<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
22 เมษายน 2552

:: แหง่ ไม่แหง่ เค้าแลกันตรงไหนน๊อ ::









สาเหตุที่อยากทำให้เขียนถึงลูกแหง่ .. อันนี้ก็เนื่องจากเพิ่งจะได้ดูหนังเรื่อง Failure To Lunch มาเมื่อค่ำวานนี้ ดูแล้วเป็นได้มานั่งนึกถึงตัวเองอ่ะค่ะว่า เอ๊ แล้วเราล่ะเป็นลูกแหง่หรือเปล่า ?? หรือว่าเคยเป็นหรือเปล่า ??



เรื่องราวของหนังนั้นก็กล่าวถึงตัวพระเอก ทริป ที่แสดงด้วย Matthew McConaughey ซึ่งถือว่าเป็นหนุ่มอายุอานามก็ปาเข้าไป 30 กว่าๆ มีงานการทำ มีความรับผิดชอบที่เรียกว่าน่าจะแยกตัวไปอยู่คนเดียวได้แล้ว แต่เค้าก็ไม่ได้แยกตัวไปอยู่เองด้วยเหตุผลสมควรรองรับ แต่กลับจะเลือกอยู่กับพ่อแม่ ทำตัวเป็นเด็กไปวันๆ จีบหญิง ทิ้งหญิง กิน นอน เรียกว่าสบายทุกอย่างเพราะว่าพ่อแม่ดูแล จนวันหนึ่งพ่อแม่เริ่มจะละอาใจกับพฤติกรรมของลูกชายคนนี้ ด้วยเพราะว่าเป็นเรื่องแปลกที่ลูกอายุป่านนี้แต่ดันยังอยากอยู่ร่วมชายคากับพ่อแม่อยู่ ... จนวันหนึ่งพ่อแม่เห็นควรว่าควรจะทำอะไรสักอย่างที่ทำให้ลูกชายนั้นได้ไปมีชีวิตของตัวเองได้แล้ว ซึ่งวิธีที่จะ Kick Out ลูกชายออกไปได้ก็โดยการใช้ตัวช่วย ซึ่งก็คือ พอลล่า แสดงโดย Jessica Parker



พอลล่า ... มีหน้าที่จะต้องทำทุกอย่างตามแผน คือ การให้พระเอกตกหลุมรักเพื่อที่เค้าจะได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง รับผิดชอบตัวเองเหมือนคนอื่นๆ ได้สักที หรือพูดง่ายๆ ว่าจะได้ออกจากบ้านพ่อแม่ได้สักที ... ซึ่งพอลล่าเองก็จะต้องทำทุกอย่างชนิดที่ว่านอนกับพระเอกเพื่อจะได้สำเร็จตามแผน และแล้ว ... ด้วยเพราะความรับผิดชอบอย่างที่เธอตกลงเอาไว้กับพ่อแม่ของทริป แต่ก็มีพลาดชนิดที่ว่าเธอเองก็ต้องมาเสียศูนย์ด้วย นั่นก็คือ ตกหลุมรักทริปจริงๆ เข้าให้ซะแล้ว


เรื่องราวของความรักแบบวางแผนอย่างนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าสุดท้ายตอนจบจะเป็นยังไง ... แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกของหนังหมดลง แต่กลับมีเสน่ห์ด้วยเพราะความเรียบง่ายนี่ล่ะ ไม่ถึงกับดีมากแต่ว่าถ้าอยากได้ความเพลินและลืมปัญหาเรื่องสีได้บ้างก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แนะนำค่ะ




เรื่องราวของหนังก็มีแค่เท่านี้ แต่ที่ทำให้คิด .. ก็เรื่อยเปื่อยตามประสาฉันล่ะคะ เพราะคิดตามหนังล่ะว่า "เอ แล้วสำหรับตัวเองล่ะเป็นยังไง เป็นลูกแหงหรือว่าเคยเป็นหรือเปล่า"..จะว่าไปแล้วไปปฏิเสธล่ะค่ะว่าอาจจะมีบ้างที่เคยเป็นลูกแหง่ และด้วยเหตุผลที่ทำให้ฉันคิดว่าฉันเป็นลูกแหง่ ก็อาจจะเป็นเพราะวิธีการเลี้ยงดูของพ่อแม่บวกกับฉันเองเป็นลูกสาวคนโต หัวอ่อน สั่งอะไรก็ทำตาม (จริงจริ๊งงงงงงงงงง) เพราะฉะนั้นก็เลยอาจจะทำให้นิสัยของฉันเป็นพวกพึ่งพ่อแม่จนหยดสุดท้ายทุกที แต่นั่นล่ะค่ะมันก็แค่ช่วงเด็กๆ หรอก เพราะโตมา พ่อแม่ก็คงตระหนักได้ดีแต่ก็ยังไม่พ้นที่จะทำอะไรแต่ละทีก็ต้องปรึกษาหารือกับท่านทุกทีไป จนเรียกว่าถ้าไปอยู่ด้วยตัวเองจะรอดหรือเปล่า??? ...




คิดไปคิดมาย้อนกลับไปคิดถึงช่วงหนึ่งของการเริ่มต้นเป็นผู้ใหญ่ในช่วงแรกเริ่มของตัวเอง ... การได้ออกไปเรียนหนังสือ แม้จะไม่พ้นจากบ้านไปนัก แต่ก็พอทำให้ฉันได้เริ่มต้นกับการได้คุ้นเคยกับสังคมใหม่ๆ ไม่เฉพาะพ่อแม่ที่จะมาดูแล แต่ต้องกลับมาดูแลตัวเองไม่ว่าจะเป็น ซักผ้า อ่านหนังสือ หาอาหารใส่ท้องใส่ปาก จัดการหน้าที่ของตัวเองไปตามต้องการ .. แรกเริ่มอาจจะลำบากสักหน่อยเพราะว่าไม่ค่อยได้ทำเองเท่าไหร แต่ว่าอยู่ไปอยู่มา เอ๊า เราชอบหนิ เลยกลายเป็นว่าการอยู่บ้านเสมอๆ พอได้แยกมาอยู่กลับสนุกและทำให้ไม่อยากกลับบ้านซะงั้น .. (เอาเข้าไป)



หลังจากนั้นก็เริ่มทำตัวอยากออกจากบ้านอีกหน ด้วยการเดินสายหางาน และก็ได้ทำงานที่ไม่พ้นสายงานที่พ่อแม่เอ่ยปากอีก แต่ก็นั่นแลด้วยเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็เลยต้องตกปากรับคำ เพราะเงินและการได้เป็นอิสระบ้างเล็กๆ แต่ก็เหมือนที่บอกว่าไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไปไหนไกลๆ ยิ่งจากมาเมืองหลวง ขนาดบอกว่าไม่ต้องห่วงเค้าก็ยังไม่วายเลยต้องย้ายมาอยู่กับพ่อ ณ คอนโดแห่งหนึ่ง และแล้วก็ด้วยเหตุอันมหึมา .......ก็ต้องย้ายจากบ้านจากเมืองนอกไปสู่และสู้กับอ้อมอกของอีกฟากฝั่งยุโรป เมืองแห่งจักรยาน เมืองแห่งกังหัน เมืองแห่งรองเท้าไม้ มันก็เลยต้องกลายเป็นว่าไปอยู่ไกลบ้านไกลเมืองอีกนานหลายปี




ว่าไปแล้วเพราะไปอยู่ในที่ที่ห่างไกลบ้านมันเลยทำให้เราโตในความคิด โตในทางร่างกาย (ที่ขยายใหญ่แบบไม่เจตนา) มันก็เลยทำให้เราเริ่มจะเห็นว่า การห่างพ่อแม่นั้นไม่ได้มีแต่เรื่องร้าย แน่นอนความคิดถึงย่อมมีถึงกัน เพราะยิ่งห่างเรายิ่งรักและคิดถึง แต่ว่าสิ่งดีๆ ก็มีคือ ทำให้เรารู้จักตัวเอง ทำให้เราช่วยเหลือตัวเองได้ ตัดสินใจกับเรื่องง่ายๆ กับเรื่องตัวเองได้ง่ายๆ ในตรรกะที่ไม่ต้องการอะไรมากมายมาเป็นบรรทัดฐาน เรียกว่า กลายไปเรียนรู้เอาลักษณะนิสัยฝรั่งมาจนกลายเป็นว่าตอนนี้เริ่มจะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และกลายเป็นว่าบางครั้งเรารับไม่ได้กับเรื่องของการอยู่กับคนหมู่มากแล้วเกิดปัญหา แน่นอนค่ะว่าหลีกไม่พ้นกับความรำคาญบานตะไทของการเรื่องมากกับฝูงมหาชน ( เอ๊า เป็นซะงั้น )



และนี่ล่ะมั้ง ... คงเป็นแกนของเรื่องที่พ่อแม่ของ ทริป อยากให้ลูกชายแยกออกจากบ้าน เพราะอาจจะส่งผลให้เหมือนที่ฉันเป็น คือ แยกบ้านไปซะ จะได้โตสักที ซึ่งตรงนี้ต่างกับพ่อแม่ฉันล่ะเพราะว่าเค้าก็ไม่ได้บังคับ แต่สำหรับตัวเองการแยกบ้านมันก็คือเรื่องใหญ่เรื่องท้ า ท า ยอีกรอบ ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะกลายเป็นว่าทำให้ฉันได้รู้จักตัวเองได้บ้าง และมันก็ได้ผลจริงๆ นะ เพราะตอนนี้เรียกว่าจะให้กลับไปเหมือนเดิม อยู่กับพ่อแม่ รอให้เค้าเรียกกินข้าว ชวนไปนั่นไปนี่ทั้งๆ ที่ไม่อยาก ก็ไม่ต้องอีกแล้ว แต่ว่าถ้าเป็นบางทีล่ะก็พอไหว แต่จะให้เหมือนเดิม คงไม่ได้แล้วล่ะ



ว่าไปมันก็ไม่ได้เกี่ยวเท่าไหร่หรอกว่าการอยู่ร่วมกับพ่อแม่หมายถึงลูกแหง่ เพราะเหตุผลมันมีอีก 108 เพราะการเป็นลูกแหง่ อยู่ที่ไหนก็ยังเป็นได้ถ้าหากว่าต้องพึ่งพาพ่อแม่อยู่ตลอดเวลา แต่ว่าการแยกบ้านไปมันก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลง เพราะถึงแม้ยังไง ถึงจะมีปัญหาบ้าง การนึกถึงพ่อแม่ พี่น้อง คนในครอบครัวเป็นอะไรที่ยังคงอยู่ในสารบบที่ตัดไม่ขาด เพราะยังไงคนในครอบครัวก็ย่อมดีและไว้วางใจกันได้เสมออย่างที่ไม่ต้องระแวงว่าเค้าจะหาผลประโยชน์อะไรกับเราหรือเปล่า ...การคิดถึงพ่อแม่และการอยากได้ไอเดีย หรือว่าความเห็นจากท่านเสมอๆ นั้นไม่ได้หมายถึงการเป็นลูกแหง่แต่อย่างใด เพราะเหมือนที่บอกว่าคงไม่มีใครที่จะช่วยเหลือคุณอย่างปราศจากผลตอบแทนอย่างท่านแน่นอน เพราะการจะเป็นลูกแหง่ในแง่ Negative มันต้องพึ่งพากันแบบหยดแรก - หยุดสุดท้าย ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องเงินทอง (ของนอกกายที่ใครก็ต้องการ) เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าคุณๆ จะอยู่ร่วมบ้านกับพ่อแม่พี่น้องอยู่ ก็เป็นเรื่องดีนะคะ เพราะใครๆ หลายคนที่แยกบ้านไปอาจจะกำลังต้องการก็ได้ ยิ่งในยามที่มีปัญหาอยู่ การได้อยู่ร่วมกับครอบครัวก็เป็นอะไรที่ดีไม่น้อยเลยคะ ..



ตอนนี้ไม่ได้เป็นลูกแหง่แล้ว งั้นของตัวไปเป็นเมียแหง่ๆ แง่งๆ ก่อนนะคะ เช้าแล้ว ไปทำกาแฟก่อนค่ะ




Tears (Acoustic Guitar) - Windstruck








Create Date : 22 เมษายน 2552
Last Update : 22 เมษายน 2552 8:36:45 น. 92 comments
Counter : 1225 Pageviews.  

 

emoสวัสดีครับ




มีความสุขมาก ๆ รักษาสุขภาพ นะครับ



โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:8:18:27 น.  

 
ได้เจิม..หรือเปล่า

หนังน่าสนใจค่ะ

สำหรับเรา..เราว่าเราไม่ใช่ลูกแหง่แหละ
(ทั้งที่พ่อคงอยากให้เป็น 555+ แต่แม่เราค่อนข้างให้อิสระ)

แต่เราก็รักแม่มากๆ นะ คิดถึงกันตลอด ฮิ้วววววว


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:8:18:39 น.  

 
น่าดูจังเลยค่ะ วิสกี้พลาดเรื่องนี้ไปได้ไงเนี่ย สงสัยต้องรีบหามาดูซะแล้ว

วิสกี้ไม่ได้เป็นลูกแหง่เลยค่ะ ไม่มีโอกาส คิคิ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:8:19:39 น.  

 
เรื่องนี้แม้ผมชอบพระเอกแต่ไม่ได้ดู

พี่สาวอย่าว่าผมนะ พูดกง ๆ ผมไม่ชอบนางเอกคนนี้เลยจริง ๆ


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:8:28:45 น.  

 


รีบแปะก่อน ... บล็อกคุณพู่เนี่ย จะได้เม้นท์แรก ยากมาก....เพื่อนเยอะ

สำรวจตัวเอง ... ไม่คิดว่าจะเป็นลูกแหง่นะครับ เพราะเร่ร่อน ออกจากบ้านตั้งแต่อายุสิบห้าสิบหก...(อยู่หอ)

จบ ม.ปลาย ก็เป็นตำรวจ ไปอยู่อีสานหลายปี

จากบล็อก ... ก็ คบกันแล้วนี่นา ถ้าไม่น่าคบ คุณพู่คงไม่คบหรอก ใช่ไหมครับ

เอ้อ...พูดจริง ทำจริง ไม่สงสัยครับ.... สงสัยตรงรักจริงน่ะ.... รู้ได้ไงครับ

มีความสุข รักษาสุขภาพนะครับ

ปล.ช่วงนี้ร้อนจัดจริง ๆ ค่าไฟคงบานเช่นเดียวกันครับ


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:8:28:56 น.  

 
555 จบได้แหล่มมากๆเลย..

ผมว่าการที่เราผูกพันธุ์กับพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กทำให้เราไม่อยากหายไปจากท่านเลย
การที่เราต้องไปอยู่ที่ไหนไกลๆพ่อแม่..ผมเองก็เหมือนขาดความมั่นใจเหมือนกันนะ


ทุกวันนี้ขนาดทำธุรกิจส่วนตัวเอง...เวลาตัดสินใจอะไรใหญ่ๆยังต้องมีแอบถาม
เฮ้อ...อย่างนี้เรียกว่ายังติดพ่อแม่อยู่หรือเปล่าเนี่ยครับ..



โดย: Little Knight วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:8:31:23 น.  

 
พี่ยังชอบเป็นลูกแหง่ ของพ่อแม่เสมอเลยจ้า


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:8:32:37 น.  

 


สวัสดีค่ะ คุณพู่

ครอบครัวไทย เป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น ลูก ๆ ก็เลยกลายเป็นลูกแหง่ กันหมด

มีความสุขมากมากนะคะ



โดย: อิ่ม_Aim วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:9:04:48 น.  

 
อืม คิดว่าสังคมไทย ครอบครัวไทย ยังไงลูก ๆ หลาน ๆ เวลาจะทำอะไรสักอย่าง ก็ยังคงพึ่งพาพ่อแม่ เป็นอันดับแรกในการตัดสินใจแน่นอนค่ะ เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง


โดย: ตะไคร้หอม วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:9:20:22 น.  

 
ไม่รู้ว่าเรียกว่าลูกแหง่หรือเปล่า
เพราะไม่ยอมออกจากบ้านไปอยู่ไหนไกลๆ ค่ะ (ยกเว้นไปเที่ยว)
เพราะที่บ้านนั้นแสนสุขสบาย...


โดย: chenyuye วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:9:28:32 น.  

 
มาดูสาวน้อยแต่ตัวนะไม่น้อยฮิฮิ ว่าเป็นลูกแห่งจริงอ้ะป่ะ.. ลุงกับหนัง(ภาพยนต์)ไม่ค่อยได้สัมผัสกัน แต่กับหนังเหี่ยวๆของลุงนี่ ดูเมื่อไหร่ก็ใกล้วัยตกกระมากขึ้นทุกทีฮ่าๆ วันนี้เขาว่าอากาศจะร้อนมากๆ ลุงเลยท้าทายนิด ขอไปนอนพิสูจน์ที่เมืองกาญจน์ซักสองคืน พรุ่งนี้ถ้าตื่นเร็วจะขอชมพระจันทร์ยิ้มซะหน่อย แต่ถ้าคืนนี้ร่ำน้ำสีอัมพันมากก็คงได้เป็นลูกพระอาทิตย์อย่างเคยฮิฮิ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:9:40:06 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณพู่

ครอบครัวเป็นอะไรที่สำคัญที่สุดสำหรับเรานะ
มีเรื่องทุกข์ใจหรือสุขใจ ทุกคนในครอบครัวจะร่วมทุกข์และสุขกับเรา ฉะนั้น เราไม่สามารถแยกจากครอบครัวได้เลย



โดย: paerid วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:9:57:31 น.  

 
ไอ้เมียแหง่ๆ น่ะเข้าใจ
แต่แง่งๆ ด้วยนี่...เป็นขิงหรือเปล่าคะ

พี่น้องอื่นๆ เขาโยกย้ายไปแล้วค่ะ สุดสัปดาห์หรือนานๆ จะกลับมาที
การที่อยู่ไกลๆ กัน ก็ทำให้รักกันดีค่ะ
ส่วนเราออกแนวลูกอกตัญญู เพราะอยู่แบบขิง เอ๊ย แง่งๆ กับพ่อแม่ตลอดด้วยความที่เจอกันทุกวัน

ตอนนี้ที่บ้านจำเป็นต้องจ้างเด็กไว้สองคน คนนึงทำงานบ้าน อีกคนดูคุณตา
แต่ก็อยากทำอะไรอะไรเองมากกว่า เพราะวันข้างหน้าที่หมดความจำเป็นจะต้องใช้
จะได้ทำเองได้ ไม่ลำบากน่ะค่ะ


โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:10:04:43 น.  

 
ตอนที่ดูหนังเรื่องนี้ ก็มาคิดเหมือนกันค่ะว่าวัฒนธรรมตะวันตกกับตะวันออกมันช่างแตกต่าง

เพราะทางนั้น อยากผลักลูกให้ออกไปอยู่เอง รับผิดชอบตัวเอง

แต่ทางตะวันออก เอาแค่ไทยก็ได้ พ่อแม่อยากให้ลูกอยู่ด้วย ถึงจะแต่งงานแต่งการไปแล้วก็เถอะ

จะว่าไปบางทีนี่ก็คงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทยบางคนไม่โตเหมือนกัน

เรื่องบางเรื่องของทางตะวันตกที่รัชชี่ชอบคือ การสอนให้เด็กเรียนรู้ด้วยตัวเอง พึ่งพาตัวเองได้ อยากได้อะไร อยากซื้อหาอะไร ก็หาเงินเองเรียน มันเป็นการสร้างการสู้ด้วยตัวเองในระยะยาวนะ รัชชี่ว่า พร้อม ๆ กับเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง

แต่ทางตะวันออกก็ดี คืออบอุ่น พ่อแม่คอยดูตลอด (เผลอ ๆ ดูมากไปด้วยซ้ำ)

อย่างรัชชี่นี่จะว่าไป เรียนปริญญาโทก็ยังขอตังค์พ่อแม่ใช้อยู่ เพราะจบตรีแล้วก็ทำงานแค่ปีเดียว เมื่อเรียนต่อก็ต้องขอพ่อแม่

ถ้าเป็นตะวันตกเหรอ หาเงินเองเรียนตั้งแต่ high scholl ละมัง


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:10:10:47 น.  

 
ชอบหนังเรื่องนี้ค่ะ น่ารักดี


โดย: ถั่วงอกน้อยค่ะ วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:10:27:39 น.  

 
เรื่องนี้น่าดูมากๆๆๆค่ะเพราะชอบนางเอก

ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังนะคะ


โดย: Baby I love you วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:10:31:55 น.  

 
หนังน่าสนุกจัง ต้องไปหาดูซะแล้ว


โดย: Mpum วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:10:35:48 น.  

 
เข้ามาดูว่าใครหนอ คือ ลูกแหง่ ??


คำว่า “ลูกแหง่” น่าจะโดนบัญญัติศัพท์โดยลูกไม่แหง่นะคะคุณพู่


อาจเกิดจากอารมณ์อิจฉานิด ๆ หมั่นไส้หน่อย ๆ ที่เห็นลูกแหง่มีครอบครัวที่เอาใจใส่ พึ่งพาอาศัย รักใคร่กันดีอยู่


มายกมือว่าเป็นลูกไม่แหง่ และสารภาพว่าแอบอิจฉาพวกลูกแหง่นะเนี่ย อิอิ



โดย: Oops! a daisy วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:10:54:38 น.  

 
เป็นลูกนกโผผกจากรวงรัง ตั้งแต่ปี 1 มหาลัย ... สุดสดใสซาบซ่า ...

จากนั้นเป็นต้นมา ... เป็นมนุษย์รักอิสระเสียจริงๆ เลยค่ะ

ปัจจุบัน กลับไปอยู่ร่วมรังกับที่บ้าน แต่ก็ยังอิสระอยู่ดี ก็โตจะปูนนี้แล้วอ่ะนะค้า


โดย: ดวงลดา วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:10:57:16 น.  

 



จากบล็อก ... ช่วยค้นหาให้ทีได้ไหมครับ ว่าคนไหน


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:11:15:04 น.  

 
เอ้อ หนูว่านะ ถ้าเป็นเมืองไทยคงไม่แปลกเท่าไหร่ที่ลูกอายุ 30 จะยังอยู่บ้านเดียวกะพ่อแม่นะ แต่สำหรับเมืองนอกคงไม่ใช่มั้ง (อันนี้คิดเอาเอง)


ส่วนตัวยอมรับว่าติดแม่เลยค่ะ เคยต้องไปเรียน ตจว อยู่ปีนึง โห มันทรมานหัวใจชะมัด ไปแรกๆ นี่นอนร้องไห้เลยล่ะ กลับมาบ้านทีแทบไม่อยากกลับไปเรียนเลย แล้วไม่ใช่แค่หนูติดแม่นะ คุณนายเค้าก็ติดหนูเหมือนกัน 5555 เลยกลายเป็นว่าพอแต่งงานเลยต้องให้คุณแฟนย้ายมาอยู่บ้านหนูแทน 55555


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:11:17:40 น.  

 
เราแหง่ ซิเหมอ จนป่านนี้ยังไม่ได้ไปไหนคนเดียวเลย
แหง่หรือเหงาก็ไม่รู้


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:11:18:35 น.  

 
หุหุ

อยากเป็นลูกแหง่จัง
เหนื่อยกับการพึ่งพาตัวเองเหลือเกินแล้วค่ะ


โดย: AB_PAE วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:11:37:15 น.  

 
หนังเรื่องนี้มาดามน่าจะชอบนะครับเนี่ย
เดี๋ยวไปหาซื้อแผ่นมาให้เธอดูดีกว่า อิอิอิ

ปล. ผมฝันเล็กๆเอาไว้ว่า
อยากจัดปาร์ตี้เล็กๆที่ไร่แสงอรุณ เชียงของจังเลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:11:41:08 น.  

 
สวัสดีวันพุธนะค๊า


โดย: ป้าแก่.. (elastigirl ) วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:11:43:24 น.  

 
55555 ชอบค่ะ ชอบๆ
ตรงที่ไม่ได้เป็นลูกแหง่แล้ว
แต่เป็นเมียแหง่ แทน ฮิๆ ก้ะมีกันสองคน ไม่ให้อ้อนเค้าแล้วจะอ้อนใครอ่ะเนาะพี่พู่

ไม่ได้แวะมานานเยย ช่วงนี้เอ๋น้อยปั่นๆๆๆๆงาน จะได้ไปเที่ยวอย่างสบายใจค่ะ
ไปพรุ่งนี้แย้ววว
พี่พู่สบายดีน้า
วันนี้เห็นเค้าบอกว่าจะร้อนที่สุดในปี
เอ๋น้อยว่าจะเก็บข้าวของประดามี
ไปทำงานที่ร้านกาแฟในห้างซะหน่อย
อาศัยแอร์เค้า ประหยัดเราไปได้หลายชม.ฮิๆ แถมไม่เปลืองน้ำมันด้วย เพราะอยู่ตรงนี้เองค่ะ คนก็มะค่อยมี

สุขสันต์วันร้อนๆ ทำใจเย็นๆไว้ก่อนน้าค้า ^0^


โดย: adaytrip วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:12:38:13 น.  

 
ไม่เป็นลูกแหง่แต่เป็นเมียแหง่เหมือนกัน ติดสามีอ่ะ ฮ่าๆๆ

ป.ล. เพิ่งรู้ค่ะว่าคนข้างตัวของคุณ JewNid เป็นคนดัชช์ มิน่าก่อนหน้านี้ถึงไปอยู่ที่เนเธอร์แลนด์เนอะ นึกว่าไปเรียนหรือทำงานซะอีกค่ะ


โดย: เบบูญ่า วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:13:32:59 น.  

 
โหย๋ จำได้จิคะ...ลืมกันได้งายอ่าาาาาา

สบายดีป่าวคะ หนมชั้นยุ่งๆ ปล่อยบล็อกร้างไปเยย พอกลับมาแต่งบล็อกดันเผลอลบโค้ดลิ้งค์ไปบล็อกเพื่อนๆ พี่ๆ อีกง่ะ ตอนนี้ก็ต้องตามๆ จากบ้านนู๊นไปบ้านนี้เอา ดีใจจังเลยค่ะที่พี่ JewNid ไม่ลืมกัน


โดย: ขนมชั้น...เธอห้ามกิน!!! วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:14:03:19 น.  

 


โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:14:15:05 น.  

 


โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:14:15:44 น.  

 
ถุงง่ะ ยังเป็นลูกแหง่ เกาะแม่อยู่เลย


โดย: ถุงก๊อปแก๊ป วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:16:35:33 น.  

 
นุ้ยว่านุ้ยเป็นลูกแหง่ตัวแม่เลยล่ะค่ะคุณพู่ อิๆๆ

มาอยู่นี่นะ เหงาๆๆ คิดถึงป๊ากับม๊ามากๆ (ยิ่งปีแรกยิ่งคิดถึงทุกวัน) แต่พอมาอยู่ที่นี่ปีที่สองแล้ว ความคิดถึงมันก็ยังอยู่ แต่ไม่รุนแรงเหมือนปีแรกนะคะ แล้วก็รู้สึกว่า ความรักของพ่อแม่นี่ยิ่งใหญ่จริงๆ ไม่มีสิ่งใดเปรียบได้เลย

ส่วนพี่น้อง ถึงอยู่ด้วยกันทะเลาะกันบ่อย แต่ก็ไม่ต้องคอยกังวลว่ามันจะคิดร้ายกับเราไม๊ สนิทใจในการปรึกษามากกว่ากันเยอะเลยเนอะ

นุ้ยเป็นเหมือนคุณพู่เลยง่า... เบื่อความเรื่องมากของฝูงมหาชน อิๆๆ


โดย: N_Nirvana วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:16:39:04 น.  

 
หวัดดีเจ้าคุณพู่

นานนานจะโผล่มากลางวันสักที ขำคุณพู่เรื่องโกรธคอมหน้าดำ หน้าแดง เราก็เป็นบ้างเหมือนกันนะ โดยเฉพาะคอมที่ทำงาน อย่างตอนที่ยุ่งมากๆคนนั้นก็จะเอาไอ้นั่น คนนี้ก็จะเอาไอ้นี่ แต่คอมกับระบบอะไรเกิดช้ามากๆต้องรีบูทเครื่องใหม่ทำให้เสียเวลาอะไรแบบนี้ แบบว่าเซ็งอย่างบอกไม่ถูก ก็ได้แต่ถอนหายใจยาวๆแล้วก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วก็เดินไปหาอะไรที่ห้องครัวที่ทำงานกินระหว่างรอ 555 เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เนอะ

เรื่องนี้ดูแล้วสองปีเห็ยจะได้ โหดูจนเกือบลืมไปเลยว่าได้ดูแล้ว พี่แมท เป็นบ่าวที่น่ารักมั่กๆ อันนี้เอาแต่รูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียวเลยนะ โหะ โหะ โหะ

ตอนนี้ได้เวลากินกลางวันแล้วหล่ะ


โดย: prunelle la belle femme วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:17:11:16 น.  

 
คุณ Jewnid ขา... เรื่องที่เขียนน่ะ ไม่ละเอียดหรอก.. เขียนเท่าที่จำได้.. ถ้าจะเอาละเอียดจริงๆ ต้องไปเอาไดอารี่มาดูบทกันเลย..

ถ้าแบบนั้น.. 10 ตอน...ก็คงไม่จบ.. ประเภท วัยรุ่น วุ่นรัก.. หุหุ


โดย: ป้าแก่ (elastigirl ) วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:17:16:51 น.  

 
น้องใหม่ชาว blog แวะมาทักทายค่ะ ฝาก blog นู๋ไว้ด้วยนะคะ


โดย: Sweety PB วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:18:14:16 น.  

 
สวัสดีค่ะ
แวะมาเพราะว่าอยากรู้ว่าตัวเองเคยเป็นลูกแหง่ป่าวอ่ะ
จะว่าไปทุกวันนี้ถึงจะ อยู่คนละบ้านกับพ่อ แม่
แต่เวลามีเรื่องที่คิดไม่ออก บอกไม่ถูก
แค่ขอได้ไปเห็นหน้า พ่อแม่ก็สบายใจแล้วค่ะ
ไม่ต้องพูด ไม่ต้องปรึกษาอะไรทั้งนั้น
แค่เห็นหน้าพ่อ แม่ก็รู้สึกดีแล้วค่ะ
ไม่รู้ว่าแหง่ป่าวคะ


โดย: Ann (ann_shinchang ) วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:18:39:34 น.  

 
สวัสดียามเย็นค่ะ...
ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ ชอบที่พี่แมทแกเล่นเนียนๆ ดีมากๆ เลย...
จริงๆ ชอบเรื่องอื่นของแกด้วย เรื่องฮาวทูลูสอะกายอินเท็นเดย์ส...เรื่องนั้นชอบนางเอกด้วย น่ารักมากมาย...
พี่แต่งงานเร็ว แต่งแล้วเขยเข้าบ้านด้วยค่ะ ตอนแรกเป็นลักษณะลูกแหง่เหมือนกันเพราะรายได้ยังน้อยอยู่ แต่ช่วงหลังๆ กลับกลายเป็นดีคือได้ดูแลแม่ซึ่งป่วยและต้องการคนดูแลใกล้ชิด...
สังคมไทยน่าจะดีกว่าฝรั่งตรงที่พ่อแม่ที่ชราไม่ต้องไปอยู่บ้านคนแก่ แต่มีลูกหลานคอยดูแล...มันเหมือนเป็นพันธะทางใจนะคะ...น่าแปลกที่พี่ชายพี่ทั้งสองคน (ซึ่งโต เล่าเรียน และใช้ชีวิตทำงานในเมืองนอกมาตลอด) คิดไม่เหมือนพี่...เอ๊ะ หรือว่าไม่แปลก เพราะนิสัยคนไทยที่ไปอยู่ต่างแดนนานๆ ส่วนใหญ่มักจะชอบคิดแบบฝรั่งไปแล้ว...
คุณพู่เขียนบล็อกนี้ดีจังค่ะ เหมือนไดอารีแบบมีสาระและข้อคิดไปในตัว...
สุขสันต์วันเอิร์ธเดย์ค่ะ...


โดย: Devonshire วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:19:11:39 น.  

 
คุณพู่จ๋า

ดาวจ๋าได้มันเทศมาเต็มเลย..แต่ทำมัสมั่นไม่เป็น ...
ทำได้แค่ต้มกับขิงใส่น้ำตาลทรายแดงค่ะ ..

ทำมาหม้อยังกับยักษ์...
เลยเดินไปให้บ้านใกล้เรือนเคียงช่วยทานมาค่ะ
มาทานกับดาวจ๋าค่ะ





โดย: ดาวจ๋าคนซนๆค่ะ (satineesh ) วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:19:29:23 น.  

 

ไชโยได้เลือดครบ 5 ถุงแย้ว
คุงอุ๊โทรมาบอก ว่าคุงหมอนัดแล้ว
เพื่อนๆตามไปให้ กำลังใจที่บล๊อกคุงอุ๊ได้เยย

ขอบคุงทุกคน
ขอบคุณพระเจ้าคับ


แถมๆๆๆๆ


การบ้านให้คนน่ารักทำ TAG ของคนที่เรารักมาส่ง อิๆๆๆ
(ใครไม่มีแฟนเอาคุงพ่อคุงแม่คุงลูก ก็ล่าย)




ตัวอย่าง TAG ภรรยาของโจ
ขอเปลี่ยนจาก เธอ เป็น เทอ จะได้อารมณ์กว่า ก๊าก!!!
1.เทอ บอกว่า ข้าวเหนียว ไม่ใช่ ข้าว อิๆ
2.เทอ เคยโกรธกับพี่สาวตัวเอง แล้วไม่พูดกัน 3 ปี
3.เทอ ไม่กินข้าวร้านที่แปะสติกเกอร์พรรคการเมืองของทักษิณ
4.เทอ รักเด็กที่นอนเป็นทารกเท่านั้น อิๆ
5.เทอ ไม่รักเด็กที่วิ่งได้แย้ว 555+ บอกว่ารำคาญ

อีกมากมายอิๆๆๆ

ใครทำมาส่งขอให้แฟนรักแฟนหลง
ใครยังไม่มีก็ขอให้คนที่รัก รักมากๆ





โดย: โจ (พลังชีวิต ) วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:19:56:55 น.  

 
คุณพู่วันก่อนตามไปเที่ยวสวนทวีชล ปั่นจักรยานอยู่เลย
วันนี้ตามมาดูหนัง ชอบพระเอกค่ะ หล่อมักมาก หนังแนวนี้ก็ชอบค่ะ ไม่ซีเรียส ดูแล้วสนุกๆ

Have a nice day ka.


โดย: แม่น้องขวัญ_ซาแมนต้า วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:20:25:10 น.  

 


สวัสดียามค่ำมืดเลยนะคะ คุณพู่

ย่องมานั่งอ่านเรื่องของเมียแหง่ๆ เอ้ย มิใช่ ลูกแหง่ต่างหากล่ะ

อืม...เป็นอีกเรื่องที่น่าสนุกเหมือนกันนะคะ คือถ้าดูแบบไม่ได้คาดหวังอะไร
เนื้อเรื่องพอเดาได้ ก็ไม่เป็นไร อยากนั่งดูหน้าพระเอกก็พอ เหอ เหอ

Have a good dream.

++++++


โดย: A'Jim วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:21:35:35 น.  

 
นั่นสิครับ

สำหรับพ่อเลี้ยงโบ๊ต
กับพ่อเลี้ยงแมนต้า
เรื่องค่าที่พักและอาหารคงพอดูแลพวกเราได้
จัดคอนเสิร์ตได้
รับรองกำไรเหนาะๆครับ 55555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:21:45:28 น.  

 

ผลการประกวดนางงามของเราก็ออกมาแล้ว เย้ๆๆ
เหนื่อยไปหลายวัน แต่พอการประกวดผ่านไป ได้รับการตอนรับที่ดีแบบนี้
หายเหนี่ยเป็นปริกทิ้งเลยค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ





โดย: praewa cute วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:21:54:33 น.  

 
ดีก๊าบบบบบบบบบบบบบบบ
ขอบคุนที่พี่ตามไปชม ผัดเละๆ ของมะเหม่ง

กรั่กๆๆๆๆๆ

มะเหม่งว่า ตอนนี้ คนยุโรป สนใจครอบครัวมากกว่าเก่านะ
อยู่กันเปนครอบครัวใหญ่ คุนปู่คุนย่า คุนตาคุนยาย ช่วยกันเลี้ยงหลาน น่ารักมากมาย
แต่คนเอเซีย กลับอยากแยกบ้านออกมาอยู่เปนครอบครัวเล็กๆ เลียนแบบทางนี้

โลกมันกลับไปกลับมาอย่างนี้เรื่อยๆรึเปล่าน้ออออ


โดย: หัวเหม่งคุง วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:21:55:25 น.  

 
แวะมายามค่ำคืนครับ แหม ๆๆๆ มีแวะไปแซวยามเย็นแบบไม่รู้จะคุยว่าไรซะด้วย

แค่แวะเวียนไปก็ดีใจหลาย ๆแล้วเด้อ

ปล.ไม่รู้ว่าคุณพู่ง่วงนอนหรือยัง ถ้ายังก็ขอให้ตาสว่างต่อไป แต่ถ้านอนแล้วก็ขอให้....ฝันดีล่ะกัน ไหน ๆก็หลับไปแล้วนินา


โดย: tiensongsang วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:22:13:17 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

ช่วงนี้ผมแทบจะไม่ได้ไปดูหนังเลยครับ มัวแต่เอาเวลาไปทำบ้านอย่างเดียวเองครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:23:25:23 น.  

 
เลิกเป็นลูกแหง่นานมากแล้วค่ะ
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ดูหนังเลย



โดย: Fullgold วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:23:36:28 น.  

 
555 เป็นเมียแหง่ ก็น่ารักไปอีกแบบนะคะน้องพู่ พี่ก็แอบเป็นบ้างในบางครั้งค่ะ


โดย: pinkyrose วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:23:41:41 น.  

 
อ่านแล้วอยากลองดูหนังเรื่องนี้เลยค่ะ อยู่ที่นี่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ดูหนังโรงเท่าไหร่เลย เพราะแพงมากกกกก และทั้งฟังทั้งอ่านซับไม่ทัน ฮ่าๆๆ

อ่านคำพูดของคุณJewnidแล้วทำให้มีกำลังใจในการอยู่ต่างแดนมากขึ้น เพราะบางทีก็รู้สึกท้อแท้คิดถึงบ้านเรา แต่เชื่อว่าการอยู่ต่างแดนทำให้เราได้เติบโตขึ้นจริงๆ ค่ะ

กู้ดไนท์นะคะ


โดย: arcoiris วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:23:42:20 น.  

 
เหมือนจะสวนทางกันหรือเปล่า

เรื่องหนังที่คุณพู่เล่ามา
น่ารักดีเน่อะ น่าดูมากๆ


โดย: Fullgold วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:23:47:31 น.  

 
อืม ช่ายแล้ว
บางทีก็อึดอัดเวลาต้องเป็นลูกแหง่
แต่พอเวลาห่างกันไกลตาจริงๆ ก็อดห่วงไม่ได้นะคะ
ครอบครัวยังไงก็ตัดไม่ขาดจริงๆ ค่ะพี่สาว

อ๊ะๆ ดีใจๆ อาการเดียวกันด้วยค่ะพี่สาว
ยิ่งเรื่องรถยิ่งแล้วใหญ่ เคยให้เพื่อนยืมรถไป
กลับมาเราก็ไม่ได้ดู
พอจะใช้อีกที ปรากฏว่าเพื่อนลืมล็อกค่ะ
555
ตกใจมากค่ะ ไอ้เรารึอุตส่าห์ดูแล้วดูอีก
แต่ก็ไม่โกรธนะคะพี่

มาซะดึกเลย นอนหลับฝันดีค่ะพี่พู่


โดย: BeCoffee วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:0:01:14 น.  

 
ยังไม่ได้ดูเลยคะ
ช่วงนี้ดูแต่หนังแอ็คชั่น 555+


โดย: pumorg วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:0:05:00 น.  

 
เคยดูเรื่องนี้นานแล้ว เดาเรื่องได้ตั้งแต่ตอนแรกแต่ก็ดูไปได้เรื่อยๆจนจบเหมือนกัน

เรื่องลูกแหง่เราว่าถ้าแหง่ในลักษณะที่ต้องการคำปรึกษาจากพ่อแม่บ้างหรือยังเห็นความสำคัญของพ่อแม่อันนั้นก็ดี แต่แหง่แบบในหนังเรื่องนี้ที่ไม่รู้จักโต ทำอะไรไม่เป็นต้องให้พ่อแม่ประเคนให้ทุกอย่างก็ไม่ไหวเนอะ แต่ส่วนมากฝรั่งเป็นแบบนี้กันน้อยนะว่ามั้ย ส่วนมากช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่ยังเด็กทั้งนั้น แต่คนไทยน่ะสิเห็นเพียบโดยเฉพาะเด็กสมัยนี้ ไม่ใช่เป็นลูกแหง่อย่างเดียว คือนอกจากจะยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งพ่อพึ่งแม่อยู่ แต่ยังชอบทำตัวเสเพล บังเอิญมีลูกมีเต้าเพราะความมักง่ายจากนั้นก็เอามาให้พ่อแม่เลี้ยงอีกด้วย คือไม่รับผิดชอบไม่พอยังผลักภาระให้พ่อแม่อีก แย่จัง แหง่แบบนี้มีแต่จะสร้างปัญหาให้สังคม...

.............

อันที่จริงตั้งใจจะแวะมาถามว่าพู่สนใจอยากทำการบ้านมั้ย ถ้าสนเรามีการบ้านมาให้ทำ แต่ถ้ายุ่งๆไม่มีเวลาทำก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ว่ากัน แฮ่ๆๆ


โดย: ~ Cerulean Blue ~ วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:1:25:18 น.  

 
เมื่อวานพยายามจะเมนท์ทักทายพู่ พยายามเท่าไรก็ไม่ติดสักที เซ็งไปเลย วันนี้น่าจะได้นะ

หนังเรื่องนี้ยังไม่ได้ดูเลยจ่ะ ช่วงนี้ดูแต่หนังเด็ก โดนลูกๆลัดคิวในเนทฟลิกซ์ ไม่ได้ยืมหนังผู้ใหญ่มาดูเลย


โดย: แม่ลูกแฝด วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:2:23:43 น.  

 
พี่สาวก๊าบ

คือ ผมเสียดายพระเอกอ่ะ

อยากดูพระเอก (เอ่อ... พี่ครับ อย่าคิดว่าผมสับสนทางเพศนา) คือ พระเอกคนนี้ไม่หล่อเลย แต่เวลาเค้าเล่นแล้วดูมีเสน่ห์มาก

แต่เค้าพลาดอย่างหนึ่ง ผมจำชื่อเรื่องไม่ได้ ไปเล่นประกบกับ อัล ปาชิโน เรื่องนั้นเลยโดยรัศมี อัล กลบ

แต่เรื่องอื่น ๆ คนนี้เล่นได้ดี

คือ เป็นคนไม่หล่อ แต่เล่นได้แบบผมเชื่อบทที่เค้าเล่นอ่ะครับ แต่พอเห็นเรื่องนี้ อยากดูมาก แต่ติดนางเอก

ปล. เห็นพี่สาวเรียกเจ้าก๊ะ ว่า พี่ พี่ก๊าบ ไอ้ก๊ะอ่ะ อายุ 12 เองนะ (อายุสมองมันอ่ะ)

(มองซ้ายขวา) (มันซุ่มอยู่ป่ะเนี่ย)


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:3:32:18 น.  

 
พู่จ๋า
ไม่ได้ทักทายกันเลยเนอะ ตอนพี่ไปเมืองไทยก็ไม่มีโอกาสได้เจอพู่เลยพู่สบายดีนะจ๊ะ พี่เองก็เรื่อย ๆ ใจสงบมั่ง ไม่สงบมั่ง ตามประสา

อ่านเกี่ยวกับหนังที่พู่เขียนถึง เดี๋ยวไปหามาดูบ้างดีกว่า ส่วนตัวพี่เอง ไม่ได้เป็นลูกแหง่ พ่อเคยบอกพี่ว่า ไม่จำเป็นต้องกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่แต่ขอให้ลูกได้อยู่ในที่ที่ลูกมีความสุขก็เพียงพอแล้ว

อาจจะเป็นจริง เพราะไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน พ่อกับแม่ก็อยู่ในหัวใจของเราเสมอ


โดย: madam_ozzy วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:5:33:27 น.  

 
สังคมที่นี่เนอะคะ ใครโตๆแล้วแต่ยังอยู่กับครอบครัวก็มักจะโดนมองแปลกๆ

ซึ่งถ้าพิมเป็นแม่ พิมคงจะชอบที่ลูกอยู่ด้วยนานๆค่ะ ^^

สำหรับพิม ถือว่าออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 16-17 เลยนะ เพราะต้องไปเรียนหนังสือค่ะ แต่พอย้ายมาเรียนกรุงเทพก็คืออยู่บ้านตัวเอง มีพี่คนดูแล และอยู่กับน้องสาว จนทำงาน จนแต่งงาน จนทุกวันเนี่ยค่ะ ห่างอกคุณแม่มาเรื่อยๆ แต่ถึงตัวห่างแต่ใจเราใกล้กันนะคะ ยังเรียกได้ว่าพิมยังเป็นลูกแหง่เต็มตัวเลยค่ะ (ยืดอกรับตำแหน่งด้วยความภาคภูมิใจค่ะ ^^)


โดย: pim(พิม) วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:5:38:35 น.  

 
อะฮ้าซาหวัดดีตอนเช้า ๆ ค๊าพี่พู่

เมื่อคืนนี้อ่ะ หลับคาโน๊ตบุ๊คอีกแร้ววววว

แต่เช้ามาอาการผดผื่นคันก็หายไป ดีใจ ๆ หวังว่าวันนี้คงไม่ขึ้นมาอีก

Failure To Lunch น่าสนใจจังเลยค่ะพี่พู่ ขอจดไว้ใน list หน่อยน๊า จะลองไปหามาดูจ๊า

ลูกแหงเหรอ รู้สึกว่าด้วยอายุมากขึ้น มันก็เริ่มหดหายไป แต่ตอนนี้กลายเป็นคุณครูและคุณอาที่ เอ่อที่ยังไงหละ รู้แต่ว่าเราเป็นห่วงเค้า ใส่ใจเค้ามากในทุก ๆ เรื่อง (ยังกะลูกของตัวเองซะงั้น)

และตอนนี้ยังไงก็คงหนีไม่พ้นบ้านของตัวเอง เพราะรู้สึกว่าอยู่ที่บ้านแล้วมีความสุขกว่าที่ไหน ๆ (ธรรมเนียมของคนอีสานจะให้ลูกสาวคนสุดท้องเป็นคนอยู่เลี้ยงดูพ่อแม่) แต่ตัวเองก็ยังคงต้องการแสวงหาออกไปใช้ชีวิตยังโลกกว้างอยู่เช่นเดิม แต่ก็ยังไม่ลืมภาระหน้าที่ของตัวเองอยู่เช่นกัน

ขอให้มีความสุขกับเช้า ๆ วันพฤหัสค่ะพี่พู่

เป็นกะลังใจให้จ๊า


โดย: minporee วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:6:41:59 น.  

 
พี่ก้อลูกแหง๋
ถ้าแม่ไม่สิ้นบุญไปป่านฉะนี้
ก้อยังเกาะแม่กันแจ ไม่คิดมีฟงมีแฟนหรอก

ดีไหมกับการเป็นลูกแหง๋
มันก้อดีเหมือนกัน แต่ไม่รู้จักโตเสียที
ทำอะไรไม่เป็น คิดอะไรไม่เป็น
ไปไหนมาไหนทำอะไรคนเดียว
ก้อไม่กล้า ต้องเรียกว่าเลี้ยงแบบไทยๆ

หลานสาวที่อยู่อเมริกา
นั่นก้อพ่อแม่เลี้ยงสไตล์ไทยแท้
อายุอานามปาเข้าไป 30 กว่าแล้ว
ยังอยู่ในอ้อมอกพ่อแม่อยู่เลย


โดย: C&C_BamBoo วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:6:47:53 น.  

 
ชอบเพลงนี้จังเลยค่ะพี่พู่


โดย: minporee วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:7:02:41 น.  

 
สัวสดียามเช้าครับคุณพู่


ช่วงนี้กำลังบ้าเขียนใบไผ่ครับ
ได้พู่กันมาตั้งนานแล้ว
ไม่รู้จะวาดอะไร
เลยลองเอามาเขียนใบไผ่เล่น

เอ...ชักสนุกครับ 5555


ปล. สองพ่อเลี้ยงแห่งเมืองเชียงของเค้าจะรู้ตัวมั้ยครับเนี่ย 5555







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:7:13:01 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ คุณพู่



จากบล๊อก...ใช่ค่ะ ถ้าไม่สนิทกันเราก็คงไม่กล้าจะติเขาล่ะเนาะ

มีความสุขมากมากนะคะ



โดย: อิ่ม_Aim วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:7:14:08 น.  

 
เศรษฐกิจฃ่วงนี้ก็ฝืดเคืองเหลือเกิน
จัดซะพรุ่งนี้เลยดีมั้ยครับ 55555
มา20คนก็พอแล้วครับุคณพู่ 55555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:7:34:46 น.  

 
เรื่องลูกเเห่หรือลูกติดพ่อเเม่
มาซาคอง(mother complex) ในประเทศญี่ปุ่นจะพบผู้ชายที่ติดเเม่จนเกินหน้า

ไม่เท่านั้นตัวเเม่เองจะติดลูกเป็นเหมือนลูกยังเล็กเเม้จะเป็นวัยที่เเต่งงานมีครอบครัวเเล้วก็ตาม
เป็นผลให้มีการหย่าร้างสาเหตุจากสามีให้ความสนใจเเม่มากกว่าภรรยาจนเกินไป

ส่วนทางฝ่ายเมกาจะเเตกต่างไป
เมื่อถึงวัยที่ช่วยตัวเองได้ก็จะเเยกย้ายออกไป

เมืองไทยเรายังอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ที่เห็นคล้ายประเภณีไทยคือ ชาวพื่้นเมืองฮาวายค่ะ


โดย: ยูกะ (YUCCA ) วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:7:53:32 น.  

 

Comment Hi5 Glitter


แวะมาทักทายกันค่ะ วันนี้วันพระนะคะคุณพู่
หนังโรแมนติกคอมมิดี้น่าสนใจดีเหมือนกันนะคะ
แต่ชอบหนังตื่นเต้นเร้าใจชนิดต่อมอาดีนารีนสูบฉีดมากกว่าค่ะ อิอิ



โดย: หอมกร วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:7:54:26 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


ฮ่าๆๆๆ....ไม่ได้เป็นลูกแหง่ แต่ขอตัวเป็นแม่แหง่ๆ อิอิ
ระวังนะเดี๋ยวคนข้างๆ จะแอบรำคาญ...ไปชิ๊วๆ เดี๋ยวขอแหง่กลับบ้างนะ

เห็นด้วยเลยนะ...การที่อยู่ไกลบ้าน ทำให้เราเติบโตมากขึ้น
โดยเฉพาะเรื่องการทำอาหาร ฮ่าๆๆ....ถ้าไม่ได้มาอยู่ไกลๆ
ป่านนี้ก็คงไม่ได้เข้าครัวจริงจัง....เพราะมัวแต่อ้อนแม่ได้เสมอ

ก่อนแต่งงาน...ป๋าและม๊า ก็ห่วงเค้ามากเลยนะ เรื่องการเข้าครัวเนี่ย
คงจะกลัวลูกเขย...จะเอามาคืนทีหลังมั๊ง ฮ่าๆๆๆ

ปล-เค้าเป็นลูกสาวคนกลาง...ขนาบด้วยพี่-น้องชาย เลยได้รับการดูแลอย่างดี ฮ่าๆ


โดย: UStogetheR วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:7:57:53 น.  

 
555+

จริงด้วยคุณนิด

บางทีคนแหง่ อาจจะเป็นพ่อแม่เราก็ได้เนาะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:8:09:58 น.  

 
ห่างไกลจากการเป็นลูกแหง่อยู่หลายเท่าตัวค่ะ

ดื้อมากๆๆๆๆๆ
รักอิสระและมีโลกส่วนตัวสูงมากๆ

แต่บางทีก็คิดถึงท่านเหมือนกันนะคะ
คิดถึงบ้าน


โดย: ปณาลี วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:8:46:37 น.  

 
เคยได้ดูหนังเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ เลยเพิ่งรู้ว่าฝรั่งเค้าค่อนข้างถือเรื่องการแยกบ้านเมื่อลูกโตแล้วเนอะ คนไทย คนจีนอย่างเราๆ กลับอยากให้ลูกอยู่ด้วยกับพ่อแม่ ไม่อยากให้ออกไปอยู่เอง..

อีกอย่าง ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ เจ๊เจสสิก้า แกดูแก่ว่าพี่คอนนาเฮย์ (ของเรา) จังเลยแฮะ



โดย: iamsquid วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:8:58:08 น.  

 
Thanks.JPG


โดย: Summer Flower วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:9:01:17 น.  

 
สวัสดีครับคุณพู่...

ร้อนมากมายเลยวันนี้...ผมเดินออกไปนอกบ้าน..ไม่ไหว..วิ่งกลับเข้าบ้านดีกว่า
มันอ้าวๆยังไงก็ไม่รู้...เปิดแอร์ก็ไม่เย็น..เฮ้อ..ไม่ไหวร้อนเกินไป..

คุณพู่สบายดีนะครับ..

ครบรอบ 4 เดือนแล้วจ้า...
วัคซีนเข็มที่ 3 ก็ฉีดแล้ว , ไข้ก็ลดแล้วครับ..




โดย: Little Knight วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:9:04:48 น.  

 
มันนี่ เพนนี่ ไงจ๊ะพี่สาว

ที่พี่สาวเรียกว่า พี่จูน อ่ะจ๊ะ

แฮ่...


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:9:41:15 น.  

 
เคยดูหนังเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ แต่ดูแล้วเหมือนโบ๋เบ๋จำอะไรไม่ได้เลยสักกะนิด รู้แต่ว่าพระเอกไม่ยอมออกจากบ้านนี่แหละค่ะ

เรามันคนออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ก่อนแต่งงานเคยลองกลับไปอยู่บ้าน 2 ปี แล้วก็ต้องไปยอมรับกับแม่ว่า"อยู่ไม่ได้จริงๆ" ติดกรุงเทพฯ เหอะๆ


โดย: LuckyMoby วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:10:16:30 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณพู่

สำรวจตัวเอง ... ไม่คิดว่าจะเป็นลูกแหง่นะคะ เพราะตั้งแต่คุณพ่อเสียไป คุณแม่ก็สอนให้ดูแลตัวเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ต้องออกจากบ้านมาเมืองกรุงตั้งแต่อายุ 18 สารพัดที่ต้องทำไรเอง เหนื่อยเหมือนกันนะคะเนี๊ยะ แต่ก็ได้ประสบการณ์ดีๆ เยอะเลยค่ะ

แม้จะห่างกันทุกวันนี้ก็โทรหาคุณแม่บ่อยมากทำให้รู้สึกว่าท่านอยู่ใกล้ๆ เราตลอดเลย ตอนนี้เหลือท่านเพียงคนเดียวแล้ว ต้องดูแลท่านให้ดีที่สุด

ปล. ช่วงนี้อากาศร้อน ก็หายไรเย็นๆ หวานๆ ทานคลายร้อนด้วยนะคะ


โดย: mamminnie วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:11:18:49 น.  

 
ผมยังไม่บ้านะครับคุณพู่
แค่คลุ้มคลั่งไปบ้าง
เวลาอากาศร้อนมากๆเท่านั้นเอง 55555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:11:22:57 น.  

 
คุ้นๆ ว่าเหมือนจะได้ดูแล้วเลยค่ะ (ดูหนังไม่เคยจำชื่อเรื่องเลยฮ่ะๆๆๆๆ)



โตในทางร่างกาย (ที่ขยายใหญ่แบบไม่เจตนา)เ
^
^
^
ราก็โตเหมือนคุณพู่เลยค่ะ ฮ่ะๆๆๆๆๆ (แต่ว่าเราโตกว่า มี เก ทับ อิอิ)


โดย: wayoflife วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:11:27:50 น.  

 
อืม... ผมเองทุกวันนี้ก็ยังอยู่กับคุณแม่อยู่นะ ถือว่าเป็นลูกแหง่มั๊ย ตอบไม่ได้แฮะ ต้องไปถามเมียดู แต่ที่ไม่ย้ายไปอยู่ที่ไหนเพราะเรามีกันสองคนแม่-ลูก ยังไงก็ทิ้งกันไม่ได้อยู่แล้ว ถึงแม้เราจะอยู่กันไป ตีกันไปเกือบทุกวันก็ตาม 5555++ ครอบครัวก็แบบนี้ ห่างกันก็คิดถึง ใกล้กันก็ตบตี เรื่องปกติ (เฉพาะบ้านแกน่ะสิ)


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:12:38:27 น.  

 
แวะมาทักทายคุณพู่ที่หน้าบ้านค่ะ
พิมเองก็เคยเป็นลูกแหง่เหมือนกันล่ะ


โดย: ม่านฟ้านาคราช วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:12:42:01 น.  

 
มาทักทาย เพราะคิดถุง เจงๆ


โจจัง อิๆๆๆๆ


โดย: พลังชีวิต วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:20:24:03 น.  

 
ถ้าคุณพู่มา Marstrand นุ้ยคงได้เห็นภาพที่สวยสุดๆ ไปเลยแน่นอนค่ะ

ส่วนเรื่องชอบหลอกนักท่องเที่ยวนี่เซ็งไปเลยนะคะ อย่างบาหลีเค้าว่าหลอกกันเยอะ ตอนแรกอยากไป ตอนนี้ไม่อยากแล้ว กลัว'รมณ์เสีย อิๆๆ


โดย: N_Nirvana วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:21:16:36 น.  

 
พู่ๆ...กีอกๆๆๆ
มาแอบเคาะประตูบ้าน
ไม่ยักเปิด..อิอิ..อบแอร์กันหล่ะดิ..
ฮ้อนข่าหนาดเลยเน๊อะ
วันนี่หนา อี่ปี้ ซ้ำไปตรวจอีไอเอโรงโม่แห๋ม
มิอยากเซดเลย....พู่เห้ยเอยยย
ฮ้อนก่อฮ้อน..ฝุ่นก่อฝุ่น...
คร่อก..ป้าจาเปงลม


โดย: mutcha_nu วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:22:45:45 น.  

 
555 ขำเมียแหง่ พล็อตหนังน่ารักดีนะครับ


โดย: everything on วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:23:54:39 น.  

 
ผมล่ะอยากเป็นลูกแหง่จะนานๆ..

แต่ก็ทำไม่ได้ครับ..

เดี๋ยวเจอแม่รำคาญ...แกจะจับตีเข่าเอา..

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมไข้ถึงเรือนโน้นนะครับ..

ตอนนี้หายแล้ว70 ส่วน..

พร้อมๆกับเน็ตที่เพิ่งจะยอมคืนดีกัน..

สองวันที่ผ่านมา เลยไม่ได้มาเยี่ยมใครเลย..

ราตรีสวัสดิ์ครับ..

แหง่ แหง่..



โดย: อิสระชน..ตัวโตเต็มวัย..ไม่ใช่ใคร.มันคือ.. (อสัญแดหวา ) วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:0:23:54 น.  

 
+ เรื่องนี้พี่ยังไม่ได้ดูแฮะครับ

+ อืม ... ของพี่ จากบ้านจากครอบครัวมาตั้งแต่อายุยังไม่เต็ม 17 แล้วหลังจากนั้นก็มีความรู้สึกว่าอยู่ได้ด้วยตัวเองมาตลอด กลับบ้านปีละ 3-4 ครั้ง แต่ก็อยู่แค่ครั้งละแป๊บๆ (แต่คุณแม่ก็จะพยายามทำให้กลายเป็นลูกแหง่ ด้วยการห่วงเกินกว่าเหตุ ทั้งๆ ที่อายุก็ปูนนี้แล้ว)

+ แต่แล้วจู่ๆ ก็ต้องกลับเข้ามารวมกันอยู่ในบ้าน เป็นครอบครัวเดียวกัน เจอหน้ากันทุกวันอีกครั้ง ... ก็รู้สึกแปลกๆ ดี อึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ค้นพบที่ทางของตัวเองแล้ว ... แต่ไม่ว่าคุณแม่จะเคยห่วงตอนเด็กๆ ยังไง ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนเลยอ่ะครับ นี่แหละหนอ ความรักของคนเป็นแม่

+ เคยคิดจะไปทำงานอยู่คนเดียว ณ แดนไกล (NZ) ปรากฏว่าไปลองเชิงอยู่ซะครึ่งปี รีบเผ่นกลับมาแทบไม่ทันแน่ะจ้ะ ... มันรู้สึกอ้างว้างสุดๆ ถ้าเหงาหรือป่วย ก็คงไม่มีใครอยู่ข้างๆ ตัวเรา มาดูแลเราเลย ก็เลยเผ่นกลับมาตายรังยังบ้านเฮา แสนสุขใจดีกั่วอ่ะจ้า


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:1:07:35 น.  

 
ฝันดีครับพี่สาว


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:1:37:51 น.  

 
หนังน่าดูน่าติดตามจังเลยพู่
แต่เรื่องเล่าเช้านี้ของพู่น่าสนใจมากกว่าอีกค่ะ

บางทีการได้แยกบ้านหรือได้อยู่คนเดียว มันก็ทำให้เราโตทางความคิดเนอะ

แต่บางทีการได้อยู่กับครอบครัวพี่หยีว่ามันก็อบอุ่นดีค่ะ
แต่อยา่งพู่ว่าจะให้อยู่ตลอดมันก็เป็นไปไม่ได้ เราต้องมีชีวิตของเราและต้องก้าวต่อไป


โดย: แม่น้องKevin and Jasmin วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:2:44:24 น.  

 
พี่ยังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้นะ แต่อ่านคำโปรยของพู่ช่วงแรก
พี่นึกถึงหนุ่มๆอิตาเลี่ยนเลยละ แบบที่พู่ว่ามาเลยไม่ยอมแยกออกไปอยู่คนเดีว
เพราะอยู่กับพ่อแม่ไม่ต้องกระดิกทำอะไรซักอย่าง บางคนก็ติดแม่มาก
ที่ตลกกว่านั้นนะ บางคนติดยายอ่ะพู่ทั้งๆที่อายุปาเข้าไปเกือบๆจะสี่สิบอยู่แล้ว
โชคพี่ยังดีนะที่คนข้างตัวไม่เป็นแบบนั้น ไม่งั้นพีหอบผ้าหอบผ่อนกลับไทย
ตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้วละมั้ง


พี่เห็นด้วยกับพู่นะว่าการที่เราอยู่ห่างไกลพ่อแม่ และประเทศชาติ
ทำให้เรารักเค้ามากขึ้น ห่วงเค้า และถนอมน้ำใจเค้ามากๆ
เพราะเวลาอยู่ใกล้กันจะชวนแม่ทะเลาะประจำ นี่คงเป็นข้อดีของการทิ้งระยะนะ

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ลำปางร้อนมาก(ใช่ไหม)


โดย: ปลาทอง9 วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:3:09:35 น.  

 
นัทไม่เคยได้มีโอกาสเป็นลูกแหง่เลยพี่พู่ ต้องยืนด้วยขาตัวเองมาตลอดเลย emo เป็นเด็กที่ใคร ๆ ก็ไม่รัก emo จริง ๆ แอบคิดแบบนี้มาตลอดเลยนะ แต่พอ ณ วันหนึ่ง วันที่ต้องจากบ้านมาแบบไกล ๆ จริง ๆ ถึงได้รู้ว่า แม่รักเรามากขนาดไหน emo

---------------------------

แท๊งกิ๊วพี่พู่จ้าที่วิ่งไปช่วยโหวตให้ ช่วงนี้นัทไม่ได้เล่นบล็อกเลยจ้า มัวแต่ทำงานให้พี่กบอยู่ต้องแปลงไฟล์มิดิใหม่หมดเลย หัวฟูเลยจ้า emo


โดย: Picike วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:3:37:07 น.  

 
เรื่องนี้ยังไม่ไดู้ดูเลย จะได้ดูก็เพราะพู่อีกระ
ช่วงนี้ได้ดูหนังเพิ่มเพราะพู่เนี่ยแหล่ะจ่ะ
มาอ่านบล๊อกแล้วได้แรงผลักอยากดูหนัง :)))


โดย: coldfusionCF วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:3:54:45 น.  

 
หวัดดียามเช้าค่ะ

ลูกแหง่เมื่อก่อนเป็นค่ะ555 แต่ชอบอ้อนแม่น่ะ เรียกว่าลูกติดแม่ป่าวน๊า อิอิ

หนังเรื่องนี้น่าดูน่ะ อ่านเนื้อเรื่องที่นิดเขียน ทำให้อยากดูๆ

เอาไว้ไปหาซื้อแผ่น5เหรียญมาดูดีก่า555

เช้าแล้วเหมือนกันขอตัวไปรับใช้ลูกแปปน่ะค่ะ


โดย: bagarbu วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:5:08:45 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณพู่











โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:7:43:57 น.  

 
ถ้าจะลดค่าไฟ
สงสัยต้องลดเล่นคอม

ซึ่งผมคิดว่าคุณพู่ทำไม่ได้แน่นอนครับ 555

เหมือนผมเลยครับ

วันไหนไม่ได้แตะคอม
แล้วมันครั่นเนื้อครั่นตัวครับ 555555





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:8:13:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

JewNid
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 48 คน [?]




[Add JewNid's blog to your web]