วันนี้ ( 29 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศสิงคโปร์ว่า นักศึกษาสาวชาวอินเดียวัย 23 ปี ผู้ตกเป็นเหยื่อถูกข่มขืนบนรถประจำทางกลางกรุงนิวเดลีเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เสียชีวิตแล้วในวันนี้ ขณะเข้ารับการรักษาที่สิงคโปร์ ด้วยภาวะอวัยวะภายในล้มเหลว
นายเควิน โลห์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมาต์ เอลิซาเบธ ของสิงคโปร์ แถลงว่า แม้คณะแพทย์จะพยายามยื้อชีวิตของผู้ป่วยอย่างสุดความสามารถ แต่อาการของเธอกลับทรุดลงเรื่อยมา จนกระทั่งเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเวลา 04.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 03.45 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) ท่ามกลางความโศกเศร้าอย่างหนักของสมาชิกในครอบครัวของเธอ และตัวแทนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของคณะรัฐบาลอินเดีย ที่เดินทางมาเฝ้าอาการ และอยู่เคียงข้างจนเธอสิ้นลมหายใจ
ทางการอินเดียส่งตัวนักศึกษาสาวมาเข้ารับการรักษาเป็นกรณีพิเศษเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ตามคำแนะนำของคณะแพทย์ในอินเดีย เนื่องจากอวัยวะภายในของเธอ รวมถึงสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
ด้านนายที.ซี.เอ. รากาวัน ข้าหลวงใหญ่อินเดียประจำสิงคโปร์ แถลงว่าอยู่ระหว่างประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการส่งศพเธอกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่อินเดียต่อไป
ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวีของอินเดีย รายงานข่าวการเสียชีวิตของเธอทันที โดยนำเสนอหัวข้อข่าวว่า “ขอให้ลูกสาวของชาวอินเดียจงไปสู่สุคติ” ขณะที่สถานีโทรทัศน์เดอะ ไทม์ส นาว รายงานว่า “สาวน้อยผู้กล้าหาญได้จากไปแล้ว” นอกจากนี้ยังรายงานด้วยว่า รัฐบาลนิวเดลีเริ่มเตรียมมาตรการรับมือกลุ่มผู้ประท้วง ที่มีแนวโน้มสูงว่าจะมารวมตัวกันอีกครั้ง หลังข่าวการเสียชีวิตของนักศึกษาสาวแพร่กระจายออกไป
คดีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. สร้างความสะเทือนขวัญให้แก่ชาวอินเดียทั้งประเทศ โดยเหยื่อสาวถูกชายฉกรรจ์ 6 คนรุมข่มขืนบนรถประจำทาง ก่อนจะทำร้ายร่างกายเธอ และแฟนหนุ่มจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วโยนทั้งสองคนออกนอกรถขณะที่รถกำลังแล่นอยู่
แม้เจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความโกรธแค้นอย่างรุนแรงให้แก่ชาวอินเดียจำนวนมาก ที่ต้องการให้มีการประหารชีวิตผู้ก่อเหตุทั้งหมด มากกว่าการจำคุกตลอดชีวิต ทั้งนี้ มีผู้ออกมาชุมนุมประท้วงจำนวนมาก ทำให้สถานการณ์บานปลายกลายเป็นการปะทะกับเจ้าหน้าที่นานหลายวัน ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายรวมแล้วหลายร้อยราย
..........