BlogGang.com : : GoE Online :

NEX-3 ...เก่งจริงนะ ตัวแค่เนี๊ย!!

NEX-3 ...เก่งจริงนะ ตัวแค่เนี๊ย!! (รีวิวเมื่อปี 2553)

กระแสกล้องบอดี้เล็ก เปลี่ยนเลนส์ได้ ไฟล์คุณภาพสูง กำลังมาแรง! บ้างก็เรียกกันว่า Mirrorless Camera (กล้องแบบไม่มีกระจกสะท้อนภาพ) บ้างก็เรียกกันว่า EVIL (Eelectorinc Viewfinder Interchangable Lens) ...ตัวกล้องจะมีขนาดเล็กใกล้เคียงกล้องคอมแพ็ค แต่ก็ใหญ่พอที่จะใช้ตัวรับภาพที่มีขนาด และคุณภาพระดับเดียวกับ DSLR ของแต่ละค่ายเอง

เจ้าที่ลงมาเปิดตลาดนี้น่าจะเป็น Olympus ด้วยกล้องตระกูล PEN Digital กับหน้าตากล้องแนวคลาสสิคย้อนยุค (ตามข้อมูลที่จำๆ มานะ ไม่ได้เช็คความถูกต้อง...โปรดอภัย) ...ตามมาด้วย Panasonic ตระกูล G หน้าตากลางเก่ากลางใหม่ บางรุ่นก็ออกหน้าตา DSLR แต่บางกว่า แล้วต่อมาก็น่าจะเป็น Samsung NX ที่มาในหน้าตา DSLR ขนาดบางเช่นกัน ทำเอาตลาดคึกคักกันเลยทีเดียว แต่ก็ยังไร้วี่แววค่ายใหญ่ๆ อย่าง Canon และ Nikon ...จนในที่สุดค่าย (เหมือนจะ) น้องใหม่ ในตลาด DSLR อย่าง Sony ก็ขอเข้าร่วมวง ด้วยการส่งกล้อง Mirrorless สายพันธุ์ Alpha ในนาม NEX-5 และ NEX-3

หากย้อนกลับไปเมื่อ 1-2 เดือนก่อน กระผมกำลังมองหากล้องใหม่มาแทน S9500 โดยที่มีตัวเลือกเป็น HS10 กับกล้องแบบ Mirrorless ตัวใดตัวหนึ่ง ...ด้วยสามารถหา HS10 มาลองใช้ได้ในราคาพิเศษ หากไม่ถูกใจก็ปล่อยออกได้แบบไม่ต้องเจ็บหนัก จึงจัด HS10 มาลองดูก่อน (ผลการใช้งานดูที่นี่) ...แต่ความที่ใช้ DSLR ซะเคยตัว HS10 จึงดูไม่ตอบโจทย์นักในเรื่องการตอบสนองที่ทันใจ จึงกลับมามอง Mirrorless อีกครั้ง (แต่ถ้าถามกันจริงๆ Alpha DSLR ที่ถ่าย VDO ได้คือตัวที่กระผมรอคอย...ไม่ยอมมาซะที)

PEN vs NEX เหลือเป็น 2 ตระกูลสุดท้ายที่จะต้องเลือก ไม่ว่าจะเลือกตัวไหนก็คือการเพิ่มไลน์ใหม่ของอุปกรณ์ (ต่างจาก HS10 ที่เกือบจะจบได้ในตัวมันเอง...นั่นคือข้อดี) ...แต่โดยรวมแล้ว NEX น่าจะมีโอกาสหาทางเชื่อมต่อกับ Alpha DSLR ที่ใช้อยู่ได้ง่ายกว่า ประกอบกับเมื่อคิดส่วนลดส่วนต่างแล้ว ... "Sony Alpha NEX-3" จึงถูกจัดมาอยู่ในมือ

หน้าตา ราคา = เพียงพอ
เป็นเหตุให้เลือก NEX-3 แทนที่จะเป็น NEX-5
"หน้าตา" เป็นความชอบส่วนตัวนะ ผมชอบ NEX-3 มากกว่าเพราะมันไม่เล็กจนเม้าท์เลนส์ล้น
ส่วนของกริปจับที่เป็นล่องลึกน้อยกว่าก็ยังจับได้ติดนิ้วดี ความหนาของตัวกล้องทำให้รู้สึกมั่นใจในความแข็งแรงแม้มันจะเป็นพลาสติกไม่ใช่แม็กนีเซียมอัลลอยด์แบบ NEX-5
"ราคา" ส่วนต่าง 4,000 กับความต่างที่สนใจจำได้อย่างเดียวคือ NEX-3 มีความเร็วในการถ่าย VDO ที่ 30 fps เลือกความเร็วไม่ได้ ...ก็ "เพียงพอ" ต่อการใช้งานแล้ว

สนุก!!!
ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อตอนได้ใช้ Nikon D50 แล้วมันก็หายไปนานมากมาย ไม่ว่ากระผมจะหันไปจับ Nikon D80, D90, Canon 40D, 50D, Sony a300 (อันนี้เกือบๆ จะรู้สึก), a700, a500 หรือแม้แต่กล้อง Like ที่ครบเครื่องอย่าง FujiFilm S9500, HS10 ...ก็ไม่ได้รู้สึก "สนุก" กับการ "จับใช้งาน" ...จนมาเจ้า NEX-3 นี่หละ ความรู้สึกนั้นจึงกลับคืนมา อาจจะด้วยความต่างของลักษณะกล้อง, ขนาดและน้ำหนักที่เบา เวลาหยิบไปไหนมาไหนก็ไม่รู้สึกถูกกดดันด้วยหน้าตาของกล้องที่ดูโปร และด้วยเลนส์ แฟลช อุปกรณ์เสริมชิ้นเล็กชิ้นน้อย ที่มีมาให้ประกอบเข้าถอดออก เหมือนนั่งต่อของเล่นอยู่...ก็เพลินดีเลยรู้สึก "สนุกในการจับใช้" และ "ความสนุกที่ได้ถ่ายภาพ" ก็ยังคงอยู่

คุณภาพ...เหลือเฟือ
เรื่องนี้ขอยกนิ้วให้ในแทบจะทุกด้าน...
"ไฟล์ภาพ" ระดับเดียวกับ Alpha DSLR เยี่ยมอยู่แล้ว!
"บอดี้" หน้าตา ชิ้นงาน การประกอบ "ดี" จนผบ.หลุดปากชมว่า "หรู" เป็นกล้องตัวแรกในมือกระผมที่ได้รับคำชื่นชมนี้ไป!
"เลนส์" ให้ภาพ "ดีตามราคา" ตัว 18-55mm ซูมนิ่มดี แม้แต่ตอนถ่าย VDO ก็ซูมได้ไม่สะดุด ระยะโฟกัสใกล้ ถ่ายจ่อๆ พอได้ ส่วนตัว 16mm ก็สว่างดีกับ f2.8 ...และที่โดดเด่นของเลนส์ทั้ง 2 ตัวคงเป็นที่สีและพื้นผิวที่ดูดีมีราคาเกินค่าตัวจริงไปมาก...แต่ด้วยความเป็นพลาสติกชุบสี ก็แอบกลัวอยู่ว่าถ้ามันเลอะเทอะแล้วเช็ดทำความสะอาด สีมันจะลอกเอาง่ายๆ ไหม...คงดูน่าเกลียดทีเดียวเชียว

โฟกัส...ดี
เห็นมีเสียงบ่นเรื่องการโฟกัสของ PEN โดยเฉพาะ E-P1 ว่าช้า โดยมีเสียงชื่นชมไปอยู่ที่ G ของ Panasonic กระผมก็ไม่รู้ว่ามันดีและเร็วขนาดไหน แต่กับ NEX ถือว่ารวดเร็วทันใจใช้ได้ ทั้งในการถ่ายภาพนิ่งและ VDO จะมีหน่วงๆ บ้างก็เป็นบางครั้ง กับตัวแบบที่มันแยกความต่างไม่ออก...ก็น่าพอใจดี

ปุ่ม...น้อยไป
เข้าใจว่าน่าจะเป็นการออกแบบเพื่อให้รู้สึกใช้ง่าย (สำหรับคนกลัวปุ่ม) เรียบหรูดูทันสมัย ...แต่มัน "น้อยไปไหม" ถ้าจะบอกจริงๆ ก็ไม่น้อยไปนะ "ถ้า" สามารถว่างหน้าที่ของปุ่มให้เข้าถึงการตั้งค่าได้สะดวกกว่านี้อีกนิด... ปุ่ม fn. แบบใน Alpha DSLR คือปุ่มที่กระผมคิดว่าน่าจะมีปุ่มใดปุ่มหนึ่งทำหน้าที่นี้!
*** Firmware ล่าสุดสามารถตั้งบางปุ่มให้เข้าเมนูที่ต้องการได้ ***

เมนู...ต้องจำ
ต่อเนื่องจากจำนวนปุ่มที่น้อย ทำให้เวลาจะตั้งค่าอะไร ต้องเข้าเมนู แล้วเมนูก็ถูกจัดเป็น 6 หมวดหมู่ ที่กระผมไม่เคยรู้จัก ต้องทำความเข้าใจ และ "จำ" ให้ได้ว่า ค่าอะไรอยู่ในหมวดหมู่อะไร ... ยังยืนยันว่า fn. น่าจะมี เพราะปุ่ม fn. ใน Alpha สามารถตั้งค่าการถ่ายภาพได้แทบจะทั้งหมดไม่ว่าจะ ระบบวัดแสง, ระบบโฟกัส, จุดโฟกัส, ระบบแฟลช, ชดเชยแสงแฟลช, ISO, ระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง, ระบบตั้งเวลาถ่ายภาพ, DRO, HDR, การตั้งโหมดสี อยู่ในปุ่มนี้ทั้งหมด ...แต่ใน NEX กล้องที่น่าจะทำออกมาให้ใช้งานง่ายและสะดวก ระบบทั้งหมดที่กล่าวมาถูกกระจายไปอยู่ใน 2 หมวด กับอีก 2-3 ปุ่ม!? ...ก็ไม่ต้องมีครบหรอก แต่น่าจะมีเพราะมันจะสะดวกและ "ใช้ง่ายจริง"
*** Firmware ล่าสุดสามารถตั้งบางปุ่มให้เข้าเมนูที่ต้องการได้ ***

ข้อจำกัดคือ แฟลช
ตามที่เห็นคือตัวบอดี้ไม่มีแฟลชแต่ Sony ยังใจดีมีแฟลชแยกมาให้ด้วย ต่อผ่านช่องต่อขนาดจิ๋ว แต่ต่อเข้าถอดออกก็กลัวขาแฟลชมันจะปิ๋ว เพราะมันก็ขนาดจิ๋วซะเหลือเกิน ที่สำคัญมันไม่สามารถสั่งแฟลชไร้สายได้อีกแล้ว...เสียชื่อ Alpha ไป 1 ข้อ!!

เรื่องแฟลชนี้เป็น 1 ในข้อหนักใจเมื่อตอนเลือกเปรียบเทียบกับ PEN ที่นอกจากจะมีแฟลชในตัวแล้ว ยังสามารถใช้กับแฟลชนอกธรรมดาๆ อะไรก็ได้ ...แต่ใน NEX ช่องต่อแฟลชมาแหวกอีกแล้วครับท่าน ที่แม้แต่แฟลชของ Alpha DSLR เองยังมึน...ว่าจะเข้าไปร่วมงานกันได้อย่างไร!?

ไม่มีแล้ว...ระบบกันสั่นในตัว
โดนย้ายไปอยู่ที่เลนส์ซะแล้ว เป็นอีก 1 ในจุดเด่นของ Alpha ที่หายไป...โดยส่วนตัวกระผมไม่เชื่อว่า Sony ไม่สามารถใส่ระบบกันสั่นเข้าไปในบอดี้ได้ แต่เลือกที่จะไม่ใส่มากกว่า! ก็ไม่รู้ว่าเหตุผลจริงๆ คืออะไร เพื่อขนาดที่เล็ก? หรือ เพื่อเพิ่มมูลค่าเลนส์ !? ...แต่ที่แน่ๆ เสียชื่อ Alpha ไปเป็นข้อที่ 2 !!

VDO แบบพอมีให้ใช้
NEX ไม่สามารถควบคุมแบบแมนนวลได้ กล้องจะออโต้โฟกัสและปรับเปลี่ยนค่าแสงไปตลอดที่ภาพที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงไป ...แต่ถ้าแตะปุ่มชัตเตอร์ไว้ครึ่งหนึ่ง กล้องจะทำการล็อคโฟกัสและค่าแสงไว้ให้ตลอด ก็ดีกว่าทำอะไรไม่ได้เลย ...ส่วนเรื่องคุณภาพก็ดีตามที่ควรจะเป็น กระผมไม่รู้หรอกว่าต้องดีมากน้อยแค่ไหน แต่รู้ว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมีใช้มา
*** Firmware ล่าสุดสามารถตั้งค่ารูรับแสงที่ต้องการได้ก่อนถ่าย ในโหมด A และ M ***

ตัวกินไฟ
คุ้นเคยแต่กล้อง DSLR ที่ไม่ค่อยกินแบ็ต ชาร์จทีอยู่ได้ข้ามวัน ...แต่กับ NEX อยู่ได้ไม่ถึงวัน ถ้าตามข้อมูลน่าจะประมาณ 300 ภาพ แต่ตอนใช้งานจริงต้องทั้งถ่ายภาพนิ่ง, ถ่าย VDO, เปิดดูภาพ ซึ่งรวมๆ แล้วน่าจะได้ไม่ถึงตามข้อมูล ...ตรงนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติของกล้องแบบนี้ (หรือเปล่า) เพราะต้องใช้จอ LCD ตลอด และที่สำคัญกล้องมันจะโฟกัสไปเรื่อยๆ ตลอดเวลา!? ไม่รู้ว่าปรับตั้งได้ไหม ...คงต้องมีแบ็ตสำรองอีกก้อน "เป็นอย่างน้อย" อย่างไม่มีทางเลือก

โดยรวม
ในขณะที่ PEN ของ Olmpus แทบจะถอด DSLR ตระกูล E ของตัวเองมาหมด แต่กับ NEX ของ Sony ไม่ใช่...จะให้ออกมาครบเครื่องกว่านี้กระผมเชื่อว่า Sony ทำได้ เพราะสิ่งที่ขาดหายไปเป็นสิ่งที่ Alpha DSLR มีอยู่แล้ว แต่เลือกที่จะไม่ใส่มา จากที่เคยรู้สึกว่า Minolta หรือ Sony Alpha DSLR (สมัยแรกๆ) ไม่กั๊กเทคโนโลยี่ ตอนนี้กลับเริ่มรู้สึกว่า NEX มัน "กั๊ก" ...เฮ้อ!

แต่ถ้าตัดเรื่องดังกล่าวไป... NEX-3 เป็นกล้องที่ใช้งานได้ดี คุณภาพไฟล์เยี่ยมตามรุ่นพี่ Alpha DSLR ...แรกเริ่มเดิมทีก่อนที่จะตัดสินใจทุบกระปุกไปจ่ายค่าตัวก็หวั่นใจอยู่เหมือนกันว่า NEX จะ "ใช่" หรือ "ไม่" ...แต่หลังจากได้เกี่ยวก้อยไปไหนมาไหนด้วยกันร่วม 2 สัปดาห์ สามารถบอกได้เลยว่า "ใช่"

NEX ตอบโจทย์ความต้องการที่จะพกกล้องขนาดกระทัดรัดไปไหนมาไหน ไม่เล็กที่สุด แต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ไม่เป็นเป้าสายตา คุณภาพไฟล์ดี ถ่าย VDO ได้ การตอบสนองทันใจ จะขาดก็แค่ความเป็นซูปเปอร์ซูมซึ่งตอนนี้ใช้การคร๊อปช่วยไปก่อน ...และที่สำคัญ "ใช้สนุก" อย่างที่ไม่ได้รู้สึกมานานมากมายอย่างที่บอกไว้แต่ต้น...เยี่ยมเลย NEX