เหตุแห่งจุติ(ดับหรือตาย)ของเทวดาและเกร็ดเกี่ยวกับพญามาร เหตุแห่งจุติ (ดับหรือตาย) ของเทวดา เหล่าปวงเทวดาหรือเทพทั้งหลายที่สถิตเสวยสุขอยู่ในสรวงสวรรค์ทุกชั้นฟ้านั้น ต้องตายจากเทวโลกทั้งหลายเหมือนกัน แต่เราเรียกว่าจุติ (ใช้กับเทวดา เป็นการเคลื่อนจากภพหนึ่งไปสู่ภพอื่น) เพราะจัดอยู่ในจำพวกสัตวโลก คือผู้ที่ต้องข้องเกี่ยวอยู่กับการเวียนว่ายตายเกิดอยู่อีก เช่นเดียวกับมนุษย์เราและสัตว์ทั้งหลาย ในเวลาที่เทพบุตรหรือเทพธิดาไม่ว่าชั้นไหนทั้ง 6 ชั้นจะจุติ (ดับ) จากหมู่เทพทั้งหลายนั้น มีเหตุที่ทำให้เหล่าเทพจำต้องจุติจากเทวโลกมีอยู่ 4 ประการด้วยกันคือ 1.เพราะหมดอายุขัย เทพยดาองค์ใดเคยสร้างการกุศลมาแต่ปางก่อนไว้มากและช้านาน ด้วยผลบุญกุศลที่ตนได้ทำไว้นั้นได้ไปบังเกิดเป็นเทวดาเสวยทิพยสมบัติในเทวโลก ครั้นหมดอายุแล้วจุติ การจุติเช่นนี้เรียกว่าหมดอายุขัย คือสิ้นอายุ 2.เพราะสิ้นบุญ เทพยดาองค์ใดเคยสร้างการกุศลมาแต่ปางก่อนไว้น้อย เมื่อกุศลผลบุญที่ตนสร้างไว้นั้นหมดลงเสียก่อนในระหว่างที่ยังไม่ถึงอายุขัย เทพยดาองค์นั้นก็ต้องจุติไปเกิดที่อื่นหรือชั้นที่ต่ำกว่า การจุติเช่นนี้เรียกว่าจุติไปด้วยเหตุสิ้นบุญ 3.เพราะสิ้นอาหาร เทพยดาบางองค์เมื่อได้มาเสวยทิพยสมบัติอันล้วนไปด้วยความสุข ก็มีจิตยินดีชื่นชมหนักหนาเพราะว่าตนไม่เคยได้พบเห็นเทวสมบัติเช่นนี้มาก่อน หรือเพลิดเพลินอยู่กับนางอัปสรสาวกัญญา จึงมีจิตอาวรณ์เพลิดเพลินไปตามเบญจกามคุณารมณ์จนลืมเวลาที่จะบริโภคสุธาโภชนาหารทิพย์ เขาจะมีกายทิพย์อันเหี่ยวแห้งแล้วจุติ ซึ่งตามปกติแล้วถ้าไม่ได้บริโภคอาหารแค่มื้อเดียวก็จุติจากสวรรค์แล้ว เพราะกายของเทวดานั้นละเอียดอ่อน มีธาตุไฟแรงมาก เมื่อถึงเวลาบริโภคอาหารแล้วแต่ไม่ได้บริโภคอาหาร (ถึงเวลาแล้วไม่บริโภคไม่ได้) ร่างกายก็มิอาจทนทานต่อกำลังของธาตุไฟได้ ก็ถึงซึ่งดับสูญจุติจากทิพยสมบัติเพราะลืมบริโภคอาหารนั้น แท้จริงแล้วกายของเทวดานั้นไม่แข็งแรงทนทานเหมือนกายของมนุษย์เรา เทวดานั้นเมื่อพ้นเวลาที่ต้องบริโภคแล้ว ถึงจะระลึกได้ทีหลังแล้วจะรีบบริโภคอาหารสักเพียงใด อาหารนั้นก็มิอาจรักษาชีวิตไว้ได้ จึงต้องจุติไปดังกล่าวแล้ว การจุติเช่นนี้เรียกว่าจุติไปด้วยเหตุสิ้นอาหาร 4.เพราะความโกรธ หมายถึงเทวดาหรือเทพที่ไม่อดทนต่อสมบัติของผู้อื่น เทพยดาบางองค์ครั้นได้เห็นรูปทรงสัณฐาน เห็นทิพยวิมาน หรือเห็นสิริสมบัติของเทพยดาองค์อื่นซึ่งมียศ มีอำนาจ มีบุญญาธิการยิ่งกว่าตน ก็มีจิตคิดอิจฉาริษยา พาลหาเรื่องก่อเหตุวิวาทโต้เถียงด้วยฐิติมานะกันอึงคนึง โดยลืมนึกถึงความเป็นเทพของตนไป ในกรณีเช่นนี้ถ้าเทพองค์หนึ่งองค์ใดเป็นผู้มีขันติธรรมพยายามอดทนต่อความโกรธนั้นไว้ได้ เขาทั้งสองฝ่ายก็จะสามารถที่จะรักษาชีวิตซึ่งกันและกันไว้ได้ทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้เพราะใจของเทพผู้โกรธเป็นไฟ ส่วนใจของเทพผู้มีขันติธรรมระงับความโกรธนั้นไว้ได้เป็นน้ำ ย่อมเป็นเครื่องดับไฟ ดับใจของเทพผู้โกรธนั้นได้ เขาทั้งสองจึงไม่ต้องจุติจากสวรรค์ แต่ถ้าเทพทั้งสองฝ่ายต่างก็โกรธเป็นไฟด้วย เหล่าเทพผู้เป็นบริวารของเขาทั้วสองฝ่ายย่อมสลายผมลงทั้งร้องไห้เสียใจ เพราะเชื่อแน่ว่าพวกตนจักต้องสิ้นเทพผู้เป็นนายไปอย่างแน่นอน ครั้นเมื่อความโกรธของทั้งสองฝ่ายเข้าครอบงำหนักเข้าๆ จิตของเทพทั้งสองฝ่ายก็เป็นไฟเผาไหม้ตัวเองจนถึงแก่ความตาย ต้องจุติไปด้วยกันทั้งสองฝ่ายในทันที การจุติเช่นนี้เรียกว่าจุติไปด้วยเหตุที่มีความโกรธอันเป็นไฟ เกร็ดเกี่ยวกับพญามาร พญามารนามว่าวัสวดีมาราธิราชอยู่ในเทวโลกชั้นปรนิมมิตวสวัตตี แต่ไม่ได้เป็นพวกเดียวกันกับเหล่าเทวดาในชั้นนี้หรือภูมินี้ พวกพญามารนี้จะอยู่ในกลุ่มของตนเองตามชายเขตแดนแถวขอบเขาจักรวาล พญามารนี้แต่ปางก่อนได้กระทำกุศลประการใดจึงได้ขึ้นไปบังเกิดในปรนิมมิตวสวัตตีได้เสวยทิพยสมบัติอันโอฬาริกภาพ ประกอบด้วยทิพยวิมานอันบริบูรณ์ด้วยทิพยแสนสุรางคนิกรทั้งปวง ได้เป็นใหญ่อยู่ในประเทศแห่งหนึ่งในชั้นปรนิมมิตวสวัตตีนี้ด้วยอำนาจแห่งกุศลธรรมเป็นประการใด มีคำกล่าวไว้ในมารพันธุ์นั้นว่า พญามารนี้แต่ปางก่อนได้บังเกิดเป็นกุลบุตรผู้หนึ่ง ได้พบสมเด็จพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ได้บำเพ็ญการกุศลในสำนักแห่งพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ครั้นแล้วก็ปรารถนาจะเป็นพญามาร กระทำปณิธานความปรารถนาที่เป็นบาป อาศัยบุญอันนั้นจึงได้มาบังเกิดเป็นพญามารอยู่ในชั้นปรนิมมิตวสวัตตี พญามารวัสวดีนั้นมีอายุได้หนึ่งกัป มีมารธิดารวม 3 นาง คือ นางราคา นางอรดี และนางตัณหา นางทั้งสามนี้มีบริวารนางละห้าร้อย   Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2551 13 comments Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 9:54:41 น. Counter : 2220 Pageviews. Share Tweet

มาส่งเข้านอนค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะ จุ๊บ จุ๊บ ปล.มีสิ่งดี ๆ มาฝากกันเสมอเลย   โดย: สายป่าน (Doungtawan ) 27 กุมภาพันธ์ 2551 22:37:38 น.

แหะๆๆ คุณป่านคะ คือว่าเราก็อู้นิยายไปเรื่อยๆล่ะค่ะ จนกว่าจะคิดออกอะ ^__^'' ระหว่างนี้เลยหาข้อมูลอะไรมาฝากให้อ่านกันก่อน และแล้วคุณป่านก็นอนดึกอีกเช่นเคย   โดย: กาญจน์ฏี IP: 118.174.122.249 28 กุมภาพันธ์ 2551 9:49:09 น.

สวัสดีค่ะพี่สาวคนสวย แวะมาทักทายสายไปนิด เพราะดอกไม้บานช้า... สุขสันต์วันเสาร์ค่ะ   โดย: เดหลี (เดหลีสีแดง ) 1 มีนาคม 2551 15:20:36 น.

ขยันส่งดอกไม้จังเลยนะคะเดหลี ขอบใจมากๆเลยจ้ะ มีความสุขมากๆนะคะ   โดย: กาญจน์ฏี IP: 118.174.114.228 1 มีนาคม 2551 21:03:12 น.

แรงฤทธิ์วันอาทิตย์ จิตแจ่มใส แวะมาถามไถ่ ไปเลือกตั้ง สว หรือยังเอ่ย? เดหลีส่งความคิดถึงมากับดอกไม้ค่ะ   โดย: เดหลี (เดหลีสีแดง ) 2 มีนาคม 2551 14:43:40 น.

ดอกกุหลาบสวยจังค่ะ อิๆๆ พี่ไปเลือกสว.เรียบร้อยแล้วจ้ะ พี่ก็คิดถึงเดหลีเช่นกันค่ะ   โดย: กาญจน์ฏี IP: 118.174.132.193 3 มีนาคม 2551 9:14:54 น.

ไม่ลืม ไม่ลืม ไม่ลืม ไม่ได้ลืมที่จะแวะมาถามไถ่และส่งดอกไม้เหมือนเก่า เพียงแต่วันนี้สุดเศร้า เดหลีนั่งแก้รายงานส่งอาจารย์จนตาลาย แต่ไม่วายคิดถึง จึงแนบดอกไม้พร้อมความคะนึง สุขสันต์วันจันทร์ตอนเลิกงานค่ะ ^^   โดย: เดหลีสีแดง 3 มีนาคม 2551 22:04:59 น.

สวัสดีวันอังคาร วันนี้ไม่มีดอกไม้แสนหวาน แต่ส่งภาพถ่ายแสนอลังการ ส่งมาประดับบ้าน แทนมิตรภาพที่มีให้กัน ^^ สุขสันต์วันทำงานจ้า...   โดย: เดหลีสีแดง 4 มีนาคม 2551 11:00:44 น.

แวะมาทักทายและอ่านเกร็ดความรู้ค่ะ   โดย: ศรีสุรางค์ 5 มีนาคม 2551 9:16:41 น.

วันนี้ที่ขอนแก่นค่อนข้างหนาวล่ะจ้า... ความขี้เกียจมักมาเยือนพร้อมความหนาว คือขี้เกียจลุกจากที่นอน ^^ แต่กลางสัปดาห์อย่างนี้ ไม่รีบลุกขึ้นมาทำงาน ไม่ได้แล้ว..... สู้ๆ อีกสองวันก็จะสุดสัปดาห์ อิอิอิ   โดย: เดหลีสีแดง 5 มีนาคม 2551 9:29:05 น.

โดย: นายแจม 5 มีนาคม 2551 13:28:56 น.

ขอบใจเดหลีมากเลยจ้ะที่ขยันส่งดอกไม้ ง่า พี่ไม่มีอะไรตอบแทนความมีน้ำใจของเดหลีนอกจากความปรารถนาดีและคำอวยพรให้เดหลีประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน คิดสิ่งใดย่อมสมดังประสงค์ทุกประการนะคะ ขอบคุณคุณศรีสุรางค์มากค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยียน ขอบคุณคุณนายแจมด้วยค่ะที่เข้าชมบล็อคของเรา   โดย: กาญจน์ฏี IP: 118.174.255.76 5 มีนาคม 2551 19:46:08 น.

รอ ราชนัย อมตะ อยู่เสมอ นะค้า immortal king   โดย: p IP: 101.109.3.21 28 มกราคม 2555 13:32:24 น.