หากเปรียบ "วราทิตย์" เป็นดวงตะวัน เขาก็คงเหมือนดวงตะวันในฤดูร้อนที่สาดแสงอบอุ่น เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบผู้เป็นคู่หมายซึ่งผู้ใหญ่อยากให้แต่งงานกันตามพินัยกรรมของพ่อเขาก็รู้สึกอยากปกป้องและช่วยปัดเป่าเรื่องทุกข์ใจของเธอให้มลายหายไป
ทว่า "วริษา" รู้ตัวดีว่าเธอไม่ใช่ดอกไม้กลางฤดูร้อนที่งดงามและคู่ควรกับเขา แต่เธอกลับเป็นเมฆหมอกหม่นหมองในฤดูฝนที่จะทำให้ตะวันสาดแสงได้ไม่เต็มที่
เมื่อทั้งสองต้องแต่งงานอยู่ร่วมบ้านกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนหนึ่งจึงพยายามชิดใกล้หมายพิชิตใจ ทั้งยังทำทุกอย่างตามที่อีกฝ่ายต้องการ ทว่าอีกคนกลับถอยห่าง ไม่ยอมรับไมตรีที่ทอดมาแม้เพียงนิดและจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่กัดกินอยู่ในหัวใจ ...
เพราะเธอไม่ใช่เจ้าสาวตัวจริงตามพินัยกรรม!
เล่มนี้จริงๆ อ่านมาก่อนหน้านี้สักพักใหญ่แล้วล่ะค่ะแต่ว่าไม่ได้เขียนถึง วันนี้พอดีกำลังจะเก็บหนังสือที่อ่านแล้วลงกล่องนึกได้ว่ายังไม่ได้เขียนถึงเรื่องนี้เลย ก่อนจะจัดการเอาหนังสือเก็บเข้ากล่องดีๆ รักษาหนังสือให้งามได้นานๆ ก็ถือโอกาสอ่านเล่มนี้แบบผ่านๆ อีกรอบตอนเช้าแล้วก็มานั่งเขียนดีกว่า
เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ 2 ที่ได้อ่านงานเขียนในนามของ ณ ว ลี หรือว่าอีกนามปากกาหนึ่ง ปริยาธร ซึ่งเรื่องแรกก็อีกตามเคยค่ะยังไม่ได้เขียนถึงเหมือนกันทั้งๆ ที่เป็นเรื่องรักอบอุ่นฟีลกู้ดอีกเรื่องชอบอีกเรื่องก็ว่าได้เลยค่ะ เรื่องที่ว่าก็คือเรื่อง ห้วงวิวาห์รักร้อย ถ้าไม่พลาดคงอีกสักพักจะเอามาเขียนถึงความประทับใจในเรื่องนี้นะค่ะ แต่ตอนนี้เอาเรื่องนี้ก่อนเลย ว า ด รั ก บ น ล า ย รุ้ ง
พล็อตสำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ วราทิตย์ และ วริษา หรือลูกกวาด ที่ทั้งสองถูกบังคับให้แต่งงานกันเพราะเจ้าสัวพ่อของวราทิตย์ที่เสียชีวิตแล้วเขียนพินัยกรรมเอาไว้ให้ลูกชายได้แต่งงานกับ ลูกสาวคนเล็กของคนที่ช่วยเหลือให้รอดชีวิตจากการทำร้าย ซึ่งนั่นก็คือ พ่อของนางเอก โดยที่เจ้าสัวเองก็ได้ดูแลและรักพ่อของ วริษาดั่งลูกชายและวราทิตย์เองก็นับถือพ่อวริษาป็นเสมือนพี่ช่ายคนหนึ่ง
แรกเริ่มก่อนจะรู้ว่าคนที่แต่งร่วมหอเป็นใครต่างก็ไม่มีใครยอมสำหรับการตกลงแต่งงานโดยเฉพาะ วราทิตย์ ที่เขาพยายามหาทางบ่ายเบี่ยงจะไม่แต่งงานแต่ก็เหมือนว่าความบังเอิญมันเกิดขึ้นได้เสมอเพราะว่าเมื่อรู้ว่า วริษา หญิงสาวที่เขาได้เจอบ่อยๆ คือคนที่เขาต้องแต่งงานด้วยเขาก็เกิดอาการยินยอมแต่โดยดี ส่วนวริษาเองนั้นก็ต้องยอมแต่งงานครั้งนี้เพราะด้วยเหตุผลว่า เขา คือ คนที่ยื่นมือมาช่วยเหลือไกล่เกลี่ยหนี้สินของเธอและครอบครัวที่ประกอบไปด้วย แม่ พี่ชาย-พี่สะใภ้ ส่วนพ่อที่แยกทางกับแม่ก่อนหน้านี้ก็ด้วยเพราะความเจ้าชู้ก็มาเสียชีวิตไปอีกครอบครัวเล็กๆ ก็อยู่กันมาได้ด้วยความขัดสน
การแต่งงานของทั้งคู่เกิดจากการตกลงด้วยเงื่อนไขที่ วริษา เรียกร้อง เพราะการแต่งงานครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างกระทันหัน เธอยังไม่รู้จักเขาดีพอเธอจึงอยากให้การแต่งงานเป็นการแต่งพร้อมกับเรียนรู้กันไปก่อนตามเงื่อนไขที่เธอกำหนดซึ่ง วราทิตย์เองก็ไม่มีปัญหาเพราะเขาเองก็ไม่อยากเร่งรัดในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกันแต่เขาก็รู้ตัวเองดีว่าเขารักวริษาจริงและในช่วงนั้นเองเขาก็ได้บอกเล่าให้ฟังว่า เขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเจอเธอกับพ่อเธอที่เขานับถือเป็นพี่ชายแต่สมัยนั้นเธอยังเด็กและด้วยความแตกต่างของวัยถึง 13 ปี เธอถึงได้เรียก วราทิตย์ว่า " อาทิตย์ " เหมือนเมื่อก่อน
เรื่องนี้ขอบอกว่า อ่านแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องเพลินอีกเล่มเลยล่ะค่ะ เพราะว่าหวานยังต้องเรียกพี่ ยิ่งถ้าชอบแนวโคแก่ที่กินหญ้าอ่อนกับสาวน้อยที่ต่างวัยกัน 13 ปี แถมมีสถานะที่สาวเจ้า เรียก " อา" ด้วยแล้วนั้นยิ่งจะชอบไปใหญ่เลยล่ะค่ะเพราะความรักที่มั่นคงจริงใจของวราทิตย์ที่มีต่อลูกกวาดเป็นรักที่คอยดูแล ปกป้อง อยากให้คนที่เขารักมีความสุขด้วยการแสดงออกจึงมีมากมายนักเพราะมีทั้งแอบเจ้าเล่ห์นิดๆ จริงใจมากๆ เรียกว่าอ่านไปแอบมีเขิน แต่ แต่ แต่ ..... เรื่องนี้ต้องขอบอกว่า อ่านแล้วอาจจะไม่สามารถแซงอันดับหนึ่งในใจอย่างห้วงวิวารห์รักร้อยได้ ด้วยพื้นฐานของตัวนางเอกนั้นยังไม่ชัดเจนแม้ว่าจะแอบรู้สึกผิดกับการแต่งงานครั้งนี้ที่มีอะไรผิดพลาดบางประการ และแพ้ทางความดีของพระเอก แต่มันก็ยังมีเรื่องราวของการแอบปลื้มชายหนุ่มอีกคนและการปิดบังทุกคนว่าเธอแต่งงานแล้ว นี่ล่ะค่ะเลยเป็นเรื่องส่วนตัวที่ตัวเองอาจจะไม่ชอบไปบ้าง แต่มันก็ยังไม่มากนักถ้าจะเทียบกับความไม่ปลื้มในเรื่องของครอบครัวนางเอกที่เหลือ อย่างแม่ พี่ชายและพี่สะใภ้ ที่หวังจะพึ่งพิง ลูกเขย - น้องเขย อย่างนี้ล่ะ อ่านแล้วบอกตรงๆ ว่า ยี้มาก ( ส่วนนี้คนเขียนๆ จัดมาได้ดีนะค่ะเพราะว่าเราอ่านแล้วอินจัด ) เพราะไม่ว่าจะด้วยเรื่องหนี้สินที่พระเอกจัดการให้ บ้านที่ซื้อหามาด้วยเพราะการคิดการณ์ของแม่ยาย และเรื่องอื่นๆ อีก อ่านแล้วรู้สึกว่าถ้าหากว่าเจอครอบครัวแบบนี้ไม่รวยจริงอยู่ไม่ได้เลยนะ
ส่วนไม่ชอบมี .. แต่ส่วนดีก็เยอะค่ะเพราะถือว่าคอนทราสกันเห็นชัดเลยระหว่างครอบครัวของนางเอกและพระเอก นานๆ ทีจะได้เจอกับครอบครัวพระเอกมีฐานะดีที่แบบไม่เหมือนดั่งพล็อตที่เจอประจำ เพราะว่าครอบครัวพระเอกนั้นน่ารักมาก ความรักของครอบครัวเผื่อแผ่ให้ตัวนางเอกและครอบครัว อ่านแล้วชื่นชมเลยล่ะค่ะ
อ้อ มีส่วนเล็กๆ เบาๆ ค่ะที่อาจจะไม่ชอบนิดหน่อยกับการพูดจาลงท้าย ค่ะ / ขา ของพระเอกเวลาคุยกับนางเอก ซึ่งหวานค่ะยอมรับแต่ว่าถ้าไม่มากก็พอได้อยู่แต่พอเยอะแล้วมันดรอปอารมณ์คนอ่านอย่างเราไปนิดหน่อย แต่เข้าใจค่ะว่าคนเขียนอาจจะใส่ตรงนี้มาเพราะหวานและน่ารักในอารมณ์ของคุณอาคุยกับหลานสาว (ต่างสายเลือด) แต่ว่ามันก็เป็นจุดนิดเดียวน่ะค่ะที่เราอาจจะรู้สึกไปบ้าง คนอื่นอาจจะไม่รู้สึกอะไรหรือเฉยๆ กับตรงนี้ก็ไม่ว่ากันนะค่ะ ^^
ใครที่ชอบอ่านแนวหวานๆ อ่านเรื่องราวเบาๆ อ่านแล้วฟีลกู้ดอ่านเพลิน ก็แนะนำเรื่องนี้เลยค่ะแต่บอกก่อนว่าจะหวานจิกหมอนก็ต้องเตรียมหมอนไว้สำรองด้วยนะค่ะ ^^
|