ฉันก้มหน้าอ่านหนังสือในมืออย่างไม่ตั้งใจนัก แค่เพียงเพื่อจะรอว่า .. เมื่อไหร่การเดินทางจริงๆ ถึงจะเริ่มต้นสักที เหลือบมองไปยังประตูทางเดินของรถไฟโบกี้ที่นั่ง ทำให้ฉันเห็นว่า ... ฉันไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว แต่ว่ามี ผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กหญิงตัวเล็กๆ วัยไม่เกิน 3 ขวบอีก 2 คน มองปราดเดียวก็คิดว่าน่าจะเป็นครอบครัวกัน ในใจฉันคิดว่า .. ตายแล้ว ... ครอบครัวมีเด็กเล็กๆ อย่างนี้ทำยังไงดี ... คงวุ่นวายพิลึกล่ะนั่น และนี่เองนี่ทำให้ฉัน ...เริ่มหงุดหงิดหงุดหงิดกับความวุ่นวายบนรถไฟ และการเดินทางของฉัน ทิคิดว่าจะสามารถอยู่อย่างสงบได้นิ่งๆ เพราะ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ฉันมีเสมอว่า เด็ก ทัวร์กรุ๊ปใหญ่ๆ จะเป็นอะไรที่บั่นทอนความสงบส่วนตัวได้เยอะมาก แค่เห็นครอบครัวเล็กๆ นี้แล้วฉันก็ได้แต่คิดว่า เฮ้อ แล้วจะยังไงกันล่ะนี่ ... ได้เวลารถเคลื่อนขบวนออกจากสถานีต้นทางแล้ว ฉันสำรวจอีกครั้งกับผู้ร่วมเดินทาง ถ้าไม่นับครอบครัวกับเด็กตัวเล็กอีก 2 คน ก็ยังมี ชายหญิงที่ถือว่าเป็นวัยผู้ใหญ่อีกราวๆ 7-8 คน เรียกว่า จน. ผู้คนบนรถก็ประมาณนี้สำหรับการเดินทางในวันธรรมดาๆ ...ได้ยินเสียงแว่วๆ ... มาบ้าง สำหรับการสนทนาของผู้ใหญ่บางคน ซึ่งถือว่าไม่แปลกและไม่ดังเกินไปเพราะว่ายังไม่ถึงเวลาในการปูเตียงนอน .. ที่เมื่อปูกันทีไรก็ต้องรู้กันว่าเวลาแห่งความสงบเงียบและอย่างรบกวนได้เริ่มต้นแล้ว เสียงพูดคุยดังประปรายเป็นระยะๆ แต่ว่าไม่กวนฉันนัก เรียกว่าแค่นี้ .. ก็ถือว่าเป็นสวรรค์แห่งการเดินทางแล้วล่ะ ฉันยิ้ม พร้อมกับมองไปยังครอบครัว พ่อแม่และลูกอีก 2 คน เอ สงสัยจัง ... ว่าทำไมครอบครัวนี้เค้าเงียบกันดี ไม่เหมือนกับที่คิดว่า จะเป็นครอบครัวแห่งการส่งเสียงดัง ๆ ของเด็กตั้งสองคน ... ฉันวางหนังสือลง ... ปลดหูฟังที่เสียบไว้ 1 ข้างออกและเหลือบมองแบบอยากรู้อยากเห็นไปยังครอบครัวนั้น และที่ฉันเห็น .... ทำให้ฉันยิ้มออกมาได้ ... กับกริยาของพวกเขาเหล่านั้น
มีความสุขมากมายในวันหยุดที่จะมาถึงจ้าคุณพู่นึกว่าจะเจอชาวต่างชาติแล้วมีโอกาสเป็นฑูตสันถวไมตรีอีกแต่เดินทางคราวนี้กบลับไม่มีโอกาสเจอชาวต่างชาติเหมือนครั้งก่อนโน้นนะคะ
กุศลธรรมทั้งปวงย่อมเจริญเพราะขันติเท่านั้น
มีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยบารมีแห่งขันติ ตลอดไป...นะคะ
มาอ่านงานตะพาบ...ค่ะ
ปอป้าว่า ภาษามือ เป็นภาษาที่สวยงาม...นะคะ