Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ธรรมะ
เจ้าที่
จิตใจ
จิปาถะ
วรรณกรรม
แขกบ้าน
หนังสือ
ความรู้ทั่วไป
ประวัติศาสตร์
การเรียน A
การเรียนA2
การเรียน A3
งานเขียน
ต้นไม้
สัตว์เลียง
ททท1
ททท2
กวี
การเมือง
แวดวงสมาชิก
เพลง
ร้านอาหาร
ร้านอาหาร
อาหารการกิน
อาหารการกิน
สูตรอาหาร
สูตรอาหาร
ข่าวเด่น
ข่าวเด่น
ความรัก
แฟชั่น
ครอบครัว
ซีรีย์ที่ชอบ
สุขภาพ
สุขภาพ
ลดน้ำหนัก
ดนตรี
การจัดดอกไม้
ดวงดีมีบุญ
งานอดิเรก
งานฝีมือ
ภาพถ่าย
การ์ตูน
การ์ตูน
ศิลปะ
ศิลปะ
เอื้องไม้
วิทยาศาสตร์
สังคม
ข่าวทั่วไป
ชวนดูนก
ยานยนต์
ไอที2018
Top News
ครอบครัว
กฏหมายน่ารู้
เทนนิส 2020
อเมริกาฟุตบอล
Diary
ชินจัง
วัชพืช
มีตะพาบ
Science2023
Game
<<
มกราคม 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
21 มกราคม 2555
โขน มรดกของชาติที่ต้องไม่ตาย
All Blogs
❃ภาพอันเป็นมงคลยิ่ง ในงานทำบุญ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับ ของคหบดีท่านหนึ่ง ในปี ๒๔๙๘
รักใครให้ส่งไป
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสาม วันนี้ วันพระ วันมาฆบูชา
เข้าสู่ร่มผ้าเหลือง ′โอ วรุฒ′ อุปสมบทเรียบง่าย วัดดอยแก้ว จ.เชียงใหม่
คิดม่ะ? สื่อนอกชี้ไร้จิตสำนักภาพขวดเบียร์-ขยะเกลื่อนหาดพะงัน หลังจบฟูลมูนปาร์ตี้
ชม พิธีถวายมหาสังฆทาน และถวายภัตตาหาร แด่พระภิกษุสามเณร 3,500 กว่ารูป
▶ทำบุญตักบาตรพระ12,600รูปฉลองพุทธยันตี
▶ ศาลหลักเมือง กทม....ละครรำแก้บน ▶นบพระเล่นเพลง ▶โดย กรวี
▷▶▷ เปิดประวัติ 'โบสถ์มหาอุตม์' อายุกว่า 300 ปี ....
▷..เชียงใหม่ค้นพบกำแพงหินโบราณอายุกว่าหมื่นปี..◁
▷▷..พระพุทธชินราช.. ◁◁
เจดีย์ทรงพระปรางค์ ..
เจดีย์เหลี่ยม ..
ห่วงพิธีทำขวัญแม่โพสพ
โขน มรดกของชาติที่ต้องไม่ตาย
พระแสงดาบฝักทองเกลี้ยง
รู้โลกไม่สู้รู้ตน : มงคลแห่งชีวิต...ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน
สมโภชวัดบวรนิเวศฯครบ 175 ปีวาระสิริมงคลครั้งใหญ่
อึ้ง! หลวงพ่อโตร้องไห้เป็นลางบอกเหตุ
เผชิญวิกฤตแห่งปัญญาด้วยหัวใจที่มีธรรม ธรรมะเนื่องในวารดิถีขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๕๕ (ตอน 1-3)
พระสุตตันตปิฎก
2 บทสวดเพื่อสุขสวัสดี 'มนต์พระปริตร'โพชฌังค-อังคุลิมาล
วิถีแห่งนิมิต (10) -อสุภกรรมฐาน (11)..เสถียร จันทิมาธร
เจดีย์ทรงเหลี่ยมย่อมุมใหญ่ หรือเจดีย์ยอดแหลมทรงจอมแห
วิถีแห่งการปฏิบัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ม้า ดาบ และรองเท้า (7 - 9)
ที่สุดแห่งอุคคหนิมิต (5)...ประวัติ บอกเล่า (6)...เสถียร จันทิมาธร
พิจารณา สุบินนิมิต (3)อุคคหนิมิต (4)วิถีแห่งการปฎิบัติ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
สุบินนิมิต วัดเลียบ (2)"ความฝัน" ของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
141 ปี อาจารย์มั่น (1)วิถีแห่งการปฎิบัติ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เสถียร จันทิมาธร
อังคุลิมาลปริตร''สัตยาธิษฐานเพื่อให้หญิงคนหนึ่งคลอดลูกง่าย
หลวงปู่คำ วัดห้วยโป่ง ร่มธรรมชาวสะเอียบ
เสกน้ำพระพุทธมนต์ถวายพ่อหลวง(ภาพชุด)
ปฏิทินธรรมคำกลอน พุทธทาส 2555
อัตโนประวัติ พ่อท่านพรหม ธัมมธโร วัดพลานุภาพ ปัตตานี การอยู่ในพื้นที่อันตราย
"กอฟ-อัครา"ฝึกธรรม รู้จักโลกคือรู้จักตัวเราเอง
โขน มรดกของชาติที่ต้องไม่ตาย
หากใครได้มีโอกาสชมการแสดง โขนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา
เชื่อว่าคงจะยังรู้สึกชื่นชมกับความงดงามและภาคภูมิใจในศิลปะชั้นสูงของไทย รวมทั้งได้เห็นถึงการรวบรวมองค์ความรู้ด้านโขนที่ยังคงมีการสืบทอดกันอยู่ ที่มีสถาบันการศึกษาเฉพาะด้าน อย่างสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานบ่มเพาะบุคลากรโขนที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ โดยเฉพาะในงานสำคัญของประเทศ อย่างโขนเฉลิมพระเกียรติ ชุด เฉลิมพระบารมี เนื่องในงานสโมสรสันนิบาต ทำเนียบรัฐบาล เป็นต้น รัฐบาลก็มอบหมายให้สถาบันแห่งนี้เป็นผู้ดำเนินการ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเห็นความสำคัญของเหล่าเด็ก และเยาวชนคนโขนเหล่านี้ ได้มีโอกาสทำงานรับใช้บ้านเมือง
เกริ่นมาพอสมควรย้อนกลับมาศึกษาประวัติของโขนกันดีว่า ว่ามีความเป็นมากันอย่างไร โขน มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากหลักฐาน จดหมายเหตุ ลาลูแบร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กล่าวถึงการแสดงโขนว่า เป็นการเต้นออกท่าทาง ประกอบกับเสียงซอและเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ ผู้แสดงจะสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าตนเองและถืออาวุธ โขนเป็นจุดศูนย์รวมของศาสตร์และศิลป์หลากหลายแขนง เช่น วรรณกรรม วรรณศิลป์ นาฏศิลป์ คีตศิลป์ หัตถศิลป์ในการแสดงโขน ลักษณะสำคัญอยู่ที่ผู้แสดงต้องสวมหัวโขน ซึ่งเป็นเครื่องสวมครอบหุ้มตั้งแต่ศีรษะถึงคอ เจาะรูสองรูบริเวณดวงตาให้สามารถมองเห็น แสดงอารมณ์ผ่านทางการร่ายรำ สร้างตามลักษณะของตัวละครนั้น ๆ เช่น ตัวยักษ์ ตัวลิง ตัวเทวดา ฯลฯ ตกแต่งด้วยสี ลงรักปิดทอง ประดับกระจก บ้างก็เรียกว่าหน้าโขน
สำหรับความรุ่งเรืองของโขน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เจ้านายชั้นสูง ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ เสนาอำมาตย์ เข้ารับการฝึกหัดโขนเพื่อเป็นการประดับเกียรติยศแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล และทรงโปรดฯให้หัดไว้เฉพาะแต่เพียงผู้ชายตามประเพณีดั้งเดิม ทำให้ผู้ที่ฝึกหัดโขน มีความคล่องแคล่วว่องไว สามารถใช้อาวุธต่าง ๆ ในการต่อสู้ได้อย่างชำนาญ รวมทั้งทรงโปรดให้มีการแต่งบทละครสำหรับแสดงโขนขึ้นอีกด้วย ทำให้เจ้านายชั้นสูง ขุนนางชั้นผู้ใหญ่จำนวนมากต่างหัดโขนไว้ในคณะของตนเองหลากหลายคณะ
ต่อมาในสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ครั้งเสด็จดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ประทับ ณ พระราชวังสราญรมย์ ได้ทรงโปรดให้มีการฝึกหัดโขนขึ้นตามแบบโบราณ โดยมีชื่อคณะว่า โขนสมัครเล่น ทรงให้การสนับสนุนในการแสดงโขนมาโดยตลอด เคยนำออกแสดงในงานสำคัญ ๆ หลายครั้งเช่น งานเปิดโรงเรียนนายร้อย (ทหารบก) ชั้นมัธยม เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ร.ศ. 128 พ.ศ.2453 และได้มีพระราชดำรัสในสูจิบัตรจัดงานไว้ความว่า
โขนโรงนี้ เรียกนามว่า โขนสมัครเล่น เพราะผู้เล่นเล่นโดยความสมัครใจเอง ไม่ใช่ถูกกะเกณฑ์หรือเห็นแก่สินจ้าง มีความประสงค์แต่จะให้ผู้ที่คุ้นเคยชอบพอกันและที่เป็นคนชั้นเดียวกัน มีความรื่นเริงและเพื่อจะได้ไม่ลืมว่า ศิลปะวิทยาการเล่นเต้นรำ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นของฝรั่งจึงจะดูได้ ของโบราณของไทยเรามีอยู่ ไม่ควรจะให้เสื่อมสูญไปเสีย โขนโรงนี้ได้เคยเล่นแต่ที่พระราชวังสราญรมย์เป็นพื้น แต่ครั้งนี้เห็นว่าผู้ที่เป็นนักเรียนนายร้อย ก็เป็นคนชั้นเดียวกัน และเป็นที่หวังอยู่ว่าจะเป็นกำลังของชาติเราต่อไป พวกโขนจึงมีความเต็มใจมาช่วยงาน เพื่อให้เป็นการครึกครื้น ถ้าแม้ว่าผู้ที่ดูรู้สึกว่าสนุกและแลเห็นอยู่ว่า การเล่นอย่างไทยแท้ก็ยังเป็นสิ่งที่ควรดูอยู่แล้ว ผู้ที่ออกน้ำพักน้ำแรงเล่นให้ดูก็จะรู้สึกว่าได้รับความพอใจยิ่งกว่าได้ สินจ้างอย่างใด ๆ ทั้งสิ้น
จะเห็นได้ว่า โขน มีการสืบทอดและอนุรักษ์ให้คงอยู่ถึงจะผ่านร้อนผ่านหนาว มรสุมมามากมาย จนทุกวันนี้อาจจะกล่าวได้ว่า ในประเทศของเรานี้ มีสถาบันการศึกษาที่สอนเฉพาะด้านนาฏศิลป์เหลืออยู่ไม่มากนัก ซึ่งสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ก็ถือได้ว่า เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ทำหน้าที่นี้อยู่ ในการสืบทอดโขนของชาติ โดย นายกมล สุวุฒโท อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ บอกว่า สถาบันมีวิทยาลัยนาฏศิลป์ที่อยู่ในสังกัดทั่วประเทศจำนวน 12 แห่ง สืบทอดการแสดงโขนมานานมากกว่า 30 40 ปี ถือเป็นสถาบันการศึกษาเดียวที่มีการฝึกสอนการแสดงโขน ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมไปจนถึงระดับชั้นปริญญาตรี ซึ่งเป็นการฝึกรากฐานของโขนทุกชนิด ไม่ว่า จะเป็นพระ นางยักษ์ ลิง โขนที่ฝึกมาตั้งแต่เด็กมีการพัฒนาไปจนมีความชำนาญ โขนยังมีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ ดนตรีไทย เพื่อให้เข้ากับการแสดง รวมถึงการใช้คีตศิลป์ คือ การร้อง และการพากย์ ซึ่งสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ มีการจัดการเรียนการสอนทั้งหมด ซึ่งในปัจจุบันเรามีครูฝึกสอนโขนที่มีความเชี่ยวชาญ สถาบันจึงต้องเตรียมรวบรวมผู้ที่มีองค์ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ให้มากที่สุด รวมถึงการหาผู้เชี่ยวชาญในการกำหนดตอน เนื้อเรื่อง เพื่อให้มีชุดการแสดงที่มีความหลากหลายมากขึ้นด้วย
ขณะที่ น.ส.กมลทิพย์ สารดี หรือ น้องแนน นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะศิลปะนาฏดุริยางค์ เอกนาฏศิลป์ไทย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สวมบทนางสีดา ในงานแสดงโขน ชุด เฉลิมพระบารมี ต่อหน้าพระพักตร์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เล่าว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งต่อตนเอง ครอบครัว และสถาบันการศึกษา ที่ได้แสดงโขนต่อหน้าพระพักตร์ และถือเป็นความปรารถนาตั้งใจที่ได้มีโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ทำความดี ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในความสามารถที่เราถนัด จึงฝึกซ้อมการแสดงด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจอย่างเต็มที่ ทั้งทีมคณาจารย์ และเพื่อน ๆ จาก คณะศิลปะนาฏดุริยางค์ และ คณะศิลปศึกษา ร่วม 200 คน
การแสดงครั้งนี้มีความวิจิตรตระการตาของขบวนเสด็จของพระรามและความ ไพเราะ ความงดงาม ของบทถวายพระพรของเหล่าเทพบุตรนางฟ้า เป็นการผสมผสานระหว่าง วงปี่พาทย์และวงดนตรีสากล แต่ยังคงรักษาจารีตแบบแผนไว้อย่างมั่นคง สำหรับอนาคต ได้ตั้งความหวังว่าอยากที่จะเป็นครูสอนนาฏศิลป์ หรือ ทำในสิ่งที่สามารถสืบทอดการแสดง ประเพณี และวัฒนธรรมไทยเอาไว้ หรืออีกความฝันก็คือ อยากมีโอกาสได้เดินทางไปเผยแพร่วัฒนธรรมยังต่างประเทศให้เป็นที่ประจักษ์ต่อ สายตาชาวโลก
โขน สำหรับคนไทยอาจจะหาดูไม่ง่ายนักในยุคนี้ นอกจากงานมหามงคล หรืองานสำคัญของประเทศ แต่อยากให้รู้ว่า สถาบันการศึกษาที่สอนด้านโขนยังมีอยู่ และรัฐบาลควรเอาใจใส่ เพราะเอกลักษณ์สำคัญของชาติเช่นนี้ กว่าจะฝึกได้คนหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก.
credit :
admin
Create Date : 21 มกราคม 2555
Last Update : 21 มกราคม 2555 19:10:38 น.
0 comments
Counter : 2757 Pageviews.
Share
Tweet
Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [
?
]
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557