Bloggang.com : gadupong : กรุงเทพ-ด่านขุนทด By เด็กชายไก่ ภาค3

กรุงเทพ-ด่านขุนทด By เด็กชายไก่ ภาค3

ใครพลาดภาค 1 กดตรงนี้ ==>ภาค1<==
ใครพลาดภาค 2 กดตรงนี้ ==>ภาค2<==
คืนวันที่ 4 พฤษภาคม 2553

ก่อนนอนตั้งใจว่าจจะไปถวายอาหารเช้าที่วัด ตอน 7.00น.

การได้นอนที่ต่างจังหวัดเป็นอะไรที่ รู้สึกดีมาก (ถ้ามันไม่ร้อน)

บ้านอาน้อยเป็นบ้านลูกครึ่ง ข้างล่างปูน ข้างบนไม้ เด็กชายไก่ได้นอนชั้นบน

เมื่อเข้ามาถึงบ้าน ก็ทำความเคารพผู้ใหญ่ประจำบ้านเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นก็ได้ขึ้นไปสู้ชั้น2 ของบ้าน

แก้ผ้าอย่างไวเพื่อจะไปอาบน้ำ เพราะร้อนมาก นุ่งผ้าขนหนูผืนกระจ้อย รัดไขมันทะลัก

แล้วเดินลงมาเข้าห้องน้ำอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย น้ำเย็นสะใจมาก

นานแล้วที่ไม่ได้กลิ่นสบู่นกแก้ว เออมันก็หอมแบบแปลกๆดีนะ ใช้ได้เลย

ล้างหน้าแปรงฟัน เสร็จจากห้องน้ำ ขึ้นไปแต่งตัวชั้น 2 เรียบร้อย กำลังคิดว่าจะนอน

อาน้อยบอกว่าไม่ต้องรีบ มานั่งเล่นก่อนก็ได้ เราก็ไม่ขัดแก ลงไปนั่งเล่นหน้าบ้าน

บรรยากาศแบบธรรมชาติ เงียบสนิทไม่มีเสียงรถราให้วุ่นวาย เราลองแหงนหน้ามองฟ้า

ถามอาน้อยว่าดาวหายไปไหนหมด อาน้อยจึงไปปิดไฟ ทำให้พอเห็นแสงดาวรางๆบ้าง

แต่คืนนี้ลมไม่พัดเลยทำให้ร้อนมาก จึงขอตัวอาน้อยขึ้นไปนอน

อาน้อยเดินตามขึ้นไป พร้อมกับหยิบมุ้งมาให้ 1 หลัง โอ้ววว คืนนี้กูได้นอนมุงด้วย

กางมุ้งเปิดพัดลมนอน

เช้าวันที่ 5 พฤษภาคม 2553

ตื่นตอนเช้าเพราะเสียงไก่ขัน แหมมันขันกันมันส์จริงๆ ขันไม่เลิก แสงแดดสาดส่องเข้ามาตามช่องหน้าต่าง

ทำให้เด็กชายไก่ต้องตื่น มาล้างหน้าแปรงฟันเพื่อจะไปถวายอาหารเช้าที่วัด

แต่ เด็กชายไก่ สายไปเสียแล้ว ตื่นมาตอน 8.00น. ไม่เป้นไร ไปไม่ทันถวายอาหารเช้า

แต่ยังทันไปกินข้าวเช้าที่วันเฟ้ย อาบน้ำแต่งตัว เดินไปยืมแมงกาไซด์น้าข้างบ้าน

บึ่งแมงกาไซด์ไปวัด ด้วยความมุ่งมัน อาหารเช้ารอเราอยู่

ขี่ไปได้ ยังไม่ถึง 500ม. ป๊าด...... แมงกาไซด์มีอาการแปลกๆ เร่งไม่ขึ้น

ชิหายแล้วตรู แต่ด้วยความที่เด็กชายไก่ฉลาด อิอิ เร่งไม่ขึ้น แสดงว่าน้ำมันไม่ลง

จอดแล้วเปิดดูถังน้ำมัน เอ...เต็มนี่หว่า ทำไมดับ อ้อๆ สงสัยจะไมได้เปิดวาล์วน้ำมัน

และแล้วก็เป็นไปตามคาด เปิดวาล์วน้ำมัน สตาร์ทไปต่อได้

อากาศตอนเช้า ต่างจังหวัดดีมาก แสงแดดอ่อนๆ มองไปทางไหนก้อทุ่งนา

แต่นาไม่มีข้าว เพราะฝนพึ่งลง ผืนดินไม่แห้งกรัง พร้อมรอฝนเพื่อปลูกข้าว

และเราก็ถึงวัด ผู้คนมากมายเริ่มทยอยมาที่วัด

เด็กชายไก่ขึ้นไปที่ กุฏิหลวงพ่อจอย เพื่อกราบท่าน แล้วนั่งดูแขกที่มาหาหลวงพ่อ

หลวงพ่อได้มอบหมายให้ช่วยเฝ้าตู้วัตถุมงคล

วันนี้เป็นวันเกิดหลวงพ่อ มีลูกศิษย์มากมายมาแสดงมุทิตาจิต และมีกองผ้าป่ามาด้วย

ก่อนที่จะมีคนมาบูชาวัตถุมงคล เด็กชายไก่จึงได้ไปหาของกินฟรีก่อนเพราะหิวข้าว

และก็ได้เดินไปรอบๆวัด มีเต็นขายของมากมาย

และที่ขายไม่ได้เห็นจะเป็น ปาโป่ง ชายปานอก ญ ปาใน

เรื่องราววันนี้ไม่มีอะไรมาก นั่งเฝ้าตู้ทั้งวัน

ตอนเที่ยง

ถึงเวลากินอีกแล้ว โอ้ววันนี้มีงานของกินเพียบ เดินไปโรงทาน

โอ้วแม่เจ้า ของกินหมด!! โห ซวยแล้วตรู ยังไม่ทันไรหมดซะแระ

ก็จะไม่หมดได้ไงละ พวกที่มางาน มาพร้อมปิ่นโต และถุง ทุกคนห่ากลับบ้าน เออวุ้ย

เดินไปเดินมาเห็นผัดหมี่โคราช ยังพอมีอยู่ก้อไปซัดมา 1 จาน อืม กินกันตาย

ตกเย็น

เฮ้ออทั้งันไมได้อาบน้ำเลย ร้อนมากมาย เข้าบ้านอาบน้ำก่อนดีก่า ค่ำๆค่อยมาใหม่

ขี่มอเตอร์ไซด์ห้างกลับบ้าน อาบน้ำ และหาของกินที่บ้าน อิ่มหนำสำราญแล้วเราก็นอนเอาแรง

ตื่นมาอีกทีตอน ไหนจำไมได้ แต่ฟ้าเริ่มมืดแล้ว

เราก็มุ่งหน้าเข้าวัดใหม่ เพื่อไปดูว่างานกลางคืนจะเป็นยังไงบ้าง

กลางคืนคนเยอะมาก ไม่รู้มาจากไหนกันบ้าง เยอะไปหมด

งานกลางคืนมี เวทีแสดงลิเก1 ลูกท่ง2 ของกินเพียบ

แต่ไมได้กินเงินเราหรอก เราก็ไปเดินดูรอบๆ และเข้าไปที่กุฏิหลวงพ่อ เผื่อท่านจะเรียกใช้อะไร

นั่งไปนั่งมาชักจะเบื่อ สาวๆด่านขุนทดไม่มีแจ่มๆเข้าตาเลยแหม่ แย่จัง

ดัดสินใจ ว่าเอาวุ้ย มืดแระ เดี๋ยวกลับเข้าบ้านดีกว่า เพราะเดี๋ยวคนที่บ้านเค้าปิดบ้านนอนเราจะเข้าไมได้

ด้วยความที่เกรงใจ ก้อเลยลาหลวงพ่อกลับไปตอน 3 ทุ่ม เพื่อเข้าบ้านนอน

พอเราถึงบ้าน คนที่บ้านถามว่าอ้าวทำไมรีบกลับ เค้าพึ่งจะไปกัน อ้าวซวยละตรู

ไม่น่ารีบกลับเลย แต่ไหนๆก้อกลับมาละ อาบน้ำนอนเลยละกันพรุ่งนี้เราต้องเดินทางกลับ กทม