|
|
คำแนะนำในการใช้แผนการสอน
เำื่ำพื่อให้การใช้แผนการสอนเป็นไปด้วยความถูกต้อง เห็นสมควรทำความเข้าใจเป็นข้อๆ ดังนี้
1. แผนการสอนนี้ จัดทำในรูปบูรณาการ โดยเอาการฟัง การพูดเป็นแกน ส่วนวิชาหรือกิจกรรมอย่างอื่นจัดมาสอนก็เพื่อเสริมภาษาไทยของเด็ก และเพื่อเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ ตามจุดมุ่งหมาย
2. แผนการสอนตลอดปีเป็น หน่วยการเรียน ต่อเนื่องกันไปหน่วยละ 1 สัปดาห์ (25 คำ) หรือ 5 วัน วันละ 1 แผน (5 คำ) รวมหน่วยละ หรือสัปดาห์ละ 5 แผน รวม 32 หน่วย เป็น 160 แผน
3. เนื่องจากแผนการสอนนี้ เล่มหนามาก จึงแบ่งเป็น 2 ภาค ภาคที่ 1 มี 16 หน่วย เริ่มจากหน่วยที่ 1-16 ภาคที่ 2 มี 16 หน่วย เริ่มจากหน่วยที่ 17-32
4. การสอนควรสอนเรียงตามลำดับหน่วยและลำดับแผน เพราะการจัดเสนอคำใหม่นั้นจัดให้สืบเนื่องกับคำในแผนก่อนๆ ด้วย แม้กระนั้นก็ตาม ถ้าครูจะสับเปลี่ยนแผนภายในหน่วย หรือสับเปลี่ยนคำภายในแผนก็ย่อมทำได้บ้าง หรือจะเพิ่มคำใหม่ที่เข้ามาเหมาะกับโอกาสหรือความต้องการเฉพาะหน้าก็ย่อมทำได้
คำใดที่ครูสอนเพิ่มโดยไม่มีในแผน ควรบันทึกไว้ด้วย
5. ในหน่วยหนึ่งๆ จะจัดคำที่เกี่ยวข้องเป็นพวกเดียวกันไว้กลุ่มหนึ่ง (25 คำ) แล้วจัดระเบียบภายในหน่วย ดังนี้
5.1 บอก ชื่อหน่วย ไว้
5.2 กำหนด ความคิดรวบยอดของหน่วยไว้ คือความหวังที่ว่า เมื่อเด็กเรียนจบหน่วยนั้นแล้ว ขอให้เกิดความคิดรวมไปในแนนนั้น
5.3 บอก จุดประสงค์ของหน่วยไว้ คือว่า เมื่อเด็กเรียนจบหน่วยนั้นแล้ว เราต้องการให้เด็กเปลี่ยนพฤติกรรม หรือทำอะไรได้บ้างเพียงใด
5.4 วัสดุอุปกรณ์ บอกอุปกรณ์ที่จะสอนในแต่ละหน่วยไว้
5.5 จากนั้นก็แบ่งหน่วยเป็น 5 แผน สอนแผนละ 1 วัน ในแผนจะมีส่วนประกอบดังนี้
-จุดประสงค์ของแผน บอกว่าในวันนั้นไ ต้องการให้เด็กได้อะไร ทำอะไรได้เท่าไหร่
-คำที่มีในแผนแต่ละแผน มีลักษณะพิเศษ คือพิมพ์ตัวโตและดำ
-สื่อการเรียน เป็นการกระทำ เพื่อชัดนำให้เด็กทำกิจกรรม หรือเคลื่อนไหวใดๆ ครูเอาอะไร มาทำอย่างไร
-คำที่เป็นสื่อการเรียน พิมพ์ตัวโตและดำ
-กิจกรรมการเรียน เป็นการกระทำของเด็ก บอกไว้ว่าเมื่อครูทำอย่างนั้นแล้ว (ในสื่อการเรียน) ให้เด็กทำอะไร อย่างไร อันนี้จัดไว้เป็นคู่ๆ กับสื่อการเรียน ข้อต่อข้อ
-ประเมินผล บอกไว้ว่าตามจุดประสงค์ที่วางไว้นั้น เด็กเป็นไปตามนั้นแล้วหรือยัง
-การประเมินผล ข้อแรกให้ใช้ว่า "ฟังการออกเสียง..."
ครูให้เด็กทำอย่างไร ครูทำอย่างไร จึงจะรู้ว่าเด็กเป็นไปตามจุดประสงค์
ประเมินผลจึงจัดให้มีเท่ากับจำนวนข้อของจุดประสงค์เป็นคู่กัน ข้อต่อข้อ สื่อการเรียนและกิจกรรมการเรียน ครูจะใช้ตามแผนหรือพลิกแพลงอย่างไรก็ได้ (โปรดอ่านย้ำข้อ 5.1-5.4 อีกครั้ง)
6. ในวันหนึ่งๆ มี 5 ชั่วโมง หรือ 300 นาที แต่แผนใช้เวลาเพียง 240 นาทีเท่านั้น เวลาที่เหลือ 60 นาที แบ่งไว้ภาคเช้า 30 นาที เพื่อใช้ในเรื่องเตรียมตัวที่จะให้เด็กเรียน
6.1 ตรวจสอบจำนวนเด็ก
6.2 ตรวจสุขภาพเด็ก
6.3 ให้เด็กทำความสะอาดร่างกาย
6.4 ให้เด็กทำความสะอาดห้องเรียน
6.5 แก้และฝึกการออกเสียง
6.6 ฝึกลีลามือ เตรียมเขียนหนังสือ
6.7 ทบทวนบทเรียน
6.8 ให้เด็กเล่นตามลำพัง
และภาคบ่าย 30 นาที เป็นการเตรียมตัวกลับบ้านและเสนอกิจกรรมในแต่ละวัน เช่น
-เล่านิทาน -เชิดหุ่น
-ร้องเพลง -เล่นลิเกฮูลู
-รำ
-ทำความสะอาดห้องเรียนและเก็บของไว้ที่เดิมให้เรียบร้อย
-ล้างมือล้างหน้า ทาแป้ง หวีผม และปล่อยให้กลับบ้าน
7. เลขในวงเล็บ หลังกิจกกรมแต่ละข้อ คือเวลาเป็น นาที โดยประมาณของสื่อการเรียนและกิจกรรมการเรียนคู่ข้อนั้นๆ อันนี้ยืดหยุ่นได้ตามสมควร
8. เพลงกิจกรรมเข้าจังหวะเกม และนิทานแระกอบแผนซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งในการสอนชั้นเด็กเล็กนั้น จะมีไว้ในคู่มือครูอีกเล่มต่างหาก แต่ครูอาจจะหาเพลงหรือกิจกรรมอื่นๆที่เห็นว่าเหมาะสมกว่า หรือแต่งเองมารวมก็ได้
9. ถ้าสอนตามแผนการสอนนี้ ซึ่งมี 32 หน่วย หรือ 160 แผน ก็จะจบภายใน 160 วัน จำนวนวันที่เหลือหลังจากการสอนจบแผนที่ แล้วจะมีเวลาเหลืออีก 40 วัน ครูอาจนำหลักสูตร ป. 1 มาสอนหรือจะสอนอ่าน เขียน เลข ต่อไปก็ได้ แบะต้องประเมินผลหลักสูตรด้วย
10. อักขรานุกรม ได้จัดเรียงลำดับตามตัวอักษรตั้งแต่ ก. - ฮ. ไว้ตอนท้ายแผนการสอน
11. ตารางสอนสำหรับชั้นเด็กเล็ก ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เพราะแผนการสอนแต่ละแผนหรือแต่ละวันจะบอกกิจกรรม และระยะเวลาของกิจกรรมการเรียนไว้ทุกกิจกรรมตลอดวันอยู่แล้ว แต่หากจะมี ควรบอกไว้ว่าก่อนใช้แผนจะให้ทำอะไร และเมื่อจบแผนแต่ละวันแล้วมีเวลาเหลืออีกหลายนาที จะให้มีกิจกรรมอะไรกันบ้าง
| Create Date : 18 เมษายน 2550 |
| Last Update : 1 พฤษภาคม 2550 4:58:15 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 771 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: แจง (napapornnas  ) วันที่: 26 ตุลาคม 2552 เวลา:6:00:49 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
จะหาข้อมูลได้ที่ไหนคเเนี่ย