มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
31 มีนาคม 2551
 

เดินป่ายอดเขาสอยดาวใต้ 1631 ม. (จันทบุรี)



เขาสอยดาวใต้ ในความคิดผม เป็น พื้นที่ป่าดงดิบที่สมบูรณ์ทั้งพันธ์พืชและสัตว์ป่า ที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดโดยรถโดยสาร จาก กทม. (ถ้าไม่นับการโบกรถ เหมารถ หรือขับรถ ส่วนตัว) (ถึงแม้เขาใหญ่จะใกล้ กทม มากกว่า แต่เข้าถึงยากกว่าด้วย รถโดยสาร) จาก กรุงเทพ สถานีขนส่งเอกมัย (ในรูปคือจุด A) ด้วยระยะประมาณ 300 กม มีรถ ทัวร์ วิ่งตลอดจาก 04.30 ถึง 23.30 ออกทุก 30 นาที ไปลง ท่ารถ ตัวเมือง จันทบุรี ( จุด B) ค่ารถประมาณ 181 บาท ใช้ เวลาประมาณ 4 ชม จากนั้นก็ต่อ รถไปยัง อ โป่งน้ำร้อน ซึ่งมีรถมากมาย ทีวิ่งไปทาง สาย 317 เช่น บุรีรัม จันทบุรี หรือ สระแก้ว ใช้เวลาประมาณ 1 ชม ก็จะถึง ตัว อำเภอโป่งน้ำร้อน (จุด C) แล้ว นั่งมอตเอร์ไซ รับจ้าง เข้าไป ประมาณ 3 กม ก็จะถึง เชิงเขา เลย หรือจะเดินก็เอาได้ (ต้องติดต่อท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เขาสอยดาวใต้ไว้ล่วงหน้าก่อน) ขากลับถ้าเบื่อเส้นทางเดิม จะเลือก กลับจากอีกทาง โดยผ่าน น้ำตกเขาสอยดาว และเห็นวิวยอดเขาสอยดาวเหนือ แล้ว ไปต่อรถ ที่ (จุด D) นั่งรถเข้าแปดริ้วไป ทางถนนสาย 3259 ซึ่ง ตัดผ่าน ผ่าน เขตรักษาพันสัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ป่าพื้นราบ น่าจะมีแห่งเดียวมั๊ง (ป่าที่อื่นส่วนใหญ่จะอยู่ตามภูเขา) แล้วไป ต่อรถ เข้า กทม ที่ แปดริ้ว (จุด E) อีกที แวะจุดไหน ก็หาของกิน ตามตลาดนั้นๆ ได้ท่องเที่ยว ดูวิถีผุ้คน อีกแนว ถ้าไม่อยากดูวิว อ่างฤาไน จะต่อรถ ไป สระแก้ว แล้วต่อรถเที่ยว ตลาดโรงเกลือ แล้ว เข้า กทม ทางโน้นก็ได้ ถนน สาย 317 รถโดยสารเยอะมาก รอ แป๊บเดียวรถก็มา








เส้นทางการเดินขึ้นยอดเขาสอยดาวใต้นั้น เท่าที่เห็นจะมีอยู่ด้วยกัน 4 เส้นทาง คือ
1. ขึ้นไปทาง ผา 1,2,3 (ลูกศรสีแดง) เส้นทางนี้จะเห็นวิว สวย เปิด โล่ง ประมาณซัก 300 องศา ทางไม่ชันมาก และทากก็ไม่ค่อยเยอะ ส่วนใหญ่จะค้างคืน กันที่ผา 3 หลังจาก ผ่าน ผา 1,2,3 ก้จะเลาะ สันเขาไปเรื่อย จน ถึง ลานกระทิง จากจุดนี้ เดินไปอีกซักประมาณ 40 นาที ก็จะถึงยอดสอยดาวใต้ ส่วนทางลง จะเลือก ทาง ถ้ำ แพะ ก็ได้ (เส้นลูกศรสีเหลือง) แต่ ทางจะชันมาก น่าจะเกือบๆพอๆกับสองนม หรือ อาจจะเดินมาลงทางบึงซีโต้ แล้วเดินลงทาง ขนำ (เส้นสีน้ำเงิน) ก็ได้
2. ขึ้นทางถ้ำแพะ ลูกศรสีเหลือง เส้นนี้ ไม่นิยมขึ้นกันเพราะชันมาก จะใช้ลงกันมากกว่า

3. ขึ้นทางเส้น สีน้ำเงิน เส้นผ่าน ขนำกะวาล ทากจะค่อนข้าวเยอะหน่อย เส้นนี้ไม่มีวิวอะไร ให้ดู มี อยู่ นิดหนึ่งก่อนถึงบึงซีโต้ ส่วนใหญ่เดินไป ค้างกันที่บึงซีโต้ เลย ใช้เวลาเดิน น่าจะ 5 ชม ถ้าจะขึ้นยอดสอยดาวใต้ จากบึงซีโต้ ก้ใช้เวลาเดินต่ออีก ประมาณ 1 ชม ก็ถึง

4. เส้นทาง ลูกศรสีส้ม เส้นทางนี้ เข้าทางสนามกอร์ฟ แล้วไป อ้อม สันเขาเข้ามาจากด้านหลัง ขึ้นมา ที่บึงวีโต้ได้เหมือนกัน

เส้นทางอื่นก้มีเหมือนกัน เดินไล่ ท่อน้ำของชาวบ้านไปถึงกะหนำกะวาล แต่ทางรก ( ส่วนทริบนี้ เราเดินทางเส้นสีน้ำเงินและกลับทางเดิม)



เริ่มเดินจากสวนอะไรซักอย่าง มาถึงก็มีหมาสองตัวมาเห่าไล่อีกแล้ว คือ เจ้าขาวกับ เจ้าดำ แต่ซักพักจากเก่าที่มันเห่าไล่เราก็กระดิกหาง ตามเราไปเฉยเลย


เดินมาได้ซักระยะหนึ่ง เราก็มาถึงน้ำตก ถ้าแยกไปทางขวา จะไป บึงซิโต้อะไรซักอย่างเนี่ย แต่ถ้าแยกไปซ้ายก็จะไปเส้นทางหน้าผา ตอนแรกเราไปทางขวา แต่ พี่เจย์กับพี่ติ๋ว แล้วก็ ครูปุ๊กกับสันบอกว่า บึงนั้นไม่มีอะไรน่าดู เราเลยเปลี่ยนเส้นทางเป้นไปทางซ้ายแทน



เดินมาซักพักก็ เช๊ค ทาก กันหน่อย แต่ก็ไม่เยอะอย่างที่คิด



เดินไป ก็พักเป็นระยะ



ในที่สุดเราก็มาถึงผาที่1 ประมาณ บ่ายโมงน่าจะได้ เส้นทางที่ผ่านมา เดินสบายๆน่ะไม่ชันมากนัก



วิวบนหน้าผา1 จะคล้ายๆผาเดียวดายที่เขาใหญ่คือจะมองเห้นผืนป่าอันอุดมสมบูรกว้างใหญ่ของเขตรักษาพันธที่นี่ สุดลูกตา ต้นไม้ใหญ่ เขียวปี๋และแน่นมาก



จากผา1 จะมองเห็น ผา2 ซึ่งสูงและชัน



เดินมาอีกหน่อยก็จะถึงผา2 ผา2 สูงกว่าผา 1 และก็มองเห้น ผา 1 หินตรงกลางภาพ นั่นละคือผา1 ซึ่งเรา เพิ่งผ่านมา ผา2 สูงราว 1300ม. กว่าๆ



เราต้องเดินข้าม เขา อีก 1 ลูก เพื่อจะไปถึงผา 3 ทางชันและมีการปีนกันเล็กน้อย



ปีนกันนิดหน่อย



ผา3 เป็นหน้าผา ที่เปิดกว้างประมาณ 280 องศา สูงราว 1400 ม. ถ้าฟ้าเปิด สามารถมองเห้นวิวได้ไกลถึงทะเลอ่าวไทย และภูเขาสูงในกัมพูชา โดยเฉพาะตอนเช้าจะเห็นเป็นทะเลหมอก แต่เรามาโชคไม่ดีพอ มีหมอกแดด และตอนเย็นฟ้าก็ปิด เนื่องจากมีเมฆปกคลุมยอดเขา




เราต้องลงไปผูกเปลนอนในหุบนิดหนึ่งเพราะว่า ลมที่ผา3 แรงมาก ที่พักนี่ไม่มีแหล่งน้ำน่ะ เราต้องแบกกันมาเอง ใช้น้ำประมาณ 7-8 ขวด ขวดละสองลิตร ก็พอเพียงกับ หุงข้าว และ ดื่มกินตลอดสองวัน



จุดพักที่มีแหล่งน้ำ มันอยู่ก่อนขึ้น ผา1 (สังเกตุได้จากแผนที่) ไกลพอควร เราขี้เกียจเดินเลยพักผา3 เลย ก็หุงแต่ข้าวอย่างเดียว กับข้าวเป็น กระป๋องและแบบง่ายๆ



มื้อเย็นกับข้าวง่ายๆ



กลางคืนอากาศหนาวมาก น่าจะเลขตัวเดียวโชคดีที่จุดพักหลบลมได้ จากเมื่อวาน อากาศตอนเย็นปิดก็กะว่า ตื่นเช้ามาจะเห้นฟ้าเปิด แต่ก็ไม่เปิดมาก เปิดนิดๆถึงกลางๆ



ที่เห็นไกลๆซ้ายมือนั่น คือเขา คิชกุฎ



เห็นไกลๆนั่นคือ ทะเล แถวๆแหลมสน แต่ โชคร้ายฟ้าไม่เปิดมากนักเลยเห้นรางๆ



วิว ตัวเมืองจันทบุรี จะเห็นยอดเขาสลักบาตรอยู่ซ้ายมือ



ทะเลหมอกแบบไม่มาก จะเห้นยอดเขาคล้ายมีดอีโต้โผล่มา และขวามือ จะเห้นเป็นทือกเขาโผล่มาทั้งสองยอดอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยขวามือเป้นยอดเขาสูงสุดของกัมพูชา สูง1700 ม กว่าๆ



จากผา3 เราเก็บเปล และ เริ่มออกเดินตั้งแต่ 8.30 เพราะหนยาวไกล และรกชัน เดินไปตามสันเขาเพื่อไปให้ถึงยอดเขาสูงสุด ยอดเขาสอยดาวใต้



สันเขากว้างไม่มาก กว้างไม่เกิน 5-8 ม เดินขึ้น โดยส่วนใหญ่ ต้องพักเป็นระยะ



สันเขากว้างไม่มี มีต้นไม้สูงไม่มากปกคลุม และมีลมแรงตลอด ทั้งสองข้างจะเป็นหน้าผาสูงชันเห็นวิว เมฆลอยอยู่ข้างใต้สันเขา



พี่เจย์กับ พี่ติ๋ว ต้องเล็งสันเขา และทางหลบหน้าผา / ทางเดินรกอย่างแรง ต้องฟันทางตลอดพี่เค้าบอกว่าถ้าเดินผิดจมูกหรือสันเขาไปนิดเดียวจะหลงป่า ยาวเลย เพราะเส้นนี้ พี่แกเคยเดินแต่นานหลายปีมาแล้ว อาศัย จำแนวสัน และต้นไม้เอา (ถึงพวกเราจะมีจีพีเอส แต่อย่าไปหวังเพิ่งมันเพราะมันใช้อะไรไม่ค่อยได้เลย เอาไว้วัดความสูงอย่างเดียวเลย)



ในที่สุดเราก็มาถึงยอด 1543 ม ถ้าสังเกตุจากแผนที่ ในหน้าแรก จะเห้นว่า ยอดเขานี้อยู่ทางซ้ายมือ ของยอดเขาสอยดาวใต้ บนยอดมีต้นไม้ขึ้น มองวิวไม่ค่อยเห้นเท่าไหร่ แต่ก็เห็นบ้าง แต่ตอนนี้ไม่เห้นแล้วเพราะฟ้าปิด



ต้นไม้บนสันเขาส่วนใหญ่จะเป็น ต้นไม้ใส่เสื้อแบบในรูป เพราะอากาศมันหนาวเย็นตลอดคล้ายๆป่าทางใต้ จะมีมอสเฟินขึ้น ที่จริงบนสันเขามันมี ต้นดอกกุหลาบพันปี และพวก ดอกไม้ แปลกๆด้วย แต่ เราไม่ค่อยรุ้จักมันเท่าไหร่ เลยเน้นๆจะถ่ายวิวกัน อย่างเดียว



หลังจากผ่านเขาลูกนี้ แล้วถ้าสังเกตุจากแผนที่เราจะต้องผ่าน ยอดเขา 1500 อีก ลูก แต่ว่า เราข้ามไปไม่ได้ เนื่องจากเป้นหน้าผาชั้น เลยต้องอ้อมลงไปทางข้างเขา พี่เจย์ ลืมๆๆไปนิด เดินลงไปแล้วมันเหมือนจะใช่ เดินไปพักมันไม่ใช่ ถ้ายังเดินต่อ หลงแน่นอน พี่ติ๋มเลยให้ ย้อนกลับขึ้นไปสันเขา
ทางเดิมแล้ว เดินตามด่านสัตว์ รอยกระทิงกับ หมูป่า ซึ่งรอยสัตว์ชัดและใหม่มาก เป็นตัวยืนยันแสดงให้เห้นถึงความสมบูรณ์ของป่าที่นี่



หลังจากเดินอ้อมเขาอยู่พักใหญ่ รุ้สึกว่า มันมีสันเขาที่ขาด ทำให้ต้องเดินลง แล้วก็ขึ้นสันเขาใหม่แต่ในที่สุดพวกเราก็มาถึง ลานกระทิง ประมาณ เที่ยงครึ่งลานกระทิงซึ่งสูง 1473 ม



เดินต่ออีกหน่อยประมาณ 30 นาที ก็จะถึงยอดเขาสูงสุด หรือ ยอดเขาสอยดาวใต้ ซึ่ง ข้างบนจะมีต้นป่า แบบป่า โบราณ วิวเห้นเหมือนกันแต่ต้องปีนต้นไม้ดู แต่ตอนที่เรามาถึง อากาศปิด ฝนก็ตกด้วย เครื่องวัดจีพีเอสอ่านค่าความสูงได้ 1631 ม



ถ่ายรปด้วยกันบนยอดเขาสอยดาวใต้



ทดสอบสัญญาณซักหน่อย (ในยุค 10 ปีก่อนที่จะมีโทรมือถือ / การทดสอบสัญญาณ ผ่าน VRโดยกำลังส่งต่ำ จากที่สูง เพื่อให้ไปไกลที่สุด เป้นอะไรที่ สุดยอดมาก) แต่ตอนหลังจากจากมีมือถือ และ เนต ก็ได้รับความนิยมน้อยลง / ลองทดสอบสัญญาณจากยอดสอยดาวใต้สามารถติดต่อได้ ไกล ถึง ประจวบคีรีขัน




ประมาณ บ่ายโมง ครึ่งเราก็ลงมาถึงลานกระทิง แล้วก็เริ่ม ลงจากเขา ทางชันและลื่น และรกมากๆแถม ก้าวพลาด ก้าวเดียว ก็อาจจะตกเขาได้ พี่เจย์กับ พี่ติ๋ม ก็ช่วยกัน เพราะว่า แกไม่ได้เดินทางนี้มาหลายปีแล้ว ต้องฟันทาง ลุย แถม จับกิ่งไม้ตลอด บางทีกิ่งไม้ เปราะก็จะลื่นล้ม ถไล ถ้าลื่นเมื่อไหร่ ก็ต้องคอยเชค ทาก อีก ว่ามันอาจจะเข้ามา ทางเสื้อ หรือ กางเกง



พวกเรา ไต่ทางชันและรกๆ ตามทาง ก็เจอ กระท่อมขนาดเล็กๆ หลายหลัง เหมือนมีคนเอากิ่งไม้มาสร้างไว้ ก็เลยงงว่าใครดันมาสร้างขนำเล็กไว้แถวนี้ เลยถาม พี่ๆคนนำทาง เค้าบอกว่า นี่เป็นรังหมูป่า หมูมันจะคาบกิ่งไม้มาสร้างเป็นรังเล็กๆ มีเยอะมาก บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ ของสัตว์ป่า (แต่ไม่รู้เป็นไง ผมมาเยือนที่นี่อีกครั้งหลังจากผ่านไปสามปี ไม่เจอรังแบบนี้อีกเลย)



ลงมาถึงถ้ำแพะประมาณบ่ายสอง ก็มา กินข้าวเที่ยงกันที่นี่ ฝนตกพรำๆ แมงอะไร ก็ไม่รุ้เต็มไปหมด ถ้ำแพะ เป็นถ้ำอยู่ที่ ความสูง 1400 ม กว่าๆ ที่มาทางถ้ำแพะ เพราะมี แพะ (เป็นภาษาชาวบ้าน)อันที่จริงมันก็คือเลียงผา มานอนเฝ้าอยู่หน้าถ้ำตลอด พี่ติ๋ม เคยเล่าให้ ฟังว่า เมื่อ 10 กว่าปปี ที่แล้ว สมัย หนุ่มๆ แก เคยเข้าไป ในถ้ำนี้ แล้วมันก็ มีห้องใหญ่ หลายห้อง ลึกมาก ยิ่งเข้าไป ก็จะมีอีกห้องเข้าไป อีก ก็จะมีอีกห้อง อีก พี่แก เลย กลับดีกว่า คราวนี้ ก็กลับไม่ถูก หลง เพราะแต่ละห้องมันเหมือนกันไปหมด แล้วก็เจอ เมือกๆ ของอะไรที่มันใหญ่ๆด้วย โชคดี ที่แกได้ ยินเสียงเพื่อนที่อยู่หน้าถ้ำ แกเลย หาทางออกได้ ( ทางเข้าเล็กมาก เท่าตัวคนลอดผ่าน) ปัจจุบันนี้ ไม่มีทางเข้าอีกแล้ว เพราะ ปากถ้ำ โดนหินปิดสนิทแล้ว



พวกเราเดินกันทั้งวัน ไม่ค่อยได้ พัก เพราะกลัวออกจากป่า ไม่ทันจะค่ำก่อน ในที่สุดก็เดินมาถึงน้ำตก ประมาณ 5 โมงเย็น เจอ คณะของผู้ใหญ่ พอดี ซึ่งนำคณะ นักวิจัย หรือ ทำสารคดีอะไรเนี่ยไป ที่ ผา 1,2,3 ประมาณ 20 คน แต่ยังไม่ได้ ลงมาจากเขา แล้วก็ไม่ได้เห้นวิว ด้วย เพราะอากาศปิด



จากน้ำตก เราเดินกันต่อ ประมาณ 1 ชม ก็ออกมาถึง ตีนเขา แล้วอาบน้ำกินข้าว บ้านพี่เจย์ หลังจากนั้นฝนก็ลงหนักเลยประมาณสองทุ่ม พี่เจย์ พี่ติ๋มก็มาส่ง ที่ ถนนใหญ่ เพื่อรอรถโดยสาร เข้าเมืองจันทบุรี มาถึงตัวเมืองจันทบุรี
ประมาณ 3 ทุ่ม จากนั้นก็ไปหา ข้าวกินกัน แล้วก็ นั่งรถ จันทบุรี-กรุงเทพ หลับเป้นตาย มาถึงเอกมัย ตี 2พอดี



เส้นทางเดิน เราเดินเป็นวงกลมดังแผนที่ในรูป จีพีเอสบอกว่า ระยะทั้งหมด 19.9 กม แต่จริงๆเราว่ามันน่าจะมากกว่านั้นเพราะว่า บางช่วงที่ลงและอ้อมเขา ด้วย คง เกือบๆ 30 กม ไม่แน่ใจเหมือนกัน ทั้งทริบกับการเดินป่า ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน นั่งรถจากเอกมัย ดึกๆคืนวันศุกร์ และกลับถึงเอกมัย ดึกวัน อาทิตย์ โดยไม่ต้องใช้วันลาครับ






Create Date : 31 มีนาคม 2551
Last Update : 5 มิถุนายน 2552 14:50:29 น. 9 comments
Counter : 22009 Pageviews.  
 
 
 
 
ลุงหวาดด ดีในที่สู้ดลุงก็มีบล๊อกเปงของตัวเอง เหอๆๆ
 
 

โดย: หลานลุง IP: 202.28.180.202 วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:7:53:43 น.  

 
 
 
ยินดีต้อนรับครับ.......มาเยี่ยมกนบ้างนะ
 
 

โดย: my in love วันที่: 29 เมษายน 2551 เวลา:0:22:34 น.  

 
 
 
test
 
 

โดย: test IP: 124.121.159.95 วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:54:47 น.  

 
 
 
ชอบมากครับที่นำมาเล่าสู่กันฟังและมีรูปด้วย
อยากให้นำมาเสนออีกน่ะครับเป็นกำลังใจให้น่ะครับ
 
 

โดย: คนคิชฌกูฎ IP: 118.172.241.12 วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:21:48:39 น.  

 
 
 
ชอกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
 

โดย: แอร์ IP: 118.172.250.73 วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:16:59:41 น.  

 
 
 
สุดยอดค่ะ อยากไปมั่งแต่กลัวทากค่ะ ไปแค่นำ้ตกพอ (ไปบ่อยคะ)
 
 

โดย: nuch ja IP: 220.244.105.133 วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:9:50:41 น.  

 
 
 
สวัสดีครับคุณM_GR2LAB ผมชื่อมันส์ มีเรื่องรบกวนครับ เข้าเรื่องเลยนะครับ พอดีว่าผมต้องการที่จะไปเดินป่าเขาสอยดาวใต้ ไปครั้งแรก อาจจะไปคนเดียว อยู่ระหว่างการหาข้อมูล คิดว่าท่านอาจจะช่วยเหลือด้านข้อมูลและประสบการณ์ได้ ถ้าไม่เป็นการรบกวนได้โปรดแนะนำกลับที่เมลนี้ด้วยนะครับ sodapha@hotmail.com ขอบคุณล่วงหน้า
ปล.ขอข้อมูลแบบละเอียด ประมาณเดินทางคนเดียว ไม่มีคนนำทาง ต้องขออนุญาตทางเขตฯ หรือ จนท. หน่วยใด ส่วนใด หรือเปล่า ขอบคุณอีกครั้ง
 
 

โดย: มันส์ IP: 119.46.176.222 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:13:38 น.  

 
 
 
ติดต่อคนนำทางยังไงคับ มีเบอร์ไหม
 
 

โดย: ANUWAT IP: 125.27.42.178 วันที่: 4 มีนาคม 2559 เวลา:23:39:02 น.  

 
 
 
ติดต่อคนนำทางยังไงคับ มีเบอร์ไหม
 
 

โดย: ANUWAT IP: 125.27.42.178 วันที่: 4 มีนาคม 2559 เวลา:23:39:22 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

M_GR2LAB
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add M_GR2LAB's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com