เหตุเศร้าสลดครั้งอดีตทำให้ประตูวังศิลารัศมิ์เสมือนถูกปิดตายจากโลกภายนอกมาสิบเก้าปีแต่นับจากนี้...วังซึ่งถูกครอบครองโดยไม่ชอบธรรมจำต้องเปิดรับการกลับมาของทายาทที่แท้จริงอีกครั้ง!
วรศศิศิลารัศมิ์ เด็กน้อยผู้หายสาบสูญจากอุบัติเหตุคราวนั้นไปอย่างไร้ร่องรอยหญิงสาวเพิ่งได้รู้ว่าบิดามารดาผู้ให้ความรักเลี้ยงดูเธอตลอดมาไม่ใช่ครอบครัวที่แท้จริงแต่พวกเขาให้ความช่วยเหลือเธอไว้หลังจากบุพการีทั้งสองถูกฆาตกรรมอำพรางอย่างเลือดเย็นถึงเวลาที่เธอต้องกลับไปทวงถามความเป็นธรรมเสียที!
ท่ามกลางสังคมหรูหราฉาบหน้าด้วยรอยยิ้ม แต่ไร้ซึ่งความจริงใจ กับการค้นหาผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องร้ายๆทั้งหมด ยังมีมิตรภาพอันแสนหวานจากพี่ชายข้างบ้านที่เคยผูกพันเมื่อครั้งเยาว์วัยไม่ว่าคืนวันแห่งการพลัดพรากจะผันผ่านไปนานเท่าใดแต่ความรักอันมั่นคงต่อน้องสาวในดวงใจ ไม่เคยลบไปจากใจของ ปถวี พิสุทธิ์กุลเมื่อได้พบเธอแล้ว เขาก็พร้อมที่จะปกป้องดูแลผู้เป็นดั่งดวงใจแม้ต้องแลกด้วยชีวิต!
หลังอ่าน
ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องนี้เสียทีค่ะ หอบหิ้วกันมานานแตว่ายังคงดองคอนเส็ปชาวบิงโกคือได้มาต้องดองสักนิดแต่วันนี้ได้ฤกษ์แล้วคือ เอามาแล้วก็อ่านเสียและก็สมใจค่ะเพราะว่าอ่านแล้วอ่านได้ยาวนานและต่อเนื่องดีเพราะความที่อยากรู้ล่ะว่าใครเป็นใคร ทำอะไรและใครเป็นคนบงการฆ่า
สถานการณ์ใน วังศิลารัศมิ์ ที่19 ปีไม่มีงานรื่นเริง ไม่มีการสังสรรค์ เงียบงันเหมือนวังร้าง นั่นเพราะสถานการณ์ของการสูญเสียพันเอกหม่อมเจ้าวรพิชิตศิลารัศมิ์ และไม่กี่เดือนต่อมาโอรสองค์ใหญ่และภริยา ท่านชายวรโชติและ+เอื้องคำ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต พร้อมกับหลานสาวหม่อมหลวงวรศศิก็หายตัวไปจากอุบัติเหตุครั้งนั้น กลายเป็นทุกอย่างมีแต่ข่าวร้าย ณตอนนี้ที่วังเลยมีเพียง หม่อมประไพภริยาของหม่อมเจ้าวรพิชิตเป็นประมุกของวัง และ ครอบครัวของหม่อมชื่น -หม่อมคนรองและครอบครัวคือ คุณชายวรพล +คุณอนงค์และลูกสาววรภัสสรซึ่งถือว่าคุณชายเล็กเป็นคนที่ดูแลธุรกิจของครอบครัวเพียงคนเดียว และคุณประพงษ์ น้องชายของหม่อมประไพ ... เรื่องมาเริ่มต้นด้วยการที่ ปถวีหรือคุณดิน หนุ่มข้างบ้านที่มีบ้านมีรั้วติดวังศิลารัศมิ์ได้จากบ้านไปศึกษายังต่างประเทศหลายปี เมื่อจบก็ได้กลับมาเมืองไทยเขาต้องการเข้าเยี่ยมหม่อมประไพที่วังแต่ปรากฏว่าถูกกีดกันจากนายประพงษ์น้องชาย แต่เขาก็ได้แอบเข้าวังและพบเจอกับหม่อมประไพจนได้และได้รับการขอร้องว่าให้ตามหา นายจักรสุรนารถซึ่งเป็นเพื่อนของบุตรชายให้ได้เพราะว่าเคยได้รับการติดต่อแต่เขาก็หายตัวไป ปถวีเลยต้องตามหาตัวนายจักรให้หม่อมประไพและแล้วก็เจอได้ครอบครัวของนายจักรภริยาคือ บังอร ลูกสาวนงนุชและนิชดาหรือหนูนิดซึ่งคนนี้ล่ะ คือหม่อมหลวงวรศศิที่รอดพ้นจากอุบัติเหตุเมื่อ 19ปีก่อนโดยการช่วยเหลือของนายเวกคนสนิทของคุณชายใหญ่ที่เอาคุณหนูวรศศิมาฝากกับนายจักรเอาไว้พร้อมกับบอกว่าอุบัติเหตุที่คร่าพ่อแม่ของคุณหนูนั้นมันคือการฆาตกรรมและตั้งแต่นั้นมานายเวกและนายจักรก็ไม่ได้พบเจอกันอีกเลยและเมื่อเกิดเหตุแบบนี้แล้วนายจักรตอนนั้นทำงานต่างจังหวัดก็ต้องเข้าเมืองหลวงอีกครั้งเพื่อไปงานสวดศพของคุณชายใหญ่และต้องการจะส่งข่าวต่อให้หม่อมประไพทราบว่าจริงแล้วหลานย่าคือหม่อมหลวงวรศศินั้นอยู่กับเขา แต่ไม่ทันที่จะได้ติดต่อกันเขาก็ถูกคนทำร้ายปางตายและก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกมาและไม่ได้ติดต่อใครในวังศิลารัศมิ์อีกเลยนี่เลยเป็นสาเหตุให้แรกๆ ที่เขาไม่อยากรับการติดต่อใดๆกับปถวีเพราะคิดว่าคนของหม่อมประไพอาจจะมทำร้ายตนและครอบครัวได้ แต่เมื่ออธิบายของปถวีว่าหม่อมประไพป่วยและร้องขออยากพบหน้านายจักรเขาก็เลยต้องตามหาและเมื่อพบเจอเลยบอกถึงความต้องการของเขา และเมื่อรู้ว่าหม่อมหลวงวรศศิคือ นิชดา หรือหนูนิด ทั้งหมดก็เลยได้รับรู้ความเป็นมาเป็นไป และเจ้าตัวคือหนูนิดเองก็ต้องการไปพบเจอกับหม่อมย่าของเธอ และการเข้าไปแสดงตัวนี้เองที่จะเป็นทางเลือกที่ดีในการไปไขข้อข้อใจเรื่องการฆาตกรรมพ่อและแม่ ส่วนปถวีนั้นนอกเหนือจากการช่วยเหลือหม่อมประไพผู้ใหญ่ใจดีของเขาแล้วเขายังมีความรู้สึกผูกพันกับหนูนิด หรือ วรศศิ ไม่เสื่อมคลายและนั่นเขาเองจะไม่ปล่อยให้เธอห่างหายไปไหนแต่จะปกป้องเธอด้วยหัวใจและแรงกายของเขาให้ห่างจากฆาตกรใจร้ายคนนั้น คนในวังศิลารัศมิ์
เรื่องนี้ขอบอกว่าอ่านแล้วสนุกดีค่ะตามสไตล์งานที่สนองความอยากรู้ มีคดี มีข้อข้อใจไขกันไปมาตั้งแต่ต้นยันท้ายเรื่อง ใครๆบอกว่าเดาถูกว่าเป็นใครแต่ว่าเรากว่าจะเดาถูกก็ดันมาตอนปลายๆ แล้วล่ะค่ะอาจจะด้วยเพราะว่าอ่านไปเรื่อยๆ ไม่มุ่งเน้นว่าใครเพราะใจเราใส่ลงไปกับตัวละครไปหมดเลยถือว่าอ่านได้เพลินดี และที่แปลกสำหรับตัวเองคืออ่านไปแล้วกลิ่นพีเรียดออกฉ่ำเลย ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ย้อนกลับไปยุคไกลโพ้นเลยแม้แต่น้อยเพราะมันเป็นแค่เพียงต้นๆ ปีพ.ศ.2500 เท่านั้นเอง เรื่องราวก็ไม่ได้ย้อนเสียเก่าแก่นะคะแต่อิงความเก่าใหม่ผสมผสาน ตัวละครแต่ละตัวก็ธรรมชาติมากว่าไปชอบเกือบทุกตัวเลยล่ะค่ะโดยเฉพาะกับความเป็นธรรมชาติของ นงนุช พี่สาวบุญธรรมของนางเอกนั้นถือว่าเป็นสีสันดีชอบที่นางเป็นตัวของตัวเองก๋ากั๋นแต่ไม่ไร้มารยาทต่อปากต่อคำได้แบบไม่ใช่ ผญ.น่าเบื่อแบบผ้าพับไว้ คือชอบเลยค่ะสำหรับหญิงงสไตล์นี้ ...สำนวนสไตล์การเขียนนั้นหลังจากที่รู้จักนักเขียนมาเบาๆผ่านทางเฟสเลยทำให้เห็นบุคลิกลักษณะของคนเขียนเวลาอ่านเลยเหมือนถูกถ่ายทอดออกมาจากงานเขียนค่อนข้างตรง แบบว่าไม่เวิ่น ไม่เยิ่นแต่ว่าเป็นแนวอ่านสนุกการดำเนินเรื่องไวเรียกว่าถูกใจตัวเองค่อนข้างมากแถมตอนนี้นั้นเรื่องนี้อ่านเสร็จแล้วกลิ่นละครช่องสามวิกหนองแขมออกเลยนะคะเนี่ยแบบว่าพล็อตน่าเอาไปทำละครได้เลยล่ะค่ะ โอ้วและก่อนจะไปเพลงในหนังสือที่อ้างอิงถึงกำลังติดหู ติดปากตัวเองเลยล่ะค่ะ ต๊ายส่องแล้วมองวัยตัวเองร้องเพลงนี้ได้ก็จัดว่าเป็นชีวิตพีเรียดได้เหมือนกันนะคะ
**คนจะรักกัน ผูกพันหมายมั่นลงไป จะบุกน้ำลุยไฟ ปล่อยให้ฉันไปตามปรารถนา ..ใครร้องได้ เราจะมีชีวิตพีเรียดด้วยกันนะคะ