"นิยายรักนักศึกษา" อยากเสี่ยว ..... ต้องลอง
ศุภักษร , 2549 , นิยายรักนักศึกษา 1,2 , สำนักพิมพ์ a book , กรุงเทพฯ
เชื่อว่าหลายๆคนที่เข้ามาอ่านคงผ่านชีวิตในรั้วมหาลัยกันมาแล้ว
ผมเองก็ได้ผ่านมันมาแล้วครับ ใช้เวลา 4 ปีครึ่ง (จบช้าไปหน่อย .... ติดบางวิชา) เป็นช่วงเวลาที่สนุกดีครับ มีอิสระ ให้ความรู้และประสบการณ์หลายๆอย่าง จากกิจกรรมและเพื่อนๆ แต่ถ้ามองในมุมกลับกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหมือนถูกขังอยู่ในรั้วที่กว้างใหญ่มาเป็นเวลานาน
รั้วของเรา เราคุ้นเคยดี แล้วรั้วอื่นๆ .... มหาลัยอื่นๆเขาเป็นยังไงกันบ้างหว่า
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากรู้ลึกๆในใจมานานแล้ว แต่คงไม่มีโอกาสได้ไปเสาะหา ได้ไปสัมผัสหรอก แค่เรื่องในรั้วของตัวเองก็แทบเอาตัวไม่รอดแล้ว 555 ++ ก็เลยเบนเข็มมาเสาะหาข้อมูลความรู้ที่เป็นตัวหนังสือแทน แต่เรื่องราวแบบนี้หายาก ไม่ค่อยมีคนเขียนถึงกันหรอก .......
แต่แล้ววันนึงมีโอกาสได้ไปงาน "a book fair" ก็ได้พบกับหนังสือเล่มนี้
ผ่าง !!!! .......
ที่จริงตอนที่ซื้อมาก็ไม่ได้พิจารณาอะไรมากหรอกครับ ไม่ได้ทดลองเปิดอ่าน ไม่ได้ประทับใจหน้าตาหนังสือ แค่ผมพลิกไปดูปกหลังแล้วเห็นราคาที่ขายในงานมันแค่ 30 บาทเท่านั้นเอง !!!! ไม่ซื้อก็โง่แล้ว ถูกๆแบบนี้หาได้ที่ไหนอีก (อย่างน้อยซื้อหนังสือก็ดีกว่าเอาเงินไปละลายที่ร้านเกมส์ล่ะว๊า ....ตกเย็นก็ไปเล่นอีก) แต่ธีมของหนังสือให้บรรยากาศเก่าๆ เหมือนหนังเรื่อง "เก๋า....เก๋า"เลย
เล่มมันกะทัดรัดดี ผมก็พกไปอ่านเรื่อยๆตามที่ต่างๆ นั่งรอเขาเรียกสัมภาษณ์ตอนสมัครงานบ้าง นั่งรอตอนนัดกับเพื่อนบ้าง อ่านก่อนนอนบ้าง....ไปๆมาๆล่อจนจบเลย 2 เล่มรวด ถ้าจะให้ผมลงความเห็นเกี่ยวกับหนังสือชุดนี้ล่ะก็ คำแรกที่ผมจะ present ให้เห็นถึงภาพกว้างๆของหนังสือให้ฟังก็คือ ......
เสี่ยวว่ะ .....
ให้ตายเถอะ เสี่ยวได้เป็นการเป็นงานจริงๆ ใครเคยได้ forward mail ที่รวบรวมคำศัพท์เสี่ยวๆ ประโยคเลี่ยนๆที่เอาไว้จีบสาวบ้างครับ? เรื่องนี้ยิ่งกว่านั้นซะอีก ในเล่มจะเป็นเรื่องสั้นจบในตอนว่ากันด้วยการจีบกันของหนุ่มสาวในรั้วมหาลัยต่างๆ (ตามหน้าปกเลยครับ >>> นิยายรักนักศึกษา) คนเขียนเรื่องนี้ ที่มีนามปากกาว่า "ศุภักษร" เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ในการสรรหาคำพูดต่อคำของหนุ่มสาวมาใส่ในหนังสือจริงๆ ในเล่มท่านจะได้พบกับคำพูดคำจาสไตล์นี้ตลอดเวลา .....
เป็นไงล่ะครับ .... เสี่ยวดีไหมล่ะ ตามแบบฉบับพ่อแง่แม่งอน
อ่านแล้วก็ได้แต่ยิ้มที่มุมปากเบาๆ แล้วลุกไปอ้วกที่ห้องน้ำอย่างเงียบๆ (แต่จะว่าไปก็ดูสร้างสรรค์ดีนะ ถ้าลองเอาไปใช้ในชีวิตจริงมันจะเป็นยังไงหนอ) หนังสือเล่มนี้แสดงจุดยืนสนับสนุนประโยคที่ว่า "คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง" อย่างมากเลยทีเดียว เพราะว่าพระเอกของตอนต่างๆในเล่มส่วนมากเป็นคนหน้าตาไม่ดีครับ แต่พอมาแสดงในเรื่องก็ได้แฟนติดไม้ติดมือกลับบ้านไปทุกที (อิจฉาว้อยยยย .....)
แล้วถ้าเป็นแบบนี้ มันมีอะไรจูงใจให้ผมอ่านจนจบรวดเดียวได้ล่ะ? ถ้ามันเสี่ยวล้วนๆผมคงโยนทิ้งแล้วล่ะครับ อ่านแล้วไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่หากมองข้ามความเสี่ยวที่มากับเนื้อหาส่วนใหญ่ของเรื่องออกไป ก็จะพบว่าผู้เขียนมีความเป็น "กูรู" (Guru) ในเรื่องของมหาลัยเหมือนกัน หลายๆตอนที่อ่านจะพาเราไปทำความรู้จักกับมหาลัยต่างๆ ในหลายๆภาค และแถมด้วยเกร็ดความรู้ต่างๆด้วย เช่นแบบนี้ .....
บางทีก็ไว้ใช้เกริ่นนำเรื่อง ....
บางทีก็แทรกอยู่ระหว่างดำเนินเรื่อง
บางครั้งการหม้อสาวด้วยความรู้ก็เป็นไอเดียที่ดี ..... อันนี้ ม.สงขลานครินทร์ครับ วิทยาเขตปัตตานี
มีข้อมูลของ ม.เกษตรฯด้วย ก็จริงดังเขาว่า ..... (ลูกเกษตรยืนยันให้เลย)
บ้างก็ในรูปของเพลงประจำมหาลัยต่างๆ เช่น ของ ม.ขอนแก่น
อันนี้เพลงชีวิตมหาลัย ของทันตแพทย์ศาสตร์ มหิดล
ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละที่ผมต้องการ ถึงแม้มันจะไม่มากมาย แต่ก็ทำให้ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับมหาลัยต่างๆมากขึ้น ถือซะว่าเป็นของขวัญที่คนอ่านจะได้รับหากสามารถผจญกับความเสี่ยวแดกในเล่มได้อย่างไม่ย่อท้อ
แต่ยังไงก็ตาม ต้องบอกไว้ก่อนครับว่านี่ไม่ใช่นิยายที่เขียนขึ้นมาใหม่ นี่เป็นเรื่องที่ศุภักษรได้เขียนตั้งแต่ตอนยังหนุ่มๆ อายุงานนี่ปาเข้าไป 20 ปีแล้วครับ เรียกว่าพ่อๆแม่ๆของเราคงจะรู้จักงานเขียนชุดนี้บ้างแน่ เพราะมันดังมากๆเลยในสมัยนั้น
ข้อมูลบางอย่างจึงอาจไม่ตรงกับปัจจุบัน ..... ฟังหูไว้หูก็แล้วกัน
แต่ไม่เป็นไรหรอก ...... รวมๆแล้วถือว่าผมถูกใจงานชิ้นนี้แหละ
ป.ล. >>> ถ่ายรูปมาคราวนี้ไม่ดีเลย ออกเบลอๆแฮะ คงพออ่านกันได้นะครับ
Create Date : 26 กรกฎาคม 2550 |
|
53 comments |
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 0:20:58 น. |
Counter : 9077 Pageviews. |
|
|
|