Gaius Just Think.. ความคิดวุ่นวาย..ของผู้ชายยอดยุ่ง
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
2 เมษายน 2553
 
All Blogs
 

มีความลับ..เพราะความรัก

คราวนี้ไม่ได้เขียนอะไรที่มาจากความคิดตัวเอง แต่เมื่อวานได้นั่งดูซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องนึง แล้วก็นั่งน้ำตาซึมกับเนื้อเรื่องตอนนั้น เลยหยิบเอามาเล่าสู่กันฟังต่อครับ

เรื่องที่นั่งดูเมื่อคืน ชื่อว่า VOICE ไม่รู้ชื่อไทยว่าอะไรนะ เพราะหนังไม่ได้พากษ์ไทย แต่มีซับขึ้นให้ เป็นหนังเกี่ยวกับอาชีพนิติเวช พวกชันสูตรพลิกศพน่ะครับ ในตอนนี้มีผู้เสียชีวิตคนนึง เป็นผู้หญิง อายุมากละ แต่งงานอยู่กับสามีมากว่า 40 ปี สาเหตุการตายเบื้องต้นสันนิษฐานว่า มาจากการที่เค้าไปซื้อเนื้อลดราคาที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วถูกกระแทกอย่างแรงที่ท้อง ทำให้ม้ามแตก แต่ตรงนั้นคงไม่ใช่สาระที่อยากนำมาเล่านะครับ ส่วนที่อยากนำมาเล่าจะเกี่ยวกับเรื่องของสามีภรรยาคู่นี้แหละครับ

ในเรื่องนั้น สามีเป็นช่างทำรองเท้า มีบุคลิกเป็นคนแข็งๆ ขรึมๆ จริงจังกับชีวิตมาก แต่งงานอยู่กับภรรยามากว่าสี่สิบปีละ แต่ระยะหลัง สามีคิดว่าภรรยาเริ่มหลงๆ ลืมๆ เพราะว่าเอาแต่ซื้อเนื้อมาทำอาหารอย่างเดียวกันให้สามีทานทุกวัน อาหารนั้นชื่ออะไรจำไม่ได้ แต่เป็นอาหารที่สามีเคยบอกให้ภรรยาหัดทำเพื่อทำให้เค้าทาน นอกจากนี้ทั้งที่ที่บ้านมีเครื่องซักผ้าอยู่แล้ว ก็ยังจะรบเร้าขอสามีซื้อเครื่องซักผ้าใหม่ เหมือนว่าจำไม่ได้ว่าที่บ้านมีเครื่องซักผ้า แล้วก็ยังซื้อนาฬิกาปลุกมาให้อีก ทั้งๆ ที่มีนาฬิกาปลุกอยู่แล้ว ภรรยามีกิจวัตรประจำวันที่ต้องออกไปที่ รร.สอนเต้นรำสำหรับผู้สูงอายุทุกวัน ในระยะหลังก็ยังออกไปอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ก่อนวันเสียชีวิต ภรรยาก็พึ่งจะเก็บลูกหมามาเลี้ยง โดยไม่ฟังคำคัดค้านของสามีแต่อย่างใด ทั้งหมดนี้ทำให้สามีสรุปว่า ภรรยาเริ่มหลงๆ ลืมๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นเหตุให้โกรธอะไรกันนะครับ

หลังจากที่ภรรยาเสียชีวิตไปเนื่องจากสาเหตุที่เข้าใจกันว่าเพราะโดนกระแทกที่ท้องอย่างแรง ทีมนิติเวชจะชันสูตรศพ แต่สามีไม่ยอมให้ทำ เพราะสงสารภรรยาที่ศพจะต้องถูกรบกวน แต่ทีมนิติเวชก็ไม่ย่อท้อ พยายามพูดคุยเกลี้ยกล่อม และไปสืบพยานด้านอื่นมาประกอบ และได้ข้อสรุปว่า น่าจะมีอะไรบางอย่างอีก ที่ภรรยาปิดบังสามีไว้ จนทำให้สามียอมให้ชันสูตรศพจนได้ ก่อนที่จะยอม สามีพูดว่า "เราอยู่กันมาตั้งสี่สิบปี ยังมีเรื่องอะไรที่เธอปิดบังชั้นได้อีกหรือ" ด้วยความรู้สึกเหมือนจะไม่เชื่อและรู้สึกผิดหวังปนกันไป

และเมื่อชันสูตรแล้ว ก็พบว่าสาเหตุการตาย ไม่ได้มีเพียงอย่างเดียว แต่กลับมีอีกเรื่องนึง ซึ่งเป็นความลับที่ภรรยาปิดบังไว้จริงๆ..

ภรรยาของเค้า เป็นมะเร็งช่องท้องในระยะลุกลาม..และจะอยู่ได้อีกไม่เกินสองเดือน..
ภรรยาของเค้ารู้ตัวดี..เพราะตรวจพบตัวยาต้านมะเร็งในกระแสเลือด..
ภรรยาของเค้า ไม่เคยบอกเค้าเลย.. และไม่เคยแม้แต่จะแสดงอาการอะไรให้เห็น..
ภรรยาของเค้า ไม่ได้หลงๆ ลืมๆ..
แต่รู้ตัวตลอดมาว่า..
ตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว..
ที่ซื้อเครื่องซักผ้ามา.. ไม่ใช่เพราะลืม.. แต่เพราะรู้ว่าสามีไม่เคยทำงานบ้าน.. เพราะเป็นห่วงว่ากลัวจะซักผ้าเองไม่ได้.. จึงรบเร้าให้ซื้อเครื่องซักผ้าที่เป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด
ที่ทำอาหารซ้ำๆ เดิมๆ ทุกวัน.. ไม่ใช่เพราะหลงลืมวิธีทำอาหารชนิดอื่น.. แต่เพราะรู้ว่าเป็นอาหารที่สามีชอบทาน และกลัวสามีจะไม่ได้ทานอีกหลังจากตัวเองจากไป
ที่เก็บลูกหมามาเลี้ยง.. ทั้งๆ ที่จริงๆ ตัวเองเกลียดกลัวหมา.. เพราะกลัวสามีต้องอยู่คนเดียวแล้วจะต้องเหงา จึงหวังว่าลูกหมาจะมาอยู่เป็นเพื่อนแทนตัวเองได้
ที่ยังออกไปรร.สอนเต้นทุกวัน.. ทั้งที่ตัวเองแค่ยืนยังแทบจะไม่ไหว.. ก็เพราะกลัวสามีจะสังเกตเห็นความผิดปกติ.. ถ้าหากตัวเองอยู่กับบ้าน
และสุดท้าย ที่ทำให้น้ำตาผมซึมได้.. นาฬิกาปลุก ที่เหมือนจะเป็นสิ่งที่ซื้อมาซ้ำเพราะหลงๆ ลืมๆ ก็ไม่ใช่.. แต่เป็นเพราะ ทุกวันตลอดสี่สิบปี สามีของเค้าไม่เคยตื่นได้เพราะนาฬิกาปลุก จะต้องเป็นตัวภรรยาที่มาคอยปลุกด้วยเสียงของตัวเอง.. และนาฬิกาปลุกรุ่นนั้นเป็นรุ่นที่บันทึกเสียงได้.. ในนาฬิกาปลุกนั้น บันทึกเสียงของภรรยาวันที่ไปซื้อนาฬิกาปลุกมา ซึ่งเป็นวันที่ภรรยาเสียชีวิต .. บันทึกเสียงไว้ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้ตั้งใจจะอัด เป็นเสียงที่ภรรยาคุยกับเซลล์ขายนาฬิกาปลุกนั้น..
"ฉันไม่รู้ว่าเค้าจะสามารถตื่นด้วยตัวเองได้ไม๊ เลยอยากจะอัดเสียงไว้ปลุกเค้า.." และพอเซลล์บอกว่าตอนนี้เริ่มอัดเสียงแล้ว ภรรยาจึงพูดลงไปว่า "ที่รัก..ตื่นได้แล้ว..เช้าแล้ว..." ซึ่งเป็นประโยคเดียวกับที่เธอพูดอยู่ข้างหูสามีทุกเช้าตลอดสี่สิบปี

เธอเลือกที่จะปิดบังความทุกข์ทรมานของตัวเองไว้ ทั้งที่เจ็บปวดจนแทบจะทนไม่ไหว แต่ไม่อยากให้สามีต้องเศร้าหรือเป็นทุกข์เป็นห่วง

เธอพยายามใช้เวลาทุกวันที่เหลืออย่างเต็มที่ เตรียมทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับสามีที่จะต้องใช้ชีวิตคนเดียวหลังจากที่เธอจากไป เพราะตระหนักดีว่า ทุกวันอาจเป็นวันสุดท้ายของเธอก็ได้

เธอปิดบังความลับนี้ไว้ จนวันสุดท้าย..
จนเธอจากไป..

สรุปได้เพียงเหตุผลเดียวจริงๆ..
ปิดบัง..เพราะ.."รัก"

แบ่งปันความซึ้งใจในความรักที่ยิ่งใหญ่ของผู้หญิงหนึ่งคน..




 

Create Date : 02 เมษายน 2553
5 comments
Last Update : 2 เมษายน 2553 14:43:48 น.
Counter : 585 Pageviews.

 

ถ้าในชีวิตจริง มีโอกาสได้เจอใครสักคน
ที่รักเราจริงขนาดนี้ .. .. เราอยากรู้ว่า
เราจะสามารถรับรู้ได้ในความรักที่เค้ามีให้
ในขณะที่เรามีชีวิตอยู่
หรือมาสำนึกได้ในวันที่เค้าจากเราไปแล้ว...

 

โดย: Life & Learn 2 เมษายน 2553 16:12:22 น.  

 

 

โดย: thanitsita 2 เมษายน 2553 21:08:59 น.  

 

เศร้าจังค่ะ แต่ก็เข้าใจในความรักของภรรยาที่อยากจะยอมทุกข์อยู่เพียงฝ่ายเดียวเพื่อให้คนที่รักอยู่อย่างเป็นสุข

แต่เมื่อมองในมุมกลับกัน สามีคงอยากรู้ทุกอย่าง และมีโอกาสได้ใช้ชีวิตเพื่อดูแลภรรยาอย่างดีที่สุดก่อนเธอจากไปเช่นกัน น่าจะมีหลายเรื่องที่สามีอยากทำให้ภรรยา ไม่ต่างจากที่ภรรยาทำให้สามีก่อนเธอจากไป

แต่ถ้าเป็นไปได้ ไม่ว่าวันไหน ไม่ว่าจะมีเวลาอยู่ด้วยกันมาก หรือน้อยเพียงใด ถ้าได้รักอยากหมดหัวใจ และได้ดูแลคนที่รักอย่างสุดกำลัง เมื่อการลาจากมาถึง ย่อมไม่ต้องเสียใจ หรือเสียดายกับสิ่งที่ "น่าจะ"ทำ

 

โดย: der Flieder 3 เมษายน 2553 21:13:40 น.  

 

จะดีสักแค่ไหนถ้ามีคนรักเรามากขนาดนี้


อยากได้ อยากได้

 

โดย: ฝนโปรย 5 เมษายน 2553 22:11:18 น.  

 

อ่านแล้วน้ำตาจะไหลเลยค่ะ...ทั้งเศร้าและอิ่มเอมในความรักของสามีภรรยาคู่นี้...อยากดูหนังเรื่องนี้บ้างจังเลยค่ะ...สงสัยดูไปน้ำตาเราคงท่วมจอ T^T งืดๆ

 

โดย: แมวน้อยขี้เหงา IP: 58.9.200.99 22 เมษายน 2553 14:53:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


gaius
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้ชายธรรมดา..ไม่พิเศษ
จะมากกว่าคนอื่นก็ตรงความคิดที่แสนจะวุ่นวาย..
กับชีวิตที่แสนจะยุ่งเหยิง..
Friends' blogs
[Add gaius's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.