Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2559
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
7 สิงหาคม 2559
 
All Blogs
 

ทำไม?? พระโพธิสัตว์ต้องสร้างบารมี 10 ทัศ แบบเอาชีวิตเข้าแลก โดยพระนพดล สิริวํโส




ทำทาน 


บทสรุปบารมี 10 ทัศ

ทาน ทำให้ "น่ารักใคร่" หากผู้ใดไม่เป็นที่รัก ต้องหักใจให้ทาน บำเพ็ญสังคหวัตถุ ฝึกหัดแบ่งปัน กล่าวคำอ่อนหวาน ทำตนให้มีประโยชน์ เสมอต้นเสมอปลาย หมั่นพิจารณาความตายไว้เสมอว่าตายไปก็เอาสิ่งใดติดมือไปมิได้ ทบทวนโทษของความตระหนี่ จักได้ทานเป็นเครื่อง "เกื้อกูลน้ำใจ"

ศีล ทำให้ "น่าปลอดภัย" หากผู้ใดเป็นที่น่ากลัวสำหรับผู้อื่น ต้องสงบกาย วาจา หมั่นบำเพ็ญศีลให้มั่นคง พิจารณาโทษในนรก ทบทวนเนืองๆ จักได้ศีลเป็นเครื่อง "ข่มใจ"

เนกขัมมะ ทำให้ "น่าเย็นใจ" หากผู้ใดเป็นที่เร่าร้อนของผู้คน มีกามแผ่ซ่านไปจนผู้คนมิอยากชิดใกล้ ให้หมั่นสงบจิตใจ บำเพ็ญเนกขัมมะ หมั่นพิจารณาอสุภะ ความเน่าสยองและเน่าสลายของสิ่งต่างๆ อย่าได้เผลอ จักได้เนกขัมมะเป็นเครื่อง "ปลอดโปร่งใจ"

ปัญญา ทำให้ "น่าเลื่อมใส" หากผู้ใดสับสน เป็นที่คับข้องใจผู้คน ให้หมั่นพูดคุยซักถามความรู้ความจริง ไต่ถามผู้รู้ ทำภาวนาให้แจ้ง หมั่นพิจารณาโทษแห่งความหลงใหล ว่าทำให้ต้องหลงผิดมัวเมาสร้างวิบากกรรม เสียเวลาตามแก้ปัญหาไม่รู้จบ ก็จักได้ปัญญาเป็นเครื่อง "ส่องใจ"

วิริยะ ทำให้ "น่าพึ่งพา" หากผู้ใดถูกผู้อื่นหนีหน้า ต้องขยันปรับปรุงตนเอง กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา หมั่นพิจารณาโทษความเกียจคร้านว่าเป็นฆาตกรฆ่าตนอย่างไม่ปราณี แล้วจักได้วิริยะเป็นเครื่อง "ปลุกใจ"

ขันติ ทำให้ "น่าคบหา" หากผู้ใดเป็นที่ขยาดของชนทั้งหลาย เพราะความที่ตนโกรธง่ายดื้อดึง ขี้บ่น โอดครวญ มีมารยา เจ้าอารมณ์ควรพิจารณาโทษความอ่อนแอทางจิตใจของตนซ้ำๆจนสงบเสงี่ยมได้ จักได้ขันติเป็นเครื่อง "สะกดใจ"

สัจจะ ทำให้ "น่าไว้ใจ" หากผู้ใดเป็นผู้ที่ใครๆ มิอาจเชื่อถือทั้งคำพูดและการงานควรหมั่นใส่ใจเอาจริงจัง เห็นโทษของการดูเบา ทำเล่น โลเลคดไปมาว่า ผู้ไม่มีความรับผิดชอบย่อมรับภาระหน้าที่ใดจริงจังมิได้ ทำให้เอาดีไม่ได้ แต่เอาชั่วได้ง่าย ต้องไปอบายในที่สุด เมื่อตระหนักจดจ่อจริงจัง จักได้สัจจะเป็นเครื่อง "จริงใจจริงจัง"

อธิษฐาน ทำให้ "น่าเกิดแรงบันดาลใจ" หากผู้ใดเป็นที่เหนื่อยหน่ายท้อใจของผู้อื่น เพราะความที่ตนหวั่นไหวไปมา ทำการอันใดมิสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันควรหมั่นมีหลักในใจ มีอุดมการณ์ไม่เลื่อนลอย ไม่คล้อยตามกระแสเหมือนไม้หลักปักเลน พิจารณาโทษของความไม่ซื่อตรงต่อ เป้าหมายว่าทำให้เคว้งคว้างอันตรายต่อตนยิ่งนัก ตอกย้ำซ้ำเสมอ จักได้อธิษฐานเป็นเครื่อง "ประทับใจ"

เมตตา ทำให้ "น่าเข้าใกล้" หากผู้ใดเป็นที่แห้งแล้งของผู้อื่น ควรหมั่นแผ่เมตตาเนืองนิตย์ให้จิตชื่นบานกว้างขวาง มุ่งพิจารณาโทษของการแล้งน้ำใจว่าจะลดทอนการสร้างบารมี มิได้ใครพึ่งพายามต้องการ มีแต่ความผูกพยาบาทเป็นสหาย หมั่นเจริญซ้ำๆ จักได้เมตตาเป็นเครื่อง "เห็นใจ"

อุเบกขา ทำให้ "น่าสุขใจ" หากผู้ใดเป็นที่น่าร้อนรุ่มใจกลุ้มใจของผู้อื่น เพราะความที่ตนอารมณ์อ่อนไหวไปกับทุกสิ่งรอบตัว ให้ฝึกหัดตัดใจจากอารมณ์ต่างๆ จนคุ้นชินดุจคนขับถ่ายคูถมิหวนกลับไปอาลัยใยดี หมั่นพิจารณาโทษของความยินดียินร้าย อย่าให้เผลอทุกเวลา จักได้อุเบกขาเป็นเครื่อง "ตัดใจ"

ศีล ออกบวช (เนกขัมมะ)



ดังที่กล่าวแล้วว่าการสร้างบารมีต้องมีใจรักขึ้นมาก่อนจนเป็นอัธยาศัย ดังที่มีมาในปรมัตถทีปนีอรรถกถาขุททกนิกาย จริยาปิฎกดังนี้..
"เพราะมีอัธยาศัยในทาน พระโพธิสัตว์ทั้งหลายจึงเป็นผู้เห็นโทษในความตระหนี่ ย่อมบำเพ็ญทานบารมีให้บริบูรณ์


เพราะเป็นผู้มีอัธยาศัยในศีล จึงเป็นผู้เห็นโทษในความทุศีล บำเพ็ญศีลบารมีให้บริบูรณ์

เพราะมีอัธยาศัยในเนกขัมมะ จึงเห็นโทษในกามและการครองเรือน

เพราะมีอัธยาศัยในการรู้ตามความเป็นจริง จึงเห็นโทษในความไม่รู้ และความสงสัย

เพราะมีอัธยาศัยในความเพียร ..จึงเห็นโทษในความเกียจคร้าน

เพราะมีอัธยาศัยในความอดทน จึงเห็นโทษในความไม่อดทน

เพราะมีอัธยาศัยในสัจจะ จึงเห็นโทษในการพูดผิด

เพราะมีอัธยาศัยในความตั้งใจมั่น จึงเห็นโทษในความไม่ตั้งใจมั่น

เพราะมีอัธยาศัยเมตตา จึงเห็นโทษในพยาบาท

เพราะมีอัธยาศัยในความวางเฉยจึงเห็นโทษในโลกธรรม จึงบำเพ็ญบารมีทั้งหลายให้บริบูรณ์

โดยชอบความเป็นผู้มีอัธยาศัยเหล่านี้เป็นปัจจัยแห่งบารมีเพราะเป็นเหตุให้สำเร็จ"



***การสร้างบารมี 10 เป็นการสร้างนิสัยดีที่สอดคล้องกันไปจนใจสูงขึ้นเรื่อย ๆ

***เมื่อเริ่มให้ทานใจก็เริ่มเปิดกว้าง ปิดความเห็นแก่ตัว เริ่มคิดแบ่งปัน เมื่อให้ทานเรื่อย ๆ จะคุ้นกับการช่วยเหลือผู้อื่นเรื่อย ๆ จนไม่ประสงค์จะเบียดเบียนใคร

***เมื่อควบคุมกายและวาจาได้เรื่อย ๆ จะขยับขึ้นสู่การควบคุมใจคือประพฤติพรหมจรรย์ได้ดี เมื่อสะสมเนกขัมมะเรื่อย ๆ จะเกิดความสงบพบปัญญาดี เมื่อมีปัญญาดีเรื่อย ๆ จะคิดได้ในสิ่งประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ จนรักการฝึกตัว เมื่อฝึกตัวพัฒนาตนอยู่เรื่อย ๆ จะยินยอมอดทนสิ่งต่าง ๆ แต่โดยดี เมื่ออดกลั้นอยู่เรื่อย ๆ จะเป็นผู้มีกำลังทำดีได้ต่อเนื่องคงที่ ซื่อตรงจริงจัง ไม่โลเลเลิกล้ม เมื่อมีสัจจะเรื่อย ๆ จิตใจจะตั้งมั่นได้ดีความดีที่สร้างไว้ก็มากพอที่จะนำมาตั้งเป็นผังสำเร็จได้ดี เมื่อตั้งมั่นในอธิษฐานเรื่อย ๆ จะได้ที่พึ่งสำหรับตนและคนอื่น ความเมตตาบังเกิดได้ดี เมื่อมีเมตตาเรื่อย ๆ จะมองภาพยิ่งใหญ่ไม่ไปติดในจุดเล็ก ๆ ระหว่างทาง โดยวางใจเป็นกลางได้ดี เมื่อมีใจเป็นกลางเรื่อย ๆ ใจก็จะสงบหยุดนิ่งได้ดี เมื่อใจไม่ติดในคนสัตว์สิ่งของ และอารมณ์ต่าง ๆ อยู่เรื่อย ๆการให้ทานก็ยิ่งให้ได้ดียิ่งขึ้น ปราณีต อุกฤษฏ์ ยกระดับขึ้นเป็นอุปบารมี เมื่อแก่รอบขึ้นเรื่อย ๆ ก็สละได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงระดับปรมัตถบารมี ถึงศีลก็เช่นกัน ถึงเนกขัมมะก็เช่นกัน.. วาสนานิสัยในบารมี ต่าง ๆ ก็แก่รอบขึ้นเรื่อย ๆ จนใจไม่ติดพันโดยสิ้นเชิง เข้าสู่ศูนย์กลางกายเรื่อย ๆ อย่างเป็นปกติ

นั่งสมาธิ แผ่เมตตา อุเบกขา



สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ต้องทนทุกข์ก็เพราะบารมีทั้ง 10 เหล่านี้ยังไม่เต็มเปียมในขันธสันดานจึงต้องเวียนวนอยู่ในวัฏสงสาร พากันได้รับความทุกข์ทรมานก็เพราะบารมียังอ่อน ถ้าผู้ใดบารมีแก่กล้าผู้นั้นก็อยู่เย็นเป็นสุข หายทุกข์ หายโศก หายภัย ไม่มีอันตรายใด ๆ มารบกวน ย่ำยีบีฑาได้ เพราะถูกบารมีของผู้นั้นตัดทอนไป โลกมนุษย์จึงเป็นภูมิแห่งการมาสั่งสมบารมีเท่านั้น

         ผู้ที่ลงมาจากสวรรค์แต่เดิม อยู่สวรรค์ก็สุขสบายอยู่แล้ว ไม่ต้องแสวงหาอาหาร ไม่ต้องขับถ่าย ไม่ต้องเจ็บปวด อยากได้อะไรก็นึกเอาสมดังปรารถนา แต่ยอมลงมาลำบากอย่างสุดแสนก็เพื่อ "สร้างบารมี" มาบ่มนิสัยดี ๆให้ทบรอบ หนาแน่น มั่นในสันดาน แต่ก็มีชาวสวรรค์เป็นอันมาก พอลงมากลับใฝ่หาความสุขสบายทางวัตถุ ทรัพย์สิน ลาภสักการะ ซึ่งเป็นของที่ทรามกว่าทิพย์สมบัติของตน ที่สละมาอย่างเทียบเทียมกันมิได้ เช่นนี้ก็เสียทีที่ลงมาเกิด แล้วจะสละความสบายมาเพื่ออะไร

         ส่วนผู้ที่ขึ้นมาจากอบาย ใช่ว่าได้โอกาสมาสุขสบาย แต่ได้โอกาสมาแก้ตัว หากมัวหลงเพลิดเพลินความสนุกสบายจนบารมีไม่มีมากพอจะไปล้มล้างนิสัยฝ่ายดำที่สั่งสมมา ก็ต้องย้อนกลับไปดื่มด่ำกับความทุกข์ต่ออีกนับกัปไม่ถ้วน

         ดังนั้น ผู้ใดไม่ว่ามาจากสวรรค์หรือนรก แต่บัดนี้ได้ยืนอยู่บนโลกมนุษย์แล้ว เมื่อความลำบากมาอยู่ตรงหน้าแต่เพื่อแลกมาซึ่ง "พระบารมี" ก็จงเร็วรี่รีบคว้าไว้เถิด เพราะความตายได้กลืนกินชีวิตเข้าไปทุกทีแล้ว!

 ทำทาง



สำหรับการฝึกนิสัยทั้ง 10 นี้ ถ้าหากเอาเลือดเนื้อและชีวิตเข้าแลกก็จะเป็นอุปบารมีและปรมัตถบารมีตามลำดับ จะได้นิสัยที่แนบแน่นฝังในใจอย่างยอดเยี่ยม เมื่อนิสัยทั้ง 10 อยู่ตัวสุกงอมเต็มที่ หากปรารถนาก็จะได้บรรลุพระสัพพัญุตญาณ เป็นกายมหาบุรุษผู้นาถะของโลกตลอดไป

         ดังความดำริของท่านสุเมธดาบ ผู้ถมหนทางที่เสด็จมาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทีปังกรว่า..
"ก็ถ้าเราจะถมที่นี้ด้วยฤทธิ์ไซร้ ใจเราจะไม่ยินดีนัก เราควรรับใช้พระพุทธเจ้าด้วยกายของเรานี้แหละ ขณะเรานอนอยู่บนแผ่นดินก็คิดว่า วันนี้ถ้าเราปรารถนาพ้นจากทุกข์ก็จะเผากิเลสได้ แต่จะมีประโยชน์อะไรเล่าด้วยลูกผู้ชายที่มีรูปร่างแข็งแรงนี้ข้ามไปคนเดียว เราจะบรรลุพระสัพพัญุตญาณเป็นพระพุทธเจ้าให้ได้ เราจะพามนุษย์และเทวดาให้ข้ามฝังด้วยการกระทำอันยิ่งใหญ่ของเราเราเลือกเฟ้นจนได้เห็นทานบารมีเป็นทางใหญ่ข้อแรกที่ผู้แสวงหาคุณยิ่งใหญ่ประพฤติสืบมาแล้ว ท่านจงยึดทานบารมีเป็นข้อแรก จงให้ทานอย่าให้เหลือ ...

        จงอย่าเหลียวแลแม้ชีวิต รักษาศีลอย่างเดียว ..จงเห็นกามเป็นขื่อโซ่ตรวนดุจเรือนจำ ตั้งหน้ามุ่งออกบวชอย่างเดียว ..จงเข้าหาบัณฑิตแล้วถามปัญหาอย่าเว้นใครๆ ..จงยึดความเพียรให้มั่นในที่ทั้งปวง ..จงอดทนต่อความดูหมิ่นและนับถือของคนทั้งปวง ..จงอย่าพูดเท็จทั้งรู้ตัวแม้อั นีบาตจะฟาดบนกระหม่อม ..จงอย่าหวั่นไหวในความตั้งใจมั่นของตน ..จงเมตตาในคนที่เกื้อกูลและไม่เกื้อกูล ..จงมั่นคงในธรรมดุจตราชู เว้นความโกรธความยินดีในสุขทุกข์ทุกเมื่อ ..แล้วจะบรรลุพระสัมโพธิญาณ จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ เครื่องบ่มโพธิญาณมีเพียงเท่านี้ เว้นบารมี 10 ธรรมเหล่าอื่นไม่มี"

        จากเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นมา พอจะเห็นได้แล้วว่า การสร้างบารมีมิอาจรอให้บุญหล่นทับ หรือรอให้ผู้มีฤทธิ์มอบบุญเต็มเปียมให้ แต่ต้องทำตนให้สมบูรณ์พร้อมด้วยคุณธรรมถ้ารอการมอบบุญให้กันได้ การสร้างบารมีมิใช่เป็นเรื่องสบายอย่างยิ่งหรอกหรือ เช่นนี้นับว่าไม่มีนักสร้างบารมีท่านใดหลุดออกนอกเส้นทางแน่แท้ แต่แท้ที่จริง เราเห็นประจักษ์แล้วว่า เส้นทางสายนี้ มีนักสร้างบารมีหลุดออกไปอยู่เรื่อย ๆ ไม่ขาดสาย กระทั่งนักสร้างบารมีที่ดูเหมือนมิน่าจะหลุดออก.. หากคุณธรรมไม่พรักพร้อมสักวันใดวันหนึ่ง ชาติใดชาติหนึ่ง อาจต้องถึงคราว!      

มุทิตา ยินดีกับผู้ทำความดี



 "บทฝึกนิสัย" เป็นสมบัติล้ำค่า หารู้ได้ยากในโลก ผู้ใดได้รับมาไว้ในใจเท่ากับได้สมบัติประจำตัวดั่งได้แก้วสารพัดนึก หากนำมาฝึกฝนจนเชี่ยวชำชาญก็จะเป็นอริยทรัพย์ติดตัวไปทุกภพทุกชาติ นับว่าเป็นสมบัติอันประเสริฐเลิศสุดโดยแท้ นักสร้างบารมีจึงไม่ควรประมาท ปล่อยให้สมบัติเหล่านี้หลุดลอยไป หรือให้ฝุ่นจับอับหมองควรหมั่นนึกถึงความตายไว้ให้มั่น แล้วพินิจดูว่า เราเอาอริยสมบัติเหล่านี้ไปได้เพียงใดหลังจากตายแล้วที่พึ่งของนักสร้างบารมีก็คือ "บารมี" โดยเฉพาะนักสร้างบารมีระดับพิเศษที่ประสงค์จะให้ตนมีบารมีแก่กล้าขึ้นเรื่อย ๆ ไม่หยุดยั้ง โดยยังไม่คิดยุติการสร้างบารมีเช่นพระอริยเจ้าทั้งหลาย แต่เลือกวิถีหยั่งเท้าสู่แดนอริยะแล้วสะสมบารมีในภูมิปุถุชนเป็นโคตรภูบุคคลเพื่อผจญมาร แม้จะเข้าถึงธรรมในกาลใด หากยังมีนิสัยไม่ดีอยู่ ธรรมะที่รู้เห็นก็รอคอยการเลือนหายได้ทุกขณะจิต

         แต่หากนิสัยดีมีพร้อม แม้ธรรมะที่เลือนหายก็พร้อมกลับมาได้อย่างมั่นคงในทุกสถาน ดังนั้นพึงสร้างนิสัยดี ๆไว้เป็นบารมีที่พึ่งแห่งตนเถิด ที่จะหาความมั่นคงอื่นใดนอกจาประการนี้หามีไม่เลยวิสัยนักสร้างบารมีทั้งหลายย่อมสำคัญเพียงว่า จักพอกพูนบารมีสั่งสมเรื่อยไปจนกว่าจะสำเร็จให้ได้ แม้จะผิดพลาดไปในระหว่างก็ตาม แต่จะไม่ละเลิกสร้างบารมีอย่างเด็ดขาดบารมีทั้ง 10 ปรากฏขึ้นแล้ว ท่านทั้งหลายจงมาในที่นี้โดยเร็วพลัน แล้วพากันถือเอาอาวุธ เพื่อต่อยุทธ์กับพญามารเถิด
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เรียบเรียงโดย พระนพดล สิริวํโส

ที่มา: https://www.facebook.com/nop072/posts/688000258076256
ขอบคุณภาพและบทความ //www.winnews.tv/news/6030




 

Create Date : 07 สิงหาคม 2559
0 comments
Last Update : 7 สิงหาคม 2559 1:06:38 น.
Counter : 1616 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.