เริ่มทำกันจริงๆละน่ะ
** นำไข่ขาวที่เตรียมไว้ใส่ภาชนะที่ไม่มีไขมัน
เพราะไขมันจะทำให้ไข่ขาวตั้งยอดได้ยาก

- ตีไข่ขาวเป็นฟองหยาบๆ
- ใส่ครีมออฟทาทาร์ หรือ น้ำมะนาว
- ตีต่อซักครู่ พอให้เป็นฟองละเอียดบ้าง








- ทยอยใส่น้ำตาลทีละ 1 ช้อน
- ตีด้วยสปีดสูงสุดไปเรื่อยๆ
- จนน้ำตาลหมด และตีต่อจนไข่ขาวตั้งยอด มันเงา












** วิธีลัดส่วนตัวของเราคือ
ช่วงเวลาที่ตีไข่ขาวให้ตั้งยอด
ให้ใช้ไม้พายกั้นขอบในช่วงเวลาหมุนของเครื่อง
เพื่อให้เนื้อไข่ขาวเข้าไปในตะกล้อที่กำลังหมุนอย่างสม่ำเสมอ
และทำให้ตั้งยอดได้เร็วดีมากๆ
แต่วิธีนี้คงเหมาะกับคนที่ตีด้วยเครื่อง

ลักษณะไข่ขาวคือ
- ตอนแรกไข่ขาวจากฟองหยาบ
- กลายเป็นฟองละเอียด และจะหมดฟองในที่สุด
- กลายเป็นสีขาวนวล ปริมาตรเพิ่มขึ้นมาก และมันเงา ตีจนตั้งยอดได้ดังรูป


















- นำของเหลวที่ผสมไว้ คนให้เข้ากันก่อนใช้อีกครั้ง

- ระหว่างตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูง
- ค่อย ๆ เทของเหลวเป็นสายใส่ในไข่ขาว ห้ามเทพรวดเดียว ขนมจะยุบ
- ตีไปด้วยสปีดสูง พอให้เนียนเข้ากัน
- ระหว่างนั้นปาดขอบอ่าง และ ก้นอ่างซัก 1-2 ครั้ง เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดีที่สุด
- ตีด้วยสปีดต่ำซัก 1 นาทีก่อนยกออก เพื่อตัดฟองอากาศ











- ยกออกมา
- เนื้อที่ได้จะค่อนข้างเนียน เบา คล้าย .... โฟมโกนหนวดของผู้ชาย









- แบ่งแป้งและผงฟูที่ร่อนเป็น 3 ส่วนในใจ
- ค่อยๆ ใส่แป้งลงในอ่างทีละส่วน ตะล่อมเบาๆด้วยตะกล้อมือ
- ทำจนครบ 3 ส่วน

** อย่าตะล่อมแรง เพราะจะมีผลกับขนม















- ปาดก้นอ่าง และขอบสักนิดเพื่อการเข้ากัน
- เนื้อออกมาก็จะยังฟูเป็นโฟมเหมือนเดิม








- เทใส่พิมพ์ .... ใส่เกือบเต็มถ้วย
- หากเป็นพิมพ์ถ้วยกระดาษ ควรมีภาชนะรองเพื่อช่วยพยุงทรงของถ้วยกระดาษ
- ส่งเข้าอบ 180'c ไฟบน-ล่าง
- ประมาณ 11-13 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดพิมพ์ด้วย


** อย่าอบให้นานไป หากเห็นหน้าขนมเหลืองทองก็ ok แล้ว
อบนานไปเนื้อจะแห้งความชุ่มชื้นของเนื้อเค้กหายไปหมด
ตัวอย่าง ขนาดถ้วยนึ่งข้าว ไม่น่าจะเกิน 15 นาที 

** มาม่อน ... ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมาะที่จะอบในพิมพ์ทรงใหญ่ๆ
เพราะเนื้อมาม่อนนุ่มนิ่ม ไม่แน่นเหมือนเค้ก
ถ้าอบในพิมพ์ใหญ่ เวลาจะกิน ต้องตัดเป็นชิ้น
ซึ่งเนื้อมาม่อนถ้าตัดแล้วดูไม่ค่อยน่ากิน
จึงเหมาะจะอบกับพิมพ์ขนาดเล็กๆ















- 10 นาทีผ่านไป หัวเริ่มปูดๆ น่ารัก

- 12 นาทีตามสูตรที่ว่าได้พอดี อันนี้เริ่มจะเหลืองหน่อยๆ เอง








- สรุปเราอบประมาณ 14 นาที หน้าตาออกมาประมาณนี้
- สภาพบางถ้วยดูไม่เต็มถ้วย เพราะยังกะการใส่ขนมไม่ดีเท่าที่ควร










** พอดีว่าเตาอบบ้านเรา
เอาขนมเข้าได้ครั้งละประมาณ 12 ถ้วย
จึงทำให้ขนมที่ผสมไว้ยังเหลือในอ่างอีกส่วนนึง
ตอนแรกก็กังวลว่า ส่วนผสมจะยุบ และ อบไม่อร่อย
ก็ลุ้นๆ

สรุปว่า
หลังจากเตาแรก 12 ถ้วยอบเสร็จในเวลา 14 นาที
นำส่วนผสมที่เหลือส่งเข้าอบรอบที่ 2
ผลออกมา ok
ตัวเนื้อที่ได้ และ รสชาติเหมือนเตาที่ 1 ทุกประการ

แต่เดาเอาเองว่า
หากจะต้องเหลือส่วนผสมถึงเตาที่ 3
คงไม่รอดแน่ๆ












- นำออกจากพิมพ์ทันที พักให้เย็นนอกพิมพ์โลหะ
- แต่หากขนมฟูติดขอบพิมพ์โลหะ แม่สลิ่มบอกว่าให้ทิ้งไว้ 1-2 นาที
พอขนมเย็นตัวมันจะร่อนออกจากพิมพ์เอง แล้วค่อยนำออก


** จะโรยหน้าด้วย เชดด้าชีส ก็อร่อยดี
** หากจะโรยลูกเกด หรือถั่วต่างๆ ควรโรยก่อนนำเข้าอบ













ซูมๆๆๆ  หน้ามันดูมีรอยคาด
เพราะว่า คว่ำลงบนตะแกรงเลยมีรอย สวยไปอีกแบบ


















เนื้อในอีกที


















เนื้อฟูเบา กินเพลินๆ











ก้นถ้วย

















** คำเตือน .... หากอบไม่ได้ที่ คือหน้าไม่เหลืองทองจริงๆ
เวลาเก็บขนมไว้หลายชั่วโมง   หน้าขนมจะชื้นขึ้นมา ออกแนวแฉะๆ
แต่รสชาติไม่เสียน่ะ อร่อยเหมือนเดิม    แต่มันดูไม่น่ากิน





ภาพนี้เป็นตอนออกจากเตาใหม่ๆ  หน้าไม่เหลืองทอง  แค่เหลืองหน่อยๆ










ก้อนอื่นที่ .... อบหน้าเหลืองทอง หน้าจะไม่ชื้น
หลังจากเก็บไว้ซัก 5 ชม.  หน้าตาก้อนที่อบไม่ได้ที่
จะเป็นประมาณนี้

















** จบ blog นี้ หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อท่านอื่นต่อไป ***