|
ปัญหาเส้นผมบังหัวล้าน - -"
|
เรื่องของเืรื่อง ก็คือไม่รู้จะเขียนอารายดี
เดี๋ยวมีคนเืบื่อบล็อคเรา
เลยเอาว่ะ เอาตัวเข้าแลก เอาเรื่องของตัวเองนี่แหล่ะมาเล่าให้กันฟัง เอามาขายเลย .... ทุ่มสุดตัว
อ่ะนะ
มันก็เป็นปัญหาประจำตัวแหล่ะคับ
ปัญหาหนักศีรษะนี่แหล่ะ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีให้หนักแล้วอ่ะคับ (โปรดดูภาพประกอบที่มุมขวาด้านบน)
เรื่องของเรื่อง ก็คือ กระผมเนี่ย เกิดมาบุญหนัก ศักดิ์ใหญ่
มียีนส์เด่น (ที่ไม่อยากจะมี)
ผมไม่ตรงแบบคนอื่นเค้า หยิกหยอย ทำให้ไม่สามารถไว้ผมยาวได้
แต่เด็กแต่ไรมา ก็ตัดอยู่สองทรง
ทรงนักเรียน กะทรงอเมริกัน (ต่างกันมั้ยเนี่ย)
เคยพยายามจะลองตัดแบบคนอื่น ก็ไม่เข้าแก๊ป ทั้งลองทรงต่ำ ลองทรงสูง ทรงบ้า ทรงบอ
แต่เนื่องจาก ไอ้หัวข้าพเจ้าเนี่ย ผมด้านบน มันจะลีบติดหนังหัวไปเรย
ถึงตัดทรงไหน ก็จะมองเห็นเป็นหัวกลมๆ อยู่ดี
ไม่มีประโยชน์ที่จะครีเอททรงให้มันเสียค่าตัดแพงขึ้น
เพราะตัดออกมาก็เห็นเป็นแบบเดิม - -"
ข้อดีก็คือ ไม่ต้องเีสียเวลาคิดมาก ว่าจะต้องไปทำทรงไหน รักษาผมยังไง
พอครบเดือนก็ไปตัดออกซะหน่อย ก็จบแล้ว ตอนนั้นก็ไม่ค่อยคิดมากอาราย เพราะว่า กล้อมแกล้มไปว่า เรียน รด. จำเป็นต้องตัดผมสั้น กลมกลืน หุหุ
ปัญหามันมาเกิดตอนโต
หลังจากเรียนจบ ปริญญาตรี ทำไงดีหล่ะ จามาตัดทรงนักเรียนเหมือนเดิม ก็กลัวจะโดนนินทา หน้าก็แก่ ยังจะมาตัดทรงนี้อยู่ได้
ยิ่งเมื่อก่อนใส่แว่นตาด้วย
ถ้าใส่เสื้อเชิ้ตขาวอีกหน่อย หล่ะก็ มัคนายก ดีๆ นี่เองหล่ะ หน้าตาธรรมะธัมโมสุดๆ ปกติ เรียนๆ กันเนี่ย เพื่อนก็จาไหว้กันอยู่แล้ว
ประกอบกับเล็งเห็นอนาคตของตัวเอง (โดยไม่ต้องไปพึ่งหมอดูที่ไหน)
ประจักษ์กับสายตาตัวเอง เมื่อวันหนึ่ง ได้ไปส่องกระจก แล้วมีกระจกอันนึง มันสะท้อนให้เห็นด้านบนศีรษะ
เริ่มเห็นง่ามอันแสนพิสดาร เกิดขึ้นบนหัวของเราแล้ว อนาคตรำไรแล้ว ว่ามันจะต้องหมดไปในไม่ช้า
อย่ากระนั้นเลย ขอชิงทำเองเลยแล้วกัน ก่อนที่มันจะไปเองตามธรรมชาติ
ก่อนจะไปทำก็นึกๆ ว่า รึเราจะปล่อยให้มันยาว แล้วค่อยเอาส่วนที่ยาว มาปก บลาๆๆๆๆๆๆ.....
คิดได้ฟุ้งซ่านมาก จนผมคงร่วงไปอีกเยอะ
ตอนหลังเลยหยุด ตัดใจ เป็นไงเป็นกันว่ะ
ก็เลยไปที่ร้าน แล้วก็บอกว่า ให้สกินเฮดทันที
ออกมาก็เสีย self เล็กน้อย เป็นไข้ไปหลายวัน อ้อมแอ้ม ตอบไปว่า เพราะไม่เคยโกนหัว เลยกระหม่อมบาง เป็นหวัด มั่ิวๆ ไปอย่างงั้น
แต่จิงๆ แล้วใครจะรู้ไม่ว่า เกิดอาการไม่อยากพบปะผู้คน อายเจงๆ จิงๆ แล้วอาจจะเป็นไข้เพราะรับตัวเองมะล่าย หุหุ
แรกๆ ที่ตัดไปนะ
ก็ได้รับเสียงตอบรับจากมหาชนอย่างดีเยี่ยม
ลองดูตัวอย่างข้างล่างคับท่าน
. . . .
"นมัสการพระคุณเจ้า วันนี้ไปบิณฑบาตที่ไหน"
"ไปทำไรกะหัวมึงมาอ่ะ คิดว่าทำงี้แล้วมันจะดูดีขึ้นเ่หรอ"
"ไอ้ก้อง ใครทำไรมึงอ่ะ บอกกู กูจะไปฆ่ามัน"
เวลาไปกินข้าวเย็นก็จะบอกว่า
"นี่มันเลยเวลาฉันเพลแล้วนะ เดี๋ยวก็อาบัติหรอก"
แม้แต่อาจารย์ที่ปรึกษา ก็บอกว่า "ทำไมคุณไม่บอกผมว่าไปบวช ผมจะได้ฝากตังค์ไปทำบุญ"
^^" น่าดีใจโคตรๆ
ที่ทำให้คนที่ไม่ค่อยสนใจศาสนา
เิกิดอยากทำบุญขึ้นมา - -"
ไม่เคยมีใครสังเกตเลยว่า คิ้วก็ออกจะหนา
ถ้าไปบวชจิงๆ ก็คงเป็นพระพม่าแหล่ะคับ
(นี่ก็อีกอย่างนึง คิ้วอ่ะ หนาสุดๆ แต่ผมโคตรบาง ทำไมโลกช่างไม่สมดุล)
นี่แหล่ะ กำลังใจที่อยู่เคียงข้างกันเสมอ
ประเสริฐดีมั้ยหล่ะ
นอกจากนี้ มาวิเคราะห์ตัวเองดูแล้ว ถ้าใส่แว่นตาเข้าไปอีก ก็จะยิ่งเหมือนพระ เป็นการตอกย้ำความเชื่อให้คนรอบข้างให้เข้าใจผิดไปกันใหญ่ เดี๋ยวจะบาปหนา ชาติหน้าเกิดมาหัวล้านซ้ำอีกรอบ
อย่ากระนั้นเลย ข้าพเจ้าเลยวิ่งแจ้นไปร้านแว่นตา ซื้อคอนแทคเลนส์มาใส่เปลี่ยน look ซะเลย
ว้าว! หน้าใสใช่น้อยเลยนะเราเนี่ย
รู้งี้เปลี่ยนมาตั้งนานแล้วดีก่า
จากนั้นก็เริ่มชิน
แล้วก็เริ่มจางก
เห็นว่า แค่ตัดทรงนี้ ไม่เห็นต้องใช้ความสามารถอารายเลย ดันมาเก็บค่าตัดแพง เท่าๆ กับคนที่ตัดทรงอื่น
ไม่ยุติธรรม
เพราะฉะนั้น เราทำเองเลยดีก่า ไม่ปล่อยเงินทองให้รั่วไหล
ลงทุนไปซื้อมีดโกน มาทำเอง
ผลก็คือ....
แม่เจ้า เสียเวลาไปทั้งวัน ได้แผลมาเต็มหัว
เลืิอดกระฉูดไปทั้งหัว ต้องเสียเวลามารักษาแผลอีกนาน
แถมยิ่งเหมือนพระไปกันใหญ่ จากที่แค่คล้ายๆ
หลังจากนั้นก็ไม่เคยคิดจาทำเองอีกเลย
แต่เนื่องจากเราเป็นพวกต่อมความคิดสร้างสรรค์บรรเจิด
จะให้มาหยุดคิดได้ยังไง
ก็เลยให้คุณแม่ ไปหาปัตตาเลี่ยนมา
แล้วก็ลงมือทำกันเอง เป็นอุตสาหกรรมครอบครัว
รอบนี้ได้ผลคับ
เกิดปฏิสัมพันธ์กันในครอบครัวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
"มาให้พ่อทำมั่ง"
"มาให้แม่ทำมั่ง" <<<< แย่งกันใหญ่
"รอบหน้าหนูขอโชว์ฝีมือนะ" <<< ของคุณน้อง
"ไม่น่าเชื่อว่าพ่อจะตัดได้เก่งขนาดนี้" <<< ชมตัวเองก็มี
เป็นที่สนุกสนานกันไปใหญ่
ทั้งด่า ทั้งทะเลาะกัน ตัดไม่ดีอย่างงั้นอย่างงี้ แบบว่า ถ้าตัดไม่ดีนะ จาโกรธมาก ไรงี้
(จิงๆ แล้วเก็บกดจากที่ร้าน เพราะถ้าไม่ได้ดั่งใจ ก็พูดมากไม่ได้ เดี๋ยวช่างเอามีดโกนปาดคอ)
นี่ก็เป็นข้อดีอย่างนึงของการเป็นคนไม่ค่อยมีผม (รึเป่า?)
ทำให้มารวมตัวกันตอนตัดผมโดยไม่ได้นัดหมาย
(่จิงๆ แล้วจะมาซ้ำเติม ตอนทำแหว่งรึป่าว ก็ไม่รู้)
หลังจากนั้น ก็ให้ที่บ้านตัดให้มาตลอด มีความสุข ไม่เปลืองตัง หุหุ
แถมให้พ่อกับแม่ ได้ภูมิใจในตัวเอง ว่าถ้าหากตกงาน ก็ยังมีจ๊อบพิเศษรองรับได้ในอนาคต
(ก็หาเรื่องปลอบใจตัวเองกันไปตามเรื่องตามราว อุอุ)
นี่แหล่ะคับ จุดเริ่มต้น ของไอ้เหม่ง (ที่ใครๆ ชอบเรียกกัน)
เพราะฉะนั้นก็เลยอยากบอกทุกท่านที่กะลังมีปัญหา
อย่ากลัว ครับ อย่ากลัว
ยกเว้นพวกที่คิดว่า ยังไง ยังไม่ตายก็ต้องรักษาให้หาย ก็กินยาไป ไปทอผม ถักผม อารายก็ว่าไป
แต่เท่าที่เห็น ก็ไม่ค่อยเห็นใครที่กินยาแล้วจาหยุดกินได้นะ ต้องกินไปเรื่อยๆ อ่ะคับ ยาทาก็เหมือนกัน หยุดทาก็กลับมาร่วงเหมือนเดิม
ก็แล้วแต่ว่า ครายจะมีวิธียังไง
แต่ผมเนี่ย ทำไ้ด้อย่างเดียวคับ คือ ทำจายยยย เหอ เหอ
หัวล้าน แต่หล่อ หน้าใส ก็โอ อ่ะนะ
อย่างป๋มเป็นต้น
หุหุ
|
|
| |
โดย: prncess 31 มกราคม 2548 18:21:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่ส้ม IP: 203.170.234.8 31 มกราคม 2548 21:13:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: สีกาสาว...กา ก่า ก้า ก๊า ก๋า (แก้วการะบุหนิง ) 31 มกราคม 2548 21:42:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ^^ (ยัยเจี๋ยมเจี้ยม ) 31 มกราคม 2548 23:26:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: <Strawberry Milk Shake> 31 มกราคม 2548 23:35:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 1 กุมภาพันธ์ 2548 0:22:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: ซังคับ IP: 61.91.219.2 1 กุมภาพันธ์ 2548 0:41:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: แพนด้ามหาภัย 1 กุมภาพันธ์ 2548 11:16:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: Alucard 1 กุมภาพันธ์ 2548 13:15:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กชายหัวหอม 2 กุมภาพันธ์ 2548 8:45:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตะวันยิ้ม :-) 2 กุมภาพันธ์ 2548 9:01:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: รักดี 2 กุมภาพันธ์ 2548 18:36:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: Marvellous Boy 2 กุมภาพันธ์ 2548 22:34:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าจะอิ๊บ (jipnaja ) 3 กุมภาพันธ์ 2548 11:15:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: รำเพย 6 กุมภาพันธ์ 2548 18:45:01 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
| |
สวัสดีค่ะ..แวะเข้ามาอ่าน ดีค่ะจริงใจดีไม่ปิดบังตัวเอง
คลิก