Webblog : Futbol Review ท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่เรียกว่า...ฟุตบอล
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน พวกเราออกไปดูบอลเจ็ดสี

ฟุตบอลแชมป์กีฬา 7 สี แชมป์เปียน คัพ
21 ต.ค.55 สนามเฉลิมพระเกียรติ คลองหก
สวนกุหลาบ 9-1 เทพศิรินทร์ สมุทรปราการ


ตึ่ด ตึ่ด ตึ่ด ตึ่ด

เสียงโทรศัพท์มือถือโนเกียตกรุ่น จนต้องเปลี่ยนมาทำหน้าที่นาฬิกาปลุกดังขึ้นตอนตีห้า ห้าสิบห้า

ผมลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย (-.-) พยายามปะติดปะต่อว่าทำไมต้องตั้งเวลาปลุกซะเช้าขนาดนี้ เหลือบตาขึ้นมองโทรทัศน์ก็เห็นภาพคุณธีรัช โพธิ์พานิชแห่งช่อง 7 สีอ่านข่าวกีฬาภาคเช้าอยู่

ใช่แล้ว หลังจากดูฟุตบอลแบบมาราธอนตั้งแต่หัวค่ำ เซนต์ เมียร์เรน-เซลติก (ทรูสปอร์ต 6), แมนฯยูฯ-สโต๊ค (ทรูสปอร์ต เอชดี), ยูเว-นาโปลี (ทรูสปอร์ต เอชดี) มาจนถึงคู่บาเลนเซีย-แอตเลติก บิลเบา (ช่อง 7 สี) ซึ่งจบครึ่งแรกก็ตีหนึ่งเศษ ๆ แล้ว...ความทรงจำของผมก็หยุดลงชั่วคราว แบบไม่คิดจะข่มตาต่อสู้เลย เนื่องจากแพลนเอาไว้ว่าเช้าวันรุ่งขึ้นจะไปดูน้อง ๆ สวนฯแข่งบอล 7 สีซะหน่อย

เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ ดังเข้ามาในห้องนอนราวกับต้องการขับไล่ความง่วงให้ออกไปจากห้องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดแห่งนี้ พร้อม ๆ กับกระชากตัวเจ้าของห้องให้รีบลุกขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัว

“อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส เราเบิกบานรีบมาเร็วไว ยิ้มรับวันใหม่ ยิ้มให้แก่กัน...” บรรยากาศแบบนี้ ทีวีเปิดช่อง 7 สีอยู่อย่างนี้ ซาวด์แทร็คที่เหมาะที่สุดก็ต้องเพลงนี้กันแหละ

ผมพยายามทำตัวเป็น “เจ้าขุนทอง” (ทั้ง ๆ ที่ความง่วงยังไม่ยอมศิโรราบ (-.-)) เอ้า! เบิกบาน แล้วก็รีบไปสนามให้ไว!

แปดโมงเกือบจะครึ่ง อีก 5 นาทีจะได้เวลาคิก ออฟในกำหนดการแล้ว ผมพบตัวเองว่ากำลังอยู่ละแวกฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต - -"

“ถ้ารถไม่ติด อีกสิบกว่านาทีก็ถึงคลองหกครับ” โชเฟอร์พยายามให้กำลังใจ




บนเส้นทางสู่สนามแข่งขันฟุตบอล 7 คน แชมป์กีฬา 7 สี


นอกจากเพลง “เจ้าขุนทอง” แล้ว เพลงของช่องเจ็ดสีที่ติดหูผมมาตั้งแต่วัยเยาว์อีกเพลงก็คือ

“เร็ว ๆ ๆ ไว ฝึกฝนกายใจเล่นกีฬา ชัยชนะอยู่ข้างหน้า รีบ ๆ มาคว้ามาเอาไป เร็ว ๆ ๆ สิ เป็นแชมป์เจ็ดสีภาคภูมิใจ เกียรติยศอันยิ่งใหญ่...เอ้า เฮ เอ้า เฮ เอ้า เฮ้ เฮ ฮา แข่งกีฬา เป็นแชมป์เจ็ดสี...”

เท่าที่ผมจำได้ “แชมป์กีฬาเจ็ดสี” มีที่มาจากการแข่งขันวิ่งมาราธอนซึ่งช่องเจ็ดสีจัดขึ้นมาราว ๆ ปี 2530 (มั้ง-ผมเขียนรำลึกจากความทรงจำ ไม่ได้หาข้อมูลจริงจัง :-p) ก่อนที่จะสลับสับเปลี่ยนเป็นกีฬาอื่น ๆ ในปีต่อมา ๆ เช่น ว่ายน้ำ เป็นต้น (อืม! แฮะ ผมจำได้ไม่อย่างเดียวเองง่ะ) (แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกีฬาประเภทเดี่ยวนะ) (เอ๊ะ! คุ้น ๆ ว่าเคยจัดปิงปองด้วย) (อืม! แล้วผมจะวงเล็บไปอีกนานไหมนี่?)

จนมาถึงปี 2546 ที่ช่อง 7 สีหันมาจัดฟุตบอล 7 คน และยึดถือเป็นประเพณีมาจนถึงปัจจุบัน ปี 2555 นี้ก็เป็นครั้งที่ 10 แล้ว

กรุงเทพคริสเตียนเป็นโรงเรียนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จจากการเอาชนะปทุมคงคาในนัดชิงชนะเลิศ

ส่วนโรงเรียนที่ได้แชมป์มากที่สุดมีอยู่ 2 โรงเรียนคือ ราชวินิต บางแก้วและอัสสัมชัญ ศรีราชา โดยคว้าถ้วยไปประดับตู้โชว์ได้โรงเรียนละ 2 ครั้งด้วยกัน

ทีม “ชมพู-ฟ้า” สวนกุหลาบเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้มาหลายครั้ง ก้าวไปได้ไกลที่สุดแค่รอบรองชนะเลิศเท่านั้น ^^!

เป็น “โรงเรียนน้อง” อย่างสวนกุหลาบ ปทุมธานี...อะคาเดมีแห่งอินทรีเพื่อนตำรวจที่ได้ร่วมการแข่งขันในครั้งหลัง ๆ แต่กลับปาดหน้าคว้าแชมป์ได้ก่อน “สวนใหญ่” ซะอีกเมื่อปีที่แล้วนี่เอง




อรรถพล กันหนูมาเชียร์น้อง ๆ ชมพู-ฟ้าด้วย

และจะขาดคนนี้ไม่ได้เลยในกลุ่มกองเชียร์...คุณพ่อพนม กันหนู


อรรถพล กันหนู ดาวยิงจามจุรี ยูไนเต็ด อดีตศูนย์หน้าสวนกุหลาบเคยลงแข่งฟุตบอล 7 คนรายการนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง มองว่า “สามครั้งที่ได้ลงแข่ง ก็ตกรอบรอง...ได้ที่สามร่วมทั้งสามปีเลยครับ กับรายการนี้ ผมถือว่าเป็นรายการที่ดี สามารถต่อยอดไปสู่ความเป็นมืออาชีพได้ รวมทั้งเป็นรายการที่มีชื่อเสียง ในความคิดของผมนี่เป็นทัวร์นาเมนท์ที่เราได้ฝึกเรื่องการใช้พื้นที่, การขยับหาช่องและการยิงประตู เนื่องจากสนามมันค่อนข้างเล็ก บอลเจ็ดสีจึงเป็นรายการที่มีโอกาสยิงประตูกันเยอะ”

เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของฟุตบอลแชมป์กีฬา 7 สี แชมป์เปียน คัพก็คือ ในรอบแบ่งกลุ่มรอบสุดท้ายนั้น ฝ่ายจัดการแข่งขันจะกระจายไปจัดตามโรงเรียนต่าง ๆ...แน่นอน โรงเรียนสวนกุหลาบก็ต้องเคยผ่านการเป็นสังเวียนแข้งรายการนี้มาแล้วเช่นกัน (^-^)V

การได้ลงเตะในโรงเรียน มีอาคารสวนกุหลาบหรือ “ตึกยาว” โอบกอดอยู่ฝั่งหนึ่งของสนามช่างให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์เกินคำพรรณนาจริง ๆ

“ผมชอบและภูมิใจมากนะครับที่ได้ลงแข่งในสนามโรงเรียน รู้สึกศักดิ์สิทธิ์ทุกครั้งที่ได้ลงเล่นในรั้วโรงเรียนของเรา การได้ลงเตะต่อหน้าเพื่อน ๆ นักเรียน ครู อาจารย์ มันสุดยอดที่สุดแล้วครับ” อาร์ท อรรถพลสาธยาย




บรรดา OSK ที่ตื่นแต่เช้ามาให้กำลังใจน้อง ๆ


รถแท็กซี่พาผมมาถึงสนามตอนแปดโมง สี่สิบห้า ผู้เล่นทั้งสองทีมเพิ่งเดินลงสนามเท่านั้นเอง

ปีนี้สวนกุหลาบเตรียมทีมมาอย่างต่อเนื่อง ใช่! เป้าหมายใหญ่อาจจะอยู่ที่ศึกแห่งศักดิ์ศรีอย่างจตุรมิตร แต่ฟุตบอลรายการอื่น ชาวชมพู-ฟ้าก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน

ทีมที่ใช้แข่งฟุตบอล 7 คนแชมป์กีฬา 7 สี แชมป์เปียน คัพนั้นเป็นการผสมผสานกันระหว่างผู้เล่นชุดอายุไม่เกิน 18 ปีที่ยังมีตัวเก่า ๆ อย่างฤทธิพร หวานชื่น, ธนารัตน์ ครสระน้อยและพชร ภูมิชาติ คนหลังนี่ได้ลงสนามในศึกไทยพรีเมียร์ลีกกับบีบีซียูไปแล้ว

อ้อ! และจะลืมเค้าคนนี้ไม่ได้เลย แม้จะยังไม่มีชื่อในรอบคัดเลือกนี้ก็ตาม “กัปตันนุ้ก” จักรพัน ไพรสุวรรณ กัปตันทีมนักเรียนไทย ชุดลุยศึกชิงแชมป์เอเชียที่ส่งเสียงผ่านเฟซบุ๊คมาจากแดนไกล

“ฝากน้อง ๆ เล่นบอล 7 สีให้เข้ารอบสุดท้ายด้วยน่ะน้อง แร้วพี่จะกลับมาช่วยยย”

ผสมผสานไปกับชุดอายุไม่เกิน 16 ปีซึ่งนำโดย “ไอซ์” สิทธิโชค กันหนู ดาวยิง U-16 ทีมชาติไทย น้องชายของ “อาร์ท” อรรถพล กันหนูนั่นเอง

พอเจอะหน้ากันหนูคนน้อง ผมก็เลยถามถึงถามความล้มเหลวของทีมชาติไทยชุดนั้น

คำตอบที่ได้ทำผมตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับแปลกใจ (เพราะได้ยินคนเค้าเมาท์กันมาแล้ว)

เมื่อบวกกับคำให้การของคุณพ่อพนม กันหนูยิ่งทำให้ผมรู้สึกสะท้อนใจกับ “ทัศนคติ” ของนักฟุตบอลเยาวชนยุคนี้เหลือเกิน

แล้วก็ต้องบอกว่าไอซ์โชคดีแล้วแหละ ที่สังคมรอบข้างช่วยปลูกฝังและขัดเกลาให้เขาเป็นนักฟุตบอลที่ต้องยกนิ้วให้ทั้งฝีเท้าและหัวใจ

เจ็ดคนแรกของสวนกุหลาบประกอบไปด้วยอลงกรณ์ สุวรรณยุธในตำแหน่งผู้รักษาประตู กองหลัง 2 คนใช้ศิระ ศรีคุ้ม กัปตันทีมประสานงานกับกษิติ์เดช พรหมดนตรี

ริมเส้นฝั่งขวาเป็นวทัญญู พรมโสภา ฝั่งซ้ายพีรพัฒน์ พรหมเมือง

หน้าตัวต่ำใช้บริการของสิทธิโชค กันหนู ส่วนตัวเป้าเป็น “เอโต้” กฤชนันต์ นาราช

คู่แข่งของทีมชมพู-ฟ้าคือเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ ส่งผู้เล่นเจ็ดคนแรกซึ่งประกอบไปด้วยคุณากานต์ บางแก้ว (ผู้รักษาประตู), วิทวัส วงศ์โอฬาร (กัปตันทีม), รัชพล ไชยชาติ, พิสิษฐ์ เสนาพันธ์, สุระชัย ขำใจ, ราชวัตร พรหมด้วง และวิศรุต จันทร์ยิ้ม

รอบแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว สวนกุหลาบถล่มสารสาสน์ประชาอุทิศ 1 ซะ 10-0 โดยไอซ์ทำแฮททริกได้ด้วย

ส่วนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการชนะมหรรณพาราม 3-0

ทีมที่ชนะ หากเอาชนะได้อีกในวันอาทิตย์หน้าก็จะผ่านเข้าไปสู่รอบ 10 ทีมสุดท้าย




เหล่าขุนพลชมพู-ฟ้ารวมพลังใจกันก่อนเริ่มเกม


วันนี้มีเหล่า OSK มาเชียร์กันประปราย แต่ส่งเสียงเชียร์กันได้อย่างสนุกสนาน ทั้งกระตุ้นน้อง ๆ ทั้งแซวคู่แข่ง

“นวดเข้าไป ๆ” คนหนึ่งว่า

“มันเป็นแป้งหรอพี่?” อีกคนหนึ่งต่อ

“นี่ผมก็อยากไปนวดเหมือนกันนะนี่” อีกคนปล่อยมุก

เด็ก ๆ ชมพู-ฟ้าลงสนามก็ค่อย ๆ นวดเด็ก ๆ เขียว-เหลืองตามที่รุ่นพี่ต้องการเลย นวดไปแค่ 3 นาทีก็แตกซะแล้ว...เอ่อ...ผมหมายถึงทำนบแนวรับของเทพศิรินทร์ สมุทรปราการน่ะ

พีรพัฒน์ พรหมเมืองปั่นฟรีคิกเข้าไปแบบสบาย ๆ ให้สกอร์ขยับเป็น 1-0

จากนั้นอีก 4 นาที ไอซ์ก็ส่งให้เอโต้ยิงให้ทีมนำห่างออกไปเป็น 2-0

พอได้มา 2 เม็ดเหนาะ ๆ สวนกุหลาบก็เริ่มผ่อนเกมลง ทำให้เกมดูเนือย ๆ ไป...แล้วมีหรือที่เฮดโค้ชอย่างภาณุพงษ์ ฉิมผูก อดีตปราการหลังทีมชาติไทยจะยอม เขาเดินพาหน้าโหด ๆ ออกไปกระตุ้นเด็ก ๆ ทันที

แล้วก็ได้ผล วทัญญู พรมโสภามายิงประตูที่ 3 ให้ชาวชมพู-ฟ้าได้สำเร็จในนาทีที่ 12

กองเชียร์สวนกุหลาบไม่ได้มีแค่แนวแซว, แนวขำหรือแนวกดดันคู่แข่งเท่านั้นนะ แนวคุณธรรมก็มีเหมือนกัน เช่น จังหวะผู้เล่นสวนกุหลาบทำฟาวล์คู่แข่ง พวกเค้าก็จะตะโกนบอกทันที

“เอ้า! ขอโทษเพื่อนหน่อย”

นาทีที่ 18 ใบเหลืองใบแรกก็ถูกควักออกจากกระเป๋าของผู้ตัดสินเมื่อวิทวัสของเทพสมุทรไปสอยไอซ์ซะกระเด็นกระดอน

จากลูกฟรีคิก พีรพัฒน์โยนเข้าไปลุ้นและจังหวะสุดท้ายก็เป็นวทัญญูที่ยิงเข้าไป

4-0 แล้ว!

นาทีสุดท้าย เทพสมุทรน่าจะได้ประตูเป็นที่สุด เมื่อกัปตันหรั่ง ศิระ ศรีคุ้มของสวนกุหลาบดันไปทำยึกยักหน้าเขตโทษก็เลยเสียบอลให้กับวิทวัสหลุดเข้าไปยิง แต่อลงกรณ์ก็โชว์ความประหยัดได้อย่างสุดยอด (ซูเปอร์เซฟ)

“แหม่! กองหน้าก็เก่ง กองหลังก็เก่ง นี่โกล์ก็เก่ง นี่มันทีมอะไรนี่?” กองเชียร์ท่านหนึ่งชง

“สวนกุหลาบ” ที่เหลือช่วยกันฟาด

จบครึ่งแรก สวนกุหลาบนำเบาะ ๆ 4-0




บรรยากาศการแข่งขันฟุตบอล 7 คน แชมป์ 7 สี รอบคัดเลือก

ลูกฟรีคิกเบิกร่องของพีรพัฒน์

กองเชียร์สวนกุหลาบ สีสันที่ขอบสนาม

บรรยากาศการแก้เกมช่วงพักครึ่ง

ดาวยิงไอซ์ (คนซ้าย) กับกัปตันหรั่ง (คนขวา)

ภาณุพงษ์ เฮดโค้ชสวนกุหลาบใส่ใจในทุกรายละเอียด


ไม่รู้เพราะเริ่มคิกออฟเลทหรือเปล่า? ผู้ตัดสินก็เลยให้พักกันแค่ 5 นาทีก็เป่านกหวีดเรียกผู้เล่นลงสนามซะแล้ว

ในครึ่งหลัง สวนกุหลาบเริ่มทยอยเปลี่ยนผู้เล่น เพื่อให้ทุกคนได้ยืดเส้นยืดสาย ประเดิมด้วยการส่งสาธิต ดีเชื้อลงไปแทนกฤชนันต์ นาทีที่ 30

ลงมาไม่นานสาธิตก็สบโอกาสยิง น่าเสียดายที่ข้ามคานไปแบบเฉียดฉิว

กองเชียร์ชมพู-ฟ้าท่านนึงให้คอมเมนท์

“แหม่ เบอร์หก (สาธิต) นี่หุ่นเหมือนแกซซาเลย”

แล้วก็บังเอิ๊ญ บังเอิญที่ชื่อสาธิต ดันไปคล้องกับชื่ออดีตนักบอลสวนกุหลาบรุ่น...เอ่อ...รุ่นน้าก็แล้วกันอย่าง “พี่อ้วน” สาธิต จึงสำราญซึ่งเคยได้รับฉายาว่า “แกซซาเมืองไทย” ซะด้วย

นาทีที่ 32 ศิระ กัปตันทีมสวนกุหลาบก็ขอแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้กับตนเอง (22 ต.ค.-วันรุ่งขึ้น) ด้วยการยิงให้สวนฯทะยานนำ 5-0

สองนาทีต่อมา สวนกุหลาบเรียกดาวยิง U-16 ทีมชาติไทยออกมาพัก แล้วส่งชญานนท์ กลั่นประโคนลงไปเล่นแทน

นัดแรกกดแฮททริก นัดนี้ไม่มีสักสกอร์ ไอซ์รู้สึกอย่างไร?

“ไม่ได้ยิงวันนี้ก็ไม่เป็นไรครับ ส่วนนึงเป็นเพราะสนามด้วยที่แข็งมาก แต่โดยรวมแล้วผมจะดีใจมากกว่าถ้าทีมชนะ”

มหกรรมการถล่มประตูยังไม่หมดอยู่แค่นั้น

นาทีที่ 35 สาธิตผ่านบอลให้พีรพัฒน์ยิงให้สกอร์หนีออกห่างไปเป็นครึ่งโหล ก่อนที่คนยิงจะถูกเปลี่ยนตัวออก ให้ “กัน” พชร ภูมิชาติ ดาวเตะจากบีบีซียูลงไปโชว์ลวดลายระดับไทยพรีเมียร์ลีกบ้าง

นาทีที่ 43 ชินวัตร อุบลอ่อนก็ถูกส่งลงไปแทนวทัญญู โดยได้รับสารจากภาณุพงษ์ลงไปบอกต่อเพื่อน ๆ ว่า

“บอกเพื่อนด้วย ถ้าเสียประตู วันนี้ซ้อมมื้อเย็นด้วย!”

ไม่รู้ว่าโดนขู่หรือเปล่า 7 นาทีที่เหลือ เด็ก ๆ ชมพู-ฟ้าช่วยกันบดคู่แข่งจนได้มาอีก 3 เม็ก เอ้ย! เม็ด เริ่มจากชญานนท์ที่โหม่งจ่อ ๆ หน้าประตูเข้าไป จากนั้นเขาก็มาจัดการอีกลูกนึง ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยลูกสุดสวยของ “กัน” พชรที่ยิงจากปีกซ้าย ลูกพุ่งเข้าหน้าต่างเสาสอง

นักเตะระดับไทยพรีเมียร์ลีกเค้ายิงกันอย่างนี้!

9-0 สกอร์สวยงาม ชัยชนะแสนหอมหวาน...

แต่แล้วในนาทีสุดท้าย ผมไม่เห็นลูกนี้หรอก แต่เทพศิรินทร์ สมุทรปราการตีไข่แตกได้แล้ว! -*-

ซ้อมเย็นสิแบบนี้?

“ไม่ซ้อมหรอกครับ” ภาณุพงษ์แสยะยิ้ม ก่อนจะพูดต่อ “เพราะตามโปรแกรมมันต้องไม่ซ้อม ผมเก็บตัวเด็กที่นี่มา 2-3 อาทิตย์แล้ว ทำงานหนักกับเด็กมาตลอด แต่การเสียประตูอย่างนี้ มันไม่น่าจะเสีย แล้วมันจะติดนิสัยในการเล่นฟุตบอลต่อไปในอนาคตไง เย็นนี้ไม่ซ้อมหรอก แต่พรุ่งนี้คงมีงานหนักให้พวกเค้าต้องทำกัน!”




พิสิษฐ์ของเทพสมุทรหาโอกาสยิง โดยมีศิระของสวนกุหลาบยืนคุมเชิง

สิทธิโชคถูกถอดออกมาพักในครึ่งหลัง

ประตู 6-0 สร้างสรรค์โดยพีรพัฒน์


เป็นอันว่าสวนกุหลาบชนะเทพศิรินทร์ สมุทรปราการไปแบบท่วมท้น 9-1 ผ่านเข้าไปลุ้นเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายกับวัดสุทธิวราราม วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคมนี้ เวลา 9 โมงเช้า

จากนั้นก็ต่อด้วยคู่ สตรีวิทยา 2-อัสสัมชัญธนบุรี, อัสสัมชัญศรีราชา-อิสลามวิทยาลัย และปิดท้ายด้วยศึกษานารีวิทยา-โพธินิมิตรวิทยาคม

อ้อ! ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว โปรแกรมวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม เริ่มคู่แรก 9 โมงเช้าเช่นกันมี อัสสัมชัญกรุงเทพ-ประเทืองทิพย์, เตรียมอุดมลำลูกกา-กีฬาขอนแก่น, กรุงเทพคริสเตียน-สุรศักดิ์มนตรี, สวนกุหลาบ นนทบุรี-สารวิทยา




ขุนพลชมพู-ฟ้าผ่านเข้าไปลุ้นเข้ารอบสุดท้ายกับวัดสุทธิ

กองเชียร์สวนกุหลาบให้การต้อนรับ "ฮีโร" ของพวกเค้าอย่างยิ่งใหญ่และอบอุ่น

บูมสวน!

ภาณุพงษ์ให้สัมภาษณ์กับช่อง 7 สี

ครอบครัวกันหนูถ่ายรูปร่วมกับสุชาครีย์ จันทร์มีของเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ


เจอวัดสุทธิแบบนี้ สวนกุหลาบจะผ่านไปถึงรอบสุดท้ายไหม?

“สำหรับตัวผม วัดสุทธิกับเราเป็นทีมระดับเดียวกัน แต่ผมมีแท็กติกที่จะเล่นกับเค้าแล้ว เราจะผ่านเข้ารอบไปได้แน่นอน” ภาณุพงษ์ ฉิมผูกตอบเบา ๆ แต่ได้ใจความ

ด้วยสภาพทีมที่ดูสมบูรณ์ ความฟิตที่ยอดเยี่ยมจากการทำงานอย่างหนักทั้งของสต๊าฟโค้ชและนักเตะ

ผ่านเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายเป็นแค่จุดเริ่มต้น

ที่ขอบฟ้าสีทองนั่น แชมป์ฟุตบอลกีฬา 7 สี แชมป์เปียนคัพ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์กำลังรอให้เหล่าขุนพลชมพู-ฟ้า...

ออกโบยบิน หาแชมป์ร่าเริงแจ่มใส เราเบิกบานรีบมาเร็วไว ยิ้มรับแชมป์ใหม่ ยิ้มให้แก่กัน




Create Date : 22 ตุลาคม 2555
Last Update : 22 ตุลาคม 2555 6:42:16 น. 0 comments
Counter : 3226 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

baevi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add baevi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.