"ทำไมคนสวยจึงโหด คนไทยอ่านข่าวเสพความรุนแรง เปิดบทวิเคราะห์ เปรี้ยวหั่นศพ

 เปิดบทวิเคราะห์ เปรี้ยวหั่นศพ อะไรที่หล่อหลอมให้เธอโหดอำมหิต !?
เปิดบทวิเคราะห์ ปมสวยหั่นศพ อะไรที่หล่อหลอมให้ เปรี้ยว โหดเหี้ยม...ซ้ำร้าย สังคมมาถึงจุดที่มีคนแบบเปรี้ยว 2 เต็มโซเชียล เพียงแค่ยังไม่ได้เผลอไปฆ่าใคร

บทวิเคราะห์นี้ วิเคระห์ได้น่าสนใจมาก เกี่ยวกับสาวสวยฆาตรกรรมเพื่อนสาวตนเองอย่างโหดเหี้ยมและเลือดเย็น ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว่างขวางในสังคมว่า เธอหน้าตาสะสวยขนาดนั้นทำไมถึงได้โหดเหี้ยมได้เช่นนี้  มาฟังบทวิเคราะห์จากบทความนี้กันว่า...

    เปิดบทวิเคราะห์ ปมสวยหั่นศพ อะไรที่หล่อหลอมให้ เปรี้ยว โหดเหี้ยม...ซ้ำร้าย สังคมมาถึงจุดที่มีคนแบบเปรี้ยว 2 เต็มโซเชียล เพียงแค่ยังไม่ได้เผลอไปฆ่าใคร 



จากกรณีที่ นางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว พร้อมพวก ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ นางสาววริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม เรียกได้ว่ายังคงเป็นเรื่องราวที่ประชาชนต่างให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นการสังหารที่โหดเหี้ยม เลือดเย็น ไร้ความปรานี แต่สิ่งที่เป็นคำถามคาใจของใครหลายคนคือ เหตุใดผู้หญิงที่มีหน้าตาสวยถึงได้มีจิตใจที่อำมหิตถึงเพียงนี้ แม้กระทั่งความอยากรู้ลึกไปถึงขนาดที่ว่า ถูกเลี้ยงดู มีสังคมครอบครัวเป็นแบบไหน และโตมาในสภาพแวดล้อมอย่างไร ถึงได้กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ โดยไม่ละอายต่อบาป

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2560 โลกออนไลน์ต่างแห่แชร์บทวิเคราะห์ปมการฆาตกรรมสะเทือนขวัญอย่าง คดีสวยหั่นศพน้องแอ๋ม จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Rin Netnapa


         คดีสวยหั่นศพ..."ทำไมคนสวยจึงโหด คนไทยอ่านข่าวเสพความรุนแรง เหมือนกับติดตามตอนต่อไปของหนัง แต่ถ้าเราจะถามว่าคนแบบเปรี้ยว 2 กลายเป็นผลผลิตของสังคมไทย ของครอบครัว และมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เราคงจะได้สติ และ ข้อเตือนใจไปใช้ มากกว่าแค่เสพดราม่า และมันจะเป็นแนวทางว่า สังคมไทย ราชการ และพวกเรา จะป้องกันไม่ให้มีเปรี้ยว 2 เกิดขึ้นในสังคมได้อีกอย่างไร ? "



โดยเธอได้ออกมาเขียนข้อความในเชิงวิเคราะห์ ดังนี้


 - สาวบ้านนอก พ่อแม่หาเช้ากินค่ำ มีลูกตั้งแต่อายุ 12-15 ปี ใช้เรือนร่างทำมาหากิน เสพติดโซเชียล ชอบโชว์ อยากได้อยากมี อยากอวดของดี อยากมีบ้าน อยากหรูหรา อยากสวย

    - น่าจะโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่เป็นชนชั้นทำมาหากิน แต่ไม่สอนลูก สอนไม่เป็น เพราะตัวเองก็ไม่เคยถูกสอน ไม่เคยเรียน มีแต่ตามใจลูก

  ลูกเรียนไม่เรียน เพราะตัวเองไม่ได้เคี่ยวเข็ญให้เรียน ส่งเสริมการเรียนลูกไม่เป็น ไม่ชี้นำให้ลูกทำมาหากินสุจริต เพราะรู้ว่ามันเหนื่อย ลำบาก ไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนตัวเอง จึงปิดหูปิดตาไม่รับรู้ความจริง ว่าที่ลูกมีเงินมีกินมีใช้ฟู่ฟ่านั้น ลูกทำงานอะไร ?

   มีลูกเป็นผู้หญิง พอมีหน้าตาเป็นสมบัติ จะทำมาหากินด้วยเรือนร่างก็ไม่เป็นไร ไม่เคยห้ามปราม แต่งตัวโป๊ ๆ เข้าบ้านอย่างไรไม่เคยว่า ขอให้ช่วยยกระดับทางบ้านได้ สร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่ได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ เป็นคนดีของครอบครัวแล้ว

  - น่าจะโตมาในครอบครัวที่ไม่สอนเรื่องเพศศึกษา ว่าเป็นเรื่องควรสงวน จนมีลูกเต็มบ้าน มีความบันเทิงเดียวที่ราคาถูก คือ การร่วมเพศ



  ชอบโชว์เพราะอะไร ?

  - โตมาในสังคมที่ครีมสเตียรอยด์ และยาพิษ หาซื้อง่าย แค่ไลน์ก็ส่งของมาถึงหน้าบ้าน และโตมาในยุคที่คลินิกศัลยกรรมเกลื่อนเมือง ดังนั้น จึงไม่แปลกที่หญิงสาวจะขาวใส ผิดผิวพ่อผิวแม่ เพราะแค่กินกลูต้าที่ขายกันโครม ๆ ก็ขาวซีดแล้วบวกกับแค่กินยาลดความอ้วนก็ผอม เงินไม่กี่พันก็ได้ดั้งโด่ง ๆ หรือเพิ่มเงินอีกนิด ก็ได้นมคู่โต ไม่ต้องพูดถึงบิ๊กอายตาโต หรือขนตาเด้งงอนเลย

   ความงามที่เสกได้ ขอแค่มีเงิน เพียงเท่านี้ ก็สามารถยกระดับตัวเอง การใส่เสื้อผ้าราคาแพงก็คิดว่าเข้าสู่สังคมชนชั้นสูงกว่าที่ตนเคยเป็นได้

  - แต่พวกเขา ก็ไม่สามารถลืมพ้นกำพืดกู-มึง ถึงจะยืมคำคมเก๋ ๆ ปลุกใจมาใช้ แต่ก็ไม่ได้ฉลาดในชีวิตจริงมากพอที่จะพาตัวเองพ้นวงการเด่นดัง ด้วยรอยสัก ไลฟ์โชว์ ภาษาพ่อขุน ยาเสพติด การมั่วเพศ โชว์ความเหนือด้วยความใจกล้า

  เทคนิคพวกนี้ เป็นสิ่งที่เลียนแบบไม่ยากในยุคเน็ตไอดอล เพราะรัฐบาลกำลังขึ้นทะเบียนสื่อมวลชน แต่ไม่ได้จัดการกับการเผยแพร่อัตลักษณ์ที่รุนแรงเหล่านี้ได้เลย



   เยาวชนกำลังเลียนแบบ และมองเป็นสิ่งโก้เก๋ เป็นวัฒนธรรมของยุคสมัย

   - ทำให้สวย สวยแล้วทำไมต้องใช้เรือนร่าง ? เพราะไม่ได้เรียนหนังสือ จึงไม่ได้ไปต่อสายการทำงานที่ใช้สมอง

   - หันมามองสื่อเองบ้าง การยกยอว่า "เน็ตไอดอล" คือ อายุน้อยร้อยล้าน ที่ประสบความสำเร็จจากธุรกิจลดความอ้วน เพราะเกาะกระแสทัน ปรับตัวรับกระแสขายของออนไลน์ได้ เป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวมาก

  เมื่อสื่อลืมไปว่าความสำเร็จที่แท้จริงอยู่ที่การใจกล้าหน้าด้าน ขายยาพิษให้แก่ผู้บริโภค ราคาแพงโดยไม่มียางอาย โดยที่รัฐบาลก็ไม่ปราบปรามอย่างเป็นรูปธรรม

   - นี่คือ ผู้ร่วมกับผลิต "เปรี้ยว 2" ให้แก่สังคมไทย หากเราจะร่วมกันเสพละครดราม่าเรื่อง อีเปรี้ยว สวยสามจี อัปรีย์ทั้งชาติ ก็ขอให้เราร่วมกันช่วยขบคิดถึงตัวละครตัวต่อไป ที่อาจจะน่ากลัวกว่าเปรี้ยวกันเถอะ

    และเปรี้ยว 2 มันใกล้ตัวกว่าที่เราคิด และเราจะหยุดมันได้อย่างไร หากเราไม่เรียนรู้กับมัน สิ่งที่น่ากลัวคือ เรามีคนอย่างเปรี้ยวมากมายเต็มโซเชียล ที่ยังไม่ได้เผลอไปฆ่าหั่นศพใคร แต่พฤติกรรมตอนนี้ไม่ได้แตกต่างจากเปรี้ยวก่อนกระทำผิดเลย และเขาก็เป็นเพื่อนกับเราในเฟซบุ๊ก !

นอกจากนี้ เจ้าของเฟซบุ๊กคนดังกล่าว ยังโพสต์ถึงการมีส่วนช่วยไม่ให้เกิด เปรี้ยว 2 ในสังคมไทย เอาไว้ 8 ข้อ ดังนี้



  1. เลิกเถอะ การเห็นคนดี เพราะมีเงิน ฝรั่งไม่มีขนาดบ้านเราเลย ไปไหนก็พูดแต่เรื่องเงินวัดกันแต่เงิน

         2. ให้คุณค่ากับคนที่คุณค่าความดี ตัวตนของเขามากกว่าหน้าตาดี มากกว่าแต่งตัวดี มากกว่ามีแบรนด์เนม

         3. ทำบุญกับการศึกษาของคนที่ชนชั้นหาเช้ากินค่ำ วัดที่เน้นวัตถุ เครื่องรางของขลัง ควรพอได้แล้ว คนเราคิดเป็น มีการศึกษา เอาตัวเองรอด

         4. สื่อเลิกซัพพอร์ตครีมอันตราย และศัลยกรรม ที่พาให้วัยรุ่นหลงประเด็นว่า คุณภาพชีวิต โอกาสของชีวิต อยู่ที่หน้าตา โดยใช้คำว่า บุคลิกภาพเป็นตัวเบิกทางซึ่งใครจะทำไม่ว่า แต่ไม่ต้องเสนอข่าวให้เป็นกระแสชี้นำ

         5. ปราบปราม ยาและเครื่องสำอางที่เป็นพิษอย่างจริงจัง

         6. ประการสำคัญ พ่อแม่สำคัญมาก ทำตัวน่าสงสาร ใสซื่อ แต่แฝงไปด้วยความเห็นแก่ตัว สร้างหนี้ อยากได้อยากมี แต่ไม่ดูความเป็นจริง วินัยการเงินแย่ อยากให้ลูกเลี้ยงดูปูเสื่อ แต่ไม่ดูที่มาของเงิน อันนี้คือ ถ้าครอบครัวไม่ช่วยเตือนสติ ใครจะเตือนได้

         7. ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน เน็ตไอดอลของยุคนี้ที่เราควรยกย่อง ควรมีดีกว่า โชว์สวย โชว์หรู โดยที่ตัวเราเองก็หยุดอวดสักที เรามี เราโชว์ เราบีบให้คนอื่นอยากมีอยากได้เหมือนเราหรือไม่ นี่คือคำถาม ?

         8. ยาเสพติด เรื่องนี้คงไม่ต้องขยายความ

..........
ขอบคุณภาพ และข้อมูล //winne.ws/n16081
หมวด ข่าวเด่น ประเด็นดัง หรือ Topical Blog

Create Date : 02 มิถุนายน 2560		9 comments
Last Update : 2 มิถุนายน 2560 22:07:15 น.
Counter : 2388 Pageviews.
Share Tweet