บทประพันธ์ที่ฉันชอบ (ลอกมาจาก fb)
ค่ำนี้มีค่ำไหนในค่ำนั้น ที่หมดความฝันรันทดเศร้า ค่ำหนึ่งค่ำนานผลาญใจเรา ให้รอนร้อนเร่าบนเถ้ารอนฯ ................ นั่นเป็นเธอ-เธอจริงไหม โน่นนั่นเล่าใครใช่จริง-หลอน นี่คือฉัน-ฉันหรือคือบางตอน หรือเพียงเงาซับซ้อนของความลวงฯ ............... มีใครเจ็บเพราะใคร-เพราะฉันไหม ใครมีใครร่ำไห้ในร้ายบ่วง ใครมีใครใช่ใครในโลกลวง ค่ำนี้มีใครหน่วงด้วยหนักเพราะรักนั้นฯ .................. ค่ำนี้มีค่ำไหนในค่ำนี้ อาจบางทีที่ต่อเติมเพิ่มความฝัน มองเห็นโลกโศกโลกเดียวกัน ไม่ใช่เธอใช่ฉันถูกกั้นกลางฯ ................ มีใครเจ็บเพราะใคร-เพราะใครไหม ที่ค่ำนี้ค่ำไหนก็ชุ่มสาง รกเรื้อเจือโศกโลกเลือนลาง ค่ำนี้อ้างว้างว่างเปล่าเพราะเหงาคำฯ
"ก่องแก้ว กวีวรรณ" ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๖
บางคนอยากไป แต่ยังทำห่วงอาลัย-เสแสร้ง จะรักษามารยาทมารแยง มันไม่ได้เติมแต่งให้ดูดีฯ ............. ไปเถิด-ไปสา อย่าคลั่กมายาวิถี ทางโพ้นกระโจนนที แค่บรรทัดวลีที่ล่องลมฯ
"ก่องแก้ว กวีวรรณ" ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๖
จงไปเถิดคนผู้ไม่รู้ฟัง มาเพื่อมุ่งหวังกำชัยในวิถี โดยกล่าวอ้างเส้นทางเสียสวยดี ว่าจริงใจกว่าที่เคยจริงใจฯ ................... จงไปเถิดคนผู้อยู่มั่งคั่ง ไม่ต้องทุกข์หวังในหวั่นไหว ไม่ต้องดิ้นรนหนทางไร้ กินอยู่สุขสบายประสาคุณฯ ..................... เพียงผ่านพบจบแล้วจึงควรจาก มาแค่ลมปากที่กลิ่นกรุ่น ล่องลอยเลือนลางทางของคุณ โลกก็ยังหมุนเหมือนเดิม-ธรรมดาฯ
"ก่องแก้ว กวีวรรณ" ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๖
บนบาทวิถีคืนนี้มีบางอย่าง พลันพร่างสว่างแล้วมืดดับ มืดมิดสนิทแล้วกลับพลันรับ แสงสว่างคืนกลับมาวกเวียนฯ .................. หลังฝนคนว่าฟ้าจะใส หลังหม่นไหม้กลับคลื่นเหียร หลังกลิ่นธูปวูบวับกับควันเทียน หลังการรู้เรียนกลับโง่งมฯ ............... เพ่งตาในผ่านตาเนื้อเจือตาฝัน จริงเท็จมายานั้นผ่านสะสม แยกแยะยุงหยัดเห็นชัด-ตรม ไม่โศกแต่โลกย์ขมในสำนึกฯ ...................... พันธนาการผ่านก้าวย่าง อิสระเริ่มร้างเมื่อย่างสึก การผุกร่อนล่อนรู้อยู่ลึกลึก เย็นย่ำเพื่อค่ำดึกได้เดียวดายฯ .................. พุทเข้าโธออกบอกจิต สงบนิ่งอิงพินิจแต่ผิดหมาย จิตกลับวกวุ่นกรุ่นหวัดระบัดวาย แสงสว่างพรั่งพรายก็พลันวับฯ ..................... ค่ำนี้บนวิถี-บางทีว่าง แต่กลับคืออ้างว่างใช่ว่างดับ จิตครุ่นหมุ่นคร่ำแต่ดำซับ สงบนิ่งติงขยับนั้นทิศใดฯ
"ก่องแก้ว กวีวรรณ" ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๖
คืนนี้คล้ายเราเหงาลึกสำนึกซ้อน ทวนทบพบบางตอนที่เติบหาย ครุ่นบางคิด-คิดบางครั้งยังแคลงคลาย สำนึกลึกร้ายร่ายรายเรียงฯ ................ เสียงสาดเสียงเศร้าเสียงเหงาโศก ท่วมท้นโลกโศกคล้ำบางส่ำเสียง ครวญคร่ำทุรนทุกข์ท้นเคียง มีพ้นผ่านม่านเพียงบนเพลิงไฟฯ .................... ค่ำนี้คล้ายเราเหงาลึกสำนึกร้าย ภาพบางภาพหยาบคายจนหวั่นไหว ภาพบางภาพอาบชุ่มน้ำตาใจ ภาพบางขณะเคลื่อนไหวสู่เงียบงันฯ ............. ....................... ชีวิตเช่นนี้-หรือมีมากกว่าฝัน ก้าวพ้นก่นกลายมลายวัน ตอกสำนึกลึกลึกนั้นคือสิ่งใดฯ
"ก่องแก้ว กวีวรรณ" ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๖
Create Date : 19 มีนาคม 2556 |
Last Update : 24 มีนาคม 2556 20:29:21 น. |
|
17 comments
|
Counter : 3784 Pageviews. |
|
|
โดย สุนันยา...
ในความหวัง นั่งคิด ลิขิตฝัน
อยากมีวัน เวลา พาสุขสม
สร้างวิมาน หวานชื่น อันรื่นรมย์
ปิดห้องใจ ขื่นขม ที่ตรมนาน
เลิกอยู่ใน วังวน ของคนเหงา
ได้รับสุข ปลุกเร้า เคล้าประสาน
ลืมทุกสิ่ง ทิ้งปม ระทมมาน
กับวันวาน ผ่านช่วง ที่ล่วงมา
มีรักร้อย คอยป้อง ประคองหมาย
เคียงใจกาย หยิบยื่น ชื่นหรรษา
เขียนกานท์กลอนอ้อนออด พลอดอักษรา
ซ่อนน้ำตา หวานคม พร่างพรมจินต์
คราดาวเดือน เยี่ยมฟ้า ดารดาษ
ชมแสงสาด ดารา ประภาศิลป์
โสมอร่าม งามสรวง ห้วงเมฆินทร์
ลมรวยริน ยินเสียง สำเนียงไพร
ฟังเรไร บรรเลง บทเพลงกล่อม
อวลกลิ่นหอม ราตรี สีขาวใส
เกี่ยวก้อยเดิน ดูดาว พราวพิไล
คล้องดวงใจรักเรา ดั่งดาวเดือน
คือความหวัง ฝังไว้ ใจวาดฝัน
สำหรับฉัน คงไม่ มีใดเหมือน
เพียงเดียวดาย กับฝัน อันรางเลือน
สิ้นสุขเยือน..เตือนจิต....อย่าคิดไกล......
สุนันยา