"ความสุข" ที่มีกันได้ง่าย ๆ @ Palio Khaoyai

การเดินทางทริปนี้ คือ กรุงเทพ-เขาใหญ่-กรุงเทพ เอ๊ะ !! ยังไง วันแรกถ่ายรูปประเดิมทริปนี้กันไปแล้วที่ Villa Paradis วันที่สองคือการเดินทางกลับสู่ใจกลางเมืองกรุง ขากลับได้แวะสถานที่สุดฮิป (ที่เพิ่งจะมาฮิปกับเขาก็ตอนที่คนอื่นไปกันมาแล้ว) นั่นคือ Palio Khaoyai นั่นเองค่ะ

โครงการ "Palio" ประกอบด้วยร้านค้าเล็กๆ น่ารักแบบถนนคนเดินสไตล์อิตาเลียน นอกจากโครงสร้างที่โดดเด่น สวยงามเป็นเอกลักษณ์แล้ว ภายในโครงการยังได้นักจัดสวนระดับแถวหน้าสุดของประเทศไทย คือ คุณอำนาจ คีตพรรณนา ซึ่งมีผลงานทางสถาปัตยกรรม และตกแต่งภายในมากมาย เช่น บ้านพักท่านทูตประจำ W.T.O ที่เจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ พระตำหนักสวนสุโขทัย บ้านสวนปาริจฉัตก์ เป็นต้น มาเนรมิตสวนสวยรายล้อมตัวอาคารร้านค้าให้โครงการสวยงามขึ้น

ลักษณะโครงการ งานสถาปัตยกรรมเป็นกลุ่มอาคาร 1 และ 2 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนธนะรัชต์ กม.ที่17 ติดกับโรงแรมจุลดิศ เขาใหญ่ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภายในมีร้านค้าหลากหลายประเภทกิจการ เช่น ธนาคาร,ร้านอาหารสไตล์ Fusion Italian, ร้านกาแฟที่คัดสรรแล้ว, สินค้าตกแต่งบ้าน, ร้านไวน์, ร้ายพืชผักปลอดสารพิษ, ร้านเครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย, ร้านขายของที่ระลึก, ศูนย์อาหารที่คัดสรรแล้วว่าอร่อยจริง และทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการบนเนื้อที่ 7 ไร่

นอกจากร้านร้านค้าต่างๆแล้ว ยังมีโซนที่จะถูกสร้างให้เป็นห้องพักแบบบูทิค โฮเทล บริการในรูปแบบ Bed & Breakfast และมีลานจอดรถที่สามารถรองรับรถได้กว่าสามร้อยคัน

หลังจากอ่านความเป็นมาของโครงการนี้แล้ว ไปชมภาพสวย ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

ป.ล. เนื่องจากเจ้าของกระทู้มีความชอบภาพ Contrast จัดเป็นการส่วนตัว หากผู้อ่านเกิดอาการแสบตา ต้องขออภัยมาด้วยนะจ๊ะ ...

Welcome to "Palio Khaoyai"


ยืนยันว่า ชั้นมาถึงจริง ๆ นะ


บริเวณตรงหอนาฬิกา (เรียกซะเชยเชียว) ตรงนี้มีคนมาถ่ายรูปเยอะมาก


และเราเองก็ไม่พลาดเหมือนกันค่ะ ขอยืนถ่ายแบบเก๋ ๆ ก่อน


ยืนเมื่อยและ งั้นนั่งพักผ่อนต่อเลยแล้วกัน


สะพานอันน้อย


ร้านขายรองเท้าหนัง Dr.Airwairs Martens เค้าบอกว่า ยี่ห้อนี้ยาวนานมาก


เดินไปเดินมาแบบเรื่อยเปื่อย มาโผล่ตรงสวนหย่อมกว้างใหญ่ สวยงาม เขียวขจี ยืนสูดอากาศดี ๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศสวย ๆ จนเกือบลืมถ่ายภาพเลยหละค่ะ


ในเมื่อได้อยู่กับบรรยากาศแสนดีอย่างนี้ เฮ่อ...อดใจไม่ไหวอีกแล้ว


ที่นี่มีร้านหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟน่ารัก ๆ ร้านขายของที่ระลึก รูปทรงของตึกก็คล้ายกันมากซะจนบางครั้งก็คิดว่า นี่เราเดินผ่านไปหรือยังนะ

ถัดจากสวนสวย ๆ ก็เจอร้า้น "ไร่องุ่นปภัสรา"


แอบหันไปเห็น "โอ่งแดง" ตั้งอยู่ตระหง่านตรงกลางลานพอดี แหม...ไอ้เราก็ชอบสีแดงซะด้วย ตึกสีแดงอิฐ โอ่งสีแดง กระเป๋าสตางค์ก็สีแดง เสียดายที่สีเสื้อไม่ได้ใส่สีแดงไปด้วย งั้นภาพนี้ขอตั้งชื่อว่า
"แดงเดือด"


"แดง" พอมั้ยคะ ???


ร้านเก๋ ๆ อีกซักภาพ


จุดนั่งพักดี ๆ อีก 1 จุดค่ะ สีเขียวกับสีของตึกนี่ตัดกันดีจริง ๆ


แดดเริ่มร้อน คนเดินก็เริ่มเหนื่อย หาอะไรเย็น ๆ ดื่มให้ชื่นใจหน่อยดีกว่า ซึ่งนั่นหนีไม่พ้น "Black Canyon" เราชอบกินกาแฟของที่นี่มากกว่าร้านสีเขียว อาจเพราะด้วยราคาที่ถูกกว่า รสชาติถูกปากมากกว่า ถึงเราจะชอบกาแฟมากกว่า แต่สำหรับโกโก้ เรายังรักร้านสีเขียวเหมือนเดิมนะจ๊ะ

มุมดี ๆ ของ Black Canyon สาขา Palio ค่ะ


พอเดินขึ้นบันไดไป น้องพนักงานกล่าวต้อนรับด้วยน้ำเสียงใสแจ๋ว
"รับอะไรดีคะ" เราก็ตอบไปทันใด "มอคค่ากราเซียแฟรบเป้ 1 แก้วค่ะ"

สั่งเสร็จแล้วมานั่งรอที่เก้าอี้ม้าหินอ่อนกันเลย


ด้านขวามือเหมือนจะเป็นที่นั่งสำหรับทานของหนัก แต่จริง ๆ แล้วจะทานหนักทานเบาก็นั่งได้เหมือนกัน มองแล้วแอบหรูไปนิด กลับมานั่งม้าหินอ่อนอย่างเดิมดีกว่า


นั่งทานกาแฟพอหายเหนื่อย ก็ได้เวลาตะลอนถ่ายรูปต่อ รูปนี้ถ่ายจากหน้าต่างตึกตรงข้ามร้า้นกาแฟค่ะ


แอบเปิดประตูรั้วหน่อยซิ มีใครอยู่ตรงนั้นมั้ยน้าาา ...


แลซ้ายแลขวาไม่เจอใคร งั้นหนูขอแอบถ่ายรูปซะเลย


ตึกนี้ด้านบนสุดจะเป็นเหมือนหอระฆังค่ะ อยู่สูงพอสมควร ตากล้องยืนถ่ายรูปสบายใจเฉิบ ไอ้เราเองก็แอบป๊อด กลัวความสูง ตะโกนขึ้นไปว่าจะเดินกลับหละนะ ตากล้องวิ่งลงมาแทบไม่ทัน แต่ก็ยังตาดีตะโกนกลับมาว่า ยืนอยู่ตรงนั้นแหละ "มุมสวย"

เอ๊ะ !!! มุมสวย แต่ช้านไม่สวยใช่ม้ายยย ...


พอพี่แกวิ่งลงมาแล้ว ก็ตะโกนบอกอีกว่า "อย่าเพิ่งไป เอาหน้าแนบกำแพงอีกรูป" เอ๋.. นี่เรากำลังถูกเปรียบความหนาของหน้ากับกำแพงหรือเปล่าหว่า ???

ป.ล. เห็นรูปนี้แล้วอดถามตัวเองไม่ได้ "อ้วนหรืออ้วนเนี่ย"


ไม่พูดพร่ำทำเพลง คุณเทอจัดไปอีกหลายรูปกันเลยทีเดียว แหม..ไอ้เราก็ไม่อยากขัดศรัทธา กลัวคุณเทอเสียใจ อายนะเนี่ย แต่ก็ต้องฝืนความอายถ่ายรูปกันไป 555


ไม่เอาและ เปลี่ยนที่มั่งดีกว่า เดินไปเดินมาแบบมั่ว ๆ ก็มาถึงหน้า Palio Market พลันสายตาก็ดันเหลือบไปเห็นโอ่งอีกใบตั้งอยู่อีกและ แต่คราวนี้เป็นโอ่งสีส้ม ส้มก็ส้ม เอาวะ ฮึบ


เดินถัดมาอีกนิดก็จะเจอ Palio Inn ได้ยินมาว่า สร้างขึ้นแค่ไม่กี่ห้องเองค่ะ


แล้วก็เดินแบบมั่ว ๆ เหมือนเคย หันไปเจอของโปรด
เอ่อ แบบว่า..ขอแบกกลับไปตั้งที่บ้านได้มั้ยคะ ???


แวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือได้ที่ร้านนี้ค่ะ "Thai Tea Suwirun"


เมื่อซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันไปแล้ว ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับซักที เพราะขากลับมีอีก 1 แผน คือแวะทานสเต็กที่ ChokChai Steck House อีก หากไม่รีบออกเดินทางตอนนี้ก็กลัวจะถึงกรุงเทพฯ เย็นเกินไป

รูปสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด @ Palio Khaoyai


สรุปทริปนี้ ประทับใจมาก..ก..ก..ค่ะ ตั้งแต่วันแรกของการเดินทางที่เป็นวันศุกร์ รถไม่ติด เข้าพักได้อัพเกรดห้อง บรรยากาศที่พักก็ร่มรื่น สงบ เป็นส่วนตัว เดินทางกลับในวันเสาร์ก็ได้แวะ Palio ที่อยากไปมานานแล้ว วันที่ไปคนก็ยังไม่เยอะมาก วันเสาร์เป็นวันที่เราเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในขณะที่ใครอีกหลายคนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ

ขอเสนอการเที่ยวใน "วันธรรมดา" เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวแบบสงบและไม่วุ่นวาย ลากันไปด้วยภาพสุดท้าย @ Farm ChokChai

Create Date : 15 ตุลาคม 2554		0 comments
Last Update : 15 ตุลาคม 2554 19:07:59 น.
Counter : 2279 Pageviews.
Share Tweet