อิ่มแล้วก็รีบลุกไปห้องน้ำก่อนเลย รอคิวห้องน้ำ ที่หน้าห้องครัวกันเลย
เสร็จแล้วก็มานั่งที่ ชมวิวข้างนอกเครื่อง
สักพักแอร์ ก็เสริฟเครื่องดื่มอีก เราเลยเอา .... น้ำแอปเปิ้ล
แล้วก็ดูซีรีย์ Heirs ต่่อให้จบ
โหลดมาตั้ง 13 ตอน กะให้จบบนเครื่อง แต่แล้วก็ไม่จบ ^^
ส่วนเฮียก็ดูกับเรา สลับกับนอน
สักพักแอร์เสริฟเครื่องดื่ม (อีกแล้ว) .... เราก็เลยเอานมสด เครื่องดับไฟให้ผู้โดยสารนอน ส่วนเราก็ดูซีรีย์ Heirs ต่่อแบบมืดๆ
ดูซีรีย์ไปนานเท่าไรไม่รู้
สักพักแอร์เสริฟเครื่องดี่มอีกแล้ว (ขยันเสริฟจัง) ครานี้เลยเอาน้ำส้ม อาจเพราะเป็นไฟล์บินช่วงเย็น ไม่ใช่ไฟล์ดึก เลยต้องบริการตลอด
ประมาณ 1 ทุ่ม (เวลาไทย)
เราเข้าเขต ... เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
เกือบ 2 ทุ่มเครื่องเปิดไฟ
เข้าเขตประเทศไทย แล้วสักพักก็ถึง ... สุวรรณภูมิ
clip เครื่อง Landing เราถ่ายเอง
เดินไปเพื่อเข้าด่านตม. และก็ออกไปรับกระเป๋า
ที่เมืองไทยอุณหภูมิ 28 องศา
ไปรับของที่บูธของ King Power
ที่เรา่ซื้อที่ Duty free เมื่อตอนออกไปญี่ปุ่น
รับของเสร็จก็ไปผ่านด่านศุลกากร
ตรงนี้ละต้องทำหน้าถูกระเบียบไว้ ไม่งั้นอาจมีเหตุให้เสียเงิน
ออกมาด้านนอก .... ชั้น2 ผู้โดยสารขาออก
แวะนั่งพักเล่นๆ เอาไส้กรอกที่ซื้อจาก lawson สนามบินออกมากิน อร่อยเชียวละ
แล้วก็ไปขึ้น taxi กลับบ้าน
กลับถึงบ้านกินโจ๊กกันอีก อิ่มเลย
เช้าวันรุ่งขึ้น ก็เช็คของที่ซื้อมาบางส่วน ที่ประทับใจรอบนี้ก็มี่ ... ผ้าพันคอผืนใหญ่ แบบห่มได้ด้วย
คือมันเบามาก แต่อุ่นนะ และสามารถใช้อากาศเมืองไทยได้ด้วยนี่ละ
แล้วนี่ก็บรรดา ... ร่มญี่ปุ่น water front
ซื้อมาหลายคัน ร่มนี้เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นมาก
เพราะมีขายเกือบทุกที่เลยทั้งร้านสะดวกซื้อ และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
ข้อสังเกตุคือ ในแหล่งท่องเที่ยวจะมีลายให้เลือกมากกว่า
ถ้าเป็นตามร้านสะดวกซื้อจะมีแต่สีพื้นไม่มีลาย
ร่มยี่ห้อ water front นี้ขึ้นชื่อเรื่องเบาและทนทาน ในไทยมีขายแบบรับหิ้วตกคันละ 1700 yen up
กางเพื่อตรวจ คือตอนซี้อที่ญี่ปุ่น
สารภาพว่าไม่ได้ตรวจเลย ไม่มีเวลา^^
ของที่ซื้อจาก Duty free
มาที่ของกิน แบบต้องรีบกินบ้าง เช้านี้เรากิน ...ข้าวปั้น... ที่โหลดใต้เครื่องมาหลายก้อนเลย
อาจจะดูแบนไปหน่อย แต่อร่อยเหมือนเดิม
อันนี้แบบเต้าหู้หวาน ไส้ข้าวปรุงรสกับปลาแห้งและงา อร่อยมากจริงๆ เสียดายที่เพิ่งเคยกิน
แซนวิชจากร้าน Deli cafe ... กินกับกาแฟ maxim
ชีสเค้กชื่อดังแห่งโอซาก้า ที่เราแพคกลับมาด้วย
แกะออกมา สภาพยังดี 100%
ขนาดแบบ medium ค่อนข้างจะนิ่มมาก ไม่เละเลยดีใจมาก
ก่อนกินเอาเข้าเตาอบอีกรอบ ใช้อุณหภูมิ180องศา 10-15 นาที จะได้ชีสเค้กที่กรอบและ set ตัวขึ้น หอมอร่อยเหมือนเดิม
ฝากให้เจ้าน้อยหน่า หมาสุดที่รักด้วย 1 ชิ้น
และแล้ว trip ญี่ปุ่นคันไซ ของเราก็จบลง ทำ blog ละเอียดเวอร์ตั้ง 31 blog ก็ตั้งใจเก็บไว้เป็น Diary ของเรา
เป็น trip ที่สนุกมาก เที่ยวเอง หลงเอง มันส์จริงๆ
ที่สำคัญได้กินอย่างที่อยากกิน ได้เที่ยวที่ที่อยากเที่ยว สนุกมาก
ค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างแล้ว
อยู่ที่ 1 แสน 2 หมื่นบาท.... สำหรับ 2 คน
สปอนเซอร์ของ Trip นี้คือ เฮีย (ขอขอบคุณคร้าบบ ^^)
ขอให้มีความสุข กับ Trip ของคุณ