ประติมากรรมแห่งชีวิต พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย
ทุกวันนี้ คนหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่คงจะรู้จักพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ ที่กรุงเทพมหานครเป็นอย่างดี ซึ่งมาดามทุสโซนั้นเป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งระดับโลก และหุ่นที่จัดแสดงนั้นก็เน้นไปที่หุ่นของคนดังจากทั่วโลก แต่หลายคนคงจะลืม หรืออาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าก่อนที่มาดามทุสโซจะมาเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ นั้น ก็ได้เคยมีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งเปิดมาแล้ว และเป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งสัญชาติ และเชื้อชาติไทยแท้ด้วย นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ก่อตั้งโดย อ.ดวงแก้ว พิทยากรศิลป์ และคณะ ซึ่ง อ.ดวงแก้วได้รับแรงบันดาลใจจากมาดามทุสโซที่ลอนดอนนั่นแหละ และนับมาคิดค้น พัฒนาเป็นหุ่นขี้ผึ้งแบบไทย ๆ โดยในระยะแรก อาจารย์ได้น้ำขี้ผึ้งจริง ๆ เลยมาใช้ปั้นหุ่น แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะจริง ๆ ขี้ผึ้งที่เขาใช้ปั้นหุ่นนั้นเป็นขี้ผึ้งในแบบที่หล่อเทียนมากกว่า อีกทั้งภูมิอากาศของประเทศไทยก็ไม่เหมาะกับขี้ผึ้งด้วย เพราะว่าร้อน อาจทำให้ละลายได้ แต่สุดท้ายแล้ว อ.ดวงแก้วก็ได้ค้นพบว่า ไฟเบอร์กลาส สามารถนำมาหล่อหุ่นขี้ผึ้งได้เช่นกัน และให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลกว่าขี้ผึ้งด้วย
ผมมีโอกาสได้มาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ครั้งแรกตอนอยู่ ป.2 ที่พ่อแม่พาผมไปเที่ยว ครั้งเดียวก็ติดใจเลย ขอให้พ่อแม่พาไปอีกหลายครั้ง คือในช่วงนั้น (รวมถึงตอนนี้ด้วยแหละ) ผมจะชื่นชอบในเรื่องราวของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี รวมไปถึงพระอริยสงฆ์ต่าง ๆ ด้วย ก็ชอบไปดูอนุสาวรีย์ หรือหุ่นขี้ผึ้งของท่านเหล่านั้น
ภาพที่ผมจะนำเสนอประกอบบล็อกนี้เป็นภาพที่ผมถ่ายเมื่อได้ไปเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2555 เชิญชมได้เลยครับ
ป้ายชื่อพิพิธภัณฑ์
เข้าไปถึง เราจะพบกับหุ่นครอบครัวไทยที่ประกอบไปด้วย ยาย แม่ และหลาน
ผมเห็นลุงคนนี้เขานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ท่านี้มานานหลายปีแล้ว ไม่รู้ว่าลุงแกไม่เมื่อยบ้างหรือไง
พี่เลขาคนสวยนี่ก็นั่งทำงานมาหลายปีแล้วเหมือนกัน
หลังติดต่อพี่เลขาเรียบร้อยแล้ว เราก็จะเข้าสู่มุมของพระอริยสงฆ์ ซึ่งประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้งของพระอริยสงฆ์ชื่อดังของไทยมากมายหลายรูป จะขอแนะนำเป็นบางรูปนะครับ
พระครูภาวนารังษี (เปลื้อง เริงเชียร) เป็นผู้พัฒนาวัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เป็นวัดร้างให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง
หลวงพ่อชา สุภทฺโท ผู้ชักนำให้ชาวต่างชาติหลายคนเข้ามาบวชในบวรพุทธศาสนา
หลวงจีนคณาณัติจีนพรต (ไต้ซื้อเย็นบุญ) วัดทิพยวารีวิหาร กรุงเทพมหานคร
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ เป็นหุ่นขี้ผึ้งรูปแรกที่ อ.ดวงแก้ว สร้างเสร็จ
หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรํสี) วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด
หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
ครูบาศรีวิชัย
เดินชมมาสักพัก บางท่านอาจจะเหนื่อย ก็พักสักหน่อยนะครับ แต่อาจต้องรอให้พี่สองคนนี้เขาลุกไปก่อน
ด้วยฝีมือที่อ่อนด๋อยของผมเลยถ่ายออกมาดูไม่ค่อยเหมือนคนเท่าไร แต่ผมรู้สึกว่าพี่เสื้อฟ้าหน้าเหมือนซีอุยยังไงไม่รู้
หุ่นชุดหมากรุกไทย
ต่อไปเราจะเข้าสู่ท้องพระโรง เพื่อชมพระบรมรูปหุ่นขี้ผึ้งของรัชกาลที่ 1-8 แห่งราชวงศ์จักรี เป็นหุ่นขี้ผึ้งชุดที่ผมชอบที่สุดในนี้แล้ว
ถวายบังคม พระพุทธเจ้าข้า
ในตอนแรก บริเวณท้องพระโรงนี้ก็มีเพียงพระบรมรูปของ 8 รัชกาลเท่านั้น ต่อมาได้มีการเพิ่มพระรูปหุ่นขี้ผึ้งของ สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี หรือสมเด็จย่าเข้าไป และต่อมา หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว ก็มีการเพิ่มพระรูปหุ่นขี้ผึ้งของพระองค์เข้าไปด้วยเช่นกัน
พระรูปหุ่นขี้ผึ้งของทั้งสองพระองค์จะประดิษฐานที่มุกหลังของท้องพระโรง เบื้องหลัง 8 รัชกาล
ทีนี้เราก็จะขึ้นไปชั้น ๒ กัน ต้องขอบอกก่อนว่า เนื่องจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีพื้นที่จัดแสดงที่ไม่เพียงพอ ทำให้มีการโละหุ่นบางชุดออกไป แล้วนำหุ่นชุดใหม่มาจัดแสดงแทน เท่าที่ผมจำได้ที่มาตอนประถม เมื่อขึ้นมาชั้นสองจะพบกับหุ่นทาสในแอฟริกา แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นชุด 3 บรมครูแห่งวงการเพลงไทย
ครูพรานบูรพ์ เป็นผู้ริเริ่มแต่งเพลงไทยสากล
ครูไพบูลย์ บุตรขัน ผู้แต่งเพลงค่าน้ำนม
ครูเอื้อ สุนทรสนาน ผู้ก่อตั้งวงสุนทราภรณ์
หุ่นชุดใหม่อีกชุดที่ไม่มีในตอนที่ผมอยู่ประถมคือ ชุดบุคคลสำคัญของโลก มีอยู่กัน 3 คน คือ
อับราฮัม ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดีคนที่ ๑๖ แห่งสหรัฐอเมริกา ผู้ประกาศเลิกทาส
เซอร์ วินสตัน เชอร์ชิล อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
มหาตมะ คานธี ผู้เรียกร้องเอกราชให้อินเดีย
ต่อไปจะเป็นชุดการละเล่นของไทย ส่วนใหญ่จะเป็นของเด็กนั่นแหละ
รีรีข้าวสาร
ขี่ม้าส่งเมือง
ของผู้ใหญ่ก็มีหัวล้านชนกัน ที่นี่มีหัวล้านครบทั้ง 7 แบบตามตำราไทย คือ ทุ่งหมาหลง,ดงช้างข้าม,ง่ามเทโพ,ชะโดตีแปลง,แร้งกระพือปีก,ฉีกขวานฟาด และราชคลึงเครา
ชนกันมันส์
ชมการละเล่นของไทยแล้ว มาชมวรรณคดีไทยบ้าง ที่นี่มีห้องที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งชุด พระอภัยมณี ด้วย
เข้าไปถึงเราจะพบบรมครูสุนทรภู่ ผู้ประพันธ์เรื่องพระอภัยมณี
ตัวเอกของเรื่อง พระอภัยมณี พระเอกวรรณคดีผู้มีเครื่องดนตรีเป็นอาวุธ
พระอภัยมณีเป่าปี่จนสามพราหมณ์ วิเชียร,โมรา,สานน รวมไปถึงศรีสุวรรณซึ่งเป็นน้องชายของพระอภัยมณี หลับไหลไป จนเป็นเหตุให้โดนนางผีเสื้อสมุทรจับไปทำเป็นสามี
มุมกว้าง จะเห็นตัวละครทั้งหมดที่จัดแสดงที่นี่ ได้แก่ พระอภัยมณี,ศรีสุวรรณ,สามพราหมณ์,สินสมุทร,สุดสาคร,ม้านิลมังกร,นางเงือก,นางสุวรรณมาลี,พระฤๅษี,นางผีเสื้อสมุทร,อุศเรน และนางละเวงวัณฬา
ต่อไป จะเป็นหุ่นชุดทาสของไทย ในภาพนี้จะเป็นทาสในเรือนเบี้ย ที่เมื่อบิดามารดาเล่นพนันติดหนี้เขาแล้วก็นำลูกไปขัดดอก
คนเป็นทาสไม่มีสิทธิ์มีเสียงใด ๆ เลย ต้องถูกเฆี่ยนตีเยี่่ยงสัตว์
แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงประกาศเลิกทาส ทำให้ทาสได้รับอิสระ เป็นไทแก่ตัวเอง
จริง ๆ จะมีหุ่นอีกชุด เป็นรัชกาลที่ 5 ประทับบนบัลลังก์ และมีเหล่าทาสถวายบังคม แต่จุดนั้นเขาห้ามถ่ายภาพ เลยไม่มีภาพมาให้ชม
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยเปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์ ศุกร์ เวลา 09.00 - 17.30 น. วันเสาร์- อาทิตย์และวัน หยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 18.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 10 บาท พระภิกษุ สามเณร แม่ชี นักบวช นักศึกษาในเครื่องแบบ 20 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 034 332 607 และ 034 332 109
Create Date : 19 กรกฎาคม 2559 |
Last Update : 19 กรกฎาคม 2559 23:52:05 น. |
|
3 comments
|
Counter : 5415 Pageviews. |
|
|
|