GOLDEN BAMBOO:)

I love King รักในหลวงค่ะ

Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Chicago....Windy City

This is my kind of town, Chicago is.....
My kind of town, Chicago is.....

ได้ยินเพลงนี้จาก Frank Sinatra ทีไร เราก็อดนึกถึงเมืองที่เราอยู่ไม่ได้ นั่นก็คือเมืองชิคาโก ไหนๆก็ย้ายมาอยู่แล้ว เราก็ขอเล่าประวัติความเป็นมา ความชอบและไม่ชอบส่วนตัวเกี่ยวกับเมืองนี้สักหน่อยดีกว่า





ถ้านับจากจำนวนประชากรของเมืองใหญ่ๆในสหรัฐอเมริกาแล้ว ชิคาโกเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของอเมริกา รองจากนิวยอร์คและลอสแองเจลิส นอกจากนั้น ปัจจุบันนี้ ชิคาโกเป็นศูนย์กลางความเจริญทางด้านธุรกิจและการคมนาคมที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก (อันนี้เราก็เพิ่งรู้เหมือนกันหลังจากหาข้อมูลจากวิกีพีเดีย) ส่วนประชากรที่อาศัยอยู่ มีหลากหลาย มีทั้งคนขาว โดยเฉพาะมีชาวโปแลนด์อยู่เป็นจำนวนมาก คนผิวดำก็อาศัยอยู่เยอะพอสมควร ส่วนคนเอเชียมีพอสมควร เน้นคนจีนและเกาหลีเป็นหลัก








ในปี 1871 เมืองชิคาโกถูกไฟไหม้ทั้งเมืองและไหม้ยาวนานทั้งวัน สาเหตุที่ดับไฟยากเพราะเมืองชิคาโกติดกับทะเลสาบมิชิแกน ทำให้มีลมทะเลพัดมาตลอด เปลวไฟจึงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว พอไฟมอด เมืองก็หายไปทั้งเมือง เกิดความเสียหายอย่างมาก ผู้คนจำนวนมากไม่มีที่อยู่อาศัย พวกสถาปนิกและวิศวกรทั่วอเมริกาจึงมาช่วยกันออกแบบวางผังเมืองและสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา ปัจจุบัน ชิคาโกกลายเป็นเมืองใหม่ มีตึกสูงระฟ้ามากมายและสวยงาม จนกลายเป็นเมืองแห่งสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่ง





พูดถึงชิคาโกแล้ว เรื่องหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คืออากาศ คนส่วนใหญ่มักพูดว่าชิคาโกเป็นเมืองที่สวยงาม น่าอยู่ แต่เสียอย่างเดียวเรื่องอากาศ เราเห็นด้วยอย่างแรง ที่นี่อากาศมีสี่ฤดูเหมือนที่อื่นๆ มีฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง แต่ด้วยความที่เมืองนี้ตั้งอยู่ติดทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ทำให้ลมจากทะเลพัดแรงเกือบตลอดเวลา บางครั้งแรงจนคนผอมๆแทบเดินต้านลมไม่ไหว หรือถ้าฝนตกแล้วเรากางร่ม ร่มก็อาจจะหักพังต่อหน้าต่อตาอย่างง่ายดาย เมืองนี้จึงได้ฉายาว่า Windy City






ลมนี้แหละที่ทำให้อุณหภูมิธรรมดากลายเป็นเย็นขึ้น จากหนาวธรรมดาก็กลายเป็นหนาวจับขั้วหัวใจ ทำให้ฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงไม่ปกติ เพราะจริงๆแล้วอากาศควรที่จะค่อยๆเริ่มหนาว แต่ที่นี่จากร้อนก็สามารถกลายเป็นหนาวได้ทันที ดังนั้นหน้าหนาวที่ชิคาโกค่อนข้างยาวนาน นับดูแล้วก็ตั้งแต่ประมาณตุลาคมจนถึงพฤษภาคม ร่วมแปดเดือนทีเดียว ใครที่มาเที่ยวชิคาโก ไม่ว่าจะฤดูอะไร ก่อนออกจากบ้านควรเช็คสภาพอากาศและควรมีแจกเก็ตติดตัวไว้เสมอ วันนี้อากาศอาจจะร้อนแบบใส่เสื้อกล้ามได้ แต่พรุ่งนี้อาจจะต้องใส่เสื้อกันหนาวออกจากบ้าน

อีกอย่างก็คือเรื่องของหิมะ หน้าหนาวหิมะตกตลอด และค่อนข้างเยอะ ช่วงที่หิมะกำลังตก อากาศจะไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ แต่หลังจากหยุดตกและมีการสะสมของกองหิมะทั่วเมือง และยิ่งถ้ากลายเป็นน้ำแข็งขึ้นมาเหมือนช่องแช่แข็งในตู้เย็นแล้วละก็ อยากจะบอกว่าหนาวสุดๆ






โดยส่วนตัวแล้ว เราไม่ถูกกับหน้าหนาวเอาซะเลย ด้วยความที่ขี้หนาวและเป็นคนตัวเย็น พอมาเจอหน้าหนาวที่ชิคาโก ใจเรายังสู้ไหว แต่ร่างกายและผิวขอยอมแพ้เลย ทุกปีเราต้องเจอกับปัญหานิ้วมือและนิ้วเท้าบวม ถ้าออกไปเดินอยู่ข้างนอกนานๆ และยิ่งถ้าโดนน้ำบ่อยๆ นิ้วมือจะเจ็บ เป็นสีแดงจ้ำๆ ถ้าเกิดขึ้นจุดหนึ่งแล้ว ก็จะเป็นมากขึ้นและไม่มีวันหาย จนกว่าอากาศจะอุ่นขึ้น ทรมานมากๆ ปีนี้จะพยายามหาทางป้องกัน ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า

ดังนั้นหน้าร้อนของเมืองชิคาโกจะมีสีสันมาก ผู้คนดูแจ่มใส มีชีวิตชีวาและมีความสุขในการออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านตลอด นอกจากนี้ เมืองชิคาโกมีเทศกาลงานต่างๆมากมายในช่วงหน้าร้อนและที่สำคัญฟรี เช่น Taste of Chicago, Air Show, Music festival เป็นต้น มีชายหาดให้คนมาอาบแดด เล่นกีฬา ว่ายน้ำ หรือมาเดินเล่น ออกกำลังกายไปตามทางเดินเรียบทะเลสาบที่ไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับคนชิคาโก เราก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบหน้าร้อนที่สุด จากที่เคยกลัวแดด ก็กลายเป็นคนไม่กลัวแดดอีกต่อไป








สิ่งที่ขึ้นชื่อในเมืองชิคาโกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ดนตรีแจ็ซ บลูส์ และละครเวที เค้าว่ากันว่าถ้ามาชิคาโกแล้วไม่ได้ไปดูการแสดงดนตรีแจ็ซหรือบลูส์ ก็แปลว่ามาไม่ถึงชิคาโก เราเคยได้มีโอกาสดูการแสดงสดในผับครั้งหนึ่ง น่าประทับใจมาก ส่วนละครเวทีที่ชิคาโกเคยไปดูมาแค่ครั้งเดียวเหมือนกัน นักแสดงเหล่านี้เป็นมืออาชีพมาก ต้องยกนิ้วให้เลย





ชีวิตความเป็นอยู่ของคนชิคาโกก็เหมือนสังคมเมืองทั่วไป มีคนทำงานทุกสายอาชีพ ค่าครองชีพถือว่าสูงเป็นอันดับต้นๆของอเมริกา เท่าๆกับนิวยอร์คเลย แต่อาหารการกินที่เมืองนี้มีหลากหลาย และนานาชาติให้เลือกทาน ร้านอาหารเยอะมากและราคาอาหารค่อนข้างถูก มีคนทั้งทำงานและตกงาน รวมทั้งพวกที่ไม่มีบ้านอยู่ก็เยอะพอสมควร ความปลอดภัยของเมืองใหญ่นี้ก็ไม่ดีเท่าไหร่ สามารถเกิดอันตรายได้รอบด้าน โดยเฉพาะตอนกลางคืน ถ้าไม่ระวังหรือไปเดินในที่เปลี่ยวก็อาจจะโดนพวกมิจฉาชีพมาปล้นหรือทำร้ายได้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกคนดำกับแม็กซิกัน

สรุปว่าชิคาโกก็ยังไม่ใช่เมืองที่ใช่สำหรับเรา ฟิลาเดลเฟียเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่า เพราะไม่วุ่นวายและมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากกว่า แต่เมืองไทยยังไงก็ดีที่สุด เอาเป็นว่าไม่ว่าจะอยู่เมืองไหน ถ้าเราจำเป็นต้องอยู่ เราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมให้ได้ และต้องหาวิธีที่ทำให้เราอยู่ได้อย่างมีความสุขที่สุด





Create Date : 12 ตุลาคม 2552
Last Update : 13 ตุลาคม 2552 12:15:25 น. 14 comments
Counter : 6550 Pageviews.

 
ไผ่เนี่ยเก่งจัง วิเคราะห์ซะละเอียดเลย ลูกไก่ไม่เห็นจะรู้เรื่องพวกนี้เลย
รู้แต่เบื่อเมืองนี้มากเพราะว่าหนาวนาน อยากย้ายไปอยู่ฟรอริด้า แต่คงจะเป็นไปไม่ได้


โดย: lovelylk วันที่: 14 ตุลาคม 2552 เวลา:13:07:25 น.  

 
หวัดดีจ้า พอดีเมื่อกี๊พี่เข้าไปที่ blog ของอุ้ม ฝรั่งเศส เจอคอมเมนต์ไผ่เข้า ก็เลยแวะมาทักทาย

โลกออนไลน์เนี่ย แม้จะมีข้อเสียอยู่ไม่น้อย แต่ก็ทำให้เราได้พบเจอเพื่อน ๆ เก่า ๆ ที่ไม่ได้ติดต่อกันนานเนอะ

น้องไผ่สบายดีนะจ๊ะ ว่าง ๆ ไปทักทายกันได้ที่ memaviemeo.diaryclub.com นะจ๊ะ


โดย: พี่แมว arts 27 SU IP: 83.202.102.28 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:19:00:46 น.  

 

พี่ไผ่ครับผมชื่อ บอมนะครับพี่ ถ้าพี่ได้อ่านข้อความนี้แล้วขอให้พี่ช่วยให้คำปรึกษาผมหน่อยนะครับพี่ผมได้ อ่านเรื่องของพี่หมดทุกตอนแล้วผมชอบมากครับพี่ แต่ตอนนี้ผมตกอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับพี่ในตอนนั้นเลยครับ ตอนนี้ที่บ้านผมที่เมืองไทยถูกฟ้องร้องและถูกไล่ให้ออกจากบ้านที่เคยอยู่แล้วครับพี่ เพราะไม่ได้ผ่อนมา 2 ปีแล้ว
แต่บังเอิญว่าผมมีวีซ่าของ เมกาอยู่อีก 5 ปี ตอนนี้ผมอยู่ที่ LA แล้วครับผมกำลังมองหางานทำอยู่ก็คงจะไปทำตามร้านอาหารไทยละครับพี่ ผมเข้าใจพี่เลยครับว่าเวลานั้นพี่รู้สึกอย่างไร ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะผ่านช่วงเวลานี้ไปยังไงดีครับพี่ บางครั้งก็อยากจะไปจากโลกนี้จังเลยครับพี่ไผ่


โดย: บอม IP: 99.130.90.77 วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:6:11:34 น.  

 
ตอบน้องบอมนะคะ ขอโทษทีที่มาตอบช้าไปหน่อย จริงๆแล้วน้องบอมอยู่ที่นี่แล้ว มีโอกาสหางานทำก็ทำเลย ได้งานอะไรทำก็ทำไปก่อนอย่าเพิ่งเกี่ยง และก็ใช้เท่าที่จำเป็น เรื่องเที่ยวก็งดเอาไว้ ทำให้ทุกอย่างคลี่คลายลงไปก่อน แล้วค่อยคิดถึงตัวเอง พี่ว่าน้องบอมต้องทำได้ อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย สู้ๆนะ พี่ไผ่เอาใจช่วยคะ


โดย: Coucou Bamboo วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:2:18:13 น.  

 
สวัสดีค่ะ พอดี searh chicago แล้วก้อเลยได้รู้จัก...อ่าน blog คุณแล้วซึ้งจังเลย..อะ.. ถ้าได้วีซ๋าก้อว่าจะไปปีหน้านี้แหล่ะค่ะ รบกวนขอ add M ได้มั้ยคะ ..


โดย: แอน IP: 202.149.29.82 วันที่: 12 ตุลาคม 2553 เวลา:11:35:39 น.  

 
ส่งเป็นอีเมล์ดีกว่าเปล่าคะคุณแอน แล้วถ้ามีคำถามอะไร ถามได้เลยนะคะ ไผ่ยินดีตอบเสมอคะ


โดย: Coucou Bamboo วันที่: 14 ตุลาคม 2553 เวลา:0:42:53 น.  

 
คุณ Cou Cou Bamboo จัดการกะร่างกายเวลาเจออากาศหนาวยังไงค่ะ


โดย: เอิง IP: 113.53.163.124 วันที่: 6 กันยายน 2555 เวลา:16:09:36 น.  

 
ขอบคุณคุณไผ่มากค่ะ ได้ข้อมูลดีๆ เยอะเลย ไม่แน่ใจว่าคุณไผ่จะยังอยู่ที่ชิคาโก้หรือเปล่า พอดีอยากจะสอบถามว่า ถ้าจะเดินทางไปชิคาโก้ในเดือนเม.ย.ปีนี้ อากาศก็คงจะยังหนาวอยู่ เหมือนที่คุณไผ่บอกใช่หรือเปล่าคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ^^


โดย: มาหาความรู้ IP: 203.28.128.13 วันที่: 28 มกราคม 2556 เวลา:18:06:04 น.  

 
ขอโทษที่เข้ามาตอบช้านะคะ เดือนเมษาอากาศยังหนาวอยู่ แต่ก็น้อยลง น่าจะสักประมาณไม่ถึง 20 องศาเซลเซียสค่ะ ถ้าจะมาอย่าลืมติดเสื้อแจ็กเก๊ตมาด้วย


โดย: Coucou Bamboo วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:23:57 น.  

 
คุณไผ่. ขอบคุณที่ให้ข้อมูลค่ะ เพิ่งมาชิคาโกได้สามวันค่ะ มีอะไร รบกวนแนะนำด้วยค่ะ อีเมล์ bell.jidapha@gmail.com


โดย: Bella IP: 173.15.73.149 วันที่: 5 มีนาคม 2556 เวลา:23:59:30 น.  

 
เอ๋จะไปชิคาโก้ช่วง 20 กย - 2 ตค นี้ รบกวนแนะนำสภาพอากาศหน่อยค่ะว่าหนาวหรือยัง เตรียมแค่แจ็คเกตพอไม๊ หรือต้องใส่โค้ท(บาง)
ขอบคุณค่ะ


โดย: เอ๋ IP: 58.8.189.93 วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:22:40:55 น.  

 
ช่วงสปริงของชิคาโก้คือเดือนไหนหรอคะ?


โดย: Fang IP: 166.147.104.149 วันที่: 30 มกราคม 2557 เวลา:21:10:48 น.  

 
ช่วงสปริงคือช่วงกลางเดือนมีนาถึงมิถุนาค่ะ


โดย: Coucou Bamboo วันที่: 3 มีนาคม 2557 เวลา:1:17:30 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณไผ่

ตอนนี้ยังอยู่ ชิคาโก้ไหมคะ
อ่านยข้อมูลแล้วชอบมากๆคะ กำลังจะไปถ่ายทำรายการ
รบกวนขอ e-mail ติดต่อได้ไหมค่ะ
หรือติดต่อเรากลับมาได้ที่ arumas2014@gmail.com ค่ะ


โดย: Tidtee IP: 49.228.77.196 วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:17:06:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Coucou Bamboo
Location :
Chicago United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Welcome to my blog

พอดีได้มีโอกาสเข้ามาดู Bloggang ของคนหลายๆคน ก็เริ่มมีความรู้สึกว่าน่าสนใจ เลยสมัครเป็นสมาชิกของที่นี่อีกหนึ่งคน แม้ว่าจะเป็นคนเขียนไม่เก่ง ใช้ภาษาไม่ค่อยถูกต้อง แต่สิ่งที่ตั้งใจจะทำก็คืออยากจะเก็บข้อมูลส่วนตัวและเรื่องราวที่ได้พบเห็นมาเอาไว้ นอกจากนั้นบางอารมณ์ก็อยากเขียนความรู้สึกนึกคิดไว้เป็นบันทึกของตัวเองที่นี่ด้วย เพื่อจะได้เก็บไว้เป็นความทรงจำตลอดไป สำหรับใครก็ตามที่หลงเข้ามาในบล็อกนี้ ก็ขอกล่าวคำสวัสดี และขอให้ทุกท่านมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ และขอให้โชคดีนะค่ะ

BON COURAGE!.
New Comments
Friends' blogs
[Add Coucou Bamboo's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.