โปรดทราบ กำลังแก้ไขบล็อกอยู่ค่ะ
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
25 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 

Why online Master Degree?

ต่อจากบล็อกที่แล้วนะคะ หลังจากที่เวิ่นเว้อบรรยาย ความอยากเรียน เมืองนอกแต่ไม่สามารถปลีกตัวไปเรียนได้ ไม่สามารถอยู่เฉย ๆ แบบไม่มีงานทำ แล้วรอให้เงิน 1 ล้านหมดไปได้อะค่ะ รับไม่ได้อะ

หลักสูตร ออนไลน์ Master Degree ของ University of Liverpool เป็นความร่วมมือระหว่าง U Liverpool กับ Lauriat Association ซึ่งเป็นสถานบันหลักที่วางหลักสูตร การเรียน ป โท แบบออนไลน์ให้ ได้ประสิทธิภาพ และ ให้ด้การยอมรับ ช้าก่อน อย่า ๆๆๆๆ อย่าเพิ่งดูถูกการเรียน ป โท ออนไลน์ หากยังไม่ได้สัมผัสจริง ๆ ลอเรียท เนี่ยเป็นหน่วยงานที่ตั้งอยู่ในประเทศ เนเธอแลนด์ Amsterdam มีตัวตน มีเบอร์โทร เพราะช่วงที่เรากำลังสนใจ กรอกข้อมูลไปแล้ว มี Enrolment Advisor ติดต่อกลับมาทุกอาทิตย์

อ้อ ที่คนสงสัยกันคือเรื่องของ Accreditation ที่จริง ตอนนี้ ป โท ออนไลน์ ใน ยู ทีอังกฤษหรือที่ไหนก็ตาม “ประเทศที่พัฒนาแล้ว” เขาก็จะยอมรับหมดแล้ว ทีนี้ก็เหลือแต่ประเทศ ด้อยพัฒนา หรือกำลังพัฒนาทั้งหลายที่กลัวว่า จะเรียนได้ไม่เต็มที่ จะได้เจอหน้าอาจารย์มั้ย เจอหน้าเพื่อนมั้ย แต่ ลอเรียท กำลังผลักดันให้แต่ละประเทศ ยอมรับ คือ อเมริกา อังกฤษ ยุโรป เนี่ยเขาก็ยอมรับกันหมดแล้ว เพราะหลักสูตรหินจริง ๆ ไม่ใช่ปริญญาซื้อได้ คือ ต้องขึ้นอยู่กับความตั้งใจของผู้เรียนด้วย เพราะต้องขวนขวาย ต้อง access account ของเราเสมอ ๆ คือ ทุกวันนั่นแหละ ที่แนะนำกันคือ ต้องมีเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงในการ เรียน response in class, comment งานของเพื่อน ในคลาส (ไม่จำเป็นต้องออนไลน์ ตรงกัน) แต่ จะมี record ว่าเราเข้าคลาส กี่ครั้งต่ออาจทิตย์และมี response มากน้อยแค่ไหน (เป็น Continuation of study)

งาน introduction จัดที่ โรงแรม หรู 5 ดาว โคตรหรูเลย มี จนท จาก มหาวิทยาลัยมา 1 คน (อังกฤษ) และก็นักเรียนที่เรียน ออนไลน์จบไปแล้ว 1 ใบ (MBA Program) และก็กำลังเรียน LLM อีก 1 ใบ เป็นผู้หญิงจอร์แดน แต่หล่อนเป็นคนที่ smart มาก ๆ จากท่าทีการพูด การโต้ตอบ ต่าง ๆ นานา และนอกนั้นก็มีนักเรียน ที่อยู่ในโปรแกรม (คนทำงานทั้งนั้นแหละ) อีกประมาณ 4 – 5คน ทุกคนบอกว่า It’s tough work.

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า อันนี้มันคือ “ทางเลือก” ถ้าคุณอยากเรียนแบบ เจอหน้าเพื่อน เจอหน้าคลาส ก็จงเลือกไปเรียน ออนแคมปัส แค่นั้นจบ อย่าพยายามให้ instructor อธิบายว่า เราจะเห็นหน้าเพื่อนได้ยังไง บลา ๆๆๆๆ คือ มีตาลุงอินเดียแก่ ๆ ที่ไปฟัง ก็ถามฉอด ๆๆๆๆ ย่ะ ภาษาแก ลื่นมาก อินเดียสุด ๆ คือ บางทีพูดมากแต่มันสะท้อน ความรู้ความเข้าใจของตัวเองนะ คือ ลุง แก ก็พูดประเด็นนี้แหละ แต่หลักสูตรการเรียนปริญญาโท แบบออนไลน์ มันก็จะต่างกับ ออน แคมปัสอยู่แล้วไง โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ พัฒนาตัวผู้เรียน ความเข้าใจ ความรู้ความสามารถและต้องผ่านเกณฑ์ ประเมินด้วย (ที่จริง มีกฏเยอะมาก จะเล่าต่อในบทต่อไป) ถ้าถามว่ามีคอนเน็คชั่นไหม มีแน่ เยอะด้วย เยอะโคตร ๆๆๆ (หลังจากที่เราได้เข้า blackboard ) อึ้งสุด ๆ ปรากฏว่า เรามันก็แค่คนทำงานตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งนี่เอง และ “เป็นเรื่องเป็นราว” มากกว่าคนเรียน ออนแคมปัสด้วย เพราะคนเรียน ออนแคมปัส ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียนทีเพ่ง จบ ตรี อายุซัก 25-30 (เอาสาย MSc, MMa นะ)

สิ่งที่หลาย ๆ คนกลัวคือเรื่อง Accreditation บอกก่อนว่า ใบปริญญา ระดับ ป โท ของหลักสูตร ออนไลน์โปรแกรม ของ U of Liverpool ร่วมกับ ลอเรียท เหมือนกับ นักเรียน ออน แคมปัส ทุกประการ รวมทั้งใบทรานสคริปด้วย และนักเรียน ออนไลน์ก็ได้รับเชิญไปรับปริญญา ที่มหาวิทยาลัย เทียบเท่ากับนักเรียนภาคปกตินี่แหละ (ทุก ๆ เดือน July & December มั้ง ถ้าจำไม่ผิด) ในใบปริญญาไม่มีระบุแต่อย่างใดว่าท่านเรียน แบบ ออนไลน์ หากคนที่แคร์มาก ๆ กับคำว่า “ไม่ได้ไปอังกฤษจริง ๆ” ก็มองข้ามคอร์สนี่ซะ (เพราะมันเป็นปัจจัยแรก ของคนที่อยากเรียนต่างประเทศคือ ได้อยู่ในสังคมต่างชาติจริง ๆ”
ส่วนเรื่อง instructor หลักสูตร ออนไลน์ มี instructor จากทั่วโลก เพราะว่า ส่งงาน และตรวจงานกันแบบออนไลน์นั่นแหละ สาวจอร์แดน (ชื่อเมย์) บอกว่า professor เขา อยู่ อลาสก้าคนหนึ่ง อยู่อิตาลีคนหนึ่ง อยู่ ไนจีเรีย คนหนึ่ง อยู่อเมริกาด้วย

มีผู้ชาย การ์ต้าถามเรื่อง accreditation นี่แหละ เขาว่า ประเทศเขายังไม่ยอมรับ เมย์ ก็ตอบว่า “มันก็เป็นเรื่องของประเทศของคุณ แต่ ลอเรียท กำลังผลักดันให้แต่ละประเทศยอมรับ” คือ หลักสูตรนี้ อังกฤษยอมรับ อเมริกายอมรับ อย่างที่บอก ประเทศพัฒนายอมรับ เพราะเขามั่นใจระบบการเรียน การสอน และหลักการประเมิน อย่างใน Gulf Region จอร์แดน ยอมรับแล้ว ซาอุดิ กำลังจะยอมรับ พอดีว่า ตาคนที่ถามทำงานกับหน่วยงานรัฐบาล คือ คุ้นชินมากับระบบเก่า ๆ ก็จะมีอคติไว้ก่อนล่ะ ว่า “เอ๊ะ มันเรียนง่ายรึเปล่า” มันได้ผลมั้ย มัน มั่วรึเปล่าวะ อย่างเดียวเลย “อคติ” คือ ไม่ใช่ ลิเวอร์พูลที่เดียวนะที่เปิด distant learning U of Edinburgh ก็เปิดนะ แมนเชสเตอร์ก็เปิด คือ ถ้าคุณคิดในแง่ว่า คุณจะได้อะไรจากการเรียนโท ได้ความรู้ ได้พัฒนาตัวเอง อันนั้นคุณจะไม่เอามาใส่ใจเท่าไหร่ แต่ถ้าคิดเรื่อง Accreditation กับประเทศของคุณ (อย่างได้ข่าวว่า เมืองไทยยังไม่รับรอง) แล้วจะมีผลต่ออาชีพการงาน อันนี้ ก็ไม่ต้องเลือกแบบเรียนออนไลน์

ลุงอินเดียอีกคนในห้องประชุมบอกว่า ทำไม ทางมหาวิทยาลัยไม่จัดสอบล่ะ แบบว่า สอบที่บริทิชเคาซิล การ์ต้าอะไรอย่างนี้อะ มันจะได้ดูน่าเชื่อถือ โถ ๆๆๆๆๆๆๆๆ ลุงคะ แหม ทำเสียงยังกะจะไปก่อม็อบ ประหนึ่งความคิดเห็นตัวเองนี่โดนสุด ๆ เจ๋ง สุด ๆ แล้ว แต่มันไม่ใช่อะค่ะ เรียนโท ไม่ใช่อ่านหนังสือสอบอย่างเดียว มันไม่ใช่เหมือนเรียน ตรี เหมือนเรียน มัธยมอะ (แต่บางหลักสูตรก็มีนะ ที่จัดให้ไปสอบที่สถานทูตอะ อย่างของ มสธ ก็มี) คือ การประเมินเหมือน นักเรีนย ออนแคมปัสทุกอย่าง แต่ การส่งงานต่างกัน ของพวก ออนไลน์ ต้องส่งทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ไม่รวมการเข้าคลาส อย่างต่ำ 3 ครั้ง แล้วมันต่างกับเรียน ตอนเย็นหรือเรียน มหาวิทยาลัยตรงไหน ต่างตรงแค่ไม่เห็นหน้ากัน ไม่สามารถ transfer ไปเป็นนักเรียน on campus ได้นะคะ เพราะว่าเริ่มเรียนต่างกันอะค่ะ assignment period ก็ต่างกัน อย่างพวก ออนแคมปัส เขาระบุไว้เลย ว่างานกลุ่มเมื่อไหร่ ส่งเป็นเทอม แต่ ของพวก ออนไลน์ก็ส่งทุกอาทิตย์ คือ procedure จะต่างกันนะ

หนึ่ง คอร์ส โมดุล จะต้องเรียนให้ต่อเนื่อง คือต้องวาแผนชีวิตไว้เลย ( 8 อาทิตย์) ถ้าอยากจะพักต้องรอจบ วิชาแรกไปก่อนนะ ( 8 อาทิตย์) เพราะแต่ละวีคขาดไม่ได้นะ assignment ส่งทุกวีค วีคละ 2 ครั้งอะ ไม่รวมเข้าคลาส ตามที่บอกข้างบน หลักสูตรที่เราเรียน ทั้งหมด 8 คอร์สโมดูล 180 study point + Dissertation สำหรับคอร์สแรก หนังสือที่ต้องซื้อมาอ่าน เพื่อน interact ในคลาส (Enrollment Adviser) จะส่งรายละเอียดมาให้เรา ก็สามารถซื้อได้จากทาง มหาวิทยาลัย (ส่งทั่วโลก) และก็ อีเบย์ แอมะซอน ( ขอกระแดะ ออกเสียงแบบฝรั่ง 5555) แต่เช็คดูแล้ว อีเบย์ และ อเมซอน มันถูกกว่ามากมาย เราก็สั่งซื้อไปละ

อ้อ ลืมเราว่า Enrollment Advisor เนี่ย จะดูแลเราดีมาก ตั้งแต่ขั้นตอนสมัคร และอัพเดทตลอดเวลาถ้ามีความเคลื่อนไหวอะไร โทรมาตลอด ส่งอีเมล์ไปถาม แต่หล่อนโทรมาตลอด แต่ ของเราได้คนอินเดีย (แต่อยู่ อัมสเตอร์ดัม) แต่สำเนียงชี อินเดียสุด ๆๆๆๆๆ แต่น้ำเสียงและการพูดคุย ดีค่ะ เหมาะแก่การทำงานบริการเซอร์วิศอะไรพวกนี้มากเลยค่ะ

อย่างตัวเรา ทำงานอยู่แล้วไง ไม่ได้คิดว่า “เรียนโท” เพื่อจะเอามา “หางาน” (จบ ป ตรี ก็หางานได้และทำงานในตำแหน่งดี ๆ ได้นะเออ) แต่มันจะช่วยพัฒนาความคิด พัฒนาตัวเอง และถ้าเรียนจบก็ภูมิใจในตัวเองอีก (งดเล่นพันทิพ งดดูละคร เดอะ สตาร์ 8 ก็กำลังเข้มข้น กรูตายแน่ ๆ) สิ่งหนึ่งที่คิดว่าทำได้แน่ ๆ เนื่องจาก ค่าเรียนมันโหดมากค่ะ มันเท่า ๆ กับนักเรียน ออนแคมปัสเลยค่ะ จริง ๆ แต่มีแบ่งจ่ายแบบ หนึ่งงวด สามงวด จ่ายรายเดือน จ่ายเป็นคอร์สโมดุล ถ้าจ่ายงวดเดียวก็ประมาณ 5 แสนค่ะ จ่ายสามงวดประมาณ 560398 (ห้าแสนหก) จ่ายแบบเป็นรายเดือน 36 เดือน ก็ตกประมาณ 6 แสนนิด ๆ อะค่ะ หลังกจากคิดคำนวนเงินเป็น ดอลลาร์ ยูโร บริทิชพาวด์ แล้ว สรุปว่าจ่ายเป็น ยูโร ถูกสุดค่ะ เราก็ได้ทำสัญญาจ่ายเป็นรายเดือนไปแล้ว (สามารถเปลียนทีหลังได้) ถ้าจ่ายเป็นเดือนมันจะตกเดือนละประมาณ 1.6 หมื่น

ก็มีทุนอะไรให้สมัครได้ก็จะสมัครแหลกนะแหละ พวกทุนทั้งหลาย ดูจากหน้าเวบ มหาวิทยาลัยเยอะ มีออพชั่นเพียบ เราหวังว่าได้ลดซัก ปีละ 1000 – 2000 ปอนด์ก็ดีวะ (จริงๆ ตอนนี้ หวังแค่ได้ลดปีละ 500 ปอนด์เอง) ตอนนี้เรามี Student ID แล้ว โปรแกรมต่อไป เตรียมล่าหาทุน ก็จะเริ่ม 5555 ช่วงนี้งดเที่ยวค่ะ คือ จากที่อ่านคู่มือนักเรียน เที่ยวไมได้จริง ๆ เลยอะ ถ้าเริ่มวิชาแล้ว อย่างที่บอกว่า มันจะต่อเนื่องมาก ๆ ในหนึ่งคอร์ส ถ้ามีเหตุผล ส่งงานไม่ทันจริง ๆ สามารถบอก Student Support Manager / Instructor แต่ต้องให้ Dead line กับ ผู้สอนว่าจะส่งได้เมื่อไหร่ (ไม่ควรเกิน 15 วัน) ดังนั้น เราคิดว่า ถ้าเราจะพักร้อน รอจบคอร์สแรก 2 เดือนไปก่อนละกัน แล้วพักเป็นช่วง ๆ ไป
ปัจจัยสำคัญที่มุ่งมั่นว่าต้องเรียนให้จบคือ “มันแพงค่ะ” แพง ๆๆๆๆ ไม่เคยจะต้องจ่ายเงินเพื่อการเรียน แพงอย่างนี้มาก่อนในชิวิต (จริง ๆ เพิ่งจ่ายไปแค่ 500 ยูโรเองอะ)

ความหลากหลายในคลาสเยอะมากอะค่ะ นักเรียนมาจากหลายที่มาก ในคลาส แลเราเพิ่งประจักษ์ว่า การเข้าคลาสแบบไม่เห็นหน้าเนี่ย มันก็รู้จักตัวตนของคนอื่นเหมือนกันนะ เนื่องจากทุกคนต้อง “เขียน” เริ่มตั้งแต่อันแรก เขียนแนะนำตัว อย่างที่เราเคยบอกเรื่องการเขียน essay ขอทุน “You can read a person by his writing” การเขียนอะไรออกมา ก็สะท้อน บุคลิกลักษณะ ความสามารถ (ทางภาษา) การเรียบเรียงความคิด การเตรียมพร้อม และแบคกราวนด์การศึกษาได้เลยทีเดียว อย่างที่เราเห็นในคลาส คนมาเลเซียกับคนสิงโปร์เขียนดีมาก (ในหัวข้อแรกให้ นักเรียนทำความรู้จักกันนะ) คือไม่ได้เขียนเลิศแบบภาษาไฮโซ แต่การเรียบเรียงความคิดดี

นอกนั้นก็มีนักเรียนจากพวก ประเทศอัพริกานี่เยอะมากอะค่ะ ไม่รู้มันฮิตกันมากรึไง เช่นว่า ไนจีเรีย กาน่า มาลาวี ซิมบับเว กาน่า หมู่เกาะ คอสตาริก้า เฮ้ยยยย อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้นะคุณ ไนจีเรียพวกมีการศึกษา นี่ภาษาอังกฤษก็ใช้ได้เลยนะ (เทียบกับคนไทย) แต่ อย่างที่บอก เรียนระดับสูง มันไม่ใช่มองคนแค่ “สื่อสารภาษาอังกฤษได้” มันต้อง นำเสนอแบบมีคุณภาพด้วยอะ (ที่บอกว่า คนสิงคโปร์ในคลาส ทำได้ดีนะ) เดี๋ยวบล็อกหน้าจะมาอธิบายเรื่อง สื่อต่าง ๆ นะคะ มหาวิทยาลัยทำได้ดีทีเดียว (แต่ต้องหมั่นหาความรู้ให้ตัวเองนะ เนื่องจากเราเรียน แบบ self learning แล้ว ไม่มีใครคอยป้อนให้นะเออ)




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2555
6 comments
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2555 20:08:03 น.
Counter : 3251 Pageviews.

 

เขียนดีนะ อ่านหลายๆหัวข้ออะค่ะ ขอเม้นรวมๆกัน ลงชื่อว่ามาอ่านค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: lovelypriest 23 เมษายน 2555 20:07:49 น.  

 

กำลังหาข้อมูลอยู่พอดีเลยค่ะ
ได้ข้อมูลเยอะขึ้นมากเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆที่ช่วยมาแชร์ให้อ่านกันนะค่ะ
แต่ค่าเรียนแพงเหมือนกันนะค่ะเนี่ย เฮ้อ..ถ้าเรียน สงสัยตังเก็บจะเกลี้ยง 555+

 

โดย: ปรียานุช IP: 49.48.44.195 15 สิงหาคม 2555 22:28:16 น.  

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ ทำให้วันนี้ได้อาหารสมองเยอะเลย (ปกติแล้ว ได้แต่เล่นเฟสบุ๊คไปวันวัน อิอิ) ขอบคุณจริงๆค่ะ
อยากทราบจังเลยว่า ผุ้เขียนทำอะไร และ อยู่ส่วนไหนขอโดฮาห์ ค่ะ น่ารัก น่าคบหา มากเลย มีความรุ้ดีมาก

 

โดย: TLL IP: 78.100.179.136 2 ตุลาคม 2555 13:17:56 น.  

 

ขอบคุณมากๆครับที่เสียสละเวลามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์อันมีค่าเหล่านี้ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากมายเลยครับ ;-)

 

โดย: V IP: 61.90.29.4 20 มกราคม 2556 15:08:03 น.  

 

เขียนดีมากๆครับ

 

โดย: ae IP: 125.24.103.22 17 กุมภาพันธ์ 2556 16:33:08 น.  

 

อยากทราบจังค่ะว่า ถ้าสนใจนี่ต้องสอบไหมคะ
แล้วค่าเทอม ที่พี่บอกว่าประมาณ5-6 แสนนี่ เเค่ปีเดียวหรือทั้งหลักสูตรคะ แล้วอย่างของพี่หลักสูตรนึงใช้เวลาเท่าไหร่คะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: ริว IP: 14.207.149.17 12 พฤษภาคม 2558 0:20:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Freedom of Life
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์เรื่องราวและภาพถ่ายที่ปรากฏทั้งหมดในบล็อกนี้ ห้ามนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของบล็อก โปรดให้เครดิตกับเจ้าของบล็อกหากต้องการให้เพื่อน ๆ ของท่านรับทราบเรื่องราวหรือรูปภาพทั้งหมดที่ปรากฏในบล็อคนี้
free counters table {background-color: transparent;border-style: none;border-spacing: none;}TD {border: none;border-color: none;background: none;}
Friends' blogs
[Add Freedom of Life's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.