YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~

บันทึกวันที่เกลียดตัวเอง

เบื่อ รังเกียจ ขยะแขยงตัวเอง
ซึมเศร้า หมดหวัง ท้อแท้ อย่างไม่เคยเป็น
ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ ยิ่งคาดหวังมากเท่าไหร่
ยิ่งทำร้าย ทำลาย ตัวเอง ได้เรื่อยๆ....ไม่สิ้นสุด
ไม่เคยเกลียดตัวเองเท่านี้มาก่อน
อยากจะมีเวทมนตร์สาบตัวเองให้หายไปจากโลก
เพราะไม่เคยคิดจะฆ่าตัวตาย และจะไม่คิดเด็ดขาด
แต่แค่อยากหายไปจากโลกนี้เฉยๆ
อยากเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จัก จะได้ไม่ต้องระวังตัวอะไรมาก
แค่ไร้ซึ่งบทบาท และสถานภาพ แค่ให้ได้ดำรงอยู่ในสิ่งที่พึงใจ
คำของอาจารย์แว่วเข้ามาในหูว่า
สังคมมันประกันเสรีภาพให้เรา หรือแท้จริงมันลิดรอนกันแน่

เพราะเมื่อค้นพบว่าความรักนั้นเป็นสิ่งที่น่าเกลียดเสียแล้ว
โลกนี้มันก็ไม่น่าอยู่ และไร้ความรื่นรมย์โดยสิ้นเชิง
มันเป็นความทุกข์เหลือเกินที่จะต้องอยู่ท่ามกลางความเกลียดชัง
โดยเฉพาะในบ้านของตัวเอง.....
อาจจะพูดเกินไปหน่อย เพราะอย่างน้อยๆก็ยังดีกว่าหลายๆคน
ที่เราก็ยังคงมีบ้านให้อยู่แต่ว่า
Is this home...Is this where I should learn to be happy?
ไม่อยากแสดงตนว่าเป็นคนมีปัญหา หยิบเรื่องเล็กๆมาทำให้เป็นเรื่องใหญ่
ทั้งๆที่รู้เต็มอกว่ายังมีคนที่เขาทุกข์มากกว่าเราเยอะแยะ
แต่ใจมันก็ร่ำๆอยากจะไปพบนักจิตแพทย์มากขึ้นทุกวันๆ
ปัญหาก็คือ ไม่รู้ว่าเจอหน้าเค้าแล้วจะพูดอะไร
เพราะดูๆไปเราก็ไม่มีปัญหา ถ้าเทียบกับคนอื่น

แต่ขยะแขยงตัวเองเหลือเกิน ที่ตอบสนองบรรยากาศอันไร้ความสุขนี้
ด้วยการกินๆๆๆ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ อ้วนๆๆๆ
You are what you eat งั้นก็หยุดกินเสียสิ
ถ้าทำได้ก็คงจะดี ทุกครั้งที่รู้สึกอยากจะหายไปจากโลกนั้น
สิ่งที่ทำอยู่เสมอคือ เปิดตู้เย็น
และเมื่ออ้วน ความภูมิใจใน dance studio ก็น้อยลง
ยิ่งเห็นตัวเองในกระจกก็ยิ่งขยะแขยงตัวเอง และอยากหายไปจากโลก
ถึงบอกว่าเราไม่อยากจะเป็นเราตอนนี้เลย

ปล่อยสิ....วางสิ.....อยากทำได้
นั่นไงความอยากเกิดขึ้นแล้ว

เลยเที่ยงคืนมาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว
หัวใจยังมึนตึงกับเตียงนอน แม้ว่าร่างกายจะอ่อนล้าเหลือเกิน
ไม่อยากนอน เดี๋ยวฝันร้าย...พรุ่งนี้ขออู้ตอนเช้าก็แล้วกัน
ดูสิ เลวอีกแล้ว....มันน่ารังเกียจตัวเองไหมนี่

เมื่อเช้าเพื่อนมาหา เมื่อตอนบ่ายๆก็ไปเจอเพื่อนอีก
เพื่อนเก่าๆที่เรารัก ที่รักเรา ที่คุยภาษาเดียวกันได้
มันก็แค่ช่วงเวลาตรงนั้นเองที่เราเชื่อว่าโลกนี้ยังมีความรักอยู่
แต่พอแยกจากกัน มันก็แค่เหมือนเพิ่งตื่นจากความฝันที่สดใส

เขียนต่อไม่ออกแล้ว.....ร้องไห้ก็ไม่ได้
เดี๋ยวคนที่บ้านเห็น............................








 

Create Date : 15 ธันวาคม 2548
8 comments
Last Update : 21 มกราคม 2549 16:27:39 น.
Counter : 1189 Pageviews.

 

takecare na...dun let your thought hurt yourself la...

 

โดย: KS IP: 203.218.213.92 15 ธันวาคม 2548 2:16:29 น.  

 

ยังงัยบก็สู้ ๆ นะค่ะ อย่าท้อแท้ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ก็ต้องแก้ไขได้ไม่ช้าก็เร็วค่ะ มะวานก็เป็งวันที่แสนเซ็งเหมือนกัน มีอะไรแย่ๆ เกิดขึ้นทั้งวัน ม่ายรู้จะซวยอะรายปานน๊านนน แต่มันก็ผ่านปายจนได้ ยังงัยก็เอาใจช่วยให้ผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปให้ได้นะคร๊า~~*
...อรุณม๊อเน่ง เจ้าคร๊า แม่โจงกะเบนเวคอัพแต่เช้าเล๊ย...

 

โดย: โจงกะเบนลายดอกพิกุล 15 ธันวาคม 2548 9:05:34 น.  

 

ช่วงที่ผ่านมาก็มีอาการซึมเศร้าเบื่อโลกเหมือนกันนะคะ แต่ด้วยความที่เป็นมาหลายปีแล้วก็เลยชิน วันนี้เลยมาช่วยแบ่งเบาภาระทางใจ แม้จะไม่เห็นหน้า ไม่ได้คุยด้วย แต่โปรดรู้ไว้ว่ายังมีคนไกลอีกคนที่เฝ้ามองอย่างห่วงใยอยู่ห่าง ๆ ค่ะ

ใจจริงแล้ว อยากยุให้หาเวลาไปพบจิตแพทย์ เพราะครั้งแรกที่ไปก็กลัวเหมือนกันค่ะว่าเรื่องของเรามันฟังดูปัญญาอ่อนเหลือเกิน แต่คุณหมอใจดีมาก ไม่คุยเรื่องปัญหาของเราเลย แต่ชวนเราคุยเรื่องอื่น ๆ จนเพลิน...

บางที การได้พบปะพูดคุยกับคนที่เราไม่เคยรู้จักก็ช่วยให้หายเบื่อได้เหมือนกันนะคะ เพราะเรื่องที่เขาเล่ามา เราก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรก และเรื่องที่เราเล่าให้เขาฟัง เขาก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกเหมือนกัน สรุปว่าวันที่ไปพบคุณหมอครั้งแรกนั้น คุยกันทุกเรื่องยกเว้นเรื่องปัญหาของตัวเอง เหอเหอ...

เป็นพลังใจให้นะคะ แม้จะน้อยนิด แต่รับรองว่าปลอดภัยไร้สารตกค้างแน่นอนค่ะ

 

โดย: Poceille 15 ธันวาคม 2548 9:20:05 น.  

 

อย่ายอมแพ้ค่ะ

โลกยังต้องหมุนไปข้างหน้า

และเราก็ต้องก้าวต่อไป

 

โดย: Batgirl 2001 15 ธันวาคม 2548 10:20:31 น.  

 

คนเราก็ต้องมีเวลาอ่อนแอจะ ถ้าอยากจะร้องไห้ก็ร้องไปเลย อย่าไปกลั้นไว้อะนะ บางทีความเข้มแข็งก็ทำให้คนอื่นไม่เข้าใจว่าเรารู้สึกอย่างไร
ไม่มีใครรักและเข้าใจเราเท่าคนในครอบครัวโดยเฉพาะพ่อกับแม่จะ ต่อสู้กับความอ่อนแอในตัวเองให้ได้นะ

 

โดย: อินทรีทองคำ 15 ธันวาคม 2548 12:08:50 น.  

 

ยอมรับนะว่าบางครั้งเราก็เคยรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน.. หมายถึงเกี่ยวกับบ้านน่ะ

แต่ของเรารู้สึกประมาณว่า เรามีพี่น้องเยอะแยะ (อีก 3) มีคนอื่น ๆ อยู่บ้านเราอีก

แต่ความรู้สึกก็เหมือนกับว่าเราอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใคร..

ความเหงา กับเราก็เป็นเพื่อนกัน สนิทกันมากเสียด้วยซําไป

เดี๋ยวนี้เราก็ไม่รู้สึกว่าการอยู่คนเดียวเป็นเรื่องน่ากลัว

แต่จะว่าไปมันก็ดี เราเองก็รักที่จะอยู่ตามลําพัง มากกว่าที่จะอยู่กับคนหมู่มาก แต่รู้สึกเหมือนไม่มีใคร

ตอนนี้เราก็รู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ

ยังไงเราก็ขอให้คุณสู้ต่อไปนะคะ

แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเองค่ะ

 

โดย: the Little Uki IP: 202.149.106.145 15 ธันวาคม 2548 12:51:04 น.  

 

เวลาเศร้าเราตั้งความหวังไว้แค่ขอหายใจทิ้งไปวันๆ พยายามไม่คิดอะไรมากไปกว่านี้ทั้งบวกและลบ

ถึงอาจมีครั้งใหม่ แต่ขอให้ครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี

 

โดย: Thebrightestsunisthepurestgun 15 ธันวาคม 2548 15:19:15 น.  

 

บางทีคนเราก็รู้สึกว่ารอบข้างตัวเราไม่ได้มีอะไรที่เป็นเพื่อนกับเราเลย ช่วงเวลาเช่นนั้น เป็นอะไรที่รู้สึกอึดอัด เบื่อ เซ็ง หงุดหงิด ไม่อยากพูดกะชาวบ้านแม้กระทั่งคนที่บ้าน ฯลฯ
คำว่าปล่อยวางนั้นเรามักจะได้ยินจากปากผู้ใหญ่ แล้วเมื่อได้ฟังคำพูดแว่วเข้ามาในหู คือ โบราณ เรื่องของคนแก่ ....แต่การได้อยู่กับตัวเอง ปล่อยวางอะไรบ้าง ก็สามารถทำให้อะไรในโลกนี้ดูดีขึ้นได้
ดูแลตัวเองเยอะๆนะ gluhp เราเอาใจช่วย มีอาราย บอกได้นะจ๊ะ

 

โดย: canon-phantom IP: 203.188.24.217 16 ธันวาคม 2548 4:00:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.