Bloggang.com : Rain_sk : ▶▶ เข้าครัวกับหมึกแดง : บะหมี่น้ำเนื้ออบ..

▶▶ เข้าครัวกับหมึกแดง : บะหมี่น้ำเนื้ออบ..

▷▷▷เข้าครัวกับหมึกแดง : บะหมี่น้ำเนื้ออบ

เครื่องปรุงบะหมี่น้ำเนื้ออบ

- เนื้อสันนอกหั่นเป็นชิ้น 500 กรัม

- เครื่องปรุงเนื้ออบ 1 ถ้วยตวง

- น้ำมันถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ

- กระเทียมเจียว 1 ช้อนชา

- น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

- ผงปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับ 1 ซอง

- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลวกแล้ว 100 กรัม

- ผักฉ่อยลวกแล้ว พอประมาณ

- ไข่เป็ดต้มผ่าครึ่ง 1 ฟอง

- ต้นหอมซอย สำหรับโรยหน้า

- ผักชีซอย สำหรับโรยหน้า

- พริกไทยขาวป่น สำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

1. ในชามผสม นำเนื้อหมักกับเครื่องปรุงเนื้ออบ 1/2 ถ้วยตวง ผสมให้เข้ากัน พักไว้ 15 นาที

2. เปิดเตาอบให้ร้อน ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส

3. นำกระทะใส่น้ำมันถั่วเหลือง ตั้งไฟให้พอร้อน นำเนื้อที่หมักไว้ลงไปนาบให้สุกทั้งสองข้าง ตักขึ้นพักไว้

4. นำชามผสมสำหรับเข้าไมโครเวฟ (ที่มีฝาปิด) ใส่กระเทียมเจียว น้ำเปล่าลงไป และเครื่องปรุงเนื้ออบ 1/2 ถ้วยตวงที่เหลือจากหมักเนื้อ ผงปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับ ผสมให้เข้ากันแล้วนำเข้าไมโครเวฟ ประมาณ 3 นาทีหรือจนน้ำเดือด ส่วนนี้เตรียมไว้เป็นน้ำซุป

5. ในจานเสิร์ฟ วางบะหมี่ที่ลวกแล้วลงไปในชาม ตามด้วยผักฉ่อยที่ลวกแล้ว นำน้ำซุปราดลงไปบนผัก นำเนื้อที่อบแล้วเรียงไปบนบะหมี่ ตามด้วยไข่ต้มผ่าครึ่ง โรยหน้าด้วย ต้นหอม ผักชี และพริกไทยขาวป่น ยกเสิร์ฟร้อน ๆ

ชิมให้เป็น : เครื่องแกงฮังเลผัดหมูกรอบ

ลักษณะที่แท้จริงของแกงฮังเลก็คือ จะต้องเอาหมูสามชั้นไปตุ๋นกับเครื่องแกงฮังเลเสียก่อน แต่ที่ร้านนี้เขาเอาไปปรับเปลี่ยนเป็นให้ชิ้นหมูที่เป็นหมูกรอบมีคาแรกเตอร์คือ มีความกรอบ แล้วเอาหมูกรอบลงไปผัดรวนกับเครื่องแกงฮังเล ลักษณะเฉพาะก็คือ คล้าย ๆ อาหารที่เราเอามาประยุกต์แต่ยังคงความเป็นอาหารเหนืออยู่ คือแทนที่หมูจะนุ่มแล้วก็เละ หมูกลายเป็นกรอบแล้วก็อร่อย

ส่วนเครื่องแกงฮังเลนั้นก็ไม่ได้เลี่ยนอะไรมากนัก เพราะมีความเปรี้ยว ความหวาน ใส่ขิงเยอะ ๆ รสชาติกลมกล่อม ทำให้ความเลี่ยนของหมูกรอบที่เราเอาลงไปรวนนั้นลดน้อยลง แต่มีความอร่อยมากขึ้นเป็นกองเลยครับ ต้องลองดูนะครับ เพราะนี่เป็นการผสมผสานในการรับประทานหนึ่งคำ ที่มีทั้งความเปรี้ยว ความหวาน ความกรอบ ความมัน ความเลี่ยน กลมกล่อมกันดีมากเลยครับ

ต้องไปลองชิมกันให้ได้เลยนะครับ เพราะว่าผมจะเอาไปทำบ้าง การทำอาหารแบบประยุกต์อย่างนี้แสดงว่าคนทำต้องมีความรู้ในวัตถุดิบที่ใช้ จึงสามารถเอามาทำแบบผสมผสานได้ โดยที่คุณค่าของอาหารจานนั้นไม่ลดลงไป ยังคงความอร่อยไว้ได้เหมือนเดิม.

รสชาติเข้มข้น “ขนมจีนน้ำเงี้ยว แคบหมู” อร่อยเคียงคู่มักกะโรนีผัดขี้เมา

เมือปลายปีที่ผ่านมา ผมไปฉลองปีใหม่ที่จังหวัดเชียงใหม่มาครับ แต่ก่อนที่จะถึงงานฉลอง เราได้ไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกันเช่นเคยครับ น้องของผมได้พาผมไปที่บ้านเพื่อนของเขา ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อว่า บ้านสารภี คอฟฟี่ แอนด์ ควิซีน เป็นบ้านเล็ก ๆ อยู่ในซอยหลังที่ว่าการอำเภอสารภี

ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่ไม่ใหญ่นัก แต่บรรยากาศดีมาก เพราะอยู่ใต้ร่มไม้ตรงเฉลียงของบ้าน โดยตรงตัวร้านอาหารจะมีที่นั่งรอบ ๆ ใต้ต้นไม้ อาหารของเขาผมนึกว่าจะเป็นอาหารพื้นเมืองอย่างเดียว ที่ไหนได้เป็นอาหารพื้นเมืองที่ผสมกับอาหารพื้นเมืองแบบใหม่ ก็เลยต้องชิมกันหน่อย จึงอยากจะเขียนเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า ที่นี่อาหารอร่อยและบรรยากาศน่าไปนั่งแค่ไหน โดยเฉพาะหน้าหนาว ส่วนหน้าร้อนก็ไม่น่าจะร้อนมากนัก แต่ที่นี่ไม่มีแอร์นะครับ ที่นั่งกินอาหารเป็นธรรมชาติจริง ๆ

สำหรับอาหารที่ผมกินแล้วรู้สึกชอบเพราะอร่อยมาก ก็คือ ขนมจีนน้ำเงี้ยว ที่คุณแม่เขาทำเอง ผมเลยสั่งมากินดูครับ พอมาเสิร์ฟเขาจัดขนมจีนน้ำเงี้ยวเป็นสำรับ ก็คือเป็นชุดมาเลย มีขนมจีน น้ำเงี้ยวพร้อมเครื่องเคียง ยังมี แคบหมู มาให้กินหลากหลายชนิดอีกด้วยนะครับ

ที่นี่เขาทำแบบผู้ดีมากเลยครับ แต่ผมชอบกินแบบคนธรรมดา ๆ ใส่ถ้วยมาเลย พร้อมเครื่องเคียง แต่กินแบบนี้ก็แปลกดีนะครับ ส่วนรสชาติของเขาได้ที่เลย ทั้งเข้มข้น ทั้งอร่อย ความเปรี้ยวที่เราได้จากผักดองที่เป็นเครื่องเคียงก็ไม่เปรี้ยวจนเกินไปนักมีเลือดหมู ซี่โครงหมู น้ำซอสก็อร่อยครับ ไม่เค็มเกินไปและไม่มีความหวานมากนัก ตรงนี้ผมชอบมาก เพราะโดยมากแล้วเขามักจะทำกันไม่เป็น รสชาติออกหวานมากเกินไปครับ

หลังจากนั้น ผมถามว่ามีอะไรอย่างอื่นกินอีกบ้าง เขาเลยเอาสปาเกตตีผัดสุกี้แห้ง มาให้เรากิน รสชาติอร่อยใช้ได้พอสมควรครับ แต่ผมต้องตินิดหนึ่งว่า ผัดแฉะไปหน่อย การผัดสปาเกตตีจะต้องผัดโดยใช้ไฟแรง ๆ แล้วเติมน้ำซอสสุกี้ปรุงเครื่องทุกสิ่งทุกอย่างอย่างรวดเร็วจะได้ไม่แฉะเกินไปนักนะครับ

จานต่อมาเป็น สปาเกตตีผัดเขียวหวาน ก็ทราบดีกันอยู่แล้วนะครับว่า ที่เชียงใหม่ เขาจะทำอาหารอะไรต่าง ๆ ไม่เผ็ดเหมือนที่กรุงเทพฯ แต่เขียวหวานจานนี้อร่อยกลมกล่อมทีเดียวครับ

ยังมี มะกะโรนีผัดขี้เมาหมู ซึ่งผมชอบเมนูนี้ อร่อยดีครับ ผัดได้ถึงเครื่องขี้เมา รสชาติจัดจ้านดีครับ ตามมาด้วย กะหล่ำปลีผัดวุ้นเส้นหมูสับ จานนี้ผมต้องขอยอมรับนะครับว่า ผมเป็นคนชอบกินอะไรง่าย ๆ แล้วไม่แปลกเลยที่ผมจะสั่งอาหารจานนี้มากิน เพราะบางคนเห็นผมสั่งแล้วอาจจะเรียกว่าอาหารสิ้นคิด แต่สำหรับผมรสชาติของอาหารจานนี้ ที่ร้านนี้ทำได้อร่อยมากครับ แม้ว่าจะแฉะไปก็ตาม แต่รสชาติถือว่าใช้ได้ครับ

ส่วนอาหารที่เขานำเสนอให้ผมลองกินอีกจานหนึ่งก็คือ เครื่องแกงฮังเลผัดหมูกรอบ ตอนแรกผมคิดว่าคงจะไม่อร่อยแน่ เพราะว่าแกงฮังเลที่ดีจะต้องใช้หมูสามชั้นทำ แล้วตุ๋นนาน ๆ จะได้เข้าเนื้อ ที่ไหนได้เขาให้พนักงานที่ร้านขี่จักรยานไปซื้อเครื่องแกงฮังเลที่ตลาดเอามาผัด แล้วเอาหมูสามชั้นกรอบที่มีอยู่ที่ร้านหั่นเป็นชิ้นหนาลงรวนกับเครื่องแกง

ปรากฏว่าอร่อยมากครับ เพราะตัวเนื้อหมูที่กรอบยังไม่หายกรอบเท่าไหร่นัก แล้วตัวเครื่องแกงฮังเลก็เหมือนกับซอสที่ราดเข้าไป อย่างกับกินสเต๊กหมูสามชั้นกับซอสแกงฮังเลเลยครับ อร่อยจริง ๆ เลยครับ ผมว่าอาหารจานนี้เหมาะสำหรับกินกับข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนด้วยมือ แล้วกินกับชิ้นของหมูกรอบและเครื่องแกงฮังเลจะอร่อยมากเลย

บ้านนี้คุณแม่กับคุณลูกเขาจะเป็นคนทำกับข้าวให้เรากิน เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะไปลองลิ้มรสชาติ ก็ไปได้เลยนะครับ แต่ว่าบางครั้งเขาก็เปิดร้าน บางครั้งก็ไม่เปิด แต่เขามีเว็บไซต์ให้ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ ถ้าไม่แน่ใจลองโทรฯ ไปถามก่อนก็ดีนะครับว่าวันที่จะไปกินเขาเปิดร้านหรือไม่ จะได้ไม่ไปเสียเที่ยว ผมได้เก็บข้อมูลมาให้เพื่อน ๆ แล้วจะได้ลองไปชิมกันดู จะได้รู้ว่าบ้านนี้เขาทำอาหารอร่อยแค่ไหนครับ.

หมึกแดง
//www.mcdangguide.com

credit : //www.dailynews.co.th/article/224/14040

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2555

Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2555 9:25:36 น. 0 comments

Counter : 1847 Pageviews.

Share
Tweet