Bloggang.com : weblog for you and your gang
沒 有 guts 。。。 就 不 能 選 擇 去 自 己 的 路 嗎 ?
Something between Us [18]
[ . . * ~ . . . y o U . . o N l y . . Y o U . . . ~ * . . ]
มือถือของซวนซวนดังขึ้น คนรับหน้าเครียด...
เลขามาดามโทรมาเตือนเรื่องการประชุมเย็นนี้ นายด้วยนะจื้อเหลียง
ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยนะ จื้อเหลียงหงุดหงิด เพราะนี่อีกไม่ถึงชั่วโมงก็ได้เวลาประชุมแล้ว
พวกนายไปทำงานเถอะ เรื่องเฟลอร์ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวฉันจัดการเอง ฮยุนจองบอกทั้งคู่ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ซวนซวนพยักหน้า
ฝากด้วยนะฮยุนจอง จื้อเหลียงบอกผ่านสายตา และน้ำหนักมือที่กดบ่าเขา
ติ๊งต่องงงงงง.... ติ๊งต่องงงงงงงงง......
เฟลอร์เหลือบมองนาฬิกาแขวนผนัง สี่ทุ่มเศษแล้ว ใครกันนะยังมาเรียกอยู่อีก หรือว่า.....
ติ๊งต่องงงงงง..... ติ๊งต่องงงงงง......
เสียงกดออดรัวยิบ
เด็กสาวทิ้งกล่องนมและแก้วที่รินนมค้างอยู่ทันที หัวใจเต้นแรงแทบจะหลุดออกจากขั้วตอนที่รีบวิ่งออกไปที่ประตูหน้าบ้าน
ไม่หรอกนะ... มันไม่ร้ายแรงอย่างที่เธอคิดหรอก .... ได้โปรดเถอะ !!!
หายไปไหนมาห๊าาาาา... ฉันตามหาเธอเสียทั่วจนจะบ้าตายอยู่แล้วนะ ตอนเย็นมากดกริ่งเรียกตั้งนานก้อไม่มีคนเปิดประตู ไปที่สวนสาธารณะลุงก็บอกว่าเธอออกมาแล้ว บนเขาที่เราเคยไปด้วยกันก็ไม่มี ที่ที่เธอเคยไปฉันก้อไปมาทุกแห่ง ทำไมถึงชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยนะ
คนที่ยืนอยู่หน้าประตูตะเบ็งเต็มเสียงด้วยอารมณ์ที่พุ่งถึงขีดสุด
เฟลอร์ได้แต่กำมือจับประตูแน่นเหมือนจะเป็นหลักยึดช่วยพยุงกาย ตาสีน้ำเงินจัดที่จ้องมองฮยุนจองเบิ่งโต ริมฝีปากเผยอน้อยๆนั้นสั่นระริกไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมา
ไปกินไอศกรีมกันไหม จู่ๆฮยุนจองเปลี่ยนอารมณ์ดื้อๆ
เฟลอร์ฝืนยิ้ม แต่หยาดน้ำใสๆที่ร่วงจากดวงตาคู่สวยนั้นเธอห้ามมันไว้ไม่ทันจริงๆ
ฮยุนจองโผเข้าไปหาร่างบางนั้น รัดแน่นจนเฟลอร์แทบจะจมหายไปในอกกว้าง
ความรู้สึกหลากหลายที่ถูกเก็บกดไว้นานเกือบสัปดาห์ถึงจุดระเบิด
ฮยุนจอง.... ฉันกลัว ฮือ...ฮือ.... ฉันกลัว
ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงวงแขนที่รัดร่างเขาแน่น
ฉันอยู่นี่แล้วนะ เธอไม่ต้องกลัว...อย่ากลัว
ฮยุนจองลูบหลังเฟลอร์อย่างปลอบประโลม
คะ...คุณ...คุณลุง
เสียงเฟลอร์ขาดๆเป็นห้วงเพราะแรงสะอื้น
ฉันรู้...เธอไม่ต้องพูดแล้ว...ฉันรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว
ฉันพยายามแล้ว ฉันไม่อยากร้องไห้ ตะ...แต่...แต่วันนี้...ฉันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ คุณลุง....ฮือ...ฮือ...
เธอดันตัวห่างออกจากอกกว้าง ใบหน้าที่แหงนมองเขาเต็มไปด้วยน้ำตา
มือคุณลุงเย็นเหลือเกินฮยุนจอง เย็นเหมือนมือแม่...มือ...มือของแม่...ในคืนนั้น...คืนนั้น....คืนที่...ฮือ...ฮือ...
ฮยุนจองรั้งร่างบางที่สั่นสะท้านเข้ามากอดอีกครั้ง ทั้งแววตาและเสียงร้องราวกับบาดเจ็บเจียนตายของเฟลอร์เสียดแทงร้าวลึกเข้าไปในหัวใจฮยุนจองจนเขาแทบจะขาดใจไปด้วย
ทั้งที่สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้ เพราะคุณทีเดียว
เฟลอร์ต่อว่าเสียงอู้อี้กับอกกว้าง ไออุ่นจากอ้อมแขนจากร่างใหญ่ทำให้เธอไม่อยากลุกจากไปไหนอยากนอนเล่นอยู่บนโซฟากลางห้องตัวนี้โดยมีเขาอยู่ข้างๆอย่างนี้ไปอีกนานๆ
ขอโทษ... ฮยุนจองจรดปลายจมูกโด่งกลางกลุ่มผมหอม กลิ่นแชมพูอ่อนๆทำให้ความหนักอึ้งในใจเมื่อหัวค่ำค่อยๆจางหาย
เฟลอร์ส่ายหน้าจนผมกระจาย แขนที่โอบรัดฮยุนจองแน่นขึ้น
ถ้ามันทุกข์มากนัก ทำไมถึงไม่ร้องไห้ออกมาเสียบ้างล่ะ หืมมมม
เขากอดกระชับร่างบางเข้าหาตัวแน่นขึ้นอีกนิด
ฉันไม่อยากอ่อนแอในเวลาอย่างนี้ ถึงคุณลุงจะนอนหลับ.... แต่ฉันรู้ว่าคุณลุงกำลังต่อสู้อยู่ ฉันต้องเข้มแข็ง ต้องเป็นกำลังใจให้ท่าน
เฟลอร์พูดเหมือนย้ำกับตัวเองไปด้วย ร่างบางขยับออกจากอ้อมอกกว้าง เงยหน้าขึ้นมองฮยุนจอง
และฉันก็ไม่อยากให้ใครมองฉันด้วยความสงสาร
ฮยุนจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำเงินจัดที่กำลังฉายแววเศร้านั้น มือใหญ่จับต้นแขนบอบบางสองข้างก่อนจะโน้มลงไปจูบหน้าผากมนหนักหน่วง
แพขนตาหนาหรุบต่ำปิดบังความรู้สึกในดวงตาคู่สวย ฮยุนจองไม่อาจรู้ว่าเฟลอร์กำลังคิดอะไรในใจ แต่ในเวลานี้ไม่มีอะไรจะรั้งเขาไว้ได้อีกแล้ว ความรู้สึกที่เขาเก็บไว้จวนเจียนระเบิดเต็มที
เธอคิดว่านี่คือความสงสารหรือ
ฮยุนจองดึงมือเล็กมาวางตรงตำแหน่งหัวใจ ให้เฟลอร์ได้รู้สึกถึงจังหวะการเต้นที่รัวเร็วของมัน
ฉันไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอรู้...มันเป็นอย่างนี้ทุกครั้งเมื่อเธอเข้ามาใกล้ๆ
เฟลอร์มองมือตัวเองที่ทาบอยู่กับอกกว้างแล้วแหงนหน้าสบตาฮยุนจองช้าๆ ดวงตาหวานเศร้ามีแววตัดพ้อ
แต่ฉันกลับรู้สึกว่าคุณถอยห่างฉันออกไปทุกที... ทุกที...
เพราะฉันโง่น่ะสิ... กว่าจะรู้ตัวก็ไม่มีที่ว่างสำหรับฉันแล้ว ...เฟลอร์... คนที่ทำให้เธอยิ้มได้ไม่ใช่ฉัน
ฮยุนจองยิ้มขมขื่น
คืนนั้นที่บนเขา ฉันได้ยินที่เธอพูดกับเทียนหลาง... เขาบอกชอบเธอ และเธอ..."
มือขาวนวลยกขึ้นแตะริมฝีปากคนพูด
"ฉันชอบเขา คุณเทียนหลางเป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ดี ดีจนฉันรู้สึกเสียใจที่ตอบแทนความรู้สึกที่ดีๆที่เขามีให้ไม่ได้ ...แต่คนที่ทำให้ฉันยิ้มได้กว้างขึ้นทุกวันมีคนเดียว ...คนเดียวเท่านั้น... ฮยุนจองคะ... ตอนนี้คุณมองเห็นเขาคนนั้นไหม
ฮยุนจองแทบจะลืมหายใจ เขาเห็นสิ... เงาที่อยู่กลางดวงตาสีน้ำเงินจัด...
มือใหญ่ซ้อนทับมือขาวนวลก่อนกดริมฝีปากลงไปนิ่ง..นาน.. แก้มเนียนใสยิ่งแดงจัดขึ้นไปอีกเมื่อมือใหญ่ลากมือเล็กบางให้ทาบผิวแก้มสาก
ฮยุนจองใช้แขนอีกข้างรั้งเธอเข้ามาหาตัว เขาอีกคนมองตอบกลับมาจากกระจกสีน้ำเงินลึกล้ำ เมื่อฮยุนจองโน้มหน้าลงไปใกล้ทีละน้อย..ทีละน้อย...
ริมฝีปากอิ่มประทับรอยอุ่นร้อนผ่าวบนเรียวปากบาง แล้วค่อยๆไล้ความนุ่มนวลนั้นอย่างช้าๆ ซึมซับทุกความหอมหวาน ถ่ายทอดทุกทุกความรู้สึกในหัวใจด้วยสัมผัสที่แสนอ่อนโยน
ฮยุนจองยิ้มเมื่อเฟลอร์จูบตอบอย่างเผลอไผล มือที่กุมหัวใจของเขาเริ่มปาดป่ายเปะปะ ส่วนมืออีกข้างตกลงราวอ่อนแรงเต็มที ฮยุนจองยกแขนเรียวทั้งสองข้างให้มาโอบรอบคอ แขนแข็งแรงรั้งเอวบางเข้ามาหาตัวแน่นขึ้นจนแทบจะไม่เหลือช่องว่างระหว่างกันขณะที่อีกมือใหญ่อีกข้างประคองศีรษะเธอให้แหงนรับจูบของเขาเต็มที่
จูบที่นุ่มนวลอ่อนหวานในคราแรกเริ่มเร่าร้อน เรียกร้องมากขึ้น มากขึ้นทุกที
เฟลอร์กำลังจะขาดใจท่ามกลางวงล้อมของเปลวไฟที่แผดเผาอยู่นี้....คนจุดไฟขึ้นมาเองก้อไม่ต่างกันนัก
เฟลอร์สะดุ้งลืมตาตื่นทันทีที่แผ่นหลังสัมผัสที่นอนเย็นเฉียบ เธอขืนตัวไว้หากแต่ไม่อาจทานแรงจากมือใหญ่ที่กดลงมายังไหล่ทั้งสองข้างได้
นอนเถอะนะ อดนอนมาหลายคืนแล้วไม่ใช่หรือ ดูตาสิ...ดำยังกับแพนด้าเชียว
ฮยุนจองยิ้มล้อๆ
เขาอุ้มเธอขึ้นมาจากโซฟาข้างล่างเพราะนอนอย่างนั้นคงไม่สบายนัก ถึงแม้เขาเองจะเสียดายร่างอุ่นนุ่มที่เบียดซุกอยู่ในอ้อมแขน ความนุ่มนวลอ่อนหวานจากเรียวปากบางที่ไม่อยากจะห่างแม้สักนาทีเดียว
เฟลอร์เบ้ปาก...เหมือนทุกครั้งที่ถูกเขาล้อหรือแกล้ง และฮยุนจองก็ชอบที่มันจะเป็นอย่างนั้น ยิ่งคราวนี้ ที่เขามีสิทธิ์จะดึงปลายจมูกโด่งแหลมนั่นอย่างมันเขี้ยว
แต่ถ้าเธอยังไม่อยากนอน เรา....
แขนแข็งแรงเต็มไปด้วยมัดกล้ามท้าวลงบนหมอนขนเป็ดนุ่มฟู แววตากรุ้มกริ่มเปิดเผยทำให้แก้มเนียนเป็นสีจัดขึ้นมาอีกครั้ง เฟลอร์พลิกตัวซุกหน้าแนบหมอนหลบใบหน้าที่โน้มต่ำลงมา ฮยุนจองหัวเราะเบาๆในคอเมื่อจมูกโด่งคมเฉียดแก้มเธอไปเพียงนิดเดียว
เขาห่มผ้าให้เธออย่างเบามือ ก้มลงสูดความหอมจากไรผมนุ่มใกล้ขมับพร้อมกระซิบแผ่วเบาข้างหู
ฝันดีนะ
เฟลอร์พลิกตัวกลับมาก่อนเขาจะลุกจากไป มือบางยึดท่อนแขนเขาไว้แน่น
ฉันต้องฝันร้ายอีกแน่ๆ ฉันไม่อยากนอนเลย
โคมไฟดวงเล็กหัวเตียงที่เปิดไว้ทำให้เขามองเห็นประกายหวั่นระแวงในดวงตาคู่สวยอีกครั้ง
ฮยุนจองทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง ทาบมือใหญ่บนมือบางแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ฉันจะอยู่ตรงนี้จนกว่าเธอจะตื่น และถ้าเธอฝันร้ายฉันจะปลุกเธอขึ้นมาเอง ตกลงไหม
เฟลอร์พยักหน้า หลับตาลงช้าๆ แต่ยังจับมือเขาไว้แน่นราวให้แน่ใจว่าเธอจะมีเขาอยู่ข้างกายไม่ไปไหนจริงๆ
ฮยุนจองบรรจงประทับริมฝีปากเหนือเปลือกตาที่หลับพริ้มทั้งสองข้างเนิ่นนาน ผนึกดวงตาคู่สวยให้ปิดสนิทด้วยความรักความอบอุ่นจากหัวใจเขา
.......
จังหวะผ่อนลมหายใจทอดยาวสม่ำเสมอบอกว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงหลับสนิทแล้ว ฮยุนจองค่อยๆวางมือที่เกาะกุมมือเขาในผ้าห่มอุ่นแล้วผละออกมาเงียบๆ
นาฬิกาข้อมือบอกเวลาเลยเที่ยงคืนมาเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ฮยุนจองตัดสินใจเปิดโทรศัพท์มือถือกดหมายเลขหาจื้อเหลียงซึ่งเขาเชื่อว่าคงรอฟังข่าวด้วยความเป็นห่วง เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังอย่างคร่าวๆ แล้วตบท้ายด้วย...
...ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเขาเอง บอกซวนซวนด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง
ฮะฮ่า...น้อยไปสิ ฉันว่าซวนซวนจะยิ่งเป็นห่วงน่ะซี้ ปลายสายทำเสียงล้อ
ฉันถึงไม่โทรหาซวนซวนเองไงเล่า ฮยุนจองตอบอุบอิบ ไม่อยากถูกบ่นจนหูชา
รู้เหมือนกันนี่หว่า ยิ่งเป็นน้องสาวสุดที่รักเสียด้วย
ไม่ต้องขู่กันนักหรอกน่า ...จื้อเหลียง...ฉันไม่เคยแน่ใจตัวเองอย่างนี้มาก่อน
ฮยุนจองทำเสียงจริงจัง
กว่าจะแน่ใจก้อเกือบบ้าเอานะแก ...แถมทำฉันประสาทไปด้วย
จื้อเหลียงว๊ากมาทำเอาฮยุนจองต้องรีบดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหู
นายรู้ด้วยเหรอ....
ไอ้บ้า....ฉันรู้จักนายมานานแค่ไหนแล้ว แล้วช่วงนี้กินนอนด้วยกันจนถ้าฉันเป็นผู้หญิงคงเป็นเมียนายไปแล้ว
หยุดพูดอะไรชวนขนหัวลุกอย่างนั้นนะ
ฮยุนจองฟังแล้วสยอง
ถึงซวนซวนไม่รู้เท่าที่ฉันรู้แต่เขาก้อไม่โง่หรอกนะ แล้วถ้าน้องสาวเขาต้องเสียใจเพราะนายล่ะก้อ...เตรียมตัวตายร้อยครั้งได้เลย
ไม่มีวันนั้นหรอก ... ฮยุนจองมั่นใจ !!
ฮยุนจองเดินกลับมาในห้องอีกครั้ง เฟลอร์นอนตะแคงซุกหน้าแนบหมอน ใบหน้ายิ้มน้อยๆเหมือนกำลังฝันดีทำให้ฮยุนจองค่อยเบาใจ
เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานมุมห้อง หนังสือมากมายอัดแน่นอยู่บนชั้น ตำราศิลปะหลายเล่มยังกางรออยู่บนโต๊ะ ภาพสเก็ชหลายใบวางทับซ้อนกันอยู่ สีไม้มากมายวางเกลื่อนโต๊ะ
ฮยุนจองพอจะนึกออกถึงภาพของเฟลอร์ที่พยายามทุ่มเททำงานเพื่อหลีกหนีความกังวลในใจ
สมุดสเก็ชเล่มคุ้นตาตั้งเด่นอยู่ท่ามกลางกองกระดาษ... เล่มเดียวกับที่เฟลอร์ทำหล่นและเขาก้อเก็บโปสการ์ดได้ในคืนนั้น คืนนี้มีซองจดหมายสีน้ำเงินเข้มขนาดยาวสอดอยู่ เขาไม่อาจหักห้ามความอยากรู้ไว้ได้...มือใหญ่เอื้อมไปยังสมุดเล่มหนา
จดหมายหน้าซองจ่าหน้าชัดเจน
...ชิม ฮยุนจอง...
ฮยุนจองเหลียวกลับมามองคนที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน คงไม่เป็นการละลาบละล้วงหรอกน่า ก้อเขาอ่านจดหมายที่ส่งถึงตัวเขาเองนี่นา...
Create Date : 04 เมษายน 2549
Last Update : 4 เมษายน 2549 19:35:09 น.
0 comments
Counter : 378 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Gracie Lou Freebush
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Group Blog
Something between Us
ห้องเก็บของ [Locked]
日記[Locked]
บันทึกรอยทาง[Locked]
แวะพักทักทาย
<<
เมษายน 2549
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
4 เมษายน 2549
Something between Us [18]
All Blogs
Something between Us [End]
Something between Us [19]
Something between Us [18]
Something between Us [17]
Something between Us [16]
Something between Us [15]
Something between Us [14]
Something between Us [13]
Something between Us [12]
Something between Us [11]
Something between Us [10]
Something between Us [9]
Something between Us [8]
Something between Us [7]
Something between Us [6]
Something between Us [5]
Something between Us [4]
Something between Us [3]
Something between Us [2]
Something between Us [1]
Friends' blogs
ป้ามด
Triny
makokchor
waidhaya
ตัว(Z)
BerryCandy
...ศุวิลา...
Webmaster - BlogGang
[Add Gracie Lou Freebush's blog to your web]
Links
寫中文
คุยกัน.. คุยกัน..
เขียนไทยถูกไหม.. ไหนดูซิ
กล่องสีของป้ามด
สีกล่องใหญ่
วิชาทำบล็อก โดย .. คุณครูป้ามด
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.