<<
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
25 เมษายน 2558

:: รักษ์ โดย ราตรี อธิษฐาน ::





เรื่อง: รักษ์

เขียน: ราตรี อธิษฐาน

สนพ.อรุณ

จำนวนหน้า: 601หน้า

ราคา:365 บาท



**บางส่วนของปกหลัง **




สำหรับใครบางคนอาจจะยอมสละทุกอย่างเพื่อความรัก
แต่สำหรับเธอ แม้แต่ความรัก เธอก็สละได้เพียงเพื่อต้องการรักษาสิ่งที่เธอรักไว้ให้ดีที่สุดเท่านั้น   ดารัณ  สาวโสดวัย 33 ปีผู้ใช้ชิวิตแสนธรรมดาอยู่ในตึกแถวเล็กๆ ท่ว่าชีวิตที่ต้องปากกันตีนถีบเลี้ยงดูแม่และน้องๆอีกสองคน ต้องมาเปลี่ยนไป เมื่อดาราหนุ่มผู้แสนโด่งดังได้ก้าวเดินเข้ามาในร้านมินิมาร์ทที่เธอประจำอยู่ ทำให้เธอต้องออกจากงานและจำเป็นต้องเข้าไปสมัครเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งจากนั้นบางสิ่งที่เธอเฝ้าเก็บรักษาไว้สุดหัวใจก็ค่อยๆ เปิดเผยขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเธอได้กับ  “เขา”คนทีเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล 


หลังอ่าน 


ตอนแรกตั้งใจเอาไว้ว่าเล่มนี้จะรอให้มีโอกาสและจังหวะงามๆเสียก่อนถึงจะเปิดอ่านกันเพราะว่าได้ยินชื่อเสียงและความดังของเรื่องนี้จากหลายเสียงก็เลยกะว่าเอาน่าสักพักเพราะมีคนอ่านแล้วหลายคนเราก็อ่านรีวิวบ้างนิดๆ หน่อยๆรู้แค่เพียงว่า ดัง ดราม่า น้ำตารื้นลากไปถึงหยดแหมะ  คุณภาพคับแบบนี้จะพลาดได้อย่างไร  แต่ก็นั่นล่ะค่ะ “รอก่อนไหม”  เราก็เลยรอสักพักหลังจากซื้อมาจังหวะพอดีๆ  แต่เพราะว่ามีแรงกระตุ้นให้อยากอ่านแทรกเข้ามางานแซงคิวก็เลยต้องมาเพราะเชื่อว่านี่ล่ะเป็นจังหวะเหมาะสมเสียแล้วค่ะ    ต้องขอขอบอกคุณนะคะสำหรับแรงกระตุ้นในอยากให้ลองและเมื่อเปิดอ่านแล้ว....ส่วนตัวบอกเลย ชอบค่ะ 


ดารัณ หญิงสาววัย 33 ปี ที่ใช้ชีวิตแบบว่าห่างไกลกับคำว่าสบายนัก เธอทำงานหามรุ่งหามค่ำเสื้อผ้า หน้า ผมเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าปากท้องของคนในบ้าน เธอ ทำงานทุกอย่างเก็บเล็กผสมน้อยเพียงเพื่อจะดูแลครอบครัวของตัวเองที่ประกอบด้วยแม่-เดือนจันทร์, น้องชาย-ดนัย และน้องสาวคนเล็ก-ดาราณี หรือ ดาว  ความเป็นอยู่ทั่วไปในบ้านไม่ได้สบายนักเพราะแม่แม้จะทำงานขายของแต่ก็น่าเป็นห่วงเรื่องโรคหัวใจที่จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด  น้องชาย – น้องสาวต่างก็อยู่ในวัยศึกษาต้องกินต้องใช้  ค่าเล่าเรียน ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบทั้งหมดเรียกว่าเป็นของดารัณคนเดียว  เธอเหนื่อย แต่เธอไม่เคยท้อเพราะ “ความรัก”ในครอบครัวคือสิ่งที่เธอต้องรักษามันไว้ ..วันหนึ่งเธอมีโอกาสได้เจอกับพระเอกสุดหล่อของวงการแต่ดูเหมือนว่ายิ่งเจอกันยิ่งมีปัญหาแต่สุดท้ายพระเอกคนนี้ก็หยิบยื่นโอกาสให้กับเธอในการเข้าฝากงานและที่นั่นเธอได้พบกับ “เขา” ---- คนที่มีความสำคัญและมีส่วนยิ่งในการทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงไป   เขาผู้ซึ่งเป็นความหลังที่เธอไม่เคยลืมไม่เคยลืมว่าเขาเป็นคนหนึ่งในความทรงจำที่เธอไม่เคยอยากจะลบแต่เพราะมันมี “บางอย่าง”ที่เธอต้องเลือกจะต้องรักษา และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขไปบนความทุกข์แห่งทางเลือกของตัวเอง 



เรื่องนี้ใครที่เกรงกลัวว่าจะเป็นเรื่องดราม่าหนักน้ำตาร่วงเปาะแปะอาจจะต้องบอกว่าไม่ไม่ถึงขนาดนั้นนะคะ ส่วนตัวแล้วคิดว่าเรื่องราว น่าจะเป็นดราม่าที่สัมผัสถึงหัวใจในบางส่วนที่เป็นความรักที่ไม่เฉพาะรักของหนุ่มสาวแต่ว่าเป็นเรื่องของครอบครัว กำลังใจ ในการยืนหยัดในการสู้กับอะไรบางอย่าง คนเรานี่บางทีเหนื่อยกายมันไม่เท่าไหร่แต่ว่าถ้าการเหนื่อยที่พาลร้าวรานมาถึงหัวใจมันรุนแรงนะคะเพราะฉะนั้นในเรื่องนี้อาจจะต้องบอกว่าเรื่องราวมันทำให้เราเหนื่อยเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นความเหนื่อยที่คุ้มค่าในการต่อสู้เพื่อก้าวไปไปข้างหน้าอย่างมีจุดหมาย แม้ว่จุดกำเนิดของเรื่องทั้งหมดมันจะเกิดจากความบริสุทธิ์แต่ถ้ามันยังไม่ถึงเวลาและมันยังไม่ใช่จังหวะเหมาะสม  สิ่งนั้นอาจจะเปลี่ยนเป็นปัญหาได้ทันที  เรื่องนี้ผู้เขียนได้เล่าเรื่องแบบมีแฟลชแบ็คตัดสลับฉากกับปัจจุบันเรียกว่ากลับไปกลับมาในนาทีที่เอื้อถึง  คือ เล่าเรื่องราวในปัจจุบันแล้วก็มีจังหวะเล่าเรื่องราวแต่หนหลังของตัวละครหลักในสมัยวัยเรียนมัธยมปลายซึ่งการเล่าก็ทำให้เราเข้าไปรู้จักแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรโดยเฉพาะดารัณและความหลังที่มีร่วมกับ“เขา” ในวัยอันใสบริสุทธิ์.. และเพื่อน เล่าไปก็ตัดกลับมายังเรื่องราวปัจจุบันถึงถึงสิ่งที่ทุกคนกำลังทำและดำเนินชีวิตไปอย่างที่มันควรจะเป็น  เรื่องราวมันก็ค่อยๆเดินไปแล้วก็สลับฉากกับเรื่องราวในพาร์ทอดีตอีก เรียกว่าสลับไปสลับมาเพื่อทำให้เราได้เข้าใจได้ชัดเจนขึ้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขา ทำไมความรักที่เกิดขึ้นมันต้องจบลงด้วยการแยกทาง และชีวิตของแต่ละคนเดินไปในทางที่ไม่ได้คาดหวัง   และปัญหามันก็ยังคงอยู่ แล้วเมื่อเวลาที่ผ่านไปกว่า16 ปี แล้วกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งด้วยหัวใจที่ฝ่ายหนึ่งเจ็บปวดอีกฝ่ายก็ยังคงรัก และยังคงกังวลว่า “ปัญหา” จะเปิดเผย  เรื่องราวตรงนี้เลยชวนให้คนอ่านต้องมีลุ้น  เพราะมันมีรายละเอียดในนั้นอีกมากมายที่เชื่อว่าแต่ละคนอ่านแล้วน่าจะรู้สึกอาจจะมากบ้างน้อยบ้าง หรือว่าไม่เกิดเลย อันนี้เลยเป็นอะไรที่น่าพิสูจน์ด้วยการอ่านนะคะ


ส่วนตัวฉันแล้วเหมือนที่บอกรวมๆ แล้วชอบเรื่องนี้นะคะ   อ่านแล้วด้วยความต่อเนื่องมันเลยทำให้เพลินและอินได้ในระดับหนึ่ง  และเพราะการบอกเล่าที่ตัดสลับทำให้เรารู้จักแต่ละคนมากขึ้น เราเลยได้เห็นถึงความชัดเจนของแต่ละตัวว่าพื้นฐานของแต่ละคนเป็นอย่างไร อะไรมีส่วนผลักดันให้มันเกิดมันเลยทำให้เราได้เข้านั่งตรงสถานการณ์ตอนนั้นเรียกว่าแทบจะคิดตามเค้าไปด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น  แต่แม้ว่าจะชอบเรื่องนี้อยู่แบบรวมๆแต่ก็อาจจะมีบ้างที่เราไม่ชอบในบางส่วนที่จับลงไปสร้างสีสัน  เอาง่ายๆ ว่าเรื่องของตัวร้ายแล้วกันที่ถึงเราจะไม่ชอบยังไงแต่เราก็ไม่นิยมกับการที่ต้องทนอยู่กับสิ่งที่ตัวเองดันทุรังจะได้รับการยอมรับจากพระเอกนัก   และพระเอกแม้ว่าจะมีความรักที่มั่นคงกับสิ่งที่เค้าพลาดหวังมาจากอดีตแต่เมื่อเราคิดถึงส่วนที่เกิดกับความสัมพันธ์ของเขากับตัวร้ายเราก็ไม่เห็นควรนักว่าทำไมจะต้องให้มันเกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานกันขนาดนี้แต่สำหรับประเด็นนี้ก็คงไม่เท่ากับ “ความไม่เข้าท่า” ในคาแรคเตอร์อย่างแม่ของพระเอก  ที่ดูว่าจะร้ายโผงผางและโฉ่งฉ่างตลาดมาก เรียกว่านางโผล่มาเหมือนทำเอาวงจะแตกเสียได้เพราะเรียกว่าเป็นตัวละครที่สุดโต่งแบบเล่นใหญ่กว่าตัวอื่นๆ  โผล่มาน้อยแต่ร้ายมากนะในความรู้สึกของฉันเพราะนางเป็นคนที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อให้ใครรักและรักใครเลย  และทางออกของปัญหานี้น่าจะสร้างตัวนี้ให้มีคุณค่าขึ้นมาได้มากขึ้นนะเพราะไหนๆ คีย์เวอร์ของเรื่องนี้ก็มาจากเรื่องของ “ความรักที่บริสุทธิ์”  มาแล้วก็น่าจะขีดเขียนภาพตัวนี้ให้สว่างขึ้นได้แล้วความรู้สึกทั้งปวงของเรากับความเป็นลูกก็จะได้ไม่ถูกลดทอนลงไป

 

ทั้งนี้รวมๆ แล้วอาจจะบอกว่าอารมณ์ร่วมสำหรับความผูกพัน bond กันในแต่ละตัวละครอาจจะยังสร้างไม่สุด เพราะกรอบของเวลาแห่งความห่างไกลกันกว่า 16 ปีมันยังไม่แน่นพอจะยอมรับถึงการกลับมาเจอกันและรู้สึก”ดี”ต่อกันได้ง่ายๆ  ฉันอาจจะหยวนให้กับความเข้าใจส่วนตัวไปว่า  ก็คงเพราะ “ความผูกพัน”ในอดีตมันก็อาจจะทำให้เป็นเงื่อนไขดัชนีชี้ง่ายว่ามันก็ไม่ยากนี่นาว่าเราจะต่อกันติดและแก้ไขทุกอย่างร่วมกันได้เพราะทุกคนเห็นความสำคัญของสิ่งเดียวกันนั่นคือเป้าหมายหลักของเรื่อง  


ใครยังไม่ได้อ่านก็เห็นควรว่าถ้าหากว่าอยากลองก็ลองเถิดค่ะ ดราม่ามันมีแต่ไม่ใช่จะทั้งเรื่องใครบอกร้องไห้ รื้นๆ ก็คงจะเป็นเพราะตัวบุคคลกับการสัมผัสได้ถึงตัวหนังสือของคนเขียน ไม่ได้เศร้ารันทดหดหู่แต่มันเป็นความเศร้าในความเข้าใจถึงปัญหาและการเผชิญสถานการณ์ทางเลือกบางอย่างณ ตอนนั้น ถ้าหากว่าไม่เชื่อลังเลก็คงบอกว่ายังไงก็ต้องลองล่ะค่ะแล้วคุณจะรู้ว่า มันดี หรือว่าไม่ดียังไง สำหรับเรื่องนี้ “รักษ์” 

 

 




 

Create Date : 25 เมษายน 2558
9 comments
Last Update : 5 สิงหาคม 2558 18:12:52 น.
Counter : 9366 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะคุณพู่..

วันนี้มีงาน Meeting ชาว Bloggang ..

คิดถึงคุณพู่จัง..

 

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) 25 เมษายน 2558 19:10:16 น.  

 

มาอ่านรีวิวค่า เรื่องนี้หลายคนชอบเลย กำลังเล็งอยู่ว่าเอาไงดีน้า

 

โดย: ออโอ 25 เมษายน 2558 19:26:37 น.  

 

เรื่องนี้ได้ยินว่าการันตีด้วยยอดวิวจำนวนมากในเด็กดี

น่าจะได้ลองอ่านเต็มเล่มสักครั้ง เพราะเท่าที่เคยลองชิมลางอ่าน สงสัยอ่านได้เพียงไม่กี่บทเท่านั้น ยังไม่รู้สึกถึงความน่าดึงดูดจะอ่านเท่าที่ควรก็เลยไม่ได้ตามอ่านต่อเนื่อง (แต่เรื่องภาษาการเล่าไม่มีอะไรขัดตา)

 

โดย: dal IP: 1.4.222.138 25 เมษายน 2558 21:14:34 น.  

 

ตั้งใจว่าจะสอยอยู่นะคะเรื่องนี้
ขอฉลองกองใหม่จากงานหนังสือก่อน

 

โดย: Serverlus 26 เมษายน 2558 8:22:19 น.  

 

แวะมาเก็บข้อมูลค่ะ ^^


 

โดย: คอเล่า IP: 171.4.42.199 26 เมษายน 2558 9:56:04 น.  

 

เป็นอีกเล่มที่น่าอ่านมากค่ะ ชอบเรื่องหนักๆเหมือนกัน
เพราะอ่านแล้วได้แง่คิดอะไรหลายอย่างให้กับชีวิต
ว่าคนเราบางครั้งมันต้องเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง
มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog
mambymam Beauty Blog ดู Blog
smack Music Blog ดู Blog
JewNid Book Blog ดู Blog


 

โดย: ฝากเธอ 26 เมษายน 2558 12:16:32 น.  

 

มาอ่านรีวิวครับ
เรื่องนี้สนใจเพราะดังมากกก

 

โดย: อุ้มสม 26 เมษายน 2558 15:10:49 น.  

 

โหวตหมวดหนังสือค่ะคุณพู่

เล่มนี้ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ แหะๆ

เราเขียนรีวิวหนังสือไว้เล่มหนึ่ง ยังไม่ได้คิวลงรีวิวเลย น่าจะลงสัปดาห์หน้าหละค่ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 29 เมษายน 2558 12:48:46 น.  

 

ขอบคุณที่แนะนำค่ะ

 

โดย: kae+aoe 30 เมษายน 2558 16:24:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


JewNid
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 48 คน [?]




[Add JewNid's blog to your web]