินสนับสนุนจากพรรคไทยรักไทย

1.กรณีกล่าวหาว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ของ กกต.ปลอมแปลงแก้ไขทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองในฐานข้อมูลนายทะเบียนพรรคการเมืองของ กกต. เพื่อส่งคนซึ่งไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมายลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งต่างๆ มีผลสรุปว่า นาย อ.

เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ผู้รับผิดชอบการบันทึกข้อมูลทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองของฐานข้อมูลนายทะเบียนพรรคการเมืองให้การยอมรับว่า ได้รับเงินจากผู้บริหารระดับสูงจากพรรคพัฒนาชาติไทย 30,000 บาท เพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลในฐานข้อมูลนายทะเบียนพรรคการเมือง

2.กรณีกล่าวหาว่า การกระทำของพนักงานเจ้าหน้าที่ของ กกต.ดังกล่าว เกิดจากการสมคบกันกับผู้บริหารระดับสูงของพรรคไทยรักไทยกับพรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคไทยรักไทยกับพรรคแผ่นดินไทย พิเคราะห์แล้วน่าเชื่อว่า พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทยได้รับเงินสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูงของพรรคไทยรักไทย เพื่อให้นำมาจัดส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549

ที่มา : //www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0107210449&day=2006/04/21

เย้หลักฐานสอบครบแล้ว...ยุบพรรคไทยรักไทยได้เลย.... ขอบคุณท่านประธานสอบข้อเท็จจริงครับ.....ที่ทำความจริงให้กระจ่างไปทั่วโลก.....ต้องรีบส่งข่าวนี้ให้เพื่อที่ต่างประเทศ...เพื่อที่จะได้ประจานพรรครัฐบาลไปทั่วโลกว่าเรามีรัฐบาลที่โกงชาติ แล้วยังลวงโลกอีกด้วย


โดย: zzz IP: 61.19.54.238 วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:19:19:03 น.  

 
อ้าว กกต.โกง มิใช่แล้วเหรอ
เวรกรรม เปลี่ยนใจไปมา ใครเข้าข้างตัวก็ มั่วไปหมด


โดย: โอ่ง IP: 203.188.1.20 วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:22:33:55 น.  

 
คิดยังไงกับสัมปทานดาวเทียม
คิดยังไงกับกฟผ.ที่ศาลตัดสินผิดกฏหมาย
คิดยังไงกับบอร์ดกฟผ.
คิดยังไงกับ FTA
คิดยังไงกับคำพูด "ถ้าผมไม่เคารพในห,ลวง แล้วผีที่ไหนจะเคารพ"
คิดยังไงกับคำพูด "ใครเลือก_ก่อน ผมพัฒนาจังหวัดนั้นก่อน"
คิดยังไงกับการหัวเราะเยาะนักบินที่เสียชีวิตเพราะเครื่องบินตก
คิดยังไงกับสาเหตุการยุบสภา
คิดยังไงกับนักศึกษาล่ารายชื่อ 50000 รายชื่อแล้วเจอยุบสภา
คิดยังไงกับเครื่องบินพระที่นั่ง
คิดยังไงกับเมืองสุวรรณภูมิ
คิดยังไงกับแอมเพิลริช
คิดยังไงกับคลื่นวิทยุที่ขาดหายเมื่อมีรายการเล่าถึงเรื่องการบรรยายของป๋าเปรมที่กล่าวถึงพระราชดำรัสของในหลวงที่สมัครวิจารณ์
คิดยังไงกับคำว่าดำริที่ใช้กับตำแหน่งนายก
คิดยังไงกับกรณีตากใบ
คิดยังไงกับเรียลิตี้โชว์
คิดยังไงกับสังคมที่แตกแยกในปัจจุบัน
คิดยังไงกับการทุจริตคอรัปชั่น
คิดยังไงกับการขายชาติ
คิดยังไงกับตัวเอง?


โดย: เชียร์นายกสุดหัวใจ IP: 58.8.137.185 วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:23:50:50 น.  

 
สื่อเลวมีเยอะ
ผมเอาป้ายห้ามสื่อเข้า มาติดไว้รถแล้วครับ ....
เชียร์นายกสุดหัวใจ
จะเชื่ออะไรกับสื่อ...ไม่ต้องถามว่าคิดยังไงเลย...ไม่โง่คิดตามหรอก...เรื่องเหลวไหล


โดย: RealzeIntellct IP: 124.121.107.87 วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:22:53:28 น.  

 
สื่อ อย่าชี้นำ เป็นกลาง นำเสนอข่าว ทั้งสองด้าน ไม่เอาความคิดของตนเองใส่ในสื่อ
รัฐฯ มิใช่เจ้านาย
ข่าว/เหตุการณ์/ ความจริง คือเจ้านายข่าวตัวจริง


โดย: ฅนไท IP: 118.172.27.66 วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:13:12:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

grassroot
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






หากเอาเวลาของจักรวาลเป็นตัวตั้ง แล้วเอาเวลาของชีวิตมนุษย์คนหนึ่งเป็นตัวเทียบ......ชีวิตคนเรานั้นแสนสั้นยิ่งนัก...สั้นยิ่งกว่าสายฟ้าแลบ....

Friends' blogs
[Add grassroot's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.