เที่ยววังน้ำเขียวปลายฤดูหนาว





วังน้ำเขียว




วันที่ 31 มกราคม 2552



08.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปทางสระบุรี ผ่านมวกเหล็ก ปากช่อง สีคิ้ว เลี้ยวขวาเพื่อไปปักธงชัยขับไปอีกประมาณ 60 กม. ก็ถึงวังน้ำเขียว ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เนื่องจากแวะโน่นแวะนี่ไปเรื่อยๆ

วังน้ำเขียว เป็นอำเภอหนึ่งที่อยู่ตอนใต้ของจังหวัดนครราชสีมาที่มาของชื่อ วังน้ำเขียว นั้นได้มาจากสภาพภูมิประเทศของที่นี่เพราะพื้นที่ในแถบนี้มีวังน้ำที่ใสงดงามเป็นธรรมชาติ น้ำนั้นใสจนมองเห็นเงาสะท้อนสีเขียวของต้นไม้จึงเรียกพื้นที่นี้ว่าวังน้ำเขียว




บ้านไร่คุณนาย




พวกเราเข้าพักที่นี่ พักเรือนเพทาย ซึ่งรองรับแขกได้ประมาณ 5 คน แต่บ้านใหญ่พอพวกเรามากัน 8 คนก็ไม่อึดอัด





เรือนเพทาย




บ้านหลังนี้แหละที่พวกเราชุกหัวกัน น่ารักดีเสียอย่างเดียวมีห้องน้ำเดียว สำหรับพวกเรา 8 คนใช้เวลาพอสมควร



มาถึงก็จะบ่ายแล้ว เราเลยยังไม่ได้ชมความสวยงามของสถานที่เลย มุ่งหน้าไปหาข้าวกินก่อนดีกว่า

พวกเราไปกินข้าวเที่ยงที่ตำบลไทยสามัคคี ตามตารางที่เขาแนะนำ แต่ผิดหวังอย่างแรง ไม่อร่อยมากๆ แต่ไม่เป็นไร เรามาชื่นชมกับโอโชนนี่นา
ขับรถจากปากซอยไทยสามัคคีประมาณ 4 กม.ก็ถึงสวนลุงไกร



สวนลุงไกร




สวนลุงไกรมีเนื้อที่ ประมาณ 15 ไร่ ปลูกผักสลัดและผักปลอดสารพิษเมื่อเดินเข้าไปลุงไกรกำลังร้องเพลงอยู่ไม่รู้ว่าให้ผักหรือให้คนที่เข้ามาชมฟัง ที่นี่เขามีผักสดๆขายด้วย เราใช้เวลาที่นี่ประมาณ 10 นาที





สวนลุงไกร




ผักสดที่นี่มีคุณภาพดีถูกขายให้กับบริษัทใหญ่ๆ เช่น Sizzler, pizza hut และโรงแรมด้วย



พวกเราขับรถตรงต่อไปแวะลงแวะถ่ายรูปข้างทางซะหน่อย



แวะถ่ายรูป




พวกเราแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวตามป้ายบอกทาง ช่วงนี้มีการปิดปรับปรุงอยู่เราจึง แวะถ่ายรูปข้างทางเพราะวิวก็สวยดี



เนื่องจากมีการปิดปรับปรุงหลายที่พวกเราจึงกลับไปเที่ยวเขาแผงม้าก่อน

เขาแผงม้าหรือเขาภูหลวงซึ่งเป็นเขาสูงชันเป็นแนวยาว เมื่อมองจากที่ไกล ๆ คล้ายกับสันคอม้า จึงเรียกว่า เขาแผงม้า เขาลูกนี้เคยปกคลุมไปด้วยป่า มีพื้นที่กว้างขวางกว่าแสนไร่ เป็นป่าผืนเดียวกับป่าดงพญาไฟอยู่ประชิดกับ อช. เขาใหญ่ และ อช. ทับลาน มีสัตว์ป่าอย่างวัวกระทิงจากผืนป่าดังกล่าวเข้ามาหากินอยู่เป็นประจำ ต่อมาเมื่อมีการบุกรุกป่า และสัมปทานไม้ของเอกชน เขาแผงม้าที่เคยรกครึ้มไปด้วยป่าจึงกลายเป็นเขาหัวโล้นในที่สุด

มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ร่วมกับชาวบ้านได้ร่วมกันปลูกป่าถาวร ฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับคืนดีดังเดิม โดยเน้นความหลากหลายตามธรรม-ชาติของป่า ปัจจุบันเขาแผงม้าเขียวครึ้ม มีทัศนียภาพที่สวยงาม สัตว์ป่าโดยเฉพาะฝูงกระทิงซึ่งเป็นสัตว์ป่าหายากได้กลับสู่ป่าผืนนี้อีกครั้ง บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าเขาแผงม้าที่กลับคืนมา ที่นี่จึงเป็นที่เฝ้าดูฝูงกระทิงและสัตว์ป่านานาชนิดของนักท่องเที่ยวที่นิยมธรรมชาติ



เขาแผงม้า




พวกเราขับรถเพื่อขึ้นไปบนเขาแผงม้า จากตีนเขาถึงบนเขาประมาณ 4 กม. โดยเป็นทางลาดยาง 700 ม. และทางลูกรัง 3.3 กม. เมื่อเข้าสู่ทางลูกรังฝุ่นตบอบอวลและทางขรุขระอย่างมากจนเกือบจะถอดใจกลับ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วขอขึ้นไปดูซะหน่อย





เขาแผงม้า




ในที่สุดก็ถึงบนเขาซะที พวกเราเดินเล่นรอบๆ เขาแผงม้า ก่อนจะไปจุดชมวิว พวกเราก็กราบพระพุทธรูปกันก่อน





ชมวิวเขาแผงม้า




พวกเรามาถึงจุดชมวิว พยายามมองหากระทิงแต่ไม่เห็นเลย อาจจะเป็นเพราะว่ามันคงยังไม่เย็นมาก กระทิงยังไม่ออกมาเลย เขาบอกว่าพวกมันจะออกมาประมาณ 5 โมงเย็น





กิจกรรม




บริเวณนั้นจะมีคนขายลูกมะค่าโมง ถุงละ 20 บาท พวกเราจึงใช้หนังสต๊กยิงเล่น เพื่อเป็นการปลูกป่าด้วย ยิงกันมากๆไม่รู้กระทิงจะหัวโนหรือเปล่า



หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปยังอบตใทยสามัคคี เพื่อไปผาเก็บตะวันเพื่อชมพระอาทิตย์ตก เรามีเวลาเหลือพอสมควรจึงแวะชม วีงน้ำเขียวฟาร์ม



วังน้ำเขียวฟาร์ม




เป็นฟาร์มเห็ดเมืองหนาว โดยมีเห็ดหลากหลายชนิดมีเห็ดสดและผลิตภัณฑ์จากเห็ดขายด้วยเช่น ข้าวเกรียบเห็ดหอม น้ำพริกเห็ดฯลฯ



พวกเราชมเรือนเพาะเห็ด มีเห็ดหลายชนิด เห็ดหอม เห็ดหัวลิง เห็ดหลินจือ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอธิบาย



วังน้ำเขียวฟาร์ม






ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติทับลาน ห่างจากปากทางอบต.ไทยสามัคคี ประมาณ 13 กม. ซึ่งเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถ ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็น และเป็นที่ตั้งของ หลักแบ่งเขตจังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครราชสีมา ที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นแหล่งโอโซนอันดับ 7 ของโลก อีกด้วย



ผาเก็บตะวัน





พวกเราขับรถฝ่าดงฝุ่นคุ้งไปหมด เพื่อชมพระอาทิตย์ตกได้ทันเวลา แต่พระอาทิตย์แอบอยู่ใหลังก้อนเมฆ ลุ้นแทบแย่ว่าจะเห็นพระอาทิตย์ทั้งดวงหรือเปล่า



ในที่สุดลมก็พัดเมฆไป เห็นพระอาทิตย์ที่สวยงามยามเย็น



ผาเก็บตะวัน






มีคนเล่นม้าไม้จำนวนมาก น่าสนุกดี พวกเราก็ลองเล่นดูคิดว่าง่ายๆที่ไหนได้ ยากมากเลย



กิจกรรมเล่นม้าไม้






ขอเก็บแสงสุดท้ายของเดือนมกราคมอีกสักครั้ง



กิจกรรมเล่นม้าไม้







จากนั้นพวกเราก็ฝ่าดงฝุ่นกลับกัน และแวะกิน steak ที่ Jungle View เรามามืดไปหน่อยไม่เห็นวิวเท่าไร แต่ถ้ามากลางวันคงจะสวยเหมือนกัน

และเราก็กลับที่พักเพักผ่อนเพื่อพร้อมที่จะเที่ยวในวันต่อไป
อากาศยามค่ำคืนหนาวพอสมควร พวกเราจีงไม่เปิดแอร์นอนเลย เพื่อรับโอโชนแม้ในยามหลับด้วย









Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 15 กรกฎาคม 2560 3:07:04 น. 5 comments
Counter : 2042 Pageviews.

 
ดูแล้วน่าเที่ยวมั่งจังค่ะ
ขอเล่นม้าไม้ด้วย ชอบๆ


โดย: praewa cute วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:2:42:52 น.  

 
ลองมาวังน้ำเขียวหน้าฝนดูสิครับ
จะได้เห็นทะเลหมอกด้วย
สดชื่นสุดๆ


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:2:43:36 น.  

 
สวยเนอะ


โดย: ริวคิ-mawin-maji-minic วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:5:13:49 น.  

 
สวัสดีค่ะ น่าไปเที่ยวจัง

ถ่ายภาพสวยมาก


โดย: สาวสุพรรณฝันหวาน วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:57:21 น.  

 
บ้านพักน่ารักค่ะ อยากไปจัง ^_^


โดย: แสงอาทิตย์ ยามเช้า วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:43:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

goffymew
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Flag Counter Welcome to Goffymew Blog
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
12 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add goffymew's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.